ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
25 เมษายน 2024, 09:59:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา  (อ่าน 4495 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
12 กรกฎาคม 2009, 02:04:PM
ปางสีฝุ่น
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 61
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 115



« เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2009, 02:04:PM »
ชุมชนชุมชน

ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา


เกลี่ยดอกแก้ว..แววหวัง..หลังหลุดร่วง
แต่ละดวง..ดั่ง-วาด..สี.หวาดไหว
มาหล่นเรี่ย..ริมข้าง..รางรถไฟ
ล้วน!.ดาวฝัน..ดาวใฝ่..ของใครกัน..?.


โอ้.ดาวเอ๋ย..ดาวน้อย..ดวงนิด
ดุจบันได..ชีวิต..เดินผิดขั้น
จึงปลิดปลิว..ลิ่วคว้าง..ลงกลางครัน
หลัง.สูญสิ้น..อำพัน..อันลำพอง


พอแว่ว.หวูด..รถไฟ..ไหวความหวัง
กอดกระเป๋า..เกรอะกรัง..ลงนั่งหมอง
ทิ้งฝันเฝื่อน..เกลื่อนก่น..ให้หล่นกอง
ถม.ขอบทาง..ราง.ร่อง..สถานี


เหมือนอับแสง..แรงหมาย..มุ่งปลายฟ้า
จำ.รอนร่วง..โรยรา..แล้ว.ริบหรี่
จึง.แรมร้าง..จากเมือง..เรือง.รวี
คืน.สู่ขอน..คอน.คีรี..ถิ่นที่มา


เก็บแก้วใจ..ดวงดับ..จับลงกล่อง
ฉายแสงเงา..เศร้าหมอง..ส่องใบหน้า
เสียงรถไฟ..เทียบฐาน..ณ.ชานชลา
จบตำนาน..แสวงหา..จาก.เมืองกรุง..ฯฯ


---------------------------------------------


"ปางสีฝุ่น."
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ดวงดอกไม้ใต้ผืนฟ้าหลังคาโลก..จะศัลย์โศก..ซานซมกับลมไหน..?
12 กรกฎาคม 2009, 04:32:PM
จะไม่เด็ด
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 109
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 440



« ตอบ #1 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2009, 04:32:PM »
ชุมชนชุมชน

ริมชานชลาที่คราคร่ำคนย่ำผ่าน
สุดประมาณจะแจงนับจับเคลื่อนไหว
ทิ้งร่องรอยแห่งความหลังไว้ฝังใจ
ด้วยห่างไกลจึงนำเรา....มาร่วมทาง

นั่งมองฟ้าคราที่ดาวยังสกาวเด่น
จนดาวเร้นหลบหายกลายฟ้าสาง
ดูดาวตกตระหนกนักรักอาจจาง
สุดเส้นทางคงจบกัน..สัมพันธ์เรา..อิอิ

...แบบว่า..แวะมาแซวอะจ้า
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 กรกฎาคม 2009, 12:33:PM
เพรางาย
ผู้ดูแลบอร์ด

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 553
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,312


ทุกคำถามจะนำมาซึ่งคำตอบ


« ตอบ #2 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2009, 12:33:PM »
ชุมชนชุมชน

อโศกแต้มดอกแดงแต่งชายป่า
ต้อนรับคืนเคหาเคยอาศัย
ถนนนั้นทอดยาวให้ก้าวไป
ถนนยังยินดีให้ได้ก้าวคืน

ลมยังพลิ้วผิวเพลงฤดูผ่าน
แม้วันหวานผ่านไปกลายขมขื่น
กลีบดอกไม้ร่วงพรมถมแผ่นพื้น
ฤดูผ่านดอกดื่นย่อมฟื้นมา

 ยิ้มแฉ่งฟันหลอ
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คนที่กำลังไล่ตามความฝัน  ท่ามกลางความผกผันของเวลา
13 กรกฎาคม 2009, 02:02:PM
ดาวระดา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 369
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 595



« ตอบ #3 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2009, 02:02:PM »
ชุมชนชุมชน

กลับคืนคอนดอนควนอันหวนหา
หลังอำลาฟ้าเรืองเมืองคนหลาก
จบความหวังนั่งวกคืนรกราก
จำวันจากซากหวังยังกรุ่นลอย

ชบาขานบานขับรับวันหวน
แม้ปลายป่วนด้วยปืนไม่ขืนถอย
ขอมอบร่างให้แผ่นดินถิ่นใจคอย
เพราะอย่างน้อยรอยรากรกยังปกกาย




ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 กรกฎาคม 2009, 07:24:PM
จะไม่เด็ด
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 109
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 440



« ตอบ #4 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2009, 07:24:PM »
ชุมชนชุมชน

ประกายพรึกแลโชติช่วง ณ ล่วงสาง
ส่งแสงจางวางแนววาดสาดสีแสง
อรุณเบิกฟ้ามาอบอุ่นกรุ่นแสงแรง
ทิ้งนัยแฝงแห่งราตรีที่ยาวนาน

ยินเพียงเสียงฉึกฉัก ฉึกฉัก..สักพักหาย
เหลือความหมายหรืออย่างไรในสถาน
หรือเพียงพบ..เพื่อได้ปลื้มแล้วลืมกาล
หยุดสืบสาน..หยุดตำนาน..ที่ชานชลา

...แบบว่า
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 กรกฎาคม 2009, 07:50:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,699


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2009, 07:50:PM »
ชุมชนชุมชน

กระเป๋าเสื่อเสื้อขาดกระดาษวิ่น
กระทบดินสิ้นแรงจะแข่งขัน
ดั่งถูกสูบชิวิญสิ้นชีวัน
จากสวรรค์เมืองฟ้า ผวาคืน

กลิ่นกลีบแก้วกรรณิการ์มิกล้ากรุ่น
หอมละมุน อุ่นหล้าให้กล้าฝืน
เผชิญกรรม กระหน่ำซัด เถอะหยัดยืน
ผ่านวันคืน ฟื้นดิน ยังถิ่นเดิม..

มิกล้าบอกว่ามีความนัยใดซุกซ่อน
เนื่องจาก... มิมีใด...อิ  อิ
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
16 กรกฎาคม 2009, 06:08:PM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #6 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2009, 06:08:PM »
ชุมชนชุมชน

ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา


เกลี่ยดอกแก้ว..แววหวัง..หลังหลุดร่วง
แต่ละดวง..ดั่ง-วาด..สี.หวาดไหว
มาหล่นเรี่ย..ริมข้าง..รางรถไฟ
ล้วน!.ดาวฝัน..ดาวใฝ่..ของใครกัน..?.


โอ้.ดาวเอ๋ย..ดาวน้อย..ดวงนิด
ดุจบันได..ชีวิต..เดินผิดขั้น
จึงปลิดปลิว..ลิ่วคว้าง..ลงกลางครัน
หลัง.สูญสิ้น..อำพัน..อันลำพอง


พอแว่ว.หวูด..รถไฟ..ไหวความหวัง
กอดกระเป๋า..เกรอะกรัง..ลงนั่งหมอง
ทิ้งฝันเฝื่อน..เกลื่อนก่น..ให้หล่นกอง
ถม.ขอบทาง..ราง.ร่อง..สถานี


เหมือนอับแสง..แรงหมาย..มุ่งปลายฟ้า
จำ.รอนร่วง..โรยรา..แล้ว.ริบหรี่
จึง.แรมร้าง..จากเมือง..เรือง.รวี
คืน.สู่ขอน..คอน.คีรี..ถิ่นที่มา


เก็บแก้วใจ..ดวงดับ..จับลงกล่อง
ฉายแสงเงา..เศร้าหมอง..ส่องใบหน้า
เสียงรถไฟ..เทียบฐาน..ณ.ชานชลา
จบตำนาน..แสวงหา..จาก.เมืองกรุง..ฯฯ


---------------------------------------------


"ปางสีฝุ่น."


มองภาพดั่งดอกโศกบนลานเศร้า
หุบห้วงเหงาในเงาเคล้าโศกศัลย์
รดรินรินกลิ่นคำย้ำจาบัล
เจ็บชีวันครั้นคราวเข้าสู่กรุง

งามพลังยังอยู่เมื่อแจ่มจ้า
ดวงชีวากล้าก้าวใจหมายมุ่ง
เชิญเถิดขวัญหยัดยืนอย่างจรุง
จะแปลงปรุงชีวีนี้อย่ากลัว

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s