"โลกใบเล็กๆ ของบอย"
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
16 เมษายน 2024, 09:47:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "โลกใบเล็กๆ ของบอย"  (อ่าน 3430 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
03 มิถุนายน 2008, 10:41:AM
กล่องความทรงจำ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 225
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,057



« เมื่อ: 03 มิถุนายน 2008, 10:41:AM »
ชุมชนชุมชน

                                                            "โลกใบเล็กๆ ของบอย"

ลูกเติบโตจนถึงวัยที่จะต้องเรียนหนังสือ แล้วลูกก็ได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่พ่อแม่คิดว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุด มีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึง ป.6 ถึงเวลาที่ลูกจะต้องออกไปเรียนรู้ชีวิตในโลกกว้าง เรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่ในสังคม โลกใหม่ที่กว้างใหญ่ของลูก กำลังเปิดประตูให้ลูกออกไปค้นหาตัวเอง โดยมีคุณครู คือ พ่อแม่คนที่สองคอยดูแล อบรม บ่มนิสัย ให้ความรู้ในเวลาเรียน

ลูกต้องใส่เครื่องแบบนักเรียน เรียนรู้กฎระเบียบ ปรับตัวให้เข้าได้กับสังคม ปรับนิสัยทางบ้านมาเป็นนิสัยที่สังคมยอมรับได้ บางคนอาจจะปรับตัวยาก บางคนปรับตัวได้ดี บางคนเรียนเก่ง บางคนก็เรียนไม่เก่ง แต่ด้วยสมองและสองมือของคุณครู จะเพียรพยายามปั้นแต่งให้ลูกเป็นคนดีของสังคมให้ได้  สมดังคำว่า "ครู" ที่ผู้ปกครองทุกคนหวังเช่นนั้น

ในครอบครัวของผม เราแบ่งหน้าที่กัน เช่น เช้า ภรรยาไปส่งลูกที่โรงเรยน เย็น เลิกเรียน ผมมีหน้าที่ไปรับลูก ทุกวันที่ผมไปรับลูก ลูกจะขออยู่เล่นเครื่องเล่นที่โรงเรียนหลังเลิกเรียน ลูกจะเล่นชิงช้า.. ม้าหมุน.. มุดลอดท่อ..วิ่งเล่นไล่จับ .. กินขนม   ผมให้ลูกอยู่เล่นทุกวันตามที่ลูกร้องขอ เพราะมันเป็นความสุขของลูก มันเป็นวัยของเขา ลูกนั่งแกว่งชิงช้า ผมนั่งดูอยู่ห่างๆ มองดูการเจริญเติบโตของเขาแต่ละขั้นตอน มันเป็นความสุขอีกแบบหนึ่งของผู้เป็นพ่อ เมื่อมีเวลาชื่นชม  บางครอบครัวไม่เคยมีเวลาให้ลูกๆ ก็จะพลาดความสุขเช่นนี้

ในแต่ละวัน ที่ผมนั่งเฝ้าดูลูกเติบโต ผมเห็นผู้ชายวัยรุ่น วิ่งเล่นในสนามเด็กเล่น เขาวิ่งไปทั่ว ทุกแห่งที่เขาวิ่งไป เด็กๆ ก็จะแตกตื่น วิ่งหนี่ด้วยความกลัว ผมถามลูกเมื่อมีโอกาส ลูกเล่าให้ฟังว่าเด็กคนนั้นชื่อ  "ไอ้บอย" จะมาที่โรงเรียนบ่อยๆ มาวิ่งเล่น ใครๆ ก็กลัว เพราะบอยตัวโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ทำตัวเหมือนเด็กๆ ชอบวิ่งไล่เด็ก เด็กทุกคนเรียกกันว่า "ไอ้บอย" ผมเริ่มสนใจ เริ่มเสาะหาข้อมูล

สอบถามแม่ค้า คุณครู ภารโรง คนที่อยู่แถวนั้น จึงรู้ว่า "บอย" เป็นเด็กพิการทางสมอง  พูดไม่ค่อยได้ ไม่สามารถเรียนหนังสือได้ บอยอาจจะมีสมองเทียบเท่ากับเด็กไม่เกิน 3-4 ขวบ ไม่มีใครรู้ว่าบ้านบอยอยู่ที่ไหน แต่บอยคงมีบ้าน มีพ่อแม่ดูแล พราะบอยดูเหมือนคนปกติ ไม่ใช่คนจรจัด เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดทุกวัน ร่างกายดูแข็งแรง ปกติทุกอย่าง  ทุกวันบอยจะเดินไปตามโรงเรียนต่างๆ ยิ่งเวลาโรงเรียนเลิก เด็กๆ เล่นกันในสนามเด็กเล่น บอยจะเข้าไปร่วมด้วย แต่ทุกคนจะรังเกียจบอย คอยกีดกัน ไล่ส่ง..วิ่งหนี เด็กทุกคนจะเรียกเขาว่า "ไอ้บอย"

เวลาเย็น บอยจะพยายามเข้าไปเล่นกับเด็กๆ ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ จะกลัวแล้ววิ่งหนี ถ้าเป็นเด็กโต บางคนกระโดดถีบบอยจากข้างหลัง หรือแบเตะก้นหรือตบหัวบอย แล้วหัวเราะ เฮฮา บางคนขว้างบอยด้วยน้ำแข็ง แต่บอยไม่เข้าใจ คงคิดว่าการถูกรังแกคือการเล่น บอยไม่เคยโกรธ ไม่เคยทำร้ายใคร แต่กลับหัวเราด้วยความสนุกสนาน ยิ่งถูกแกล้ง..ถูกรังแก  บอยยิ่งสนุกและวิ่งเล่นไปทั่ว

ผมบอกกับ "เช" ลูกชายของผมว่า ให้เรียกว่า "พี่บอย" อย่าเรียกเขาว่า "ไอ้บอย" เพราะบอยอายุมากกว่า และเชควรจะรู้จักที่จะเคารพผู้ที่โตกว่า แม้ว่าสติปัญญาของบอยจะด้อยกว่าเช แต่ด้วยความเป็นคนจึงควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน ลูกบอกว่าเพื่อนๆ ทั้งโรงเรียนเรียก "ไอ้บอย" กันทั้งนั้น ถ้าเชเรียกว่า "พี่บอย" จะดูประหลาดกว่าคนอื่น  ผมชี้ให้ลูกเห็นว่า ถ้าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องแต่ประหลาดกว่าคนอื่น แสดงว่าคนอื่นๆ ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผมบอกให้เชเลื่อกเองว่าจะเรียกบอยว่ายังไง

บอยจะวิ่งไปเล่นจนเหนื่อย ถ้าบอยหิวน้ำ ก็จะมายืนหน้าร้านแม่ค้าขายน้ำ แล้วชี้นิ้วขอกินน้ำหวาน แม่ค้าบางคนก็ไล่ส่ง ... ไม่ให้   แต่แม่ค้าบางคนก็จะตักให้ แต่ไม่ใช่ที่บอยชี้ แต่จะตักน้ำหวานที่ราคาถูกที่สุดให้  บอยไม่เคยว่าอะไร ไม่เคยปฏิเสธ ไม่งอแง รีบรับแก้วน้ำมาแล้วก็นั่งดื่มน้ำหวานอย่างมีความสุข บางครั้งบอยหิวก็จะยืนขอขนมจากแม่ค้า ซึ่งก็ได้กินบ้าง ไม่ได้กินบ้าง

เย็นวันนั้น ผมนั่งดูเช เล่นชิงช้าหลังเลิกเรียน เด็กๆ จะวิ่งเล่นทั่วนสนามเด็กเล่น "บอย" ก็วิ่งเล่นไปทั่ว ทุกที่ที่บอยวิ่งเข้าไปวงจะแตก เด็กวิ่งหนีกันกระเจริง บอยหัวเราะชอบใจ เชเล่นจนเบื่อแล้วมานั่งข้างๆ ผม เราคุยกันตามประสาพ่อลูก ผมชี้ให้เชดูเวลาที่บอยถูกเด็กๆ แกล้ง ผมสอนเชให้มีเมตตา ห้ามรังแกบอยโดยเด็ดขาด บอยน่าสงสารเพราะสมองพิการ ความคิดเหมือนเด็กตลอดเวลา คือ อยากมีเพื่อน อยากเล่น ผมพยายามอธิบายถึงโลกใบเล็กๆ ของบอยให้เชฟัง

บอยคงเล่นจนเหนื่อยเลยมานั่งลงไม่ไกลจากผม เด็กๆ รุมล้อมบอยอยู่ห่างๆ บอยพยายามแสดงออกว่าอยากจะดื่มน้ำหวาน โดยชี้มือขอจากเด็กที่ถือแก้วน้ำหวาน แต่เด็กๆ เอาแต่หัวเรา ผมรีบอธิบายให้เชฟังว่าบอยคงจะหิวน้ำ แต่พวกเด็กๆ ไม่เข้าใจ ผมจูงมือเชเดินไปซื้อน้ำหานจากแม่ค้ามา 2 แก้ว ให้เช 1 แก้ว แล้วบอกให้เชนำอีกแก้วไปให้บอย   เชไม่ยอม..ปฏิเสธที่จะเอาไปให้บอย บอกว่ากลัวบอยและอายเด็กคนอื่น

ผมชี้แจงให้เชเข้าใจว่า "การมีน้ำใจคือสิ่งที่ควรทำ..ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวหรือน่าอาย การละอายที่จะทำสิ่งที่ดี หรือการเมินเฉยต่อเมตตาที่จะมีให้ผู้ที่ด้อยกว่าเรานั้น ยิ่งน่าละอายกว่า   เชนิ่งคิดแล้วถือแก้วน้ำหวาน เดินตรงไปหาบอยอย่างกลัวๆ หยุดยืนตรงหน้ายื่นแก้วน้ำหวานให้ บอยยิ้มแล้วคว้าไปดูดอย่างหิวกระหาย เด็กๆ คนอื่นรุมมองดูการกระทำครั้งนี้ของเชอย่างประหลาดใจ  เชเดินกลับมาหาผม เราสองคนพ่อลูก ยิ้มให้กันอย่างผู้ชนะ ผมดีใจที่ลูกกล้าทำในสิ่งที่ควรทำ  เมื่อนั่งอยู่ในรถขณะขับกลับบ้าน เราคุยกันเรื่องของบอยไม่รู้จักจบ ผมชมถึงความกล้าหาญของเช ชื่นชมในการกระทำ  เชดูปลาบปลื้ม ยิ้มอย่างมีความสุข ผมบอกลูกว่า เชคงเป็นเด็กคนแรกที่หยิบยื่นน้ำหวานให้บอยและควรภูมิใจในสิ่งที่ทำลงไป

ช่วงระยะหลังๆ เชไม่ค่อยขอผมอยู่เล่นต่อหลังเลิกเรียน ผมชักสงสัย เลยถาม เชเล่าให้ฟังว่าหลังจากวันนั้น ทุกครั้งที่เจอกับบอย เชจะถูกบอยขอกินน้ำหวานทุกครั้งจนเชอายเพื่อน เพราะเพื่อนๆ จะล้อเลียนเช ว่ามีเพื่อนเป็น "ไอ้บอย"   "เชจำถึงวันที่เราคุยกันถึงเรื่อง 'โลกใบเล็กๆ ของบอย' ได้หรือเปล่า?   ผมถามเชตรงๆ เชพยักหน้าตอบ  "มันเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ ที่เชได้เข้าไปอยู่ในโลกใบเล็กๆ ของบอยแล้ว เชคงเป็นเพื่อนคนเดียวในโลกของบอยที่บอยจะขอน้ำหวานดื่มได้...จงภูมิใจเถอะ"

หลังจากวันนั้น ผมต้องให้ค่าขนมเชเพิ่มอีกวันละ 5 บาท  เตรียมเอาไปซื้อน้ำหวานให้ "บอยเพื่อนรัก"  ทุกวัน.. แต่มันก็คุ้มค่าที่โลกใบเล็กๆ ของบอยจะเติมเต็มให้โลกที่กว้างใหญ่ของเช..เต็มไปด้วยความเมตตา และความเข้าใจต่อเพื่อนมนุษย์ที่ด้อยกว่า....


อ้างอิงจาก : หนังสือคู่สร้างคู่สม ฉบับที่ 602  คอลัมน์ คุณผู้ชายเขียนมาเล่า โดย "นายต้อย"
เห็นว่าเนื้อเรื่องดี มีสาระ และแอบซึ้งอะคะ  เลยนำมาฝากเพื่อนๆ ให้ได้ซึ้งโดยทั่วหน้ากัน
[/glow][/glow]
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

...ทำดีย่อมได้ดี...สาธุ!!
03 มิถุนายน 2008, 01:36:PM
*คuขี้IหJา*
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 164
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 972


ยังรอคอยการกลับมาของเธอคนดี


« ตอบ #1 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2008, 01:36:PM »
ชุมชนชุมชน

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่นำมาฝากคะ  ตบมือให้ ตบมือให้
บันทึกการเข้า

05 มิถุนายน 2008, 10:05:PM
nineten
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 183
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,126



« ตอบ #2 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2008, 10:05:PM »
ชุมชนชุมชน

โลกใบเล็กๆ..แต่ใจไม่เล็ก..กับคำว่าเพื่อน
บันทึกการเข้า
06 มิถุนายน 2008, 07:10:PM
เพลงผ้า
Special Class LV3.9
นักกลอนหาทางกลับบ้าน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 215
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,364



« ตอบ #3 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2008, 07:10:PM »
ชุมชนชุมชน

+1 ให้กะโลกใบเล็กของ บอย นะคร้า  ...ดีจัง....
บันทึกการเข้า

    พลิ้วไหว..ผุดผ่อง..ล่องลม
07 มิถุนายน 2008, 01:32:PM
กล่องความทรงจำ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 225
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,057



« ตอบ #4 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2008, 01:32:PM »
ชุมชนชุมชน

ขอบคุณสำหรับคะแนน และคำ comment นะคะ ทำตา ปิ๊งๆ
บันทึกการเข้า

...ทำดีย่อมได้ดี...สาธุ!!
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s