---อัสดง อีกแล้ว---
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
25 เมษายน 2024, 11:11:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ---อัสดง อีกแล้ว---  (อ่าน 6443 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
19 กุมภาพันธ์ 2014, 06:40:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 06:40:PM »
ชุมชนชุมชน



ตะวันลอยถอยลับกับขอบฟ้า
คล้ายบอกว่าลาก่อนย้อนวิถี
ทิ้งกลางวันสู่บ่วงห้วงราตรี
เหมือนชีวีเกิดดับประทับตรา

เมื่อมีเริ่มเติมเชื้อไว้เผื่อดับ
มิอาจนับซากถมที่จมหล้า
ดังสุรีย์มีแสงเป็นศักดา
ถึงเวลายังพลัดอัสดง

หนึ่งชีวิตลาล่วงด้วยบ่วงคล้าย
แต่อีกหลายเพียงเริ่มประเดิมหลง
ท่ามไอหมอกหลอกตาผวางง
รอวันปลงสังขารผ่านวันวัย

หมั่นพินิจคิดดูจะรู้จริง
สรรพสิ่งเกิดดับกับความไหว
ก่อนลางเลือนเคลื่อนคล้อยบนรอยใจ
แล้วดับไปกับเวลาที่พร่าลง

 น้อยใจแล้วด้วย

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, รพีกาญจน์, --ณัชชา--, สะเลเต, D, เนิน จำราย, รัตนาวดี, กังวาน, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, ~ขลุ่ยกันแสง~, yaguza, เพรางาย, พี.พูนสุข, saknun, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
19 กุมภาพันธ์ 2014, 07:49:PM
--ณัชชา--
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2081
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,304


เวลาเปลี่ยนไปใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง


pim
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 07:49:PM »
ชุมชนชุมชน

คือกงกรรมกงเกียวนที่เวียนว่าย
เกิดแก่ตายเปื่อยยุ่ยเป็นผุยผง
ชีวิตตามครรลองเราต้องปลง
บุญหนุนส่งคูณค้ำถ้าทำดี

ใครที่ทำไม่ดีอย่าหนีหลบ
ยามเป็นศพถึงครารียกว่าผี
คงได้ไปเที่ยวเตร่อเวจี
มิอาจหนีรอดพ้นสักคนเดียว

--ณัชชา--

 โอว์ ว๊าว...

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, รพีกาญจน์, สะเลเต, D, เนิน จำราย, รัตนาวดี, กังวาน, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, ~ขลุ่ยกันแสง~, yaguza, พี.พูนสุข, saknun, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

19 กุมภาพันธ์ 2014, 08:25:PM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #2 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 08:25:PM »
ชุมชนชุมชน


หนีไม่พ้น..ชีวิตคนบนผืนหล้า
เกิดแก่เจ็บตาย,ชราใบหน้าเหี่ยว
วานวันก่อนกินข้าวเช้าแปบเดียว
เผลอลืมเคี้ยวข้าวกลืน..ติดคอตาย

วิ่งเร็วมากเท่าไหร่.?หนีไม่พ้น
ห้วงวังวนผลกรรม..กาลเวียนว่าย
เมื่อเวลามาถึงทั้งหญิงชาย
ร่างวางวายหลังเผาเพียงเถ้าดิน... ไม่แน่ใจ

---สะเลเต---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, muneenoi, เนิน จำราย, รัตนาวดี, กังวาน, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, ~ขลุ่ยกันแสง~, yaguza, --ณัชชา--, พี.พูนสุข, saknun, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 กุมภาพันธ์ 2014, 10:37:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #3 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 10:37:PM »
ชุมชนชุมชน


ชอบใจๆ เอ้อ..จริงว่ะ ชอบใจๆ

อัสดงผ่านมาเลื่อนลาลับ
ทิวาดับลับไปยังไม่สิ้น
อรุณรุ่งลมโชยจะโบยบิน
ได้ยลยินอีกครั้งมิสั่งลา ขอจุ๊บ..หน่อย

แม้ความทุกข์ท่วมท้นจวนป่นปี้
วันพรุ่งนี้คงคลายลงได้หนา
อดทนสักนิดหนึ่งแม้ตรึงตรา
รออีกคราฟ้าใหม่คงไม่นาน ยิ้มแบบรักนะ..

อัสดงอีกแล้วอย่างแผ่วโหย
รักราโรยโหยแห้งหมดแรงต้าน
พอรุ่งเช้าวันนี้เป็นวันวาน
สิ่งเลวร้ายจงผ่านม่านราตรี งอนแล้วด้วย

แสงสีทองส่องฟ้าอุรารื่น
สุขสดชื่นตื่นตัวดั่งบัวคลี่
ดวงจิตได้ปล่อยวางหว่างชีวี
ดวงฤดีเบิกบานเข้าบ้านกลอน ยิ้มหน้าใส

ไพร พนาวัลย์

 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, ~ขลุ่ยกันแสง~, muneenoi, ชลนา ทิชากร, dinner, yaguza, รพีกาญจน์, --ณัชชา--, D, พี.พูนสุข, สะเลเต, saknun, panthong.kh, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 กุมภาพันธ์ 2014, 12:35:AM
dinner
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 74
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 206



« ตอบ #4 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 12:35:AM »
ชุมชนชุมชน

 
ส่งจูบจ้ะ

อัสดงลับลงที่ตรงหน้า
เราซบหน้าเหมือนดังมีสังหรณ์
เพราะหัวใจโหยหาความอาทร
จากบ้านกลอนขอเน้นไม่เห็นมี

อัสดงอีกหนเราทนขื่น
น้ำตารื้นไร้หลักสิ้นศักดิ์ศรี
เมื่อเขาไม่เมตตาสิ้นปรานี
หทัยนี้เจียนดับกับอัสดง

dinner

ส่งจูบจ้ะ เธอนั่นแหละจ้ะ ส่งจูบจ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ~ขลุ่ยกันแสง~, รัตนาวดี, yaguza, --ณัชชา--, D, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, สะเลเต, muneenoi, ไพร พนาวัลย์, saknun, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 กุมภาพันธ์ 2014, 01:55:AM
~ขลุ่ยกันแสง~
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 322
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 796


~รักเธอ..เสมอใจ~


tanee.teena
« ตอบ #5 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 01:55:AM »
ชุมชนชุมชน


ชอบใจๆ เอ้อ..จริงว่ะ ชอบใจๆ

อัสดงผ่านมาเลื่อนลาลับ
ทิวาดับลับไปยังไม่สิ้น
อรุณรุ่งลมโชยจะโบยบิน
ได้ยลยินอีกครั้งมิสั่งลา ขอจุ๊บ..หน่อย

แม้ความทุกข์ท่วมท้นจวนป่นปี้
วันพรุ่งนี้คงคลายลงได้หนา
อดทนสักนิดหนึ่งแม้ตรึงตรา
รออีกคราฟ้าใหม่คงไม่นาน ยิ้มแบบรักนะ..

อัสดงอีกแล้วอย่างแผ่วโหย
รักราโรยโหยแห้งหมดแรงต้าน
พอรุ่งเช้าวันนี้เป็นวันวาน
สิ่งเลวร้ายจงผ่านม่านราตรี งอนแล้วด้วย

แสงสีทองส่องฟ้าอุรารื่น
สุขสดชื่นตื่นตัวดั่งบัวคลี่
ดวงจิตได้ปล่อยวางหว่างชีวี
ดวงฤดีเบิกบานเข้าบ้านกลอน ยิ้มหน้าใส

ไพร พนาวัลย์

 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

หัวเราะเยาะ
ยามสุรีย์ หรี่แสง สำแดงฤทธิ์
เร่งมืดมิด มาคลุม เป็นกลุ่มก้อน
แว่ววิเวก หวาดหวั่น อกสั่นคลอน
ก่อกลัดกลุ้ม รุ่มร้อน เข้าชอนไช..
 ไม่ชอบเลย น้อยใจแถมบ่น
..อยากอัดอั้น อัสดง ตรงขอบฟ้า
อยากสื่อสั่ง รังสิมา โปรด..อย่าได้
ริบหรี่ดับ ลับเลือน คล้อยเคลื่อนไป
คงเดชไว้ เถอะหนา เจ้าภากร..
 ร้องไห้งอแง FuYuck !!!
..กลัวโศก-เหงา เร้าร่วม เจ็บท่วมท้น
ให้รวดร้าว ระคน จนเหนื่อยอ่อน
กลัวทดท้อ ทรมาน มารานรอน
จนช้ำชอก ซอกซอน..นอนระทม
 น้อยใจแล้วด้วย ลาตายดีกว่าตู เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, yaguza, D, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, สะเลเต, muneenoi, ไพร พนาวัลย์, saknun, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 กุมภาพันธ์ 2014, 06:15:AM
เพรางาย
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 553
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,312


ทุกคำถามจะนำมาซึ่งคำตอบ


« ตอบ #6 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 06:15:AM »
ชุมชนชุมชน


(ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ตค่ะ)

กงล้อเกวียนวันหมุนเคลื่อน  ดวงกลมลอยเลื่อน
สัมผัสทิวไม้ไร่นา

หยาดทองทาบยอดพลอดลา  วิบไหวใจพา
จะหยดจะหยุดฉุดหมอง

นิ่งทบทวนนึกตรึกตรอง              กี่รสลิ้มลอง
รู้กรองหรือแกล้งแสร้งเมิน

วันจบคืนเจียนเวียนเดิน              สะดุ้งบังเอิญ
หรือแท้ใจรนร่ายสาร

วิหคคืนรังเบิกบาน                           บอกข่าวเล่าขาน
ใจขบพลบเล่าเขลาไย

แสงจ้าอำนาจเกรียงไกร             นิรันดร์ฝันไป
มืดกลบซบเซาเปล่าร้าง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : --ณัชชา--, พิมพ์วาส, รัตนาวดี, D, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, muneenoi, ไพร พนาวัลย์, saknun, ชลนา ทิชากร, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คนที่กำลังไล่ตามความฝัน  ท่ามกลางความผกผันของเวลา
20 กุมภาพันธ์ 2014, 06:28:AM
yaguza
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1567
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,308


**ยากูซ่า บ้าไม่เลือกที่**


« ตอบ #7 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 06:28:AM »
ชุมชนชุมชน




ยามสุรีย์ หรี่แสง สำแดงฤทธิ์
เร่งมืดมิด มาคลุม เป็นกลุ่มก้อน
แว่ววิเวก หวาดหวั่น อกสั่นคลอน
ก่อกลัดกลุ้ม รุ่มร้อน เข้าชอนไช..
 
..อยากอัดอั้น อัสดง ตรงขอบฟ้า
อยากสื่อสั่ง รังสิมา โปรด..อย่าได้
ริบหรี่ดับ ลับเลือน คล้อยเคลื่อนไป
คงเดชไว้ เถอะหนา เจ้าภากร..
 
..กลัวโศก-เหงา เร้าร่วม เจ็บท่วมท้น
ให้รวดร้าว ระคน จนเหนื่อยอ่อน
กลัวทดท้อ ทรมาน มารานรอน
จนช้ำชอก ซอกซอน..นอนระทม


ชอบใจๆ เอ้อ..จริงว่ะ ชอบใจๆ



......เมื่อ สุริยน ย่ำสนธยา
ม่านนภา ราตรี คลี่มาห่ม
หริ่งเรไร กรีดก้อง ร้องระงม
แผ่วสายลม พัดผ่าน สท้านกาย

เสียงนกแสก แหวกแทรก ระแวกเถื่อน
อยู่บนเรือน คนเดียว เสียวอิ๊บหาย
มานอนเฝ้า เหย้าชาน ที่บ้านยาย
แกเพิ่งตาย เป็นศพ ครบเจ็ดวัน



...ยากูซ่า....


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : --ณัชชา--, พิมพ์วาส, D, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, สะเลเต, muneenoi, ไพร พนาวัลย์, saknun, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 กุมภาพันธ์ 2014, 01:34:PM
เนิน จำราย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 637
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,224



« ตอบ #8 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 01:34:PM »
ชุมชนชุมชน

๑.ช่วงชีวิตหนึ่งนั้นแสนสั้นนัก
แน่ตระหนักลดละโมบทิ้งโลภหลง
อธิษฐาน ทาน ท่อง ทำ จนดำรง 
เคียงมั่นคงอยู่เหย้า...ข้าวคู่เคียว

๒.กงเกวียนกำเกวียนหมุนเวียนล้อ
เติมต่อวีถีถี่ลดเลี้ยว
   ทำดีได้ดีไม่ดายเดียว   
   กลัวไย..ใครเกี่ยว..เราได้ยิน

๓.ปฐม มัชฌิม ปัจฉิม    
ปากลิ้ม รู้รส หมดลิ้น   
จวบกาล ร่างกาย จมดิน 
หมดสิ้น ลำเค็ญ เย็นร้อน

๔.อัสดงธงธรรมชาติ   
พิศพิลาศเช่นคับค้อน
ปรับปรุงบำรุงป้อน     
พิเคราะห์เศร้ามลายลง
กัลยาณมิตรมาก       
มีหลายหลากดั่งประสงค์
ตัดญาติยากขาดลง 
ปีกขมิ้นห้ามดิ้นกาง

๕.นกน้อยค่อยหวนหันห่าง  หันจับกลับทาง
กลับถิ่นที่เลยมาไกล
เลยลับไปแล้วแดนใด   แดนดงพงใจ
พงไพรได้พักพอนอน
พอตื่นฟื้นจำทอดถอน  ทอดทุกข์เร้ารอน
เร้ารุกปลุกตื่นคืนมา
คืนถิ่นหอมกลิ่นพวงผกา  พวงครามตามมา
ตามหน้านกหนึ่งตัวนั้น

เนิน จำราย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, muneenoi, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สะเลเต, รัตนาวดี, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 กุมภาพันธ์ 2014, 01:51:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #9 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 01:51:PM »
ชุมชนชุมชน

ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
สุรีย์ฉาย แสงอ่อน อาวรณ์หา
มองนภา มืดมิด จิตป่วนปั่น
ข่มตาหลับ อย่างไร ให้รำพัน
คิดถึงจันทร์ ไม่แจ่ม แซมดารา

ราตรีกาล นานเนิ่น เกินจิตหลอน
เข้าบ้านกลอน ออนไป ใจผวา
ดูละคร สามี เฝ้าตีตรา
ช่องสามหนา พุธ,พฤหัส เขาจัดเต็ม
พันทอง
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, muneenoi, เนิน จำราย, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สะเลเต, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 กุมภาพันธ์ 2014, 06:06:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #10 เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2014, 06:06:PM »
ชุมชนชุมชน


(ขอบคุณภาพประกอบ จากอินเตอร์เน็ต..)

อัสดง ลงลับกับทิวไม้
สะท้านไหวโคจรอ่อนวิถี
ดงดอนไพรเงียบเหงาเข้าราตรี
อีกแล้วซีพักผ่อนอ่อนวิญญาณ์

อัสดง บ่งบอกคล้ายชอกช้ำ
สะท้อนลำแสงหมดอดผวา
ดงดอนเถื่อนเหมือนสิ้นกลิ่นทิวา
อีกแล้วหนาพรุ่งนี้ที่ข้ารอ

อัสดง ตรงนี้ที่ใจข้า
เสมือนว่าสิ้นแรงจะแข็งต่อ
ดงดอนเงียบเปรียบเหงาเคล้าพะนอ
อีกแล้วหนอหัวใจ..ไร้แสงนำ

 ซึ้งจัง

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, สะเลเต, ชลนา ทิชากร, panthong.kh, รัตนาวดี, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
22 กุมภาพันธ์ 2014, 07:36:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #11 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2014, 07:36:PM »
ชุมชนชุมชน

คือกงกรรมกงเกียวนที่เวียนว่าย
เกิดแก่ตายเปื่อยยุ่ยเป็นผุยผง
ชีวิตตามครรลองเราต้องปลง
บุญหนุนส่งคูณค้ำถ้าทำดี

ใครที่ทำไม่ดีอย่าหนีหลบ
ยามเป็นศพถึงครารียกว่าผี
คงได้ไปเที่ยวเตร่อเวจี
มิอาจหนีรอดพ้นสักคนเดียว

--ณัชชา--

 โอว์ ว๊าว...

ยามชีวีมีสุขสนุกสนาน
ลืมสังขารลืมแก่มิแลเหลียว
คิดว่าสาวหนุ่มแน่นแสนปราดเปรียว
ยังไม่เหี่ยวแห้งโหยวัยโรยรา

ยามไร้ทุกข์ไร้โศกไร้โรคร้าย
ก็สบายลืมตัวมัวตัณหา
ยังประมาทชีวิตอนิจจา
มรณาไม่แน่แก่ผู้ใด

วัยเวลา,โรคี,อีกชีวิต
เป็นพุทธภาษิตลิขิตไว้
อย่าประมาท สามอย่าง กระจ่างใจ
รำลึกให้เสมออย่าเผลอตัว

 อายจัง

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s