^^ใจอ่อนแอ^^(โคลง)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
16 มิถุนายน 2024, 05:34:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ^^ใจอ่อนแอ^^(โคลง)  (อ่าน 11797 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
09 กุมภาพันธ์ 2014, 11:16:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 11:16:PM »
ชุมชนชุมชน

เพราะอะไรไม่รู้..............เหนื่อยจัง
เบื่อหน่ายนักเซซัง..........ดั่งบ้า
ทุกคราที่ผิดหวัง............นั่งเหม่อ
เหมือนอย่างชีพอ่อนล้า.....ด่าวดิ้น  สิ้นลม

พินิจปมมั่นย้ำ............ทำใจ
เพราะว่าเหตุภายใน......จึงข้อง
กิเลสพ่วงพลอยให้.......ยึดติด  เราเอย
ปั่นป่วนเราถึงต้อง........ป่าวร้อง รอเธอ

คิดเสมอต่อนี้..............มีทาง
อันรักพร้อมปล่อยวาง.....หยุดยั้ง
เรื่องทุกสิ่งหยิบย่าง......สมมุติ เปรียบแฮ
ขออย่ายอมถูกรั้ง..........สู่ห้วง มายา

ปรารถนา ไม่ง้อ............ต่อไป
เมื่อสี่ห้องหัวใจ.............ว่างเว้น
ความว้าเหว่กลับไล่........ใจจ่อม
คงเพราะเรา ไม่เน้น........แก่กล้า  อินทรีย์

 น้อยใจแล้วด้วย

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, ดุลย์ ละมุน, ชลนา ทิชากร, สะเลเต, จารุทัส, dinner, saknun, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
10 กุมภาพันธ์ 2014, 12:05:AM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #1 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 12:05:AM »
ชุมชนชุมชน



หัวใจยอมตกห้วย    แห่งกาม
รักโลภโกรธหลงยาม  เมื่อพลั้ง
เหมือนเราอยู่ในสนาม- รบแห่ง จิตนา
จึงถูกความอยากรั้ง   สู่ห้วงวังวน

จนใจจักต่อสู้      มายา
เพราะเหตุคือดวงตา  ถูกกั้น
ร้อยเล่ห์เหลี่ยมตัณหา  คอยปิด บังแฮ
นับเนื่องคูณทวีชั้น   ไป่ให้มองเห็น




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, ดุลย์ ละมุน, ชลนา ทิชากร, ดาว อาชาไนย, สะเลเต, จารุทัส, saknun, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
10 กุมภาพันธ์ 2014, 05:43:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 05:43:AM »
ชุมชนชุมชน



(รัตน์ลองหัดแต่งดูนะคะ  สาวน้อยหัวเราะ ขอท่านช่วยติด้วยค่ะ  ขอจีบ...ได้ป่ะ


...อยากจะร้องไห้.......โฮโฮ
...เธอเก็บแฟนเป็นโหล.......เหมือนคลั่ง
...ฉันคอตกเดินโชว์.......เพื่อนล้อ  จนชิน
...ยามเผลอน้ำตาหลั่ง.......ข้างเขียง  บ่อยเลย (ฮือ ฮือ)

...อยากจะหยุดร้องไห้.......สักที
...ใจส่วนลึกยังมี.......โศกเศร้า
...จึงบอกกับตัวเอง.......พรุ่งนี้  ลองดู
...รักหากกลับหวนเฝ้า.......ก็จะ  ให้อภัย (โกหกนะจ๊ะ! ขำแบบกระแดะหน่อยๆ)

รัตนาวดี

  ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก


ขอบคุณครูพิณพาทย์เคยชี้แนะให้ไว้ค่ะขอบคุณนะคะ  ยิ้มแบบรักนะ..

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, เนิน จำราย, พยัญเสมอ, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, ดุลย์ ละมุน, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สะเลเต, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
10 กุมภาพันธ์ 2014, 10:26:AM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #3 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 10:26:AM »
ชุมชนชุมชน



(รัตน์ลองหัดแต่งดูนะคะ  สาวน้อยหัวเราะ ขอท่านช่วยติด้วยค่ะ  ขอจีบ...ได้ป่ะ


...อยากจะร้องไห้.......โฮโฮ
...เธอเก็บแฟนเป็นโหล.......เหมือนคลั่ง
...ฉันคอตกเดินโชว์.......เพื่อนล้อ  จนชิน
...ยามเผลอน้ำตาหลั่ง.......ข้างเขียง  บ่อยเลย (ฮือ ฮือ)

...อยากจะหยุดร้องไห้.......สักที
...ใจส่วนลึกยังมี.......โศกเศร้า
...จึงบอกกับตัวเอง.......พรุ่งนี้  ลองดู
...รักหากกลับหวนเฝ้า.......ก็จะ  ให้อภัย (โกหกนะจ๊ะ! ขำแบบกระแดะหน่อยๆ)

รัตนาวดี

  ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก


ขอบคุณครูพิณพาทย์เคยชี้แนะให้ไว้ค่ะขอบคุณนะคะ  ยิ้มแบบรักนะ..

ขึ้นต้นเอ่ยร่ำไห้.................โฮฮำ
ก็บ่ครบห้าคำ....................ร่ำแล้ว
อย่าลืมเอ่ยเผยย้ำ...............นับก่อน
จึงค่อยบอกแฟนแก้ว............เกี่ยวก้อย เอาลง

อย่างงงวย ป่วยไข้..............ไม่ยาก
รีบใส่สัมผัสหาก.................พรั่งพร้อม
เอกโทหย่อนหลายหลาก.......แบบกล่าว
ระหว่างบทพจน์น้อม............พ่วงให้ รับกัน

 เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"

(ให้ติก็ติแล้วเน้อ ยิ้มแฉ่งฟันหลอ มุนีน้อย ก็งูๆปลาๆ ไปตามแบบท่านเหมือนกัน ยิ้มหน้าใส)

(ตรงคำเอก ใช้คำเป็นคำตายแทนได้... ตบมือให้)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, พยัญเสมอ, panthong.kh, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, ดุลย์ ละมุน, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สะเลเต, จารุทัส, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
10 กุมภาพันธ์ 2014, 08:46:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #4 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 08:46:PM »
ชุมชนชุมชน


ใจจอมขวัญแข็งขั้น     เหล็กไหล
น้ำกัดเซาะเพียงใด      ไม่สะเทิ้น
ดุจเขามั่นกลั่นไอ       อวลอบ
ใครคบร้องเรียกเอิ้น    แกร่งแท้แม่นาง

เตาะแตะตั้งแต่ต้น     ยันปลาย
ใครใคร่คิดวุ่นวาย     จักช้ำ
หลายหลากหลบกลัวตาย   จริงนั่น
ม้วยแน่ฉันขอย้ำ     ไม่ช้าหรอกนาย

อยากจะลองก็เข้า      มาเลย
เตะต่อยเข้าจังเอย     อกไหม้
เตือนต่อเป็นกระเทย   หยุดซะ
หากว่าชายมาได้      แต่ต้องต่อคิว

ชิวชิวยามช่วงเช้า    ไก่ขัน
เซ็งแซ่อัศจรรย์       กู่ก้อง
บางตัวหัวหดกัน      ไม่ตื่น
ขมเข็ดไก่เหงาต้อง   ตกต้มแกงกิน
พันทอง
๑๐/๒/๕๗

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, muneenoi, ดุลย์ ละมุน, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, สะเลเต, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 กุมภาพันธ์ 2014, 05:21:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #5 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2014, 05:21:AM »
ชุมชนชุมชน



ขึ้นต้นเอ่ยร่ำไห้.................โฮฮำ
ก็บ่ครบห้าคำ....................ร่ำแล้ว
อย่าลืมเอ่ยเผยย้ำ...............นับก่อน
จึงค่อยบอกแฟนแก้ว............เกี่ยวก้อย เอาลง

อย่างงงวย ป่วยไข้..............ไม่ยาก
รีบใส่สัมผัสหาก.................พรั่งพร้อม
เอกโทหย่อนหลายหลาก.......แบบกล่าว
ระหว่างบทพจน์น้อม............พ่วงให้ รับกัน

 เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"

(ให้ติก็ติแล้วเน้อ ยิ้มแฉ่งฟันหลอ มุนีน้อย ก็งูๆปลาๆ ไปตามแบบท่านเหมือนกัน ยิ้มหน้าใส)

(ตรงคำเอก ใช้คำเป็นคำตายแทนได้... ตบมือให้)


 
เคารพรัก ส่งจูบจ้ะ เอ้อ..จริงว่ะ


...เบื่อนักอยากจะไห้.......โฮโฮ
...เธอเก็บแฟนเป็นโหล.......เห่อคลั่ง
...ฉันคอตกเดินโชว์.......หน้างอ  จนชิน
...นัยน์เอ่อน้ำตานั่ง.......เปียกชุ่ม บ่อยเลย

...อยากเฉยชาหยุดไห้.......สักที
...ใจส่วนลึกยังมี.......โศกเศร้า
...จึงบอกกับตัวเอง.......พรุ่งนี้  ลองดู
                    ...รักหากกลับหวนเฝ้า.......จะแกล้ง ให้อภัย (โกหกนะจ๊ะ! ขำแบบกระแดะหน่อยๆ)

รัตนาวดี

  ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก


  ขอบคุณท่านพี่มุนีน้อยเจ้าค่ะ โอเคแล้วยังคะ? สาวน้อยหัวเราะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, muneenoi, ดอกกระเจียว, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, สะเลเต, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
11 กุมภาพันธ์ 2014, 09:49:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #6 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2014, 09:49:PM »
ชุมชนชุมชน



หัวใจยอมตกห้วย    แห่งกาม
รักโลภโกรธหลงยาม  เมื่อพลั้ง
เหมือนเราอยู่ในสนาม- รบแห่ง จิตนา
จึงถูกความอยากรั้ง   สู่ห้วงวังวน

จนใจจักต่อสู้      มายา
เพราะเหตุคือดวงตา  ถูกกั้น
ร้อยเล่ห์เหลี่ยมตัณหา  คอยปิด บังแฮ
นับเนื่องคูณทวีชั้น   ไป่ให้มองเห็น






เพราะเป็นใจที่ม้วย................ด้วยกาม
จึงจ่อมจมทุกข์หาม...............ป่นปี้
ย่อมแพ้พ่ายศึกหยาม.............ทำหม่น
กิเลสในไล่จี้.................มุ่งร้าย ตัดตอน

พินิจก่อนบ่วงนั้น................ตัณหา
มันห่อนปิดดวงตา...............ค่าไร้
หากตัดห่วงค้างคา..............เทวษ
ย่อมส่งดวงจิตไซร้..............สู่ห้อง นฤพาน

 เต้นบัลเลย์

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, พยัญเสมอ, สะเลเต, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
11 กุมภาพันธ์ 2014, 10:13:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #7 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2014, 10:13:PM »
ชุมชนชุมชน


ใจจอมขวัญแข็งขั้น     เหล็กไหล
น้ำกัดเซาะเพียงใด      ไม่สะเทิ้น
ดุจเขามั่นกลั่นไอ       อวลอบ
ใครคบร้องเรียกเอิ้น    แกร่งแท้แม่นาง

เตาะแตะตั้งแต่ต้น     ยันปลาย
ใครใคร่คิดวุ่นวาย     จักช้ำ
หลายหลากหลบกลัวตาย   จริงนั่น
ม้วยแน่ฉันขอย้ำ     ไม่ช้าหรอกนาย

อยากจะลองก็เข้า      มาเลย
เตะต่อยเข้าจังเอย     อกไหม้
เตือนต่อเป็นกระเทย   หยุดซะ
หากว่าชายมาได้      แต่ต้องต่อคิว

ชิวชิวยามช่วงเช้า    ไก่ขัน
เซ็งแซ่อัศจรรย์       กู่ก้อง
บางตัวหัวหดกัน      ไม่ตื่น
ขมเข็ดไก่เหงาต้อง   ตกต้มแกงกิน
พันทอง
๑๐/๒/๕๗


ใจโฉมฉินแกร่งกล้า       ท้าดวล
อยากเอ่ยคำพร่ำชวน      ต่อถ้อย
หากตัวพี่ลองสวน         รักสาด
  ละลายใจแน่งน้อย         หวั่นแท้ เธอเมิน

คงต้องเดินย่างเก้อ        เจอเข่า
หมัดศอกของนงเยาว์     ตอกดิ้น
เชิงมวยเธอเกินเรา        เศร้าหนัก
หากเชิงรักบอกสิ้น         พี่นี้ เกินใคร

ขุนเขาใหญ่ใจเจ้า         ช่างเปรียบ
แข็งแกร่งเกินจะเทียบ     หนักแม้น
แต่โดดเดี่ยวเหงาเงียบ    เดาว่า จริงนา
รอวันเธอวิ่งแจ้น            เลิกแล้ว เป็นทอม

มายอมเป็นหญิงแท้       นารี
แสนอ่อนหวานโสภี        เพริศแพร้ว
เลิกกินไก่เสียที            มันบาป
เจ้าอาวาสรู้แล้ว            ไก่สิ้น เพราะพันฯ

 เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, สะเลเต, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
12 กุมภาพันธ์ 2014, 04:30:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #8 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2014, 04:30:PM »
ชุมชนชุมชน


เชิงรักมักไม่เข้า             ตาใคร
ตาลต่อเติมลงไป          ไม่เว้น
ลางเลือนเริ่มหมดไฟ      เถ้าถ่าน
มานบ่สู้หลบเร้น        ดั่งเจ้ามุนี

ลีลาเริงร่าร้อน          ชะมัด
มองเห็นอยู่หลัดหลัด   ดันม้วย
เชิงหวานหว่านรวบรัด  ใจนั่น
ตาตกตาลช่วยด้วย   กู่ก้องกลางไพร

ยังเป็นหญิงยิ่งแท้     ใช่เทียม
มองเพ่งพิศขวัญเรียม   ทุ่งกว้าง
ไทรระย้าหยั่งเทียม    จดจ่อ
โดนล่วงลับเลิกล้าง     จบสิ้นชีวัน

ยินจอแจไก่แจ้       โก่งขัน
แล้วจู่จู่ดูดู๋มัน       หงอยเศร้า
ฉงนงงเงอะกัน     ไปหมด
โดนห่ากินทั้งเล้า  ไม่แคล้วสูญพันธุ์
พันทอง
๑๒/๒/๕๗

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, รัตนาวดี, muneenoi, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, สะเลเต, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 กุมภาพันธ์ 2014, 10:50:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #9 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2014, 10:50:PM »
ชุมชนชุมชน


ส่งจูบจ้ะ อายจัง เธอนั่นแหละจ้ะ

ฤทัยอ่อนนอนนิ่งแล้ว     ทรามเชย
จึ่งบ่ห่อนเปรียบเปรย      นิ่มน้อง
ไก่น้อยไก่ใหญ่เอ๋ย          ตายหมด
เมื่อสมภารแตะต้อง      ไก่โต้งลาตาย

เชิงชายสิอ่อนซ้อม            ชาชิน
จึงมิอาจโบยบิน            แหล่งหล้า
มวยใหม่หัดต่อยหิน       หนักอึ้ง จริงนา
ลงสนามเก่งกล้า           จึ่งสู้เชิงมวย

ไพร พนาวัลย์

 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, muneenoi, Shumbala, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, คอนพูธน, สะเลเต, dinner, ดาว อาชาไนย, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

13 กุมภาพันธ์ 2014, 01:07:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #10 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2014, 01:07:PM »
ชุมชนชุมชน


นอนเนาแนบนิ่มน้อง  ดูดาว
ชวนชมห่มฟ้าพราว    ทุกครั้ง
หวามไหวหวั่นความหนาว   แทรกอก
สั่นสะทกหยุดยั้ง     ก่อนรั้งฤทัย

พงไพรไกลทุ่งโค้ง     สุดตา
เห็นไก่ขันทุกครา      รุ่งเช้า
ไก่แก่แค่ยื่นหน้า       หนักหน่วง
ขันไม่ไหวจึงเฝ้า      แต่จ้องมองเมียง

เสียงหลงลงหลบให้      งุนงง
เจ้าโก่งคอบรรจง      เจิดจ้า
ระริกระรี้ทนง            ว่าเก่ง
มาบัดนี้ไยช้า     เชื่องแท้เป็นไร

เชิงชายใช่อ่อนช้อม   หรอกชาย
เพียงแต่กลัววางวาย  เท่านั้น
ใจจดจ่อจ้องหมาย     เต็มที่
เผลอเมื่อใดโดนคั้น   เข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
พันทอง
๑๓/๒/๕๗

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, muneenoi, คอนพูธน, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, สะเลเต, dinner, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 กุมภาพันธ์ 2014, 04:55:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #11 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2014, 04:55:PM »
ชุมชนชุมชน


ส่งจูบจ้ะ อายจัง เธอนั่นแหละจ้ะ

ฤทัยอ่อนนอนนิ่งแล้ว     ทรามเชย
จึ่งบ่ห่อนเปรียบเปรย      นิ่มน้อง
ไก่น้อยไก่ใหญ่เอ๋ย          ตายหมด
เมื่อสมภารแตะต้อง      ไก่โต้งลาตาย

เชิงชายสิอ่อนซ้อม            ชาชิน
จึงมิอาจโบยบิน            แหล่งหล้า
มวยใหม่หัดต่อยหิน       หนักอึ้ง จริงนา
ลงสนามเก่งกล้า           จึ่งสู้เชิงมวย

ไพร พนาวัลย์

 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล


ไก่อ่อนม้วยป่วยแล้ว      ลุงไพร
อาจโดนสาวจับไป        ลงหม้อ
ลุกขันหน่อยสู้ไว้          เชิงข่ม
เป็นไก่วัดอย่าท้อ         หมั่นลี้ สมภาร

เชิงชายหาญบ่ซ้อม       เชิงชาญ
อาจอ่อนข้อหย่อนยาน    ต่อตั้ง
หนักถึงต่อยหินด่าน       แตกเสี่ยง เก่งแล
อาจพ่ายอ่อนหญิงพลั้ง   หลั่งน้ำตาชาย

 ยอมแพ้แล้วจ้า

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, panthong.kh, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, สะเลเต, dinner, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
13 กุมภาพันธ์ 2014, 05:08:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #12 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2014, 05:08:PM »
ชุมชนชุมชน


เชิงรักมักไม่เข้า             ตาใคร
ตาลต่อเติมลงไป          ไม่เว้น
ลางเลือนเริ่มหมดไฟ      เถ้าถ่าน
มานบ่สู้หลบเร้น        ดั่งเจ้ามุนี

ลีลาเริงร่าร้อน          ชะมัด
มองเห็นอยู่หลัดหลัด   ดันม้วย
เชิงหวานหว่านรวบรัด  ใจนั่น
ตาตกตาลช่วยด้วย   กู่ก้องกลางไพร

ยังเป็นหญิงยิ่งแท้     ใช่เทียม
มองเพ่งพิศขวัญเรียม   ทุ่งกว้าง
ไทรระย้าหยั่งเทียม    จดจ่อ
โดนล่วงลับเลิกล้าง     จบสิ้นชีวัน

ยินจอแจไก่แจ้       โก่งขัน
แล้วจู่จู่ดูดู๋มัน       หงอยเศร้า
ฉงนงงเงอะกัน     ไปหมด
โดนห่ากินทั้งเล้า  ไม่แคล้วสูญพันธุ์
พันทอง
๑๒/๒/๕๗


เจอศอกหั่น ตอกเข้า        เบ้าตา
ดาวพร่างเต็มท้องฟ้า        ปวดเน้น
เพราะเจอแม่ไก่ก๋า          เก๋ากั่น
อกสั่นมุนีเต้น          แน่แท้ หลบเลีย

เกือบเสียเชิงชายแท้      หญิงกวน
จนถ่านเก่าเก็บม้วน        ต่อเชื้อ
อัคคีก่อขอด่วน          โปรดอย่า จุดนา
มันกรุ่นอยู่พร้อมเกื้อ       เมื่อเจ้า เติมไฟ

จำต้องไล่ไก่น้อย          สาวนาง
อย่าเพิ่งด่วนคุยกร่าง      อ่าโอ้
หญิงแท้จริงทุกอย่าง      คุยข่ม จริงฤา
ไยอยู่นาน คานโก้         เล่าน้อง มองเมียง ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, panthong.kh, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, สะเลเต, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
13 กุมภาพันธ์ 2014, 05:20:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #13 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2014, 05:20:PM »
ชุมชนชุมชน


นอนเนาแนบนิ่มน้อง  ดูดาว
ชวนชมห่มฟ้าพราว    ทุกครั้ง
หวามไหวหวั่นความหนาว   แทรกอก
สั่นสะทกหยุดยั้ง     ก่อนรั้งฤทัย

พงไพรไกลทุ่งโค้ง     สุดตา
เห็นไก่ขันทุกครา      รุ่งเช้า
ไก่แก่แค่ยื่นหน้า       หนักหน่วง
ขันไม่ไหวจึงเฝ้า      แต่จ้องมองเมียง

เสียงหลงลงหลบให้      งุนงง
เจ้าโก่งคอบรรจง      เจิดจ้า
ระริกระรี้ทนง            ว่าเก่ง
มาบัดนี้ไยช้า     เชื่องแท้เป็นไร

เชิงชายใช่อ่อนช้อม   หรอกชาย
เพียงแต่กลัววางวาย  เท่านั้น
ใจจดจ่อจ้องหมาย     เต็มที่
เผลอเมื่อใดโดนคั้น   เข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
พันทอง
๑๓/๒/๕๗



หันมองเพ็ญ เด่นห้วง       อัมพร
อยากข่มตาลงนอน          เหนื่อยล้า
กลับคิดห่วงบังอร           ใจหม่น
อยากเอ่ยฝากจันทร์จ้า      พี่นี้ คิดถึง

รำพึงเพียง กล่าวถ้อย       ลอยลม
อีกบ่นานเดือนชม           เคลื่อนคล้อย
มิแตกต่างรักขม             เดือนตก อกเอย
เหมือนใจนางช่างน้อย      หลบหน้า คล้ายเดือน

กวีเหมือนแต่งแต้ม         โคลงกลอน
กระต่ายน้อย คอยอ้อน     จันทร์เจ้า
หรือจันทร์แค่แง่งอน       กระต่าย
อย่าปล่อยพี่วอนเว้า        ดั่งน้อง คือเดือน

รวยรินเหมือนกลิ่นแก้ม    สองปราง
ฤาพี่ต้องวายวาง            พ่ายแพ้
ฟังเสียงไก่สาวพลาง       ขันถี่
ยังเกาะคาน แน่นแท้       ลงได้ แล้วนาง  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

 หัวโขมย

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, panthong.kh, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สะเลเต, ไพร พนาวัลย์, คอนพูธน, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
14 กุมภาพันธ์ 2014, 03:07:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #14 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2014, 03:07:PM »
ชุมชนชุมชน

เจอศอกหั่น ตอกเข้า        เบ้าตา
ดาวพร่างเต็มท้องฟ้า        ปวดเน้น
เพราะเจอแม่ไก่ก๋า          เก๋ากั่น
อกสั่นมุนีเต้น          แน่แท้ หลบเลีย

เกือบเสียเชิงชายแท้      หญิงกวน
จนถ่านเก่าเก็บม้วน        ต่อเชื้อ
อัคคีก่อขอด่วน          โปรดอย่า จุดนา
มันกรุ่นอยู่พร้อมเกื้อ       เมื่อเจ้า เติมไฟ

จำต้องไล่ไก่น้อย          สาวนาง
อย่าเพิ่งด่วนคุยกร่าง      อ่าโอ้
หญิงแท้จริงทุกอย่าง      คุยข่ม จริงฤา
ไยอยู่นาน คานโก้         เล่าน้อง มองเมียง ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"
[/quote]


ศอกสับจับยัดเข้า   ตรงตา
เห็นแค่โบกมือลา   ย่อยย้อย
ชายจริงใช่ไหมนา   วานบอก
เจอแค่นี้ถอยถ้อย    จักสิ้นเชิงชาย

นายคงปลงไม่กล้า  ต่อยตี
กลัวจักม้วยชีวี    เจ็บช้ำ
สะอึกสะอื้นหนี     หมดท่า
บอกพี่เลี้ยงกลืนกล้ำ  ท่วมน้ำตานอง

ไก่อ่อนสอนขันสู้    สูสี
โดนต่อยตกเวที    ซะงั้น
ลุกรานลนจะหนี    หรือนั่น
งงเงอะเจอะกำปั้น  ร่วงแล้วจำยอม

คานเขาดีจึ่งขึ้น     คานไป
คานก็ส่องฤทัย   แช่มช้อย
คานคดจักทำใจ    ไม่หวั่น
หากว่าชายระห้อย   ก็เข้าสู่ขอ

พอสายไปจักช้า     เกินกาล
เดี๋ยวจักอดรับทาน   นะเจ้า
ของดีรี่ประสาน      ติดต่อ
มิเช่นนั้นจักเศร้า   อดได้เชยชม
พันทอง
๑๔/๒/๕๗
ขอบคุณคุณมุนีที่มาตามต่อโคลง พันจะได้ฝึกฝนวิทยายุทธด้วยจ้า
เพราะที่บ้านกลอนไม่ค่อยมีใครแต่งโคลงซักเท่าไหร่ และขอบคุณลุงไพรอีกคนจ้า...ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, muneenoi, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, dinner, รัตนาวดี, สะเลเต, คอนพูธน, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 กุมภาพันธ์ 2014, 01:41:AM
dinner
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 74
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 206



« ตอบ #15 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2014, 01:41:AM »
ชุมชนชุมชน

ฤทัยอ่อนนอนนิ่งแล้ว     ทรามเชย
จึ่งบ่ห่อนเปรียบเปรย      นิ่มน้อง
ไก่น้อยไก่ใหญ่เอ๋ย        ตายหมด
เมื่อสมภารแตะต้อง      ไก่โต้งลาตาย

เชิงชายสิอ่อนซ้อม            ชาชิน
จึงมิอาจโบยบิน            แหล่งหล้า
มวยใหม่หัดต่อยหิน       หนักอึ้ง จริงนา
ลงสนามเก่งกล้า           จึ่งสู้เชิงมวย

ไพร พนาวัลย์
ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ


เชิงชายดูยุ่งเหยิง          นุงนัง
จึงบ่ควรอินัง                นิ่งไว้
มวยใหม่ให้ระวัง           ไวว่อง
เชี่ยวชาญเจ้าชู้ไซร์        แน่แท้ นวลนาง

ครุ่นคิดตรองไตร่ให้       รู้กัน
ลองเขียนโคลงนี่มัน       ยุ่งแท้
เปรียบเช่นดั่งอ่อนชั้น     เชิงมวย นาพี่
จึงย่อมต้องพ่ายแพ้       สุดสิ้น ทางตัน

dinner
มือใหม่หัดเขียนนะจ๊ะ

 
อายจัง หัวเราะเยาะ อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, สะเลเต, คอนพูธน, ชลนา ทิชากร, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 กุมภาพันธ์ 2014, 10:33:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #16 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2014, 10:33:AM »
ชุมชนชุมชน


มากมายมาร่วมร้อย      เรียงราย
ฝึกหัดวันละหลาย      หมื่นย้ำ
เชิญผู้เก่งมาร่าย       รสต่อ
ทอถักถ้อยพจน์ล้ำ    อย่าได้เฉยชา

กอกากอไก่นั้น      หัดเรียน
ใจมุ่งมั่นหมั่นเพียร  แต่นี้
เพราะรักจักขีดเขียน  เติมแต่ง
ถึงยุ่งยากเกือบซี้     แต่ต้องทนเอา

เราจงใจจดจ้อง    ทุกที
มิใช่นักกวี         แต่งแต้ม
เป็นแค่นักกุลี     ต้อยต่ำ
หากว่าผิดกับแกล้ม   อภัยด้วยเถิดนาย

เชิงชายเขาก็ใช้     ปิดกัน
อยู่ระหว่างจันทัน   กระเบื้อง หลังคา นาพ่อ
มีให้เห็นเช่นนั้น    ประจักษ์
หาใช่เชิงชายเฟื้อง  กล่อมให้หญิงตรม
พันทอง
๑๕/๒/๕๗

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สะเลเต, รัตนาวดี, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, สุวรรณ, ศรีเปรื่อง, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 กุมภาพันธ์ 2014, 08:42:PM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #17 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2014, 08:42:PM »
ชุมชนชุมชน




(รัตน์ลองหัดแต่งดูนะคะ  สาวน้อยหัวเราะ ขอท่านช่วยติด้วยค่ะ  ขอจีบ...ได้ป่ะ


...อยากจะร้องไห้.......โฮโฮ
...เธอเก็บแฟนเป็นโหล.......เหมือนคลั่ง
...ฉันคอตกเดินโชว์.......เพื่อนล้อ  จนชิน
...ยามเผลอน้ำตาหลั่ง.......ข้างเขียง  บ่อยเลย (ฮือ ฮือ)

...อยากจะหยุดร้องไห้.......สักที
...ใจส่วนลึกยังมี.......โศกเศร้า
...จึงบอกกับตัวเอง.......พรุ่งนี้  ลองดู
...รักหากกลับหวนเฝ้า.......ก็จะ  ให้อภัย (โกหกนะจ๊ะ! ขำแบบกระแดะหน่อยๆ)

รัตนาวดี

  ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก


ขอบคุณครูพิณพาทย์เคยชี้แนะให้ไว้ค่ะขอบคุณนะคะ  ยิ้มแบบรักนะ..

ขึ้นต้นเอ่ยร่ำไห้.................โฮฮำ
ก็บ่ครบห้าคำ....................ร่ำแล้ว
อย่าลืมเอ่ยเผยย้ำ...............นับก่อน
จึงค่อยบอกแฟนแก้ว............เกี่ยวก้อย เอาลง

อย่างงงวย ป่วยไข้..............ไม่ยาก
รีบใส่สัมผัสหาก.................พรั่งพร้อม
เอกโทหย่อนหลายหลาก.......แบบกล่าว
ระหว่างบทพจน์น้อม............พ่วงให้ รับกัน

 เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"

(ให้ติก็ติแล้วเน้อ ยิ้มแฉ่งฟันหลอ มุนีน้อย ก็งูๆปลาๆ ไปตามแบบท่านเหมือนกัน ยิ้มหน้าใส)

(ตรงคำเอก ใช้คำเป็นคำตายแทนได้... ตบมือให้)


 สาวน้อยหัวเราะ เอาใหม่อีกครั้งค่ะ  หลบไปฝึกมาขอขึ้นเวทีอีกครั้งนะคะ ยิ้มแฉ่งฟันหลอ


  ร้องไห้งอแง อ่านเจออยากร่ำไห้..........จริงจริง
ผู้อ่านคงขำกลิ้ง..........กันแล้ว
จึงจดจ่อ แอบนิ่ง..........คิดใหม่
มิอยากให้คลาดแคล้ว ...ลองรั้ง สอยรัก  ขอจีบ...ได้ป่ะ

สาวน้อยหัวเราะ   เบื่อนักอยากจะไห้..........โฮโฮ
เธอเก็บแฟนเป็นโหล..........เห่อแท้
ฉันคอตกเดินโชว์...........หน้าคว่ำ  ชินแฮ
นัยน์เอ่อน้ำตาแม้...........เปียกชื้น ปล่อยเลย

   อยากเฉยชาหยุดไห้..........สักที
ใจส่วนลึกนี่ซี...........โศกเศร้า
จึงบอกแก่ตัวมี...........วันพรุ่ง  ลองแฮ
รักหากกลับหวานเฝ้า...........จะแกล้ง ให้อภัย  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

รัตนาวดี
 ส่งจูบจ้ะ เอ้อ..จริงว่ะ

ซึ้งจัง  สาธุ ขอให้สอบผ่าน เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, สุวรรณ, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
15 กุมภาพันธ์ 2014, 09:02:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #18 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2014, 09:02:PM »
ชุมชนชุมชน

เจอศอกหั่น ตอกเข้า        เบ้าตา
ดาวพร่างเต็มท้องฟ้า        ปวดเน้น
เพราะเจอแม่ไก่ก๋า          เก๋ากั่น
อกสั่นมุนีเต้น          แน่แท้ หลบเลีย

เกือบเสียเชิงชายแท้      หญิงกวน
จนถ่านเก่าเก็บม้วน        ต่อเชื้อ
อัคคีก่อขอด่วน          โปรดอย่า จุดนา
มันกรุ่นอยู่พร้อมเกื้อ       เมื่อเจ้า เติมไฟ

จำต้องไล่ไก่น้อย          สาวนาง
อย่าเพิ่งด่วนคุยกร่าง      อ่าโอ้
หญิงแท้จริงทุกอย่าง      คุยข่ม จริงฤา
ไยอยู่นาน คานโก้         เล่าน้อง มองเมียง ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"



ศอกสับจับยัดเข้า   ตรงตา
เห็นแค่โบกมือลา   ย่อยย้อย
ชายจริงใช่ไหมนา   วานบอก
เจอแค่นี้ถอยถ้อย    จักสิ้นเชิงชาย

นายคงปลงไม่กล้า  ต่อยตี
กลัวจักม้วยชีวี    เจ็บช้ำ
สะอึกสะอื้นหนี     หมดท่า
บอกพี่เลี้ยงกลืนกล้ำ  ท่วมน้ำตานอง

ไก่อ่อนสอนขันสู้    สูสี
โดนต่อยตกเวที    ซะงั้น
ลุกรานลนจะหนี    หรือนั่น
งงเงอะเจอะกำปั้น  ร่วงแล้วจำยอม

คานเขาดีจึ่งขึ้น     คานไป
คานก็ส่องฤทัย   แช่มช้อย
คานคดจักทำใจ    ไม่หวั่น
หากว่าชายระห้อย   ก็เข้าสู่ขอ

พอสายไปจักช้า     เกินกาล
เดี๋ยวจักอดรับทาน   นะเจ้า
ของดีรี่ประสาน      ติดต่อ
มิเช่นนั้นจักเศร้า   อดได้เชยชม
พันทอง
๑๔/๒/๕๗
ขอบคุณคุณมุนีที่มาตามต่อโคลง พันจะได้ฝึกฝนวิทยายุทธด้วยจ้า
เพราะที่บ้านกลอนไม่ค่อยมีใครแต่งโคลงซักเท่าไหร่ และขอบคุณลุงไพรอีกคนจ้า...ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
[/quote]

ฟังคารมเอ่ยเอื้อน         รำพึง
ขอบคุณอย่างสุดซึ้ง      พจน์ร้อย
มิตรกระจ่างตราตรึง       ต่อพี่
อยากขอเลี้ยงนิ่มน้อย    สักมื้อ คงดี

ชอบปูจี่หมี่เกี๊ยว          วานบอก
จะบึ่งรับถึงตรอก         ที่บ้าน
เดินกินเที่ยวทุกซอก     ไม่บ่น
ขอแค่สาวไม่คร้าน     นั่งซ้อน จักรยาน

ชอบบ้านนอก ยิ่งได้     บรรยากาศ
เดินดุ่มเพลินนวยนาด    ชมยุ้ง
จะพาขี่ควายคราด        ขวัญเรียม เปรียบเอย
หิวหน่อยเก็บผักบุ้ง      ใส่หม้อ ทำแกง

สุขอย่างแรง เที่ยวนี้     พี่ว่า
จึงเอ่ยชวนเจ้ามา         คู่ซี้
แต่ก็หวั่นเธอจ๋า          ร้องอย่า
กลัวควายตู้ไล่บี้          ร่ำไห้ แงแง ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

 เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, panthong.kh, สุวรรณ, รพีกาญจน์, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
15 กุมภาพันธ์ 2014, 09:08:PM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #19 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2014, 09:08:PM »
ชุมชนชุมชน

คงหลายเหตุแห่งห้วง             ใจ จม
จิตจ่อมรอยอารมณ์                 หม่นไหม้
รอยหมองต่อรอยตรม              ตรึงแน่น นอเฮย
ใจจึ่งเจ็บเจียนไข้                  โศกเศร้าอาดูร

ทุกข์สุดทุกข์ท่วมท้น             ดวงมาน
เพียรนิ่งในอาการ                  หมั่นสร้าง
พักใจครู่คราวกาล                 พิศเพ่ง  ตรองดู
เกลากล่อมจิตใจล้าง             สิ่งร้ายลาเลือน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, panthong.kh, muneenoi, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s