ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[~ นายใบชา ~]

สำหรับใครที่เวลาว่างอาจจะชอบดูหนัง วันนี้ผมเอาหนังเรื่องชอบ
มาแชร์ให้ได้หากันมาดูสนุกๆ หรือท่านใด มีหนังโปรดเรื่องใด เอามาแลก
เปลี่ยนกันได้นะครับ เผื่อจะได้ไปค้นหากันมาดูบ้าง.

มากันที่เรื่องแรกเลยครับ 
house of flying daggers จอมใจบ้านมีดบิน
ช่วงปลายราชวงศ์ถังที่เต็มไปด้วยการฉ้อราษฏร์บังหลวงจนเกิดกลุ่มกบฏใหญ่ “สำนักมีดบิน” นายทหารหลวง.(ทาเคชิ คาเนชิโร) วางแผนแกะรอย กลุ่มกบฏนี้ด้วยการปลอมตัว เพื่อตีสนิทกับนางระบำผู้เลอโฉม.(จางซื่อยี่).จนกระทั่งเธอยอมนำทาง ไปยังที่ตั้งของสำนักมีดบิน โดยมี กองทัพหลวงของเพื่อนรัก.(หลิวเต๋อหัว).คอยเฝ้าดูห่างๆเแต่แล้วทั้งคู่ก็ตก หลุมรักเธอ จนเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์พลิกผัน บานปลายเกินกว่าที่ใครจะคาดเดาได้

เป็นหนังเรื่องโปรดของผมอีกหนึ่งเรื่อง ที่คอหนังจะพลาดไม่ได้โดยประการทั้งปวง


มากันที่เรื่องที่สอง สำหรับคนที่ชอบหนังแนวแอ๊คชั่น ผมขอแนะนำเรื่องนี้เลยครับ เป็นหนังสงครามในดวงใจของผมเลยทีเดียว
การันตีความมันส์ด้วย5รางวัลออสการ์ โดยนักแสดงชั้นนำ ทอมแฮงค์ วินดีเซล และอีกคับคั่ง


รายละเอียดขอต่อในกระทู้ต่อไปนะครับ
 

[Prapacarn ❀]

ขอบคุณค่ะ.. หนังดีทั้งสองเรื่องค่ะ
แซมชอบ House of Flying Daggers มากกว่า เพราะชอบหนังจีนกำลังภายใน..
แต่ทอม แฮงค์ นี่ดาราคนโปรดของแซมอยู่แล้ว..

ขอบคุณอีกครั้งที่แบ่งปันค่ะ..
 
แซม

[~ นายใบชา ~]

                    “สงครามอาจจะนำมาซึ่งวังวนแห่งความสับสนวุ่นวายกับการอเสียสละ แต่ทว่าปลายทางกลับนำมาซึ่งความหวัง ดังนั้นเราอาจจะบอกได้ว่าสงครามคือช่วงชีวิตที่ขาดไม่ได้ของวัฒนธรรมของมนุษย์ได้หรือไม่? ถ้าหากสงครามนั้นจบลงแต่ยังไม่จบซึ่งความหวังล่ะ มนุษย์ควรจะทำเช่นไรต่อไป จะทำสงครามครั้งใหม่เพื่อหาข้อสรุปที่ดีกว่า หรืออยู่เฉยๆรอให้วังวนแห่งความสับสนนั้นจบลงเองตามกาลเวลา”           
 
บทนำ: หรือมนุษย์ใช้สงครามเป็นทางออกของปัญหา?
                  คำว่า “สงคราม” คำๆนี้เมื่อผู้อ่านได้อ่านแล้วอาจจะจินตนาการไปตามๆกันต่างๆนาๆบ้างก็นึกถึงความโหดร้าย ความรุนแรงบ้าง การต่อสู้ฆ่าฟัน ซึ่งกันและกันบ้าง เป้าหมายอาจจะเพื่อชัยชนะหรือเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ด้วยเหตุผลที่หลากหลายมากมายเหล่านี้ ที่พวกเขาใช้ในการกล่าวอ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและปัจจัยอีกหลายๆอย่างที่พวกเขาต้องการ ดังจะเห็นได้จาก เมื่อสงครามโลกครั้งที่2 ที่เกิดจากความตึงเครียดเกี่ยวกับชาตินิยม ที่สืบเนื่องมาจากสงครามโลกครั้งที่1 รวมทั้งผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ด้วย จึงก่อให้เกิดเป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้น  ซึ่งก็ยากเกินกว่าที่จะแก้ไขกับปัญหาเหล่านี้พวกเขาจึงตัดสินปัญหาลงด้วยคำสั้นๆที่เรียกว่า  “สงคราม”

                 จากเนื้อความข้างต้นอาจจะเชื่อมโยงกับได้ภาพยนตร์แนวสงครามเรื่อง “Saving Private Ryan   ฝ่าสมรภูมินรก” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เล่าย้อนกลับไปเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2ที่ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะได้ก่อประทุสงครามกันขึ้น เมื่อวันที่6 มิถุนายน 1944 หลังจากการบุกหาดโอมาฮ่า ซึ่งกองทับอเมริกันประสบกับความสูญเสียเป็นอย่างมาก ทหารหลายคนบาดเจ็บ พิการ ล้มตาย เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อทหารที่เหลือรอดชีวิตกลับมาได้เพียงไม่กี่วันพวกเขากลับต้องไปฝ่าสมรภูมิสงครามอีกครั้งเพื่อที่จะต้องไปช่วยเหลือ พลเอก เจมส์ ไรอัน ที่ตกอยู่ในแนวข้าศึกโดยไม่ทราบชะตากรรมว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือว่าเสียชีวิตไปแล้ว โดยภารกิจครั้งนี้จึงตกอยู่แก่กองกำลังของ ร้อยเอกจอห์น มิลเลอร์ ซึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชา 7 คนที่จะต้องฝ่าสมรภูมินรกครั้งนี้ไปกับเขาด้วย ซึ่งแต่ละคนก็ต่างตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมต้องเสี่ยงชีวิตคนส่วนใหญ่เพื่อชีวิตคนๆเดียวด้วย
              และภาพยนตร์เรื่อง “Saving Private Ryan   ฝ่าสมรภูมินรก” ยังให้ข้อคิดที่มากมายหลายแง่มุม ได้เห็นถึงการสูญเสียและการเสียสละ ในการทำสงครามครั้งนี้ว่าเพื่อประโยชน์ของตัวพวกเขาหรือเพื่อประโยชน์ของใครกัน และในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำให้ท่านผู้ชมได้ตั้งข้อสงสัยไปต่างๆนาๆว่า “ทำไม” ต้องมีสงคราม และทำไมต้องเสี่ยงชีวิตของคนส่วนมากเพื่อช่วยคนๆเดียวด้วย บทสรุปอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาหวัง ในเมื่อมนุษย์ทุกคนไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงที่จะไม่ก่อสงครามไม่ได้  อีกทั้งถ้าพวกเขายังเห็นว่าสงครามเป็นอีกส่วนหนึ่งของชีวิตและยังใช้สงครามเป็นทางออกของปัญหาอยู่ร่ำไป

เนื้อเรื่องย่อ
                    เกิดจากการนึกคิดถึงภาพในอดีตของ พลเอก เจมส์ ไรอัน เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังการบุกหาดโอมาฮ่า เมื่อวันที่ เมื่อ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1944  จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นกองทัพอเมริกันประสบความสูญเสียเป็นอย่างมาก ทหารหลายคนบาดเจ็บ พิการ และล้มตายเป็นจำนวนมาก การสูญเสียในครั้งนี้ ร้อยเอก จอห์น มิลเลอร์ ผู้นำกองทหารกองหนึ่งก็ด้วยเช่นกัน ที่ต้องพบกับความสูญเสียของผู้ใต้บังคับบัญชาในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
    แต่ในยุทธการยกพลขึ้นบกครั้งนี้ของฝ่ายสัมพันธมิตร นำมาซึ่งความสูญเสียของบุตรชาย 3 คนแห่งตระกูลไรอัน ซึ่งกองทัพสหรัฐได้ส่งจดหมาย แสดงความเสียใจมาแก่คุณนายไรอัน แต่ทว่า ในการพิมพ์จดหมายนั้น เสมียนผู้พิมพ์พบถึงความสูญเสียของตระกูลไรอันแล้ว 3 คน ซึ่งยังเหลือเพียงบุตรชายคนสุดท้อง คือ พลทหาร เจมส์ ไรอัน ที่ตกอยู่ในแนวข้าศึกโดยไม่ทราบชะตากรรม ผู้นำกองทหารจึงได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาถึงเรื่องนี้ ผู้บังคับบัญชาจึงได้ตัดสินใจให้พวกเขาพาพลทหารไรอันกลับบ้านมาอย่างปลอดภัย
       ภารกิจนำพลทหารไรอันกลับบ้านในครั้งนี้จึงตกแก่กองกำลังของร้อยเอกมิลเลอร์ และผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 7 คน ที่พวกเขาเพิ่งกลับจากสนามรบเมื่อครั้งก่อนพียงไม่กี่วันพวกเขาแต่ละคนต่างก็ตั้งข้อสงสัยและไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเสี่ยงชีวิตคนส่วนมากเพื่อช่วยชีวิตคนๆเดียวด้วย โดยที่ระหว่างการเดินทางพวกเขาต้องประสบกับความสูญเสียเป็นอย่างมาก เหล่าทหารที่ปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ต้องมาจบชีวิตลงทีละคนจากการทำสงครามกับฝ่ายเยอรมันนีเพื่อบุกเข้าไปช่วยตัว ไรอัน  แต่เมื่อพวกเขาเจอตัวของ ไรอัน พวกเขาก็ได้เล่าถึงความสูญเสียของพี่ชายทั้งสามคนที่เสียชีวิตในสมรภูมิรบและบอกถึงจุดประสงค์ที่พวกเขามาในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะช่วยไรอันและนำตัว ไรอันกลับบ้าน  แต่ ไรอัน กลับปฏิเสธการช่วยเหลือจากพวกเขา เพราะไรอันเลือกที่จะต่อสู้อยู่ที่สมรภูมิรบแห่งนี้เหมือนกับที่พี่ชายของเขาได้ทำ ไรอันบอกกับทุกคนว่าถึงแม้ว่าชีวิตของเขาเสียไปเขาก็ไม่เสียดายถ้าได้ทำเพื่อชาติ    มิลเลอร์ จึงได้ตัดสินใจที่จะพูดถึงมารดาของเขาที่เสียใจกับการจากไปของพี่ชายและยังคงมีความหวังที่จะรอพบเจอหน้าของลูกชายคนสุดท้องที่ยังหลงเหลืออยู่และเป็นสิ่งเดียวในชีวิตของเขา ไรอัน สงสารมารดาจึงได้ยอมกลับแต่โดยดี แต่ทว่าการเดินทางกลับในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นเท่าไหร่นัก ร้อยเอกมิลเลอร์และกองกำลังที่เหลือก็ต้องมาพบกับจุดจบของชีวิตในที่สุด จากกการต่อสู้กับกองทัพเยอรมันนี อีกครั้ง  แต่ก่อนตาย มิลเลอร์ได้บอกแก่ไรอันว่า ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า คุ้มกับสิ่งที่พวกเขาต้องเสียไป ซึ่งไรอันได้จดจำและสำนึกในบุญคุณของมิลเลอร์ไปตลอด


 

[~ นายใบชา ~]

 
สาเหตุของการเกิดสงคราม
                   ในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กล่าวย้อนไปถึงเมื่อเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งเป็นช่วงของการยกพลขึ้นบกของฝ่ายสัมพันธมิตร ที่หาดโอมาฮ่า ของฝรั่งเศส ในวันที่ 6 มิถุนายน 1944  หรือที่เรียกว่า วัน ดี เดย์ [1]เพื่อโจมตี ป้อมปราการยุโรป โดยกองกำลังของ ฮิตเลอร์  ซึ่งเต็มไปด้วยกองกำลังพลที่มหาศาลเท่าที่เคยมีมาในสงครามครั้งก่อนๆ มีนายทหารบาดเจ็บ และล้มตาย เป็นจำนวนมาก สาเหตุของการเกิดสงครามในครั้งนี้ อาจจะเป็นอันเนื่อง มาจากผลของปัจจัยหลายๆอย่าง ที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมได้เปรียบเสียเปรียบซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นความไม่ยุติธรรมของ สนธิสัญญา ข้อบกพร่องของสนธิสัญญาสันติภาพหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่มีสาเหตุมาจากประเทศที่ชนะสงครามคือฝ่ายสัมพันธมิตร และประเทศที่แพ้สงครามฝ่ายอักษะต่างก็ไม่พอใจในข้อตกลง เพราะสูญเสียผลประโยชน์ ไม่พอใจในผลประโยชน์ที่ตนได้รับ โดยเฉพาะสนธิสัญญาแวร์ซายส�

[~ นายใบชา ~]

ที่เยอรมันไม่พอใจในสภาพที่ตนต้องถูกผูกมัดด้วยสัญญาและต้องการได้ดินแดน ผลประโยชน์และเกียรติภูมิที่สูญเสียไปกลับคืนมา และไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งทางด้านอุดมการณ์ทางการเมือง ระหว่างระบอบประชาธิปไตยกับระบอบเผด็จการเพราะปัญหาทางการเมือง และเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ประเทศหลายๆประเทศหันไปใช้ระบอบเผด็จการเพื่อแก้ปัญหาภายใน เช่น เยอรมนีและอิตาลี นำไปสู่การแบ่งกลุ่มประเทศ เพราะในประเทศที่มีระบอบการปกครองเหมือนกันจะรวมกลุ่มกัน ส่วนกลุ่ม มหาอำนาจอักษะ ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อต้านรัสเซีย ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์ ต่อมาได้ขยายไปสู่การต่อต้านชนชาติชาว ยิว นำไปสู่ความขัดแย้งกับประเทศฝ่ายสัมพันธมิตร และผลกระทบอีกประการหนึ่งที่สำคัญคือระบบเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในช่วงทศวรรษ 1920 – 1930 โดยเฉพาะช่วง ในปี ค.ศ.1929-1931[3]อีกด้วย

[~ นายใบชา ~]

หรืออำนาจเป็นบ่อเกิดของสงคราม
                สงครามกับการสูญเสียมักจะเกิดขึ้นควบคู่กันไปเสมอ ไม่มีใครที่จะปฏิเสธได้ ล้วนแล้วแต่ว่าสงครามครั้งดังกล่าวนั้นจะรุนแรงมากแค่ไหน สร้างความเสียหายมากหรือน้อยเพียงใด สงคราม ความรุนแรง และความเลวร้ายที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่มีที่มาและต้นเหตุของมันเสมอ ดังจะเห็นได้จาก เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งได้ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่เป็นการทำสงครามรบกันระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตร ที่มี  ดไวด์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายสัมพันธมิตรในทวีปยุโรป เป็นผู้วางแผนและควบคุมการบุกฝรั่งเศสและเยอรมันนี กับ ฝ่ายอักษะที่มี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีเยอรมันนี เป็นผู้บัญชาการทหารบกและมีอิทธิพลอย่างมากต่อการทำสงครามของเยอรมันน�

[~ นายใบชา ~]

พวกเขาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีอำนาจทั้งสิ้น มันก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาแล้วว่าจะจัดการกับอำนาจเหล่านั้นที่พวกเขามีมันอย่างไร แน่นอนอยู่แล้วว่า สงครามจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไร้ซึ่งผู้นำ และผู้ตาม ไร้ซึ่งอำนาจและการเสียสละ

                   อำนาจคือสิ่งที่มองไม่เห็นไม่มีตัวตน และไม่สามารถจับต้องได้ แต่อำนาจก็มีพลังอย่างหนึ่งที่ทำให้มนุษย์ทุกคนต้องคล้อยและปฏิบัติตาม อาจจะเป็นทั้งอำนาจนำหรืออำนาจแฝงที่สามารถบังคับและครอบงำอีกทั้งยังมีอิทธิพลที่จะทำให้ มนุษย์นั้นกระทำตามทั้งที่ รู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่อย่างไรก็ตามอำนาจก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ ต้องกระทำและปฏิบัติตามแต่ถ้าหากว่ามนุษย์เลือกที่จะปฏิเสธ ขัดขวางหรือขัดแย้งกับอำนาจ  อำนาจเหล่านี้ก็จะกลายเป็นบ่อเกิดของสงครามในที่สุด  
                 ดังจะเห็นได้จากภาพยนตร์ในตอนหนึ่งที่ว่า พันเอก วอลเตอร์ แอนเดอร์สัน ได้ใช้อำนาจของตนเองเพื่อที่จะสั่งการให้ ร้อยเอก จอห์น มิลเลอร์  และผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา อีก 7 คนในการออกตามหา พลเอก เจมส์ ไรอัน โดยภารกิจในครั้งนี้พวกเขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลย เป็นเพราะคำสั่งหรือมันเป็นหน้าที่ของพวกเขากันรที่ต้องเสี่ยงชีวิตคนส่วนมากเพื่อที่จะไปช่วยชีวิตคนๆเดียว และอำนาจที่เหนือกว่านี้เองที่ทำให้พวกเขาต้องกลับไปฝ่าสมรภูมิสงครามอีกครั้งจนทำให้ชีวิตของพวกเขาจบลงที่กลางสมรภูมิสงคราม
             ไม่ใช่แค่สงครามโลกครั้งก่อนๆในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาหรอกที่เหล่ามนุษย์ใช้อำนาจในการสร้างสงคราม ในโลกยุคปัจจุบันก็เช่นเดียวกัน ดังจะเห็นได้จากประเทศไทย ที่มีพรรคกรเมืองหลายๆพรรคโจมตีซึ่งกันและกัน การแบ่งแยกสีเหลืองสีแดงทำร้ายกัน คดโกงบ้านเมือง ใช้เหตุผลต่างๆนาๆในการอ้างว่าสิ่งที่พวกเขาทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าพวกเขาไม่ได้รับการปลูกฝังการครอบงำ ที่เรียกว่า อำนาจ อิทธิพลของอำนาจกำหนดการกระทำของพวกเขาสร้างขอบเขตและกำหนดอุดมการณ์กรอบแนวความคิดให้เหมือนๆกันซึ่งมีทั้งอำนาจนำและอำนาจแฝง อำนาจมีทั้งด้านดีและด้านเสีย ถ้าหากว่าใช้กระทำในสิ่งที่ดีและเกิดประโยชน์ก็จะเกิดเป็นผลดี แต่ถ้าใช้ในด้านที่เลวร้ายผลที่ตามมาก็จะตกแก่ผู้ที่ใช้อำนาจหรือผู้รับอำนาจนั้น คงจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่อยู่ๆกลุ่มฝูงชนจะมารวมกันเป็นจำนวนมาก เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ประท้วงเพื่อสิทธิและเสรีภาพ หรือทำกิจกรรมหลายๆอย่างร่วมกัน ถ้าไม่เป็นเพราะอำนาจหรอกเหรอที่เป็นตัวเชื่อมโยงสิ่งต่างๆเหล่านี้ให้ปฏิบัติและคล้อยไปตามๆกันอยู่ตลอดเวลา

[~ นายใบชา ~]

              อำนาจมิได้มีเพื่อตัวมันเอง แต่มีไว้เพื่อตอบสนองสิ่งอื่น ใครก็ตามที่แสวงหาอำนาจเพื่อตนเองแสดงว่าเขาคนนั้นกำลังใช้อำนาจในทางที่ผิด เพราะอำนาจที่บริสุทธิ์นั้นต้องเพื่อผู้อื่น..

ความขัดแย้งกับการสูญเสีย

                 จากการวิเคราะห์ประเด็นนี้ในภาพยนตร์เรื่อง “Saving Private Ryan   ฝ่าสมรภูมินรก” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นให้เหมือนกับเหตุการณ์เมื่อครั้ง สงครามโลกครั้งที่2 ในการบุกหาดโอมาฮ่า หรือที่ผู้คนส่วนใหญ่จะรู้จักและเรียกกันว่า วัน ดี เดย์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1944 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นความขัดแย้งทางการทหารในระดับโลกระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตร และฝ่ายอักษะ ที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลาถึง 7 ปี ในยุทธการยกพลขึ้นบกในครั้งนั้นของของฝ่ายสัมพันธมิตรก็เพื่อที่จะทำลายป้อมปราการของกองทัพยุโรปและบุกยึดหาด
           เหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้เหล่าทหารบาดเจ็บ และล้มตายเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือครอบครัวของตระกูล ไรอันที่บุตรชายทั้ง 3 คนเสียชีวิตไป ยังคงเหลือบุตรชายคนสุดท้องที่ตกอยู่ในแนวข้าศึกซึ่งไม่ทราบชะตากรรม มารดาของพวกเขาได้พบกับการสูญเสียกับการจากไปของบุตรในครั้งนี้เป็นอย่างมาก 
พันเอก วอลเตอร์ แอนเดอร์สันได้ซาบซึ้งถึงการสูญเสียและการเสียสละของครอบครัวนี้เป็นอย่างมาก จึงได้ตัดสินใจที่จะออกตามหา พลเอก เจมส์ ไรอัน ที่ยังไม่ทราบว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ โดยได้มอบหมายภารกิจดังกล่าวให้กับ ร้อยเอก  จอห์น มิลเลอร์และผู้ต้บังคับบัญชาอีก 7 คน ให้นำตัว พลเอก เจมส์ ไรอัน กลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ภารกิจดังกล่าวก็ทำให้พวกเขาต้องพบกับการสูญเสียและจุดจบของชีวิตด้วยเช่นกัน  ก่อนตาย  มิลเลอร์ ได้บอกแก่ไรอัน ว่า “จงใช้ชีวิตให้คุค่า และคุ้มกับสิ่งที่พวกเขาสูญเสียไป” ไรอันจึงได้จดจำคำพูดและสำนึกในบุญคุณของมิลเลอร์ตลอดไป

[~ นายใบชา ~]

                 เมื่อเกิดความขัดแย้งที่หาข้อยุติไม่ได้ก็ต้องมีการสูญเสียไม่มากก็น้อยดังจะเห็นได้จากการเมืองไทยในปัจจุบันที่มีความขัดแย้งกัน มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก โจมตีซึ่งกันและกันจนก่อให้เกิดการสูญเสียที่มากมายต่อ มนุษย์ สังคม ระบบทางการเมือง และประเทศชาติ  ถ้ามนุษย์ในสังคมไทย มีความคิดที่เหมือนกัน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ไม่แตกแยกซึ่งกันและกัน  เหมือนกองทัพของ  มิลเลอร์ ที่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนปฏิบัติภารกิจประสบผลสำเร็จ ประเทศไทยก็คงจะไม่เกิดความขัดแย้งและการสูญเสียเหมือนเหตุการณ์ครั้งก่อนๆที่ผ่านมา
 
สงครามกับสถาบันทางสังคม
                  ภายในภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้มีการกล่าวอ้างถึงสถาบันหลายๆสถาบันซึ่งแต่ละสถาบันก็จะมีความสำคัญกับชีวิตประจำวันของพวกเขาเป็นอย่างมากก ซึ่งเป็นทั้งที่พักอาศัย ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ  เป็นที่ให้กำลังใจและเป็นที่ที่พวกเขาพร้อมจะฝากชีวิตไว้ แน่นอนสิ่งที่ผมกล่าวมานี้คือสถาบันที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ซึ่งอันได้แก่ สถาบันครอบครัว สถาบันทหาร  และสถาบันศาสนาบทบาทของสถาบันเหล่านี้ ที่ได้ทำให้พวกเขามีกำลังใจที่จะต่อสู้กับสงคราม ดังจะเห็นได้จากสถาบันต่างๆเหล่านี้
              สถาบันทางการทหารเป็นสถาบันที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็ว่าได้ เพราะในแต่ละประเทศทั่วโลกก็ต้องมีสถาบันนี้คอบดูแลบ้านเมืองของตนจากภัยคุกคามทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ เหล่าทหารต้องพร้อมที่จะออกรบเสมอ ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดๆก็ตาม หน้าที่ของทหารก็เพื่อที่จะรับใช้ประชาชน เป็นรั้วของชาติ และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน จะเห็นได้จากประเทศไทยของเราที่จะให้ทหารคอยปกป้องและคุ้มกันบ้านเมือง  ในประเทศไทยถือได้ว่าสถาบันทหารมีบทบาทที่สำคัญมากอีกสถาบันหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะทุกครั้งที่มีการเรียกร้อง การชุมนุม ประท้วงหรือการก่อม๊อปภายในประเทศ ไม่ว่าสถานการณ์จะรุนแรงหรือโหดร้ายมากแค่ไหน ทหารก็ต้องคอยสำรวจตรวจตราคอยควบคุมสานการณ์  จากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516  ที่นิสิตนักศึกษาและประชาชนจำนวนมากได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องรัฐธรรมนูญ และความเป็นประชาธิปไตย จากรัฐบาลเผด็จการ จอมพล ถนอม กิตติขจร  การชุมนุมครั้งใหญ่นี้ได้ทำให้เกิดการต่อสู้กันเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มนิสิตกับกลุ่มทหารทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์ครั้งสำคัญนี้จึงเป็น ประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ระหว่างทหารกับเหล่านิสิตที่มีความกล้าที่จะใช้สิทธิและหน้าที่ของตัวเองเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและความถูกต้องให้กับประเทศ   ภายในภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำสงครามของเหล่าทหารทั้งฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันทางการทหารในระดับโลก      ในช่วง ยุทธการยกพลขึ้นบก ที่หาดโอมาฮ่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1944  เพื่อการบุกยึดหาดและทำลายป้อมปราการของเหล่าเยอรมันนี กับการปฏิบัติภารกิจของ ร้อยเอก จอห์น มิลเลอร์ กับผู้ใต้บังคับบัญชาในการนำตัว พลเอก เจมส์ ไรอัน กลับบ้านอย่างปลอดภัย ที่ได้ทำให้พวกเขาต้องเสียชีวิตกลางสนามรบ ฉะนั้นบทบาทของทหารจึงมีความสำคัญมากในทางสังคม เป็นเหมือนผู้ที่คอยปกป้อง ดูแลประชาชนทุกคนแม้ว่าจะทำให้ชีวิตของเขาต้องพบกับจุดจบในหน้าที่ ที่เขากระทำได้ก็ตาม…..

[~ นายใบชา ~]

                สถาบันครอบครัว เป็นสถาบันที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้เพราะสถาบันครอบครัวได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ที่เกิดจนถึงตาย มนุษย์ทุกคนต้องมีครอบครัว มีบ้าน มีที่พักอาศัย เป็นของตนเอง มีสิทธิที่จะได้รับการเลี้ยงดูจากบิดามารดา สิทธิที่จะได้รับการศึกษา ฉะนั้นสาบันครอบครัวจึงจะคอยเป็นตัวเชื่อมระหว่างสังคมกับครอบครัวไว้ด้วยกัน และยังจะเป็นตัวขัดเกลาให้มนุษย์ทุกคนอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข         ในภาพยนตร์เมื่อเกิดสงครามก็ต้องมีการบาดเจ็บล้มตาย มากมาย ในสมรภูมิรบนั้น หากว่ามีทหารคนไหนเสียชีวิตขณะทำสงครามทางการทหารก็จะส่งจดหมาย กลับไปยังที่บ้านเพื่อแจ้งให้แก่บุคคลในครอบครัวของพวกเขาได้รับทราบถึงการจากไปของนายทหารเหล่านั้น เพราะฉะนั้นทุกๆครอบครัวจึงไม่อยากที่จะได้รับจดหมายเหล่านี้ พวกทหารที่ไปรบต่างก็คิดถึงบ้านคิดถึงคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก พวกเขาต้องการที่จะรบให้เสร็จเพื่อที่จะได้กลับบ้านกลับไปหาครอบครัวของพวกเขา แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาหวังบางคนหวังว่าจะได้กลับบ้านแต่ก็ไม่ได้กลับ บางคนหวังว่าจะได้เห็นหน้าครอบครัวก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็น เพราะต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่กลางสมรภูมิรบนั้นเสีย  ดังจะเห็นได้ชัดจากการที่บุตรชายทั้ง 3คน ของตระกูลไรอันเสียชีวิตกลางสมรภูมิรบ มารดาของเขาได้รับจดหมายจากทางการทหาร และมีความเสียใจเป็นอย่างมากที่บุคคลในครอบครัวต้องมาจากไป อีกทั้งบุตรชายคนสุดท้อง คือ พลเอก เจมส์ ไรอัน ก็ต้องตกอยู่ในแนวข้าศึกโดยไม่ทราบชะตากรรม ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ อยู่ๆคนที่เขารักต้องมาจากไปเพราะสงครามที่เป็นเพียงการช่วงชิงอำนาจซึ่งกันและกัน ยังมีอีกหลายชีวิตที่ด้อมมารับชะตากรรมเช่นเดียวกับครอบครัวของตระกูลไรอัน และไม่มีหนทางใดที่เขาจะหลีกเลี่ยงได้เลย
               สถาบันศาสนา ศาสนาทุกศาสนาเป็นสิ่งทียึดเหนี่ยวจิตใจของมนุษย์ มนุษย์ทุกคน ทุกชนชั้น ทุกชาติ ทุกภาษา ไม่ว่าจะรวยหรือจนต่างก็เลือกที่จะมีศาสนาได้ทั้งสิ้น ซึ่งตามหลักกฎหมายแล้ว ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกนับถือศาสนาที่ตนเองต้องการได้ ฉะนั้นไม่ว่าเราจะนับถือศาสนาใดก็ตามก็ไม่สำคัญ เพราะศาสนาทุกสาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ละเว้นจากการทำชั่ว ไม่มีศาสนาไหนหรอกที่จะสอนให้มนุษย์กระทำในสิ่งที่ผิด ดังจะเห็นได้จากประเทศไทยของเราที่ใช้ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของมนุษย์ เช่นชาวพุทธเข้าวัดทำบุญ รักษาศีล ละเวนจาการทำบาป  ไม่ใช่แค่ประเทศไทยจะมีแค่ศาสนาพุทธเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังคงมีศาสนาอื่นรวมอยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็น ศาสนาคริสต์ สาสนอิสลาม แต่มนุษย์บางคนก็เลือกที่จะไม่นับถือศาสนาก็มี ศาสนาให้อะไรหลายๆอย่างแก่มนุษย์ แต่มนุษย์เองที่ละเลยและไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของศาสนา  
            ศาสนาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในการเติมเต็มของชีวิตให้กับมนุษย์ ที่ใช้ในการยึดเหนี่ยวและจรรโลงใจ ทำให้มนุษย์มีกำลังใจ มีความหวังที่จะใช้ชีวิตในวันต่อๆไป ฉะนั้นศาสนาจึงมีความสำคัญมากกับวิถีชีวิตของมนุษย์ เพราะจะทำให้มนุษย์มีหลักศีลธรรม จริยธรรม และจะช่วยในการขัดเกลาทางสังคมให้มีระเบียบแบบแผนมากขึ้นกว่าเดิม จากในภาพยนตร์จะเห็นว่า สถาบันทางศาสนามีความสำคัญกับเหล่าทหารมาก เพราะก่อนที่พวกเขาจะออกศึกสงคราม พวกเขาได้ขอพรจากพระเจ้า ขอให้พระเป็นเจ้าคุ้มครอง ให้พวกเขามีชีวิตรอดกลับมาจากศึกสงคราม พวกเขาจะมีไม้กางเขน พกติดตัวด้วยเสมอเพราะไม้กางเขนจะเป็นสัญลักษณ์ที่เสมือนเป็นตัวแทนของพระเจ้า คอยคุ้มครองอยู่ตลอดเวลาแต่เมื่อพวกเขาทำผิด ฆ่าคนก่อนตายพวกเขาก็จะกล่าวคำไถ่บาปจากพระเจ้า ขอให้พระเจ้าทรงให้อภัยแก่พวกเขา ดังนั้น บทบาททางสังคมของศาสนาจึงมีความสำคัญมากในอีกรูปแบบหนึ่งด้วยเช่นกัน

[~ นายใบชา ~]

 
สิทธิ หน้าที่ และการเสียสละ
             สิทธิเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนพึงมีพึงได้ตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งเสียชีวิต สิทธิเป็นสิ่งที่เอื้อประโยชน์ให้กับมนุษย์ มนุษย์มีสิทธิทั้งทางด้านชีวิตและร่างการของตนเอง สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครอง สิทธิที่จะได้รับการอุปการะเลี้ยงดูและสิทธิที่จะได้รับการศึกษา เป็นต้น การได้รับมาซึ่งสิทธิก็จะทำให้มนุษย์มีอำนาจเหนือตัวเอง มากที่สุดเพราะมนุษย์ทุกคนได้รับมาซึ่งความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันในสังคม อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มรูปแบบ ส่วนหน้าที่ คือ สิ่งที่ควรกระทำ มนุษย์ทุกคนต้องปฏิบัติตามหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายให้สมบูรณ์แบบและมีประสิทธิภาพมากที่สุดเช่นหน้าที่ในการทำงาน หน้าที่ในการเรียน และ ชายไทยทุกคนมี่หน้าที่ ที่จะต้องไปคัดเลือกทหาร เป็นต้น
             ดังจะเห็นได้จากในภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ในภาวะสงคราม จะต้องมีการต่อสู้และรบกัน โดยคำนึงแค่ว่าฝ่ายของตนจะต้องเป็นฝ่ายที่ชนะ โดยไม่คำนึงถึง สิทธิและเสรีภาพ ของฝ่ายตรงข้ามเลย ดังในตอนนั้นที่ว่า กลุ่มของ ร้อยเอก มิลเลอร์ ได้จับตัวเชลยของกลุ่มเยอรมันนีได้ พวกเขาทุกคน  คนต่างก็โต้แย้งกันว่าจะจัดการยังไงกับกับเชลยคนนี้ มีนายทหารคนหนึ่งบอกให้ฆ่าเขาทิ้งเสีย เพราะยังไงเขาก็เป็นเชลยเพราะการที่ฆ่าเชลย 1 คนเท่ากับช่วยคนได้อีก เป็น 100 และอีกคนก็บอกให้ปล่อยไป เพราะยังไงเขาก็เป็นเชลยแล้วไม่มีอาวุธ ถ้าปล่อยไปก็เจอกองกำลังอีกฝั่งก็ต้องตายอยู่ดี  ฮิลเลอร์ จึงตัดสินใจใจที่จะปล่อยเชลยคนนี้ไป เพราะ ยังคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพที่ข้าศึก ยอมจำนน ไม่ต่อสู้อีกทั้งยังได้คำนึงถึงสิทธิความเป็นมนุษย์ของเชลยคนดังกล่าว เพราะใครๆก็ไม่อยากที่จะมาตายในสมรภูมิรบ และอีกตอนหนึ่งที่ว่ากลุ่มทหารของ ฮิลเลอร์ จะต้องปฏิบัติภารกิจออกตามหา พลเอก เจมส์ ไรอัน  ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธได้เลย เพราะพวกเขาก็ต้องกระทำตามหน้าที่ ที่พวกเขาได้รับมอบหมาย การเป็นทหารจะต้อง เสียสละเพื่อส่วนรวม ถึงแม้ว่าชีวิตของพวกเขาจะต้องสูญเสียไปก็ตาม เพียงเพื่อแค่ได้กระทำตามหน้าที่ ที่ตนได้รับมอบหมายอย่างสุดความสามารถของชายชาติทหาร แม้ต้องแลกกับช่วงชีวิตที่ไม่มีวันหวนกลับก็ไม่เสียดาย
                 ฉะนั้นทหารทุกนายที่ไปออกรบไม่สิทธิ์ที่จะปฏิเสธการทำสงครามในครั้งนี้ เพราะในสมัยนั้นผู้ชายทุกคนต้องไปเป็นทหารเพื่อรักษาประเทศและออกศึกเมื่อยามมีสงคราม ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นหน้าที่ๆพวกเขาต้องกระทำ หน้าที่ ที่พวกเขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ ถึงแม้ว่าชีวิตจะต้องตายในสมรภูมิรบ พวกเขาก็ต้องยอมเพราะสิทธิ และหน้าที่ ที่ต้องแลกกับการเสียสละ

[~ นายใบชา ~]

เนื้อหาและรูปแบบและเทคนิคการนำเสนอ
                  จากที่ตัวผมได้รับชมและวิเคราะห์ภาพยนตร์เรื่องนี้ ในความคิดเห็นของผม การนำเสนอเรื่องจะเริ่มจากการบรรยายโดยการเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่2 ในยุทธการยกพลขึ้นบกของฝ่ายสัมพันธมิตรที่ บุกหาดโอมาฮ่า เมื่อวันที่ 6  มิถุนายน 1944
ส่วนในด้านเนื้อเรื่องก็ได้เริ่มเล่าจากปัจจุบันย้อนกลับไปเมื่อครั้งในอดีตประวัติศาสตร์การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2  โดยเนื้อเรื่องทั้งหมดจะมีตัวละครที่เชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน คือ พลเอก เจมส์ ไรอัน ที่ตัวเขาได้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อนนั้นซึ่งเป็นภาพในอดีตที่ตัวเขายังจำฝังใจมาโดยตลอด
                 ในความสมเหตุสมผลของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ผมตั้งคำถามว่าทำไมต้องเอาสงครามมาเป็นตัวเชิดเรื่อง และมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนไม่กี่คนจะสามารถรบและต่อต้านผู้คนเป็นกองทัพ ซึ่งมันก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราถึงความสามัคคีที่พวกเขามีให้กันร่วมกันต่อสู้ฝาสมรภูมินรกครั้งนี้ไปด้วยกัน และไม่ทอดทิ้งกัน สิ่งที่น่าประทับที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้คือการจัดฉาก สร้างสถานการณ์ได้สมบูรณ์แบบ และสมจริงเป็นอย่างมาก ในทุกๆฉาก ทุกๆตอนโดยเฉพาะตอนที่อยู่ในระหว่างสงครามสมจริงมากๆ ดูรุนแรง โหดเหี้ยม บ้าคลั่ง สยอง มาก อย่างเช่น ตอนที่เหล่าทหารฝ่ายอเมริกาโดนระเบิดที่กลุ่มนาซีเยอรมันนีได้วางเอาไว้ ขาหัก ตัวขาดเป็นสองท่อน โดนไฟครอกร่างกายดิ้นทุรนทุราย ผมถือว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ดูแล้วคุ้มค่าสุดๆ แต่บางฉากก็จะดู ดุดัน บ้าบิ่นจนเกินไป มันจึงทำให้ความสมจริงลดลงบ้างเล็กน้อย
                อาจจะบอกได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาได้ดีมากเลยทีเดียวโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความสูญเสียของกำลังทหารและชีวิตผู้คนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงคราม ภายในเรื่องได้นำเอาเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่สุดของโลกมาสร้างขึ้นให้ได้เห็นเป็นรูปธรรม และง่ายแก่การที่จะเข้าใจ ใส่จิตวิญญาณที่สำคัญของเหตุการณ์ในครั้งนั้นเข้าไปโดยเฉพาะฉากเปิดของเรื่องที่เป็นการบุกหาดโอมาฮ่า ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสมรภูมิที่สูญเสียกองกำลังทหารมากที่สุดของกองทัพสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
                ภายในเนื้อเรื่องเริ่มจากสงครามยุทธการยกพลขึ้นบกในครั้งนั้นที่หาดโอมาฮ่า มีการทำสงครามกันอย่างโหดร้าย รุนแรง น่ากลัวและก็ลุ้นไปตามๆกันว่า เหล่ากองกำลังของร้อยเอก มิตเลอร์ จะทำการบุกยึดหาดและทำลายป้อมปราการยุโรปของเหล่า กองทัพนาซีเยอรมันนี ได้สำเร็จหรือไม่เพราะกองกำลังของฝ่ายอักษะมีความหนาแน่นและรัดกุม และยังได้เปรียบตรงที่อยู่บนบก จึงทำไห้กองกำลังของฝ่ายสัมพันธมิตรเสียเปรียบอยู่บ้าง แต่สุดท้ายแล้วกลุ่มสัมพันธมิตรก็สามารถทำการบุกยึดหาดและทำลายป้อมปราการได้เป็นผลสำเร็จ ถึงแม้ว่าจะเสียกองกำลังไปค่อนข้างมาก และหนึ่งในนั้น ร้อยเอก มิลเลอร์ ก็ต้องสูญเสียผู้ใต้บังคับบัญชาของตนไปอีกด้วย หลังจากสงครามที่หาดโอมาฮ่าจบลงพวกเขาก็ต้องกลับไปสมรภูมิสงครามอีกครั้ง เพื่อตามหา พลเอก เจมส์ ไรอัน ในภารกิจ ครั้งนี้ที่ทำให้พวกเขาและพรรคพวกต้องจบชีวิตลงเพียงเพื่อช่วยคนๆเดียว และก่อนตายมิลเลอร์ ได้บอกกับไรอันว่าจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่า
                   ภาพยนตร์เรื่องนี้สอดแทรกเนื้อหาและประเด็นที่น่าสนใจและทำให้เรานึกคิดนำเอาไปปรับใช้กับชีวิตได้เป็นอย่างดี  และยังวนกลับมาที่ตัวของเราเอง ให้รู้จักการเสียสละเพื่อส่วนร่วม ปฏิบัติตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายให้สมบูรณ์แบบที่สุด การเสียสละในครั้งนี้ของ มิลเลอร์ ทำให้มีผู้คนคิดที่จะจดจำเขาและนำการกระทำของเขาไปเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต และใช้ชีวิตใน ทุกวันให้คุ้มค่า และเกิดประโยชน์มากที่สุด

[~ นายใบชา ~]

ผลกระทบของสงครามกับการเมืองไทย
                
 จากเหตุการณ์เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองในครั้งนั้นที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายน พ.ศ. 2482 ขณะนั้น จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายการัฐมนตรีสาเหตุที่ไทยต้องเข้าร่วมสงคราโลกครั้งที่ 2ก็ เพราะทางการไทยมีกำลังน้อยเมื่อญี่ปุ่นบุกจึงไม่สามารถต่อต้านได้ และเพื่อป้องกันมิให้ตกอยู่ใต้อิทธิพลของญี่ปุ่นในด้านเศรษฐกิจและการเมืองและเมื่อ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 กองทหารญี่ปุ่นก็ได้บุกเข้าเมืองไทย ทางจังหวัดสงขลา ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ และ สมุทรปราการ เมื่อสงครามได้เริ่มขึ้นนั้นไทยประกาศตนเป็นกลาง และให้ญี่ปุ่นนำเรือรบบุกขึ้นชายทะเลภาคใต้ของไทยโดยไม่ทันรู้ตัว รัฐบาลต้องยอมให้ญี่ปุ่นผ่าน ทำพิธีเคารพเอกราชกันและกัน แต่ในขณะนั้นกลุ่มคนไทยบางส่วนได้จัดตั้งขบวนการเสรีไทยขึ้น เพื่อที่จะดำเนินช่วยเหลือฝ่ายสัมพันธมิตร จึงช่วยให้ไทยรอดพ้นจากการแพ้สงคราม ต่อมาไทยได้ประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา ความมุ่งหวังที่ญี่ปุ่นจะอาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังพม่าเพื่อยึดครองอินเดีย ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นเหนือแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเริ่มสร้างทางรถไฟสายมรณะในเดือนกันยายน พ.ศ. 2485 ทั้งคนงานและเชลยศึกจำนวนหมื่นถูกเกณฑ์มาสร้างทางรถไฟยาว 415 กิโลเมตร ต้องโหมทำงานตลอดวันตลอดคืน บุกเบิกเข้าไปในป่ากว้างที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายและโรคภัย คนงานและเชลยศึกเหล่านั้นมีทั้งพม่า ชวา มลายู อังกฤษ ออสเตรเลีย ฮอลแลนด์ ต้องประสบความทุกข์ทรมาน เจ็บปวดล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้เกิดผลดีกับไทยเพราไม่ทำให้ไทยตกตกเป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่นอีกทั้งยังได้รับเอกราชเป็นของตัวเองอีกด้วย…

[~ นายใบชา ~]

 
การเมืองเสื้อเหลืองเสื้อแดงกับชัยชนะที่เลวร้าย
            ชัยชนะที่ได้มาจาการทำสงครามนั้น พวกเขาคงจะคิดว่าเป็นชัยชนะที่สวยงามและน่าภาคภูมิใจแล้วหรือ ชัยชนะที่ได้มาจากการที่ทำร้ายกัน ทำให้ผู้คนบนโลกเดียวกันต้องมาจบชีวิตลงจำนวนมากเพียงแค่ ความต้องการเป็นหนึ่งของใครบางคนเท่านั้น อำนาจที่ได้มานั้นมันคุ้มค่าแล้วหรือกับสิ่งที่ต้องสูญเสียไป ชัยชนะที่โหดร้ายกับความพ่ายแพ้ที่ยับเยิน ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆโดยไม่ต้องสูญเสียหรอก ถ้าดูจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว พวกท่านคิดว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ กับการที่ต้องเสียจำนวนคนไปถึง 40 ถึง70 ล้านคน เพียงเพราะต้องการอำนาจ ต้องการความเป็นใหญ่ เพียงเท่านั้น
                จากในภาพยนตร์ก็ได้สอดแทรกให้เห็นถึงการสูญเสียของจำนวนคนไปมากมายในการทำสงคราม เหล่าทหารทุกคนไม่มีใครที่อยากจะเอาชีวิตไปทิ้งในสมรภูมิรบนั้นเลยถ้าไม่ใช่เพราะความจำเป็น ไม่ใช่เพราะการถูกบังคับ หรือมีอำนาจอะไรบางอย่างที่ครอบงำเขาอยู่ จะเห็นได้จากตอนหนึ่งที่ว่า ฮิลเลอร์ ได้พาผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 7 คน เสี่ยงชีวิตเพื่อไปช่วย ไรอัน และที่พวกเขาต้องมาตายมันคุ้มค่าแล้วหรือ กับการที่ต้องแลกชีวิตหลายชีวิตเพียงเพื่อแค่ชีวิตเดียว พวกเขาภูมิใจแล้วหรือกับชัยชนะที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตแบบนี้
             ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อเหลืองเสื้อแดง ก็เป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศอยู่ในขณะนี้ เกิดการก่อการร้าย การจลาจล เผาบ้านเผาเมือง วันดีคืนดีก็ทะเลาะกันเอง โต้เถียงกันในสภา ต่างฝ่ายก็ต่างที่จะเอาชนะซึ่งกันและกัน โดยไม่คิดถึงผลเสียที่จะตามมา พวกเขาเคยคิดหรือไม่ว่าการที่พวกเขาชนะนั้น พวกเขาได้อะไรตอบแทนกลับมาบ้าง เมื่อมองย้อนกลับไป มองถึงกับการสูญเสียความเลวร้าย ความโหดร้ายที่เกิดขึ้นว่าคุ้มหรือไม่  และยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ต้องมารับผลกรรมของการกระทำที่พวกเขาได้ก่อขึ้น ซึ่งตัวผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้พวกเขาทำได้ถึงเพียงนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะอำนาจนำที่แฝงอยู่ครอบงำจิตใจและการกระทำของพวกเขา แล้วพวกเขาคิดว่ามันคุ้มค่ากันแล้วหรือ
             ดังนั้นหากประชาชนประเทศไทยเรา ทุกคนยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนหรือฝ่ายไหนก็ตาม เสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง ถ้าทุกคนมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รู้จักความสามัคคี ไม่สร้างปัญหาและก่อความวุ่นวายให้แก่กัน ลบความเป็นอื่น ความเป็นเขา เป็นเราออกไป สร้างความรักและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และช่วยกันขับเคลื่อนและพัฒนาสังคมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพและมีความภาคภูมิใจในชาติของตัวเราเอง………
 
สรุป
            ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจมากเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว มีเนื้อหาที่สอดแทรกความรู้ ความเสียสละ ความสามัคคี และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไว้ในเนื้อหาของเรื่องอีกด้วย ซึ่งภาพยนตร์เรื่อองนี้ก็จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 การนำเสนอของภาพยนตร์ก็จะเป็นการเล่าเรื่องโดยความทรงจำของ พลเอก เจมส์ ไรอัน ที่รอดจากสมรภูมิสงครามในครั้งนั้น อีกทั้งในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังให้แนวคิด ปรัชญาในการใช้ชีวิตและข้อคิดที่สำคัญในหลายๆแง่มุมอีกด้วย
               สำหรับผู้ที่ไม่ได้ชมก็จะไม่เข้าใจถึงการสูญเสียและการณ์เสียสละที่เกิดขึ้นกับการทำหน้าที่เพื่อรับใช้ชาติ ถึงแม้ว่าชีวิตจะต้องจบลงก็ตาม เมื่อผมได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ผมก็ตั้งข้อสงสัยไปต่างๆนาๆมากมายที่เกิดขึ้นมาในสมองว่าพวกเขาจะต่อสู้กันทำไม ทำไมไม่ตกลงกันด้วยสันติวิธีละ กับความเสียหายที่เกิดขึ้น ผู้คนที่ต้องเสียชีวิตเป็น 40-70 ล้านคน มันไม่ได้ช่วยทำให้สงครามจบลงเลยเหรอ ผู้ที่เป็นพ่อเป็นแม่จะรู้สึกยังไงที่ต้องมาสูญเสียลูกไปในระหว่างสงคราม และทำไมต้องยอมเสี่ยงชีวิตคนส่วนมากเพื่อช่วยคนๆเดียวด้วย คำถามเหล่านี้เป็นปัญหาที่ค้างคาใจตั้งแต่เริ่มดูภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่แล้วปมปัญหาที่ค้างคาใจก็ค่อยๆคลี่คลายลงทีละข้อเราอาจจะหาคำตอบได้ว่าการที่พวกเขาเหล่านั้นต้องไปออกศึกสงครามก็เพราะหน้าที่ หน้าที่ ที่เขาต้องรับผิดชอบ หน้าที่ ที่เขาต้องกระทำ การเป็นรั้วของชาติต้องยอมที่จะสละชีวิตส่วนตนเพื่อส่วนรวม ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผมมีความภาคภูมิใจในตัวของ ร้อยเอก จอห์น มิลเลอร์  ที่ยอมสละชีวิตของตนเพื่อให้กับหน้าที่ ที่เขาได้รับมอบหมายมาอย่างสมบูรณ์แบบ
                 คำพูดของ มิลเลอร์ ที่ทำให้ ไรอัน ต้องจดจำไปตลอดชีวิตแม้กระทั่งตัวของผมก็ด้วยเช่นกัน ก็คือคำพูดที่ มิลเลอร์บอกกับ ไรอัน ก่อนตาย ว่า
                      “จงใช้ชีวิตให้คุ้มค่า”
                 คำพูดนี้มันจึงทำให้ผมหันกลับมามองตัวเอง ว่าทุกวันนี้เราใช้ชีวิตในแต่ละวันได้คุ้มค่าหรือยังกับวันเวลาที่ผ่านเลยไป เราได้ทำอะไรให้กับแผ่นดิน ประเทศ ที่เราเหยียบย่ำและอาศัยอยู่นี้หรือเปล่า ฉะนั้น ถ้าเราคิดจำทำอะไรก็ต้องรีบทำเสียก่อน ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำเลย……

[...สียะตรา..]

......ชอบหนังเรื่องราวสมัยสงครามโลกเป็นทุนเดิม...ชอบ...เดอะชิลเลอร์ลิส.....เดอะพีอานิส......แต่ตอนนี้หลงใหลหนังการ์ตูน...

เรื่อง...epic.....ที่ชี้ชวนให้มองสิ่งรอบตัวอย่างละเอียดแล้วอาจจะพบสิ่งสวยงามที่เรามองผ่านข้ามไปข้ามมาทุกวัน...อืมมมแล้วก็พบนะ

คะ...พบแมลงเต่าทองทั้งแบบตัวสีแดงจุดดำแล้วก็แบบที่มีเกราะใสๆสีเหลือบเหมือนเลื่อมชิ้นเล็กๆ...ได้เห็นรูปทรงสวยงามของดอกไม้

สีเหลืองขนาดเท่าหัวไม้ขีดที่บานเรี่ยดิน....แต่ลึกๆหวังว่าจะพบคนตัวจิ๋วแบบในหนังน่ะค่ะ...

[webmaster]

หนังสงครามแชร์มั่ง
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nokejalovelove&month=09-2013&date=21&group=16&gblog=11

ดูหมดแล้วทุกเรื่องยกเว้นเรื่องแรก
สนุกมั่กๆทุกเรื่อง

[รัตนาวดี]

คนนี้ ชอบโปรดหนังเอ็กซ์ แต่ไม่กล้าเอาลงแชร์ค่ะ (หนังสงครามเหมือนกัน)     

<a href="http://www.youtube.com/v/PrQQZuLru9s&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/PrQQZuLru9s&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[meena]

ดีค่ะ น่าสนใจ


 







+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

[...สียะตรา..]

......ใช้ชีวิต...ปลิว.....ไปคล้าย..ขนนก

...จะโผนผกตกอย่างไรไม่กำสรวล

...ปล่อยมันไปตามกระแสอันแปรปรวน

...ไร้โซ่ตรวน...ยึดติด....ในอนิจจัง


......การดูหนังแต่ละเรื่องในแต่ละช่วงวัยให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน...เพิ่งขุดฟอร์เรส  กัมพ์   กลับมาดูใหม่.....พร้อมกับความรู้สึกเห็น

จริงด้วยว่า....เรากะเกณฑ์สิ่งต่างๆไม่ได้เลยในชีวิต.....นอกจากทำสิ่งต่างๆที่เข้ามากระทบให้ดี  เหมาะควรที่สุด   แล้วมันก็จะผ่านไป

....แค่บางฉากบางตอนเท่านั้น   ไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือสลักสำคัญ....

[jaja ja]

  ไปดู ธอร์ มา สนุกมากสู้กันตลอด ฉากดูอลังการดีค่ะ เรื่องย่อ. ธอร์ โลกาทมิฬ สานต่อเรื่องราวการผจญภัยบนจอใหญ่ของธอร์ อเวนเจอร์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ต่อสู้เพื่อปกป้องโลกและดินแดนทั้ง 9 ...ในตอนนี้ ธอร์ชวยหญิงสาวคนรักด้วย ...55+  ก้อหนุ่มหล่อมักจะต้องมีสาวงามคู่กายเสมอจริงไหมค่ะ   

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]