~ เหตุกานท์ ~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
28 เมษายน 2024, 02:19:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~ เหตุกานท์ ~  (อ่าน 4339 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
17 กรกฎาคม 2013, 09:02:AM
ธาตรี รติกานท์
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 59
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 86


ถึงจะด้อยฝีมือ...แต่ก็คือตัวตน


« เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2013, 09:02:AM »
ชุมชนชุมชน


~ เหตุกานท์ ~

๐ ก่อนไม่เคยคิดลองร้อยกรองหรอก
ไม่อยากบอกภาษาไทยได้เกรดต่ำ
ตอนเรียนรู้ครูเฉลยไม่เคยจำ
แต่เหตุทำให้เปลี่ยนหัดเขียนกานท์

ด้วยทุกข์ทนคนรักมาหักอก
น้ำตาตกกลุ้มใจดั่งไฟผลาญ
เผาทะลุทะลวงทรวงร้าวราญ
รับประทานไม่ได้นอนไม่ลง

นั่งก็คิดนอนก็คิดวนเวียนคิด
อยากปลดจิตปล่อยใจให้ลืมหลง
เลยเขียนคัดตัดพ้อต่ออนงค์
อยู่อยู่ตรงกลอนไปไม่รู้ตัว

ระบายเจ็บเหน็บช้ำลงคำเขียน
เจ็บใจเปลี่ยนเป็นพจน์ให้หมดหัว
แจงวิโยคโศกศัลย์ปั่นระรัว
เอาลงทั่วทุกคำจนหนำใจ

รู้เป็นกลอนตอนฉันบรรจงพิศ
แลลิขิตงุนงงยังสงสัย
ก็ตอนเรียนเพียรน้อยปล่อยปละไป
แต่ทำไมตอนช้ำทำได้ดี

จึงลองเพียรเรียนรู้ดูหลายเว็บ
ค่อยค่อยเก็บเพิ่มพูนจากนู่นนี่
นั้นก็เพื่อพัฒนาหาวิธี
สรรค์คำที่ระบายลงตรงอารมณ์

แต่ยิ่งแต่งยิ่งรักอักษรศิลป์
ทั้งที่สิ้นโศกาจนสาสม
กลับค้นคว้าหาอื่นลองชื่นชม
เลยเพาะบ่มกาพย์โคลงจรรโลงตาม

๐ จากจุดเดิมเริ่มไถลออกไกลห่าง
ผลงานวางสำเนาสู่สนาม
มิตรภาพงอกเงยช่างงดงาม
ผ่านมาสามปีกว่าบ้าจริงจริง

จนเริ่มรักครั้งใหม่ใช้กลอนสื่อ
สารหนังสือสร้างสรรค์สัมพันธ์ยิ่ง
เปลี่ยนกลอนเศร้าเล่ากลอนรักชักเพราะพริ้ง
ทราบทุกสิ่งผ่านผันใช่บั้นปลาย

๐ นี่แหละต้นพจมานเหตุกานท์ฉัน
เริ่มจากวันประจักษ์รักสลาย
ผ่านเรื่องราวล้นหลากแต่งมากมาย
จนสุดท้ายหลงรักร้อยกรองแล้ว

ธาตรี รติกานท์
๑๗.๐๗.๒๕๕๖

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, panthong.kh, รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, กังวาน, รัตนาวดี, muneenoi, Shumbala, ดารกะ, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อันไฟรักมักสุมรุมที่อก................ควันลอยปรกปิดตาให้พร่าหมอง
หากพลาดพลั้งเข้าตาน้ำตานอง......ใครได้ลองรักแล้วลืมไม่ลง
17 กรกฎาคม 2013, 09:30:PM
กังวาน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 904
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,505



« ตอบ #1 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2013, 09:30:PM »
ชุมชนชุมชน

อ่านกานท์กลอนตอนเล็กยังเด็กอยู่
สุนทรภู่ฉันชอบมอบกลอนแก้ว
พระอภัยมณีมีวาวแวว
พออ่านแล้วซึมซาบเห็นภาพกลอน

จึงบรรจงลงดินสอขอเขียนหน่อย
แต่งแล้วกร่อยเกินจิตคิดอักษร
แรงบันดาลมิมีจำหนีจร
ออกเร่รอนลำพังอย่างตั้งใจ

เขียนจนทั่วมั่วจนหมดจรดทุกเขต
หาสาเหตุแต่งเรื่อยเหนื่อยแค่ไหน
กลอนอังกฤษติดพันฝันเรื่อยไป
บ้านกลอนไทยพอมาเจอเพ้อทันที

หลงรักสาวคราวลูกหลานเลยหว่านแห
จนได้แผลเต็มตัวกลัวต้องหนี
แอบเขียนกลอนอ้อนลมฟ้าบ้าสิ้นดี
อนุสาวรีย์ข้างบนคนเขาทำ

---กังวาน---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, รัตนาวดี, ♥ กานต์ฑิตา ♥, panthong.kh, muneenoi, Shumbala, ชลนา ทิชากร, ดารกะ, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, ธาตรี รติกานท์, ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ถ้ารู้สึกพอ ก็เป็นสุขทันที
17 กรกฎาคม 2013, 10:16:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #2 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2013, 10:16:PM »
ชุมชนชุมชน

ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
ชอบเรื่องราว กล่าวถ้อย ร้อยกรองฉันท์
อ่านทุกวัน ฝันฝาก อยากขบขำ
ทุกเรื่องราว แต่งแต้ม แซมจดจำ
ดั่งระบำ รำเต้น เด่นถูกใจ

วรรณคดี มีมาก เป็นรากเง้า
มานานเนา แน่นัก อย่าผลักไส
ช่วยรักษา สืบสาน กลอนกานท์ไว้
ทรงคุณค่า แห่งไทย ไปตราบนาน
พันทอง
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, Shumbala, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ดารกะ, กาแฟดำ, กังวาน, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, ธาตรี รติกานท์, ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 กรกฎาคม 2013, 12:43:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2013, 12:43:AM »
ชุมชนชุมชน



...บังเอิญสัมผัสใจ ในภาษา
จึงพบว่า กลอนเธอ ถ้อยเพ้อหวาน
พอโดนจีบ รีบชอบ มอบดวงมาน
กลายเป็นรัก สลักกานท์ สราญทรวง...

...จำจมอยู่ ในปลัก โดนรักกล่อม
ด้วยยินยอม ใจเหมือน ได้เยือนสรวง
เฝ้าคอยรอ ขอฝัน นั้นอย่าลวง
คอยเป็นห่วง เธอนัก ควักดวงใจ...

...ลิ้มบทรัก วรรคงาม ยามอ่านพบ
ปล่อยจินต์ซบ ตามฝัน พาหวั่นไหว
ยามสัมผัส ใจเธอ เพ้อกว่าใคร
ความหลงใหล บันเจิด เกิดรักชวน...


☆ รัตนาวดี ☆

  ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ เธอนั่นแหละจ้ะ เคารพรัก  ไปเที่ยวกันดีกว่า

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, รพีกาญจน์, ดารกะ, กาแฟดำ, กังวาน, Shumbala, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, ธาตรี รติกานท์, ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
18 กรกฎาคม 2013, 05:52:AM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #4 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2013, 05:52:AM »
ชุมชนชุมชน


จนสุดท้ายหลงรักร้อยกรองแล้ว

บทดอกสร้อย สักวา อาขยาน
ครูสอนอ่าน ทำนอง ได้คล่องแคล่ว
เอื้อนเสียงยาว เยือกเย็น เห็นวี่แวว
ให้ต่อแถว คล้องจอง ลองลงวาง

เริ่มเรียนผัง เรียงคำ เชื่อมสัมผัส
แปดบรรทัด จัดงาม ตามตัวอย่าง
ซื้อหา ปทานุกรม ชมเปิดกาง
ช่วยเสริมสร้าง ความรู้ ดูคำแปล

นำงานแต่ง แข่งขัน ชั้น ป.ห้า
"สักวา ลูกนิด คิดถึงแม่"
ได้ที่สอง รอแชมป์ แจ่มนักแล
ถึงพ่ายแพ้ ก็เพิ่ม เติมชำนาญ

เฝ้าฝึกฝน วนเวียน เขียนต่อเนื่อง
คัดกรองเรื่อง จัดส่ง ลงพิมพ์สาร
เป็นเนืองนิจ ติดป้าย หลายกระดาน
ห้องอาคาร ศาลา สถาบัน

รับราชการครู อยู่ในป่า
ถึงเวลา ว่างที ขมีขมัน
หารายได้ พิเศษ เขตไพรวัน
ช่วยพูนมั่น พอเพียง เลี้ยงครอบครัว

สามสิบเก้ากว่าปี ที่ห่างเหิน
นานเหลือเกิน ละไป เช่นใช่ชั่ว
สองพรรษา มาบ้านนี้ เลยเมามัว
รีบเร่งรัว แต่งกลอน ม่วนก่อนตาย

รพีกาญจน์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดารกะ, กาแฟดำ, กังวาน, Shumbala, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, ธาตรี รติกานท์, panthong.kh, ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 กรกฎาคม 2013, 03:22:PM
ธาตรี รติกานท์
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 59
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 86


ถึงจะด้อยฝีมือ...แต่ก็คือตัวตน


« ตอบ #5 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2013, 03:22:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ ได้สังเกตเหตุกานท์ทุกท่านแจ้ง
ทุกแถลงความคิดมิตรสหาย
ต่างคนต่างทางมาต่างมากมาย
แต่ทุกสายทางแถลงแจ้งด้วยกานท์

แม้ว่าหลายสายทางมาต่างเหตุ
แต่ว่าเจตนาสื่อคือสืบสาน
จรูญจรัสอรรถรสพจมาน
ด้วยทุกท่านพี่น้องร้อยกรองไทย

ธาตรี รติกานท์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, ชลนา ทิชากร, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อันไฟรักมักสุมรุมที่อก................ควันลอยปรกปิดตาให้พร่าหมอง
หากพลาดพลั้งเข้าตาน้ำตานอง......ใครได้ลองรักแล้วลืมไม่ลง
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s