.. แ พ ด า ว ..
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
28 เมษายน 2024, 06:22:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: .. แ พ ด า ว ..  (อ่าน 10533 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
05 มกราคม 2013, 04:32:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« เมื่อ: 05 มกราคม 2013, 04:32:PM »
ชุมชนชุมชน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Thammada, แป้งน้ำ, ลายเมฆ, Moo Dum, พี.พูนสุข, Shumbala, saknun, บ้านกลอนไทย, my smile, ดาว อาชาไนย, khuadkao, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
06 มกราคม 2013, 07:43:AM
บูรพาท่าพระจันทร์
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 848
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,717


ผู้นิยม..ชมรส..บทกานท์กลอน./


« ตอบ #1 เมื่อ: 06 มกราคม 2013, 07:43:AM »
ชุมชนชุมชน



 ส่งจูบจ้ะ


เพียรชะแง้แลจ้องเฝ้ามองหา
ช่วยเมตตาคราขาดสวาทหาย
ทุกทุกคืนตื่นร้างอ้างว้างกาย
แทบวางวายฟายล้นชลนัยน์

เมื่อขาดหญิงจริงใจไร้ที่พึ่ง
ราวประหนึ่งซึ่งอกตกธารไหล
ยากร้องเรียกเพรียกหาแม้นว่าใคร
ช่วยดึงไว้ให้รอดปลอดชีวัน

ก็มีแต่แลดาวแทนสาวช่วย
ไม่มอดม้วยมรณาถึงอาสัญ
ขอชีวาตม์คลาดแคล้วก็แล้วกัน
จะปองขวัญมั่นแท้เพียงแพดาว...


บูรพาฯ


 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, รพีกาญจน์, D, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Thammada, แป้งน้ำ, รการตติ, ลายเมฆ, Moo Dum, พี.พูนสุข, Shumbala, ไม่รู้ใจ, saknun, บ้านกลอนไทย, ดาว อาชาไนย, khuadkao, my smile

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"สั้น-ตรงเป้า-เร้าใจ"
06 มกราคม 2013, 09:44:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #2 เมื่อ: 06 มกราคม 2013, 09:44:AM »
ชุมชนชุมชน


นภาพร่าง ถ่างตา ทุกครานับ
ไม่เคยหลับ ได้ลง ยังคงหนาว
ทุกเรื่องรส บทบาท ชีวาตม์วาว
มีแต่ข่าว ร้าวรุก ซุกซอกใจ

แม้วันคืน กลืนกล้ำ ให้ช้ำชอก
ตามย้อนยอก ตอกเจ็บ เหน็บไม่ไหว
ถึงมีแสง แรงหม่น ทนท้อไป
ขาดแรงใจ ไร้คู่ อยู่เดียวดาย

จะแข็งขืน ยืนหยัด ยิ่งมัดแน่น
ใจร้าวแสน แท่นทับ รับว่าหน่าย
เฝ้าครวญคร่ำ ร่ำหา พาเร้นกาย
ยังมิวาย คล้ายกลุ้ม สุมในทรวง

ให้เงียบเหงา วังเวง เคว้งคว้างจิต
ขาดคู่คิด มิตรรัก ชักเป็นห่วง
เหลือบตาแล ไร้ซึ่ง ถึงแดดวง
กมลกลวง ล่วงลับ กลับแพดาว
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, D, บูรพาท่าพระจันทร์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Thammada, แป้งน้ำ, รการตติ, ลายเมฆ, Moo Dum, พี.พูนสุข, Shumbala, ไม่รู้ใจ, saknun, บ้านกลอนไทย, ดาว อาชาไนย, khuadkao, my smile

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 มกราคม 2013, 12:07:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #3 เมื่อ: 08 มกราคม 2013, 12:07:PM »
ชุมชนชุมชน



 ส่งจูบจ้ะ


เพียรชะแง้แลจ้องเฝ้ามองหา
ช่วยเมตตาคราขาดสวาทหาย
ทุกทุกคืนตื่นร้างอ้างว้างกาย
แทบวางวายฟายล้นชลนัยน์

เมื่อขาดหญิงจริงใจไร้ที่พึ่ง
ราวประหนึ่งซึ่งอกตกธารไหล
ยากร้องเรียกเพรียกหาแม้นว่าใคร
ช่วยดึงไว้ให้รอดปลอดชีวัน

ก็มีแต่แลดาวแทนสาวช่วย
ไม่มอดม้วยมรณาถึงอาสัญ
ขอชีวาตม์คลาดแคล้วก็แล้วกัน
จะปองขวัญมั่นแท้เพียงแพดาว...


บูรพาฯ


 เคารพรัก



แม้หนึ่งในน้ำจิตลิขิตหมาย
ระยิบพรายรังรองจากห้องหาว
ประกายแสงอร่ามเรืองทุกเรื่องราว
แทนหนุ่มสาวคำพรออดอ้อนกานท์

กระซิบเสียงเพียงร้อยสร้อยสายสรวง
นับหมื่นดวงแทนนัยจากใจหวาน
พลุประทีบโคมทองก้องกังวาน
เมื่อคืนผ่านเปลี่ยนศก ~ห้าหก~ เยือน

ลุมาถึงปีใหม่ฝากใจด้วย
ไร้สาวช่วยปลอบประโลมโคมเสมือน~
ลอยเคว้งคว้างกลางหาว ท่ามดาวเดือน
แต่ใจเตือนแน่วแน่..ชมแพดาว...


รการตติ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ลายเมฆ, Moo Dum, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, Shumbala, ชลนา ทิชากร, ไม่รู้ใจ, saknun, บ้านกลอนไทย, ดาว อาชาไนย, khuadkao, my smile

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
08 มกราคม 2013, 01:03:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #4 เมื่อ: 08 มกราคม 2013, 01:03:PM »
ชุมชนชุมชน


นภาพร่าง ถ่างตา ทุกครานับ
ไม่เคยหลับ ได้ลง ยังคงหนาว
ทุกเรื่องรส บทบาท ชีวาตม์วาว
มีแต่ข่าว ร้าวรุก ซุกซอกใจ

แม้วันคืน กลืนกล้ำ ให้ช้ำชอก
ตามย้อนยอก ตอกเจ็บ เหน็บไม่ไหว
ถึงมีแสง แรงหม่น ทนท้อไป
ขาดแรงใจ ไร้คู่ อยู่เดียวดาย

จะแข็งขืน ยืนหยัด ยิ่งมัดแน่น
ใจร้าวแสน แท่นทับ รับว่าหน่าย
เฝ้าครวญคร่ำ ร่ำหา พาเร้นกาย
ยังมิวาย คล้ายกลุ้ม สุมในทรวง

ให้เงียบเหงา วังเวง เคว้งคว้างจิต
ขาดคู่คิด มิตรรัก ชักเป็นห่วง
เหลือบตาแล ไร้ซึ่ง ถึงแดดวง
กมลกลวง ล่วงลับ กลับแพดาว
พันทอง




เพียงหรี่ตาก็พอลออนัยน์
อย่าหลับใหลชโลมชมโคมหนาว
ที่ระยิบแพทองท้องฟ้าพราว
พลุสกาวเด่นมาสวิลาสเรือง

ใยคืนวันชื่นฉ่ำ กลับช้ำชอก
หรือเย้าหยอกพลุรุ้งจนฟุ้งเฟื่อง
แสงไสวแยงตาคงคาเคือง
ท้องฟ้าเมืองนาครซ่อนอุ่นไอ

ควรยิ้มแย้มแช่มชื่นคืนวิจิตร
จากโคมแพนิรมิตให้จิตไหว
จุดโคมลอยแพกาญจน์แทนธารใจ
สานสายใยละมุนอบอุ่นทรวง

ใช่ขาดมิตรชิดใกล้กระไรอยู่
เพียงโฉมตรูใจเย็นมิเป็นห่วง
โคมไสวแทนใจไว้ทุกดวง
จะโชติช่วงดุจแด ด้วยแพดาว..


รการตติ


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ลายเมฆ, Moo Dum, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, ไม่รู้ใจ, แป้งน้ำ, saknun, บ้านกลอนไทย, ดาว อาชาไนย, khuadkao

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
08 มกราคม 2013, 06:19:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #5 เมื่อ: 08 มกราคม 2013, 06:19:PM »
ชุมชนชุมชน




พลุดาวยังรำพึงคะนึงคะเน
ลอยโคมเห่โยงยางสว่างไสว
ดุจแสงดาระดาษวิลาศวิไล
กรุ่นอบไอชมชื่นระรื่นระรอง

จุดประทีปกะพริบระยิบระยับ
ดูเหมือนกับเพชรเลอเสนอสนอง
แพดาวยังประดับประคับประคอง
เป็นทำนองดาวดลประพนธ์ประพันธ์

ด้วยกานท์ก่อจรุงกระหนุงกระหนิง
พลุลอยยิ่งใสศกมิผกมิผัน
แม้ผ่านกาลมานิดกระชิดกระชั้น
ราวสวรรค์แสงสาดมิคลาดมิคลา...


รการตติ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, พี.พูนสุข, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, แป้งน้ำ, ลายเมฆ, saknun, บ้านกลอนไทย, ดาว อาชาไนย, khuadkao, Shumbala, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
21 มกราคม 2013, 03:14:PM
แป้งน้ำ
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 647
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,303


เธอไม่เคยคิดผูกพัน ~ฉันเข้าใจ


pages/กลอนเปล่า/497809993644244
เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 21 มกราคม 2013, 03:14:PM »
ชุมชนชุมชน






โคมลอย . .. ถูกปล่อยไปเคียงดาว
สายลมเหน็บหนาว . .. พัดพาเจ้าไปถึงไหน
โคมลอย .. . ลอยไปเคียงแพดาวบนฟ้าไกล
หรือว่าสายลมโหดร้าย . .. พัดตกลงไป . . ในสายน้ำตา
. .. . ..
ไม่มีความหวังใดไม่ทรมาน
แม้แต่สายฝนแห่งความร้าวราน . .. ยังหวนมาเยี่ยมฟ้า
คืนเหงา . . น้ำค้างหยดเบาร่วงมา
ดูสิ! . .. มันเหมือนน้ำตา . . ของฉันเลย~*


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : saknun, บ้านกลอนไทย, my smile, ดาว อาชาไนย, บูรพาท่าพระจันทร์, khuadkao, Thammada, รัตนาวดี, Shumbala, รการตติ, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

22 มกราคม 2013, 04:52:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #7 เมื่อ: 22 มกราคม 2013, 04:52:AM »
ชุมชนชุมชน


 อายจัง  อายจัง  อายจัง




เพลง ....คิดถึง (จันทร์กระจ่างฟ้า)
ทำนอง : นำมาจากเพลงสากล "Gypsy Moon"
คำร้อง : เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี




... จันทร์กระจ่างฟ้า... นภาประดับด้วยดาว...
โลกสวยราว...เนรมิตประมวลเมืองแมน
ลมโชยกลิ่นมาลา...กระจายดินแดน
เรียมนี้แสนคะนึง...ถึงน้องนวลจันทร์...



... งามใดหนอ... จะพอทัดเทียบเปรียบน้อง...
เจ้างามต้องตาพี่...ไม่มีใครเหมือน
ถ้ามีน้องอยู่ด้วย...และช่วยชมเดือน
โลกจะเหมือนเมืองแมน...แม่นแล้วนวลเอย...




จากใจรักค่ะ

รัตนาวดี

 ส่งจูบจ้ะ

รัตน์ไม่ได้แต่งกลอนนะคะ จึงเอาเพลงเไพเราะเข้ากับบรรยากาศมาฝากค่ะ ขอจีบ...ได้ป่ะ
 

<a href="http://www.youtube.com/v/nGbK9DjXMrQ&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/nGbK9DjXMrQ&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, แป้งน้ำ, ดาว อาชาไนย, panthong.kh, khuadkao, รการตติ, my smile, ไพร พนาวัลย์, บ้านกลอนไทย, ชลนา ทิชากร, Thammada, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
22 มกราคม 2013, 11:42:AM
ดาว อาชาไนย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 394
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,472



poem.archanai?fref=ts
« ตอบ #8 เมื่อ: 22 มกราคม 2013, 11:42:AM »
ชุมชนชุมชน

[
font=Angsana New]


ดาวเกลื่อนฟ้าเป็นแพ
เธอคงหาฉันไม่พบแน่ ๆ
แม้ว่าจะไม่หลบไปทางไหน
เพราะมีแต่เพียงแสงรำไร ๆ
เทียบไม่ได้กับแสงอันวับแวมของหิ่งห้อยใต้ต้นลำพู
ที่เธอสนใจไปชมดู
แม้น้ำตาเธอจะไหลพรั่งพรู
ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร
ป่านนี้คงมีใครเช็ดน้ำตาให้แล้ว
ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ
[/font]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : แป้งน้ำ, khuadkao, รการตติ, รัตนาวดี, my smile, ไพร พนาวัลย์, บ้านกลอนไทย, ชลนา ทิชากร, Thammada, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสี้ยวอารมณ์จากใจใครคนหนึ่ง
คงไม่ซึ้งจับใจใครทั้งหลาย
แค่มีใครคนหนึ่งซึ้งไม่คลาย
ก็สมหมายใครคนหนึ่งซึ่งรักกลอน
22 มกราคม 2013, 10:21:PM
my smile
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 333
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,183


รอยยิ้มที่จริงใจ มองทีไรก็รู้สึกดี. ..


« ตอบ #9 เมื่อ: 22 มกราคม 2013, 10:21:PM »
ชุมชนชุมชน






แ พ ด า ว

ละอองหมอกเหน็บหนาว รอยริ้วแห่งดวงดาว ความอบอุ่นจากไฟผิง

เคลื่อนคลาดด้วยแสงกระพริบ ยิบยับ  พร่างพราวเสียจริง

ใครกัน เสกวิมานจากโลกสวรรค์ให้ลอยดิ่ง กลางท้องนภา. ..

แ พ ด า ว

เติมเต็มท้องฟ้า ให้สุกสกาว แม้อาจเลือนพร่า

ทุกสิ่งหยุดนิ่ง แพดาว สะกดทุกสายตา

ประกายวับวาว สะท้อนกลับจากดวงตา สวยกว่า ทุกวินาที ....



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : -chica-, ไพร พนาวัลย์, ไร้นวล^^, บ้านกลอนไทย, รัตนาวดี, ไม่รู้ใจ, แป้งน้ำ, รการตติ, ชลนา ทิชากร, Thammada, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

23 มกราคม 2013, 09:32:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #10 เมื่อ: 23 มกราคม 2013, 09:32:PM »
ชุมชนชุมชน






ขออนุญาตฝากเพลง " ฟ้ากระจ่างดาว " ไว้แทนบทกลอนก่อนนะครับ...

..ฟ้ากระจ่างดาว..

ความมืดมนอันยาวนานในหัวใจ  ไม่รู้จะไปที่ใดอีกนานไหมจะถึงปลายทาง
ยังคงเดินก้าวไปไม่สนใครจะมาขว้าง  ไม่ยอมแพ้แม้เพียงลำพังจะฝ่าฝันต่อไป
 
*  บนท้องฟ้าในบางคืน  ไม่มีแสงดาว  ใจของฉันปวดรวดร้าว  แทบเจียรสลาย
แต่ท้องฟ้าในบางคืน  ที่มีแสงดาว ส่องประกาย สุกสกาว ฟ้าดูสดใส

**  ใครอยู่กับฉัน  ฉันก็ได้พบเจอเธอคนดี  ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยจะสนใจใคร
เธอคือแสงไฟนำส่องทาง  เธอเป็นความฝัน  ที่มำให้ฉันมีกำลังใจ
จุดประกายวับวาว ในสี่ห้องหัวใจ  จากวันนี้จนวันตาย.....จะรักเธอผู้เดียว

(*,**)  จากวันนี้จนวันตาย  ก็ยังจะรักเธอผู้เดียว




<a href="http://www.youtube.com/v/EOqdskkxZdg&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/EOqdskkxZdg&amp;rel=0&amp;fs=1</a>


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, บ้านกลอนไทย, แป้งน้ำ, Thammada, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
23 มกราคม 2013, 10:30:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #11 เมื่อ: 23 มกราคม 2013, 10:30:PM »
ชุมชนชุมชน






โคมลอย . .. ถูกปล่อยไปเคียงดาว
สายลมเหน็บหนาว . .. พัดพาเจ้าไปถึงไหน
โคมลอย .. . ลอยไปเคียงแพดาวบนฟ้าไกล
หรือว่าสายลมโหดร้าย . .. พัดตกลงไป . . ในสายน้ำตา
. .. . ..
ไม่มีความหวังใดไม่ทรมาน
แม้แต่สายฝนแห่งความร้าวราน . .. ยังหวนมาเยี่ยมฟ้า
คืนเหงา . . น้ำค้างหยดเบาร่วงมา
ดูสิ! . .. มันเหมือนน้ำตา . . ของฉันเลย~*



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : my smile, บ้านกลอนไทย, Shumbala, แป้งน้ำ, Thammada, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s