*****ฝากฝนโปรย*****
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 เมษายน 2024, 09:52:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: *****ฝากฝนโปรย*****  (อ่าน 10020 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
17 กันยายน 2012, 11:28:AM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« เมื่อ: 17 กันยายน 2012, 11:28:AM »
ชุมชนชุมชน



*****ฝากฝนโปรย*****

ฝนร่วงสาย ปลายฟ้า อุราเหงา
ยินเสียงลม หยอกเย้า เคล้าไม้ไหว
กิ่งเอนโอน โคนอ่อน ว่อนแกว่งไกว
เปรีบยเหมือนใจ รวนเร ถ่ายเทรัก

ไม่แน่นหนัก ปักตรึง เพียงหนึ่งมอบ
สิ่งเคยชอบ ครอบครอง ปองประจักษ์
กลับสลาย หน่ายลง มิคงภักดิ์
รอยสลัก หักลา พาหม่นจินต์

เมื่อฝนพรำ ย้ำผ่าน มานสดับ
โอบกระชับ อกตน ทนถวิล
ฝนหล่นมา น้ำตา พาหลั่งริน
ยังแว่วยิน คำรัก ฝากฝนโปรย

เป็นรอยใจ ให้จำ ยามรินหลั่ง
ในความหลัง ฝังเหน็บ เจ็บล้าโหย
ดวงใจหนึ่ง พึงเศร้า เฝ้าโอดโอย
รักร่วงโรย แรมร้าง ...เส้นทางจร...

"สุนันยา"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, Prapacarn ❀, saknun, พี.พูนสุข, รการตติ, อริญชย์, รพีกาญจน์, ..กุสุมา.., ตะวันฉาย, Music, บ้านริมโขง, บัณฑิตเมืองสิงห์, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, รัตนาวดี, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น, ดาว อาชาไนย, จีราวัฒน์

ข้อความนี้ มี 22 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
17 กันยายน 2012, 12:10:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #1 เมื่อ: 17 กันยายน 2012, 12:10:PM »
ชุมชนชุมชน



เช้าถึงค่ำฝนโปรยโรยจนเหงา
ฝนกระเซ้าเหมือนปลุกการซุกซ่อน
แม้ฝนมาล้าเหนื่อย..อย่าเหนื่อยอ่อน
ฝากกานท์กลอนส่งให้ใจกลับมา

เพื่อจะเป็นแรงใจผ่านไออุ่น
ห่มใจหนุนกำลังใจให้มาหา
ปล่อยผ่านเลยชอกช้ำ ฝากน้ำฟ้า
พาอุราเศร้าถมให้จมไป

แล้วโอบรับกับอรุณอุ่นไออก
ชมวิหคเจื้อยแจ้วแววน้ำใส
ชมผีเสื้อแมลงเกาะแกว่งไกว
ฟ้าวันใหม่จะงดงามยามเรายล

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, สุนันยา, รพีกาญจน์, ..กุสุมา.., ตะวันฉาย, Music, D, บ้านริมโขง, บัณฑิตเมืองสิงห์, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, รัตนาวดี, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
17 กันยายน 2012, 12:17:PM
saknun
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 245
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 940



« ตอบ #2 เมื่อ: 17 กันยายน 2012, 12:17:PM »
ชุมชนชุมชน

ที่สิบเจ็ด กันยา ฝนมาใหญ่
ตกลงใส่ หลังคา ผวาหลอน
ลุกขึ้นนั่ง ฟังเสียง เอียงหูนอน
เปิดไฟก่อน มองดู รู้ทางฝน

ว่าวันนี้ เช่นไร ใจถึงเหงา
คิดถึงเขา หรือไร ใจสับสน
ฝนมาสั่ง ลาฟ้า ลาเบื้องบน
ให้บางคน ทีพร่ำ ส่งคำมา

ใจที่โหย ร่วงหาย กลายเป็นน้ำ
คงเย็นฉ่ำ ชุ่มจิต คิดหนักหนา
รอฝนส่าง เดินห่าง วางใจลา
หมดคำว่า รอรัก จากใจจริง
[/font]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รการตติ, อริญชย์, สุนันยา, รพีกาญจน์, ..กุสุมา.., ตะวันฉาย, Music, D, บ้านริมโขง, บัณฑิตเมืองสิงห์, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, รัตนาวดี, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กันยายน 2012, 04:46:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #3 เมื่อ: 17 กันยายน 2012, 04:46:PM »
ชุมชนชุมชน



เช้าถึงค่ำฝนโปรยโรยจนเหงา
ฝนกระเซ้าเหมือนปลุกการซุกซ่อน
แม้ฝนมาล้าเหนื่อย..อย่าเหนื่อยอ่อน
ฝากกานท์กลอนส่งให้ใจกลับมา

เพื่อจะเป็นแรงใจผ่านไออุ่น
ห่มใจหนุนกำลังใจให้มาหา
ปล่อยผ่านเลยชอกช้ำ ฝากน้ำฟ้า
พาอุราเศร้าถมให้จมไป

แล้วโอบรับกับอรุณอุ่นไออก
ชมวิหคเจื้อยแจ้วแววน้ำใส
ชมผีเสื้อแมลงเกาะแกว่งไกว
ฟ้าวันใหม่จะงดงามยามเรายล


ยินคำปลอบ มอบคราว หนาวเย็นจับ
ยากจะปรับ ฤดี ที่สับสน
ฝนริรร่ำ ช้ำใน ดวงใจตน
ยังมีคน ห่วงหา เอื้ออาทร

เหมือนฝนหลั่ง ล้างใจ ระบายหม่น
เพื่อให้พ้น ท้นทรวง หน่วงทอดถอน
ดั่งร่ายมนตร์ อักษรา นำมาวอน
เพียงอ่านกลอน พาซึ้ง ติดตรึงใจ

เธอเป็นเหมือนน้ำทิพย์ หยิบจากสรวง
ที่รินร่วง ล้างจินต์ สิ้นหวั่นไหว
มอบปราณี มิเลือน เบือนสายใย
ช่วยปลอบดวงฤทัย ให้คลายตรม


"สุนันยา"
 เคารพรัก

 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, บ้านริมโขง, บัณฑิตเมืองสิงห์, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, รการตติ, D, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น, Music

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
17 กันยายน 2012, 05:30:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #4 เมื่อ: 17 กันยายน 2012, 05:30:PM »
ชุมชนชุมชน

ที่สิบเจ็ด กันยา ฝนมาใหญ่
ตกลงใส่ หลังคา ผวาหลอน
ลุกขึ้นนั่ง ฟังเสียง เอียงหูนอน
เปิดไฟก่อน มองดู รู้ทางฝน

ว่าวันนี้ เช่นไร ใจถึงเหงา
คิดถึงเขา หรือไร ใจสับสน
ฝนมาสั่ง ลาฟ้า ลาเบื้องบน
ให้บางคน ทีพร่ำ ส่งคำมา

ใจที่โหย ร่วงหาย กลายเป็นน้ำ
คงเย็นฉ่ำ ชุ่มจิต คิดหนักหนา
รอฝนส่าง เดินห่าง วางใจลา
หมดคำว่า รอรัก จากใจจริง


"saknun"
[/font]

หรือฝนเทียม เยี่ยมเย้า เหงาระบุ
หรือพายุ กระหน่ำ ให้ช้ำยิ่ง
หรือว่าใจ คนคอย พลอยท้วงติง
หรือว่าหญิง ร้างลา คราฝนลง

คิดถึงใคร ไม่รู้อยู่ในอก
พอฝนตก เริ่มร้าว เฝ้าลุ่มหลง
รอฝนซา พาชื่น ขื่นคลายปลง
ให้รีบส่ง ข่าวบอก มาหยอกเอิน

ฝนกระหน่ำ ซ้ำอีก ยากหลีกหลบ
ล้างรอยกลบ ลบลาพาขัดเขิน
เหมือนว่าใจ โหยหาล้าเหลือเกิน
มองฝนเพลิน กระหน่ำ ยิ่งช้ำทรวง...


"สุนันยา"
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, บ้านริมโขง, บัณฑิตเมืองสิงห์, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, รการตติ, D, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น, Music

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
17 กันยายน 2012, 06:05:PM
บัณฑิตเมืองสิงห์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 378
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 608



« ตอบ #5 เมื่อ: 17 กันยายน 2012, 06:05:PM »
ชุมชนชุมชน

สายพิรุณโปรยปรายอยู่ชายฟ้า
จักโศกากลัวมันถึงขั้นไหน
เราสถิตบนพื้นแผ่นกว้างไกล
แลอยู่ใต้บ่วงกรรมทิฆัมพร

จึงต้องสู้สิ่งสรรพกับความคิด
พาชีวิตให้พ้นเหมือนหนก่อน
ห่าพิรุณคือห่าพลากร
ที่ราญรอนความรู้สึกเปรียบศึกใจ

เพียงอย่าท้อรอวันให้ผันผ่าน
จงคิดอ่านแก้กฎจิตสดใส
ความหมองเศร้าโศกศัลย์คือบรรลัย
ปล่อยทิ้งไปให้หมดอย่าจดจำ

เป็นแรงใจให้เธอเหมือนเกลอเก่า
หากเธอเหงาเราจะช่วยให้ชุ่มฉ่ำ
จึงเขียนกานท์หวานพจน์ให้มดนำ
ไปดื่มด่ำรจนาลาพิรุณ

บัณฑิตเมืองสิงห์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, รพีกาญจน์, บ้านริมโขง, สุนันยา, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, รัตนาวดี, รการตติ, D, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น, Music

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กันยายน 2012, 06:22:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #6 เมื่อ: 17 กันยายน 2012, 06:22:PM »
ชุมชนชุมชน



*****ฝากฝนโปรย*****

ฯลฯ

เป็นรอยใจ ให้จำ ยามรินหลั่ง
ในความหลัง ฝังเหน็บ เจ็บล้าโหย
ดวงใจหนึ่ง พึงเศร้า เฝ้าโอดโอย
รักร่วงโรย แรมร้าง ...เส้นทางจร...

"สุนันยา"


ฝากฝนโปรยโรยดินถวิลหา
ยังค้างคาอารมณ์เกินข่มถอน
ยังคงไหลเลาะเอื่อยเลื้อยซอกซอน
จากเนินดอนวอนหวังคล้ายสั่งลา

เมื่อฝนหายปลายทางคงล้างลบ
ความแห้งกลบลบจากมากห่วงหา
เหลืออะไรนำทางวางชีวา
หรือน้ำตาแทนทดจนหมดแรง

ฝากฝนโปรยโรยทางเพียงบางช่วง
วสันต์ล่วงเลยไปหาใดแต่ง
ไร้ฝนสาดหยาดน้ำก็จำแลง
หาใดแสร้งแบ่งฝันฝากปันใจ

คงต้องฝากเหมันต์ลมนั้นต่อ
ลมหนาวพอรับฝากจากแขไข
หรือลมนี้จะสะท้านร้าวรานไป
หมดห่วงใยคนตรมเป็นลมลวง

ฝากโดยตรงได้ไหม..ฝากให้พี่
หนึ่งฤดีฝากได้โดยไม่ห่วง
จะเก็บไว้ดูแลแค่หนึ่งดวง
เมื่อมีใครไหนควง..ค่อยทวงคืน

คือสัญญามาอ้างวันห่างฝน
วันลมบนวนป่วนสุดทวนฝืน
วันหนาวเนื้อนวลนางอ้างว้างยืน
วันยังตื่นตาฝัน..หมายมั่นปอง

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, สุนันยา, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, Prapacarn ❀, เนิน จำราย, รัตนาวดี, รการตติ, D, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น, อริญชย์, Music

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

17 กันยายน 2012, 08:38:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #7 เมื่อ: 17 กันยายน 2012, 08:38:PM »
ชุมชนชุมชน

ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ
ฝนยังตก ทุกวัน แสนหวั่นไหว
ลำโขงไกล คตเคี้ยว ไม่เกี่ยวสอง
ถึงน้ำท่วม บึงกาฬ พานไม่มอง
อย่าว่าน้อง ใจดำ ช้ำกมล

ด้วยว่าพี่ หนีไกล ไม่ห่วงหวง
สุดาดวง เจ็บจิต คิดสับสน
ขอโทษนะ อยู่ได้ สบายตน
แต่เบื่อคน ริมโขง จงเข้าใจ

จะตัดบัว ไม่เหลือใย ในครั้งนี้
ตัดฤดี ให้หมด รันทดไหม
ตัดให้สิ้น หวิ่นขาด คลาดกันไป
ตัดให้สิ้น ฤทัย ไม่ไหวแล้ว
พันทอง
 เคารพรัก เคารพรัก เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านริมโขง, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, สุนันยา, อริญชย์, Prapacarn ❀, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, รการตติ, D, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น, Music

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กันยายน 2012, 09:00:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #8 เมื่อ: 17 กันยายน 2012, 09:00:PM »
ชุมชนชุมชน

สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

ก็เห็นบ่นอย่างนี้ กี่ปีชาติ
ไม่เห็นขาดจากกันทุกวันแกร่ว
นั่งมองทางถ่างตาตั้งท่าแมว
กระโจนแผล็วแล้วฟัดกัดหนูนา

ใจไปทางปากวางสร้างกับดัก
ใจไม่รักแต่หวงสุดห่วงหา
ใจบอกขมแต่ลมซ่านหนอกานดา
ใจบอกอย่า –อย่าหยุดร่างมุดวน

หญิงสาวใดให้มะกอกบอกไปหา
ตรงคำว่าคือพันนั้นทุกหน
เธอสุดยอดสุขสันต์อันสัปดน
เธอคือคนผลตำแย..ต้องแพ้ทาง..

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, สุนันยา, อริญชย์, Prapacarn ❀, panthong.kh, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, รการตติ, D, พี.พูนสุข, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น, Music

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

17 กันยายน 2012, 10:00:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #9 เมื่อ: 17 กันยายน 2012, 10:00:PM »
ชุมชนชุมชน

สายพิรุณโปรยปรายอยู่ชายฟ้า
จักโศกากลัวมันถึงขั้นไหน
เราสถิตบนพื้นแผ่นกว้างไกล
แลอยู่ใต้บ่วงกรรมทิฆัมพร

จึงต้องสู้สิ่งสรรพกับความคิด
พาชีวิตให้พ้นเหมือนหนก่อน
ห่าพิรุณคือห่าพลากร
ที่ราญรอนความรู้สึกเปรียบศึกใจ

เพียงอย่าท้อรอวันให้ผันผ่าน
จงคิดอ่านแก้กฎจิตสดใส
ความหมองเศร้าโศกศัลย์คือบรรลัย
ปล่อยทิ้งไปให้หมดอย่าจดจำ

เป็นแรงใจให้เธอเหมือนเกลอเก่า
หากเธอเหงาเราจะช่วยให้ชุ่มฉ่ำ
จึงเขียนกานท์หวานพจน์ให้มดนำ
ไปดื่มด่ำรจนาลาพิรุณ

บัณฑิตเมืองสิงห์
สายพิรุณตอกย้ำ ให้ช้ำหนัก
คิดถึงรัก ก่อนเคย เกยแนบหนุน
ตอนนี้ห่างร้างไกล ไม่การุญ
สิ้นละมุน อุ่นไอ ไร้อาวรณ์

ยากต่อต้าน หวั่นไหว ในดวงจิต
ดังลิขิต ปิดไว้ ให้หลอกหลอน
อัสนี ฟาดมา พาร้าวรอน
ภาพสะท้อน ย้อนเงา เข้าก่อกวน

ให้ทบทวน อดีต ที่กรีดย้ำ
เป็นรอยกรรม นำจิต คิดไห้หวน
จึงหมองหม่น ปนเหงา เฝ้าแต่ครวญ
ร้าวรัญจวน ป่วนปั่น ทุกวันคืน

ขอขอบคุณ แรงใจ ไม่เคยสร่าง
ที่แนบวาง ข้างใจ มิได้ฝืน
ยามที่ต้องระกำ ทนกล้ำกลืน
น้ำใจยื่น จากเธอ  เสมอมา...

“สุนันยา”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, อริญชย์, รัตนาวดี, ชลนา ทิชากร, รการตติ, บ้านริมโขง, D, พี.พูนสุข, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
18 กันยายน 2012, 06:42:AM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #10 เมื่อ: 18 กันยายน 2012, 06:42:AM »
ชุมชนชุมชน



*****ฝากฝนโปรย*****

ฯลฯ

เป็นรอยใจ ให้จำ ยามรินหลั่ง
ในความหลัง ฝังเหน็บ เจ็บล้าโหย
ดวงใจหนึ่ง พึงเศร้า เฝ้าโอดโอย
รักร่วงโรย แรมร้าง ...เส้นทางจร...

"สุนันยา"


ฝากฝนโปรยโรยดินถวิลหา
ยังค้างคาอารมณ์เกินข่มถอน
ยังคงไหลเลาะเอื่อยเลื้อยซอกซอน
จากเนินดอนวอนหวังคล้ายสั่งลา

เมื่อฝนหายปลายทางคงล้างลบ
ความแห้งกลบลบจากมากห่วงหา
เหลืออะไรนำทางวางชีวา
หรือน้ำตาแทนทดจนหมดแรง

ฝากฝนโปรยโรยทางเพียงบางช่วง
วสันต์ล่วงเลยไปหาใดแต่ง
ไร้ฝนสาดหยาดน้ำก็จำแลง
หาใดแสร้งแบ่งฝันฝากปันใจ

คงต้องฝากเหมันต์ลมนั้นต่อ
ลมหนาวพอรับฝากจากแขไข
หรือลมนี้จะสะท้านร้าวรานไป
หมดห่วงใยคนตรมเป็นลมลวง

ฝากโดยตรงได้ไหม..ฝากให้พี่
หนึ่งฤดีฝากได้โดยไม่ห่วง
จะเก็บไว้ดูแลแค่หนึ่งดวง
เมื่อมีใครไหนควง..ค่อยทวงคืน

คือสัญญามาอ้างวันห่างฝน
วันลมบนวนป่วนสุดทวนฝืน
วันหนาวเนื้อนวลนางอ้างว้างยืน
วันยังตื่นตาฝัน..หมายมั่นปอง

"บ้านริมโขง"

คือถ้อยรักฝากกัน วันฝนหลั่ง
เป็นความหวัง ตั้งไว้ ให้สมสอง
คือดวงใจ ใฝ่หา สัญญาครอง
เป็นค่าของ ความรัก ที่ปักทรวง

ฝัน เคยวางสร้างก่อ เพื่อรอผล
แม้นทุกข์ทน อย่างไร ใจห่วงหวง
จะคอยเฝ้า ห่วงหา สุดาดวง
ณ เรือนรวง ห้วงรัก ด้วยภักดี

ฝากฝนโปรยโรยทางความหวังสิ้น
ร้าวดวงจินต์ ถวิลรัก คล้ายจักหนี
รอยน้ำตา อาบแต้ม สองแก้มมี
หรือว่าพี่ ลืมหมดไม่จดจำ

เมื่อวสันต์ ผันผ่าน เหมันต์เขา
สายลมเคล้า เย้าเยือน เหมือนถลำ
โอ้รักเอย เลยล่วง ในบ่วงกรรม
ต้องเจ็บช้ำ กำสรวลคร่ำครวญคอย

อยากฝากรัก พักลง ตรงทรวงพี่
หากไม่มี ใดทำ ช้ำเหงาหงอย
อย่ารวนเร เหหัก เป็นหลักลอย
ใจดวงน้อย พลอยช้ำต้องกล้ำกลืน

โปรดยึดมั่น สัญญา เมื่อหน้าฝน
อย่าให้หม่น ทนช้ำระกำฝืน
วันหนาวเนื้อ เหลือเคียง เพียงขวัญยืน
ทุกวันคืน มีฝัน..สัมพันธ์ครอง

“สุนันยา”
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, พี.พูนสุข, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ดอกฝิ่น, อริญชย์, รพีกาญจน์, Music, บ้านริมโขง, รการตติ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
18 กันยายน 2012, 02:23:PM
บูรพาท่าพระจันทร์
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 848
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,717


ผู้นิยม..ชมรส..บทกานท์กลอน./


« ตอบ #11 เมื่อ: 18 กันยายน 2012, 02:23:PM »
ชุมชนชุมชน



*****ฝากฝนโปรย*****

ฝนร่วงสาย ปลายฟ้า อุราเหงา
ยินเสียงลม หยอกเย้า เคล้าไม้ไหว
กิ่งเอนโอน โคนอ่อน ว่อนแกว่งไกว
เปรีบยเหมือนใจ รวนเร ถ่ายเทรัก

ไม่แน่นหนัก ปักตรึง เพียงหนึ่งมอบ
สิ่งเคยชอบ ครอบครอง ปองประจักษ์
กลับสลาย หน่ายลง มิคงภักดิ์
รอยสลัก หักลา พาหม่นจินต์

เมื่อฝนพรำ ย้ำผ่าน มานสดับ
โอบกระชับ อกตน ทนถวิล
ฝนหล่นมา น้ำตา พาหลั่งริน
ยังแว่วยิน คำรัก ฝากฝนโปรย

เป็นรอยใจ ให้จำ ยามรินหลั่ง
ในความหลัง ฝังเหน็บ เจ็บล้าโหย
ดวงใจหนึ่ง พึงเศร้า เฝ้าโอดโอย
รักร่วงโรย แรมร้าง ...เส้นทางจร...

"สุนันยา"




 ลาตายดีกว่าตู

ฟ้าฉ่ำฝนคนเหว่ว้าอุราเหงา
อกร้อนเร่าเศร้าจิตพิษสมร
ขาดน้ำใจไร้เมตตาเอื้ออาทร
ไม่อาวรณ์รอนฤทัยตัดไมตรี

ละอองชลฝนพราวให้หนาวเหลือ
เย็นแต่เนื้อเมื่อจิตร้อนอิตถี
ยามนวลจากฝากย้ำช้ำชีวี
แล้งฤดีในฤดูฝนพรูพรม

ไร้ถ้อยคำอำลาเมื่อคราพราก
เจ้าจรจากฝากชื่นความขื่นขม
ฝากพะนอคลอเคล้าความเศร้าตรม
ฝากภิรมย์ชมเสน่ห์ฝนเทโปรย

ฝนฟ้าร้องก้องสนั่นยิ่งหวั่นไหว
เจ้าสุขใจไร้เฉาแต่เราโหย
เคล้าเคียงชู้อยู่เฝ้าแต่เราโรย
เจ้าโบกโบยขโมยสุขเราทุกข์ทน...

"  บูรพ์  "

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, ดอกฝิ่น, อริญชย์, รพีกาญจน์, Music, saknun, เมฆา..., รการตติ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"สั้น-ตรงเป้า-เร้าใจ"
18 กันยายน 2012, 03:35:PM
ดอกฝิ่น
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 22



« ตอบ #12 เมื่อ: 18 กันยายน 2012, 03:35:PM »
ชุมชนชุมชน


สายฝนพรำนำกายหนาวร้าวดวงจิต
ดั่งฝนพิษติดพร่างพรมตรมสับสน
หวนอาวรณ์ตอนเคยอยู่คู่สองคน
อิงอกบนยอดขุนเขาลำเนาไพร

เดี๋ยวนี้มีแผ่นฟ้าวางมากางกั้น
สิ้นสุดวันฝันสุขสมขมหวั่นไหว
เจ็บระกำช้ำนักหนาพาห่างไกล
ลาจากไปไม่ขอครวญทวนย้อนคืน
“ ดอกฝิ่น "

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, อริญชย์, รพีกาญจน์, สุนันยา, Music, ดาว อาชาไนย, saknun, เมฆา..., รการตติ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 กันยายน 2012, 05:05:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #13 เมื่อ: 18 กันยายน 2012, 05:05:PM »
ชุมชนชุมชน





 ลาตายดีกว่าตู

ฟ้าฉ่ำฝนคนเหว่ว้าอุราเหงา
อกร้อนเร่าเศร้าจิตพิษสมร
ขาดน้ำใจไร้เมตตาเอื้ออาทร
ไม่อาวรณ์รอนฤทัยตัดไมตรี

ละอองชลฝนพราวให้หนาวเหลือ
เย็นแต่เนื้อเมื่อจิตร้อนอิตถี
ยามนวลจากฝากย้ำช้ำชีวี
แล้งฤดีในฤดูฝนพรูพรม

ไร้ถ้อยคำอำลาเมื่อคราพราก
เจ้าจรจากฝากชื่นความขื่นขม
ฝากพะนอคลอเคล้าความเศร้าตรม
ฝากภิรมย์ชมเสน่ห์ฝนเทโปรย

ฝนฟ้าร้องก้องสนั่นยิ่งหวั่นไหว
เจ้าสุขใจไร้เฉาแต่เราโหย
เคล้าเคียงชู้อยู่เฝ้าแต่เราโรย
เจ้าโบกโบยขโมยสุขเราทุกข์ทน...

"  บูรพ์  "

 เคารพรัก

ไม่มีถ้อยคำปลอบ มอบความชื่น
พอคลายขื่น ความขม ตรมห่างหาย
เมื่อรักเลือน เลื่อหลบลบ กลบมลาย
มีมากมาย ความเศร้า คอยเข้าคลุม

โอ้ไหนหลัก พักพิง  อิงสนอง
ได้แต่ร้อง ท้อใจ ดั่งไฟสุม
รักอะไร จะมี มาคลี่คลุม
ให้ชื่นชุ่ม อุรา พาภิรมย์

เคยมีแต่ รักลวง ช่วงฝนหลั่ง
ช้ำภินท์พัง จนล้า พาขื่นขม
รักจริงใจไกลจาก มาพรากชม
หวังสุขสม กลับกลาย มลายเลือน

เมื่อฝนหลั่ง พร่างพรม คราลมหวน
ยิ่งปั่นป่วนอุรา หาใดเหมือน
โศกกำซับสลับกัน หันมาเยือน
รอยร้าวเตือน ทรงจำ ยามฝนริน
 เคารพรัก
"สุนันยา"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เมฆา..., อริญชย์, รพีกาญจน์, ดาว อาชาไนย, รการตติ

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
18 กันยายน 2012, 06:38:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #14 เมื่อ: 18 กันยายน 2012, 06:38:PM »
ชุมชนชุมชน


สายฝนพรำนำกายหนาวร้าวดวงจิต
ดั่งฝนพิษติดพร่างพรมตรมสับสน
หวนอาวรณ์ตอนเคยอยู่คู่สองคน
อิงอกบนยอดขุนเขาลำเนาไพร

เดี๋ยวนี้มีแผ่นฟ้าวางมากางกั้น
สิ้นสุดวันฝันสุขสมขมหวั่นไหว
เจ็บระกำช้ำนักหนาพาห่างไกล
ลาจากไปไม่ขอครวญทวนย้อนคืน
“ ดอกฝิ่น "

สายฝนโรยร่วงหล่นบนความเหงา
ทิ้งความเศร้าโศกช้ำ ให้จำฝืน
ห้วงอารมณ์ ตรมเหงา เฝ้ากล้ำกลืน
ไร้สุขชิ่น ห่อห้อม ต้องตรอมตรม

หรือแผ่นฟ้า กางกั้น สัมพันธ์หมาย
ให้โศกศัลย์ เดียวดาย กลายขื่นขม
ต้องผิดหวัง พังพ่าย ใจระทม
หรือว่าพรหม ชี้ช่อง ให้หมองมัว

 เคารพรัก
“สุนันยา”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, รพีกาญจน์, ดาว อาชาไนย, รการตติ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s