ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[เขียนชีวิต]

กระแสการคิดลบการแสดงออกทางด้านมืดกำลังมาแรง
มีคนชื่นชอบหลากหลายกลุ่มทั้งผู้ใหญ่ยันเด็ก
พยายามทำอะไรบางอย่าง เร้าอารมณ์ดิบเถื่อนของคนออกมา
ซึ่งเป็นเรื่องง่ายมาก เพราะสังคมเราก็มีผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักโต
กลุ่มคนหลายช่วงอายุที่ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ เอาอารมณ์เข้าว่า
คนเราใช้อารมณ์กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ
อารมณ์ลบ ด้านมืด กิเลสตัณหาเป็นสิ่งที่กระตุ้นเร้าได้ง่ายที่สุด
ความก้าวร้าว การแสดงออกถึงอัตตา อวดดี อวดภูมิรู้
อยากแหกคอก แสดงพลังอะไรบางอย่างที่มีอยู่ในตัวเองออกมา
พยายามแสดงถึงการปฏิวัติอะไรบางอย่าง เห็นเยอะจนชินตา
แต่ก็เป็นเรื่องน่าตระหนกไม่ใช่น้อย พฤติกรรมด้านมืดต่างของเรา
เป็นสิ่งที่เร้าให้ออกมาได้ง่าย ซ้ำยังถูกยัดเยียดความเชื่อ
ทำให้เราเผลอคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องดีเป็นเรื่องถูก ซึ่งบางครั้ง
ผมมาลองคิดดูดีๆ เหล่าผู้ที่สร้างกระแสเหล่านี้คงมีความรู้ทางด้าน
จิตวิทยา หรือเข้าใจจิตใจคนไม่มากก็น้อย ซึ่งตอนนี้ส่วนมากแล้ว
จะมุ่งไปทางใฝ่ต่ำอย่างไม่ค่อยจะรู้ตัวกันสักเท่าไรนัก เขาเหล่านั้น
จึงได้แอบชักจูงคนเพื่อสร้างพลังมวลชนเพื่อเหตุผลบางอย่าง
ซึ่งดีหรือร้ายก็ต้องพิจารณากันเอาเอง (ก็น่าจะพอเดากันได้)
ผมก็เลยต้องหยิบยกหลักธรรมที่เราได้ยินกันจนชินมาพูดกันใหม่
เราควรมีสติในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารในแต่ละอย่างและอย่าเพิ่ง
'ปลงใจ'เชื่อสิ่งที่ได้ยินได้เห็นมา ควรพยายามอย่างยิ่งที่จะทำใจ
ให้เป็นกลาง ในการพิจารณาสิ่งต่างๆ และก็อย่าเพิ่งหลงใหล
กระแสการปฏิวัติอะไรกับเขามากเลย เพราะสิ่งที่ควรปฏิวัติ
คือด้านมืดที่จิตใจของเรานั่นเสียมากกว่า เชื่อผมเถอะนะครับว่า
"มือที่สกปรก สร้างโลกที่สวยงามไม่ได้หรอกครับ"

[พยัญเสมอ]

อ่านแล้วงงมาก  ไม่รู้ว่าคุณหมายถึงใครหรืออะไร   ผมคนปัญญาน้อยครับ
ไม่อาจที่จะไปคาดเดาในเรื่องที่ลึกซึ้งได้   ได้แค่รู้เฉพาะเรื่องปัญญาหยาบๆ
 

[Prapacarn ❀]

"มือที่สกปรก สร้างโลกที่สวยงามไม่ได้หรอกครับ"
แซมเห็นด้วยค่ะ...
เกิดขึ้นในทุกสังคม.. ตั้งแต่สังคมเล็กๆ เช่นครอบครัว..เพื่อนฝูง..ที่ทำงาน..
ไปถึงสังคมใหญ่ๆ ระดับชาติ....
แซมก็เข้าใจนะคะ..สัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิต คือทำทุกอย่างเพื่อการอยู่รอด...
แต่มนุษย์เราได้รับการอบรมทางศีลธรรม..นั่นไม่ใช่หรือคะที่จะทำให้มนุษย์แยกแยะถึงการควร..ไม่ควร

แซมเคยภูมิใจนักหนา กับการเป็น "คนไทย" ของตนเอง... เพราะจำได้ว่า สังคมตอนเด็กๆ ที่แซมใช้ชีวิตที่ไทย..
เป็นสังคมที่อบอุ่น..เอื้ออารีย์.. ไม่ทำร้ายกันข้างหลัง  ไม่เอาเปรียบกัน..
แต่นั่นมันเป็นสังคมเล็กๆ ในชนบท...

ความรู้สึกนั้นอยู่ในใจ...ถึงแม้แซมจะจากไปอยู่ต่างแดน..... นาน
แต่ใจคิดอยู่เสมอเมื่อพบคนไทยที่ไหน  แซมจะดีใจมากๆ...

แซมขอนอกเรื่องนิดหน่อยนะคะ...
วันหนึ่งแซมไปเดินช็อปปิ้ง ที่ห้างใหญ่แห่งหนึ่ง ใกล้ๆ บ้าน...

กำลังลองลิปสติคของชาแนล..โดยที่เคาเตอร์ก็มีกระจกวางไว้ให้ลูกค้าลองสีตามใจชอบ..
แซมก็ลองสีโน้นสีนี้..

สักครู่  มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 4-5 คน แต่งตัวดีมากๆ  ท่าทางเป็นนักท่องเที่ยว..
เข้ามาจะลองลิปติค.. พวกเธอพูดกันในกลุ่มว่า ต้องการจะลองสี...

เธอมองมาที่แซม... แล้วพูดกันว่า.. "เดี๋ยวคอยให้  e-ห่านี่เสร็จก่อน..."
แซมมองหน้าพวกเธอ...รู้สึกผิดหวัง..เสียใจ.. ที่คำที่ได้ยิน มันเป็นภาษา"ไทย.." มาจากปาก "คนไทย" ที่แซมมักปกป้องมาตลอด

บางคนในกลุ่มพูดว่า  ....." ช่างมันเถอะคุณพี่ รอมันสักเดี๋ยวก็ได้.. "

แซมก็หมดอารมณ์ซื้อของเหมือนกัน  ก่อนออกจากร้าน แซมหันไปบอกพวกเธอว่า...
"เชิญนะคะ .......,   e-ห่า คนนี้เสร็จแล้วค่ะ..."
คุณนายตกใจมาก..รีบขอโทษแซม..บอกว่า  " น้องๆ พี่ขอโทษค่ะ..ไม่ทราบว่าเป็นคนไทย  ดูไม่เหมือนคนไทย.."

กระนั้นหรือ...... ถ้าแซมไม่ใช่พวกเดียวกับคุณ... ไม่ได้อยู่ในกลุ่มคุณ...ไม่ได้คิดอย่างคุณ..
แซมย่อมจะได้รับการปฏิบัติด้วยอย่าง "ลบ" เช่นนั้นหรือ...

ขออภัยอีกรอบ.....หลายๆครั้งที่แซมคิดไม่เหมือนคนที่ไทย...พูดไม่เหมือนเพื่อนๆที่ไทย ...
แต่นั่นไม่ได้แปลว่า แซมเป็นคนไม่ดี...ที่จะต้องถูกนินทาว่าร้าย...หรือถูกแบ่งพวก..

หลายครั้งที่แซมนึกออกแล้วว่า..ทำไมชาติ บ้านเมืองถึงมีปัญหา..
ทำไมจึงเกิดการไม่สงบสุขขึ้น...

แซมไม่ทราบเรื่องการเมืองที่ไทยมากนัก...
แต่แซมทราบว่า ความสุข..ไม่ได้ ได้มาเพราะว่า ใครมีอำนาจมากกว่าใคร..
หรือไม่ได้ ได้มาเพราะได้ "ชนะ" คนอื่น...

ขอบคุณคุณ"เขียนชีวิต" ที่แบ่งปันนะคะ..
และแซมขอบอกว่า...นี่เป็นการแสดงความคิด พูดคุยกับคุณ "เขียนชีวิต" เท่านั้นเอง...

แซมค่ะ

[ไร้นวล^^]

ฟังคุณแซมเล่าแล้ว   อายแทน
มารยาทไทยดินแดน  เด่นยิ้ม
คุณนายกับเงินแสน  สูงศักดิ์
ผ่องพักตร์ปากจิ้มลิ้ม  หากเอื้อนเอ่ยโคลน

แก่นโกลนคุณค่าเข้า   เคียงศรี
ยาจกหรือเศรษฐี      ผ่องพร้อง
ย่อมมารยาทดี      ดังปราชญ์
ศักดิ์สง่าประชาซ้อง  ว่าแท้พงศ์สยามฯ

(ผมขำคุณแซมตอบกลับคุณนายได้แซ่บดีครับ)

[พยัญเสมอ]

            อ้อ...แบบพวกที่คุณแซมได้เจอมานั้นเขาเรียกว่าพวกที่ดีแต่เปลือก  หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าผู้ดีจอมปลอม
คนพวกนี้จะพยายามสร้างฉากหน้าให้ดีเสมอ   ภายนอกแลเป็นคนดีหมด  พูดจาสุภาพ  เป็นสุภาพบุรุษ  สุภาพสตรี
แต่หลังฉากนั้นหรือ......อย่าให้พูดเลย      มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบตัดสินและมองคนแค่เปลือกนอก  หลงไปกับความสุภาพจอมปลอมเหล่านั้น

[เขียนชีวิต]

ผมพูดถึงใครนั้นผมเองก็คงบอกไม่ได้หรอกครับ
ผมไม่ได้ไปพยายามหาข้อมูลว่าเขาอยู่ฝ่ายไหน
หรือต้องการผลประโยชน์อะไร  เพียงแค่เห็นวิธีการของเขา
แล้วทึกทักเอาเองว่ามันไม่เหมาะเท่านั้นเอง
ผมก็เป็นเพียงแค่เด็ก ไร้ปัญญา ไม่เดียงสาต่อโลก
เห็นอะไรก็เขียนเล่าไปเรื่อย  แต่ที่ผมเขียนเรื่องนี้ออกมา
ก็เพื่อบอกเตือนให้ระวังบางสิ่งบางอย่าง ให้ลอง...
ตั้งคำถามกับความเชื่อของตัวเราเองดูบ้างเสียหน่อย
ลองใช้สติในการกรองข้อมูลอันหลากหลายที่เข้ามา
บางทีเราอาจลืม.. ว่าเราลืมอะไรไป...

ส่วนเรื่องราวของคุณแซม..
เราคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากการให้อภัยเขา
จะไปโทษเขาอย่างเดียวก็คงไม่ยุติธรรมสักเท่าไร
แล้วก็ถ้ามัวแต่โทษนั่นโทษนี่ มันก็คงไม่จบสิ้นสักที
ยิ่งเราโทษเขา หรือใคร หรือโกรธเขาหรือใคร
เราก็ยิ่งหงุดหงิด จิตตก หน้าหมองไม่ผ่องใส
และเรื่องทางลบอีกมากมายที่ตามมา
แต่พอเราอภัยได้ รัก และสงสารเขาพร้อม
เราจะมีความสุขได้ง่ายขึ้นอีกเยอะ

ผมคิดว่า...