" เธอ..คือแสงเช้า..แห่งวันหวัง "
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
27 เมษายน 2024, 11:40:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: " เธอ..คือแสงเช้า..แห่งวันหวัง "  (อ่าน 10388 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
18 มีนาคม 2012, 01:04:PM
Thammada
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


« เมื่อ: 18 มีนาคม 2012, 01:04:PM »
ชุมชนชุมชน


ขอบคุณภาพจาก www.tidso.com

เพื่อนรัก................
ฤๅ โลกหนัก นาวา อันสาสม
ดุจรวงรัง พังพ่าย กับสายลม
และหาวห่ม ห้วงมืด มิจืดจาง

ลำนำค่ำ คืนเข็ญ กระเซ็นซ่าน
ดั่งทับธาร ทาบทา ก่อนฟ้าสาง
วิโยคเหยียบ เทียบเถื่อน หรือเลือนลาง
เป็นแววว้าง เวียนว่าย มาทายทัก

ฝืนไฟ ในห้วงเหว เป็นเปลวปวด
ช่างร้าวรวด หลากลึก สำนึกหนัก
เซ่นวิญญาณ ลาญแหลก เมื่อแรกรัก
จึงประจักษ์ จมทุกข์ จะปลุกคน

เพื่อทวงสิทธิ์ ทิศทิพย์ ที่หยิบยื่น
ลืมตาตื่น ใต้ฟ้า เพื่อหาผล
ยิ้มหยอกดาว พราวพร่าง ในทางตน
ฝ่าหมอกหม่น มัวหมอง สู่ทองธาร

ก่อนอรุณ คุ้นเคย จะเอ่ยอ้าง
เมื่อโศกสร่าง ศรัทธา กับกล้าหาญ
เพลงพิภพ พราวฟ้า มีมานาน
จะสะท้าน ท่วมทั่ว รดหัวใจ

ซึ่งสันติ เติมแล้ว เป็นแนวหนุน
รับอรุณ เรืองรอง ทำนองใหม่
แห่งมรรคา คืนค่ำ มิรำไร
มีแสงใส สูงส่อง ละอองพราว

เพื่อนรัก...................
ฤๅ โลกหนัก น้ำตา มิกล้ากล่าว
เถิด..ทอดธุระ หลับไหล ในหมู่ดาว
รอรุ่งเช้า ชมศรี...แห่งชีวิต

ธรรมดา
 น้อยใจแล้วด้วย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, ลมหนาว, ♥หทัยกาญจน์♥, D, รการตติ, panthong.kh, เนิน จำราย, เมฆา..., สุนันยา, sunthornvit, blues, วรุณรุ่ง, กังวาน, บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, Prapacarn ❀, สมนึก นพ, พยัญเสมอ, อริญชย์, amika29, ภู กวินท์, sucklife, พี.พูนสุข, kradan

ข้อความนี้ มี 24 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 มีนาคม 2012, 02:31:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #1 เมื่อ: 18 มีนาคม 2012, 02:31:PM »
ชุมชนชุมชน



ขอบคุณภาพจาก Google ครับ

เพื่อนแท้...
เมื่อหยุดแลทุกสิ่งจากมิ่งมิตร
จับปากกาดาวรายร่ายลิขิต
มโนจิตวันหวัง ดังประพนธ์

ด้วยเรายังศรัทธาฟ้าวงวรรณ
ที่รังสรรค์ฉาบแสงทุกแห่งหน
ทั้งกรองรสพจนาพาเยือนยล
ให้เราดลใจคล้องต้องลีลา

แม้หมู่ดาววานวัยจะไร้ชนม์
เราจะคอยเป็นฅนเสริมคุณค่า
แม้ฤดูผ่านผันตามเวลา
เราจะมาคอยเยือนเป็นเพื่อนกัน

จะเก็บคำประพนธ์จากฅนแต่ง
ที่คอยแบ่งบทนำคำเชื่อมั่น
รอยจารึกฝากไว้ในใจนั้น
คือประพันธ์ที่แสดงเหมือนแสงดาว

แม้อรุณหม่นหมองเมื่อมองหวน
แต่แสงนวลยังผุดผ่องที่ห้องหาว
วรรณกรรมคงแนวยังแพรวพราว
แม้บางคราวเมฆบังดูวังเวง

เพื่อนแท้...
เราเพียงแค่ตัวตนใช่ฅนเก่ง
บทกวีเพื่อนพ้องกรองบรรเลง
เป็นบทเพลงเพื่อนแท้..เราแน่ใจ



รการตติ
เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, panthong.kh, เนิน จำราย, ♥หทัยกาญจน์♥, เมฆา..., สุนันยา, sunthornvit, blues, วรุณรุ่ง, กังวาน, บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, Prapacarn ❀, สมนึก นพ, อริญชย์, พยัญเสมอ, รัตนาวดี, ลมหนาว, amika29, ภู กวินท์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, sucklife, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 23 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
18 มีนาคม 2012, 03:27:PM
blues
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 173
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


รอยยิ้มเธอเปลี่ยนโลกได้


« ตอบ #2 เมื่อ: 18 มีนาคม 2012, 03:27:PM »
ชุมชนชุมชน



เพื่อนเอย...
ไฉนเลยแลหม่นหมองประครองเศร้า
อย่าได้ลืมหนึ่งความหมายคำว่า"เรา"
จะบรรเทายามเพื่อนทุกข์และท้อตรม

แม้ว่าโลกจะหมุนไปนานเท่าไหร่
แต่ในใจเพื่อนยังเป็นเช่นที่สม
เสียงหัวเราะและน้ำตาพาชื่นชม
โลกมันกลมสักวันหนึ่งได้พึ่งพา

วันดีดีที่ผ่านไปใช่เลยลับ
มันจะกลับคืนสู่ผู้รู้หา
เหมือนดั่งเพื่อนคนนี้ที่กลับมา
เช็ดน้ำตาที่รินไหลให้หายไป

กลับมาเป็นเช่นความหมายคำว่า"เพื่อน"
คอยย้ำเตือนยามต้องทุกข์ให้สุขใส
ในหวังดีและรักไม่พรากไกล
อยู่แห่งไหนให้คืนกลับเมื่อลับตา

จะถักทอเส้นใยให้หนาแน่น
ได้เป็นแก่นยึดเหนี่ยวเพื่อเกี่ยวหา
ได้รับรู้ถึงกันทันเวลา
ยามเพื่อนล้าจะได้ปลุกและปลอบใจ

เพื่อนเอย..
ขอจงเผยวจีที่สงสัย
อีกความทุกข์รุกเร้าเคล้าภายใน
ให้เพื่อนรับแบกไป..ใส่ฤดี


under

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, Thammada, วรุณรุ่ง, สุนันยา, กังวาน, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, Prapacarn ❀, สมนึก นพ, อริญชย์, พยัญเสมอ, รการตติ, รัตนาวดี, ลมหนาว, amika29, ภู กวินท์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, sucklife, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"ทุกถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ย  เพื่อจะเปรยให้เธอฟัง"
18 มีนาคม 2012, 03:40:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #3 เมื่อ: 18 มีนาคม 2012, 03:40:PM »
ชุมชนชุมชน



ขอบคุณภาพจาก Google ครับ

เพื่อนแท้...
เมื่อหยุดแลทุกสิ่งจากมิ่งมิตร
จับปากกาดาวรายร่ายลิขิต
มโนจิตวันหวัง ดังประพนธ์

ด้วยเรายังศรัทธาฟ้าวงวรรณ
ที่รังสรรค์ฉาบแสงทุกแห่งหน
ทั้งกรองรสพจนาพาเยือนยล
ให้เราดลใจคล้องต้องลีลา

แม้หมู่ดาววานวัยจะไร้ชนม์
เราจะคอยเป็นฅนเสริมคุณค่า
แม้ฤดูผ่านผันตามเวลา
เราจะมาคอยเยือนเป็นเพื่อนกัน

จะเก็บคำประพนธ์จากฅนแต่ง
ที่คอยแบ่งบทนำคำเชื่อมั่น
รอยจารึกฝากไว้ในใจนั้น
คือประพันธ์ที่แสดงเหมือนแสงดาว

แม้อรุณหม่นหมองเมื่อมองหวน
แต่แสงนวลยังผุดผ่องที่ห้องหาว
วรรณกรรมคงแนวยังแพรวพราว
แม้บางคราวเมฆบังดูวังเวง

เพื่อนแท้...
เราเพียงแค่ตัวตนใช่ฅนเก่ง
บทกวีเพื่อนพ้องกรองบรรเลง
เป็นบทเพลงเพื่อนแท้..เราแน่ใจ



รการตติ
เคารพรัก




"เพื่อฝัน"
ร่วมฝ่าฟัน เถิดหนา อย่าหวั่นไหว
แห่งความหวัง ตั้งมั่น สานสายใย
เกี่ยวก้อยไป ให้ถึง ซึ่งจำนงค์

"เพื่อรัก"
ย่อมตระหนัก ค่าล้วน ควรประสงค์
สายสัมพันธ์ วันวาน ยังมั่นคง
ให้ดำรง เคียงขวัญ วรรณกวี

"เพื่อนเอย"
สิ่งใดเคย รันทด หมดสุขศรี
ขอกล่อมเจ้า ด้วยพจน์ บทวจี
ว่ายังมี รักมั่น ไม่ผันแปร

อุปสรรค ขวากหนาม ที่ลามกั้น
ปล่อยคืนวัน ล้างลบ กลบกระแส
รินร่ายรส อักขรา อย่าไปแคร์
ขอเพียงแค่ เรานั้น มั่นศรัทธา

"สุนันยา"


 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, blues, Thammada, กังวาน, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, Prapacarn ❀, สมนึก นพ, อริญชย์, รการตติ, รัตนาวดี, ลมหนาว, amika29, ภู กวินท์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, sucklife, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
18 มีนาคม 2012, 04:52:PM
กังวาน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 904
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,505



« ตอบ #4 เมื่อ: 18 มีนาคม 2012, 04:52:PM »
ชุมชนชุมชน

"0"ทุกอย่างวางหัวใจให้ว่างเปล่า
คืนเหน็บหนาวมิมีใครให้โหยหา
ดูดาวเดือนเหมือนสิ้นแสงแรงศรัทธา
แล้วชีวาเราจะอยู่เพื่อผู้ใด

ความผิดหวังถั่งโถมโหมเข้าสู่
ที่เป็นอยู่รอเวลาน่าหวั่นไหว
ความมืดเยือนเตือนตนไม่พ้นภัย
เพราะหัวใจเจ็บยิ่งกับสิ่งลวง

เกียรติยศชื่อเสียงขอเลี่ยงหลบ
ฉันขอจบชีวิตมิคิดห่วง
"0"ไป"0"ทูนให้ใจทั้งดวง
ทั้ง"0"ทรวง"0"ดับดิ้น...เมื่อสิ้นเธอ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, blues, sunthornvit, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, Thammada, Prapacarn ❀, สมนึก นพ, พยัญเสมอ, อริญชย์, รการตติ, panthong.kh, รัตนาวดี, ลมหนาว, amika29, ภู กวินท์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, sucklife, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ถ้ารู้สึกพอ ก็เป็นสุขทันที
19 มีนาคม 2012, 07:58:PM
Thammada
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


« ตอบ #5 เมื่อ: 19 มีนาคม 2012, 07:58:PM »
ชุมชนชุมชน


ขอบคุณภาพจาก http://www.siamfishing.com

ขอบคุณ ความคุ้นเคย ที่เอ่ยอุ่น
ช่างละมุน มากมั่น กับวันหวัง
ดุจแสงเช้า ชุ่มกาย ผู้พ่ายพัง
ยามยืนนั่ง ในหนาว และร้าวราน

สองมือมี ไมตรี ที่โอบเอื้อ
ด้วยจุนเจือ จากใจ ไหลรินผ่าน
อักษราเรือง พรแห่ง กลอนกานท์
จะผสาน ซึ่งโศก คราโลกลวง

เพื่อนรัก..............
ต่างตระหนัก พิษภัย อันใหญ่หลวง
ยามใจคน หม่นไหม้ ไฟสุมทรวง
ช่างหนักหน่วง เหนื่อยล้า น้ำตาคลอ

คืนมืดนั้น ยืดยาว กว่าคราวก่อน
มันบั่นทอน ทาบคน ที่ทนท้อ
จ่อมจม ระงมเหงา และ เฝ้ารอ
จะชุบช่อ ชีวิต สู่ทิศใด
...
คืนความหวัง ผู้ยังโศก ในโลกลึก
ผู้ผนึก น้ำตา มาฝันใฝ่
พยายาม หยัดยืน อย่างฝืนใจ
กับโลกไร้ ขอบเขต เจตนา

เพื่อทิศทาง วางวาด โดยธาตุแท้
สู่กระแส สร้างตน อย่างคนกล้า
ลุกลำดับ ขับขาน กาลเวลา
แล้วทวงค่า คนจริง จะยิ่งยืน

ธรรมดา
 เธอนั่นแหละจ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, บูรพาท่าพระจันทร์, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, blues, Prapacarn ❀, ลมหนาว, amika29, ภู กวินท์, D, ยามพระอาทิตย์อัสดง, sucklife, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥, รการตติ, กังวาน

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 ธันวาคม 2012, 09:25:AM
Thammada
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


« ตอบ #6 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2012, 09:25:AM »
ชุมชนชุมชน




สายธาร...“ ธรรมดา ”

ด้วยเรียวแขน แสนล้า ว่ายฝ่าข้าม
คงสัมผัส ความงาม แห่งน้ำเชี่ยว
ที่ว่าร้าย จึงใช่ร้าย เพียงถ่ายเดียว
หากใจเหนี่ยว ตระหนักซึ้ง ถึงธารธรรม

แห่งห้วง มหรรณพ บรรจบฟ้า
คลื่นซัดพา ถั่งโถม โหมกระหน่ำ
เกลียวชีวิต ซัดซ่า เริงระบำ
มีหรือใคร ร่ายรำ เพียงเดียวดาย

จึงน้ำตา หมองหม่น ของคนทุกข์
คอยขับปลุก คลื่นสาด ไม่ขาดหาย
แต่ใครยอม จ่อมจม อย่างงมงาย
หรืออยู่อย่าง คล้ายคล้าย ลืมหายใจ

ต่างรอแสง แห่งธรรม ธรรมดา
ที่จะสาด ฉายมา เมื่อเช้าใหม่
เพื่อเสริมแรง แกร่งกล้า ข้ามฝ่าไป
อย่างซึ้งใน ลำธาร ผ่านผจญ

จึงได้เห็น เบื้องหน้า มีฟ้ากว้าง
จึงรู้ทาง คดเคี้ยว เลี้ยวเหวหน
จึงพลัง ดั่งไฟ ในใจตน
จะปลุกปลอบ ผู้คน บนเส้นทาง

และเอื้อมมือ ปกป้อง ประคองโลก
คอยดับโศก สาดซัด สิ่งขัดขวาง
มิตรภาพ จึงฉาย ข้ามลายพราง
ด้วยก้าวย่าง แห่งธรรม ธรรมดา


" กลอนสำนวนนี้ อ.นายเงา
เขียนไว้ให้ผมที่สมาคมนักกลอนฯครับ จึงนำมาบันทึกไว้ "


ธรรมดา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, รการตติ, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s