๐@ ~ รำพึงพากย์ ~ @๐
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
30 เมษายน 2024, 08:50:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ๐@ ~ รำพึงพากย์ ~ @๐  (อ่าน 6118 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
30 ธันวาคม 2011, 03:31:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2011, 03:31:AM »
ชุมชนชุมชน



"รำพึงพากย์"


ในหนึ่งช่วงเวลาพาผันเปลี่ยน
ให้บทเรียนเขียนชีวิตประสิทธิผล
ทุกดำริตริตรองประคองตน
สู่ถนนบนวิถีที่ควรเป็น

มีหัวเราะเสนาะจิตยามคิดหวน
มีคร่ำครวญป่วนใจร่ำไห้เห็น
มีสมหวังครั้งคราพาฉ่ำเย็น
มีลำเค็ญในจิตคิดรำพึง

สังคมมีตีเกลียวเกินเลี้ยวจาก
พบหลายหลากมากผู้มาสู่ถึง
มีทั้งสุข-ทุกข์จากหลากคำนึง
เธอคือหนึ่งในนั้น..วันดำเนิน

ยามหัวใจไหวรับกับรสรื่น
หาใดอื่นยื่นมัดว่าขัดเขิน
ล้วนต่างเผลอเธอฉันมั่นใจเกิน
ร่วมเผชิญเดินฝ่าปัญหามี

ระหว่างทางป่ารกปกหลุมหลาก
เดินฝ่าขวากมากพิษต่างคิดหนี
ชะตากรรมนำไปไม่อารี
ปล่อยฤดีเดี่ยวโดดลงโทษตน

เมื่อความรักผลักส่งลงจากสรวง
เดือนเต็มดวงเลื่อนลับดับแสงหม่น
ดาวนับล้านปานวาดหยาดอัสสุชล
ต่างร่วงหล่นปนเปื้อนลงเกลื่อนดิน

มาบัดนี้ที่เหลือเมื่อรับรู้
ให้หดหู่รู้ผลบนถวิล
ทุกก้าวย่างต่างผิดคิดยลยิน
ตราบเมื่อสิ้นเยื่อใยได้บทเรียน

จึงจารจดบทสังวรก่อนลาจาก
ความพลัดพรากมากระกำพร่ำขีดเขียน
วัฏฏจักรหลักนั้นมันวนเวียน
ต่างแปรเปลี่ยนเวียนผัน..จวบวันตาย.

"บ้านริมโขง"
๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๔

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, รัตติกาล, panthong.kh, Prapacarn ❀, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada, สุนันยา, รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥, พี.พูนสุข, นางฟ้า ชาลี, ..กุสุมา.., กังวาน, sunthornvit, สมนึก นพ, ปรางทิพย์, ...สียะตรา..

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

30 ธันวาคม 2011, 12:15:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #1 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2011, 12:15:PM »
ชุมชนชุมชน


ในอารมณ์ ของคนหมุนวนเปลี่ยน
เป็นบทเรียน ชีวิต ยากปลิดหาย
ดุจตำนาน กาลคู่ มิรู้คลาย
ทุกสิ่งหมาย กลายกลับ สลับกัน

เมื่อรักเกิด เพริศแพร้ว ไร้แววโศก
อยู่บนโลกภิรมย์ พรหมเสกสรร
หวานชื่นรส รินร้อย ถ้อยจำนรรจ์
ด้วยผูกพัน ซ่านซึ้ง ติดตรึงทรวง

ครั้นคราครั้ง อีกฝ่าย เหมือนหน่ายแล้ว
ที่เพริศแพร้ว กลับกลาย สิ้นใยหวง
คำเคยพร่ำ คราก่อน กลับกร่อนลวง
ดังตกบ่วง ห้วงเหว ของเปลวไฟ

โอ้..รักเอย เลยกลับ สลับขั้ว
มืดหม่นมัว หล่นลง ตรงเหลวไหล
เศร้ากำสรวล เกิดก่อ ทุกข์ท้อใจ
สิ้นค่าใน ช่วงสั้น สัมพันธ์จาง

เหลือก็แต่รอยจำ ที่กำหนด
เช่นน้ำกรด รดมา คราเมินหมาง
หวานเคยลิ้ม ชิมรส หมดค่าวาง
อยู่บนทาง ขนาน สิ้นกาลครอง

บางคู่มี รักมอบ แต่ขอบกั้น
เป็นเส้นใย ขีดขั้น อันหม่นหมอง
คือบทบาท วาดความ ตามครรลอง
ท่วงทำนอง ทั้งหมด ด้วยกฎกรรม….

“สุนันยา”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, บ้านริมโขง, ..กุสุมา.., รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, กังวาน, sunthornvit, สมนึก นพ, ปรางทิพย์, ...สียะตรา.., panthong.kh, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
30 ธันวาคม 2011, 07:01:PM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2011, 07:01:PM »
ชุมชนชุมชน



"รำพึงพากย์"
ในหนึ่งช่วงเวลาพาผันเปลี่ยน
ให้บทเรียนเขียนชีวิตประสิทธิผล
ทุกดำริตริตรองประคองตน
สู่ถนนบนวิถีที่ควรเป็น

มีหัวเราะเสนาะจิตยามคิดหวน
มีคร่ำครวญป่วนใจร่ำไห้เห็น
มีสมหวังครั้งคราพาฉ่ำเย็น
มีลำเค็ญในจิตคิดรำพึง

สังคมมีตีเกลียวเกินเลี้ยวจาก
พบหลายหลากมากผู้มาสู่ถึง
มีทั้งสุข-ทุกข์จากหลากคำนึง
เธอคือหนึ่งในนั้น..วันดำเนิน

ยามหัวใจไหวรับกับรสรื่น
หาใดอื่นยื่นมัดว่าขัดเขิน
ล้วนต่างเผลอเธอฉันมั่นใจเกิน
ร่วมเผชิญเดินฝ่าปัญหามี

ระหว่างทางป่ารกปกหลุมหลาก
เดินฝ่าขวากมากพิษต่างคิดหนี
ชะตากรรมนำไปไม่อารี
ปล่อยฤดีเดี่ยวโดดลงโทษตน

เมื่อความรักผลักส่งลงจากสรวง
เดือนเต็มดวงเลื่อนลับดับแสงหม่น
ดาวนับล้านปานวาดหยาดอัสสุชล
ต่างร่วงหล่นปนเปื้อนลงเกลื่อนดิน

มาบัดนี้ที่เหลือเมื่อรับรู้
ให้หดหู่รู้ผลบนถวิล
ทุกก้าวย่างต่างผิดคิดยลยิน
ตราบเมื่อสิ้นเยื่อใยได้บทเรียน

จึงจารจดบทสังวรก่อนลาจาก
ความพลัดพรากมากระกำพร่ำขีดเขียน
วัฏฏจักรหลักนั้นมันวนเวียน
ต่างแปรเปลี่ยนเวียนผัน..จวบวันตาย.

"บ้านริมโขง"
๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๔



บทสังวรก่อนลามากำหนด
ทุกบาทบทบีบคั่นฝันสลาย
วรรควนเวียนเขียนขีดกรีดเนื้อ,กาย
เลือด,จิต,เปลี่ยวเดียวดายคล้ายดั่งกรรม

โลกหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่สิ้นสุด
โธ่! มนุษย์มนาอย่าถลำ
สิ่งใดเกิดเลิศล้นพ้นพระธรรม
ล้วนสิ่งนั้นมั่นจำย้ำไม่มี

รู้ดีชั่วตัวตนค้นให้พบ
สร้างสติผลิสงบกลบวิถี
ความประมาทพลาดพลั้งยังตายดี
แต่สิ่งนี้นั้นหรือคือสิ่งใด

ความสันสนปนสุขทุกข์ขื่นขม
จิตระทมทาบคำนอนร่ำไห้
ร้องคร่ำครวญชวนซึ้งหนึ่งดวงใจ
นั่นคือเพียงเสียงใช่! ชีวิตเรา

โปรยกุหลาบป่านเปรียบเทียบชีวิต
ล้วนดวงจิตใจสุขทุกข์หรือเศร้า
มีคนเหยียบเรียบพื้นฟื้นเพียงเงา
จนอับเฉาฉาบฉวยสวยแค่มอง

หรืออยู่ทนบนทางย่างเยื้องผ่าน
ตราบชั่วกาลก่อแก้วแววสนอง
จนแห้งเหี่ยวเลี้ยวงามตามครรลอง
คือวิถีที่ครองของมนุษย์

ต้องปรับเปลี่ยนเพียรหาว่าที่ใช่
อาจคือไม่มีหรือชื่อสิ้นสุด
ต้องดิ้นร้นตนตัวมัวสมมุติ
นี้ใช่ไหมใคร่หยุดหลุดวังวน

สังสารวัฏชัดเจนเห็นถนัด
ทรัพย์สมบัติบาปบุญคุณสับสน
ทำชั่วดีมีเขียนเวียนยินยล
จงพินิจคิดค้นผลกระทำ



หทัยกาญจน์
๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, สมนึก นพ, บ้านริมโขง, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ปรางทิพย์, กังวาน, ...สียะตรา.., panthong.kh

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
30 ธันวาคม 2011, 08:55:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #3 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2011, 08:55:PM »
ชุมชนชุมชน





บางคู่มี รักมอบ แต่ขอบกั้น
เป็นเส้นใย ขีดขั้น อันหม่นหมอง
คือบทบาท วาดความ ตามครรลอง
ท่วงทำนอง ทั้งหมด ด้วยกฎกรรม….

“สุนันยา”


ช่วงชีวิตคิดหมายตั้งหลายอย่าง
ล้วนแนวทางสร้างสมอารมณ์ฉ่ำ
เสริมส่งตนพ้นมารการกระทำ
ใดไหนล้ำร่ำหามาครอบครอง

อยู่บนความหวาดกลัวกลั้วกิเลส
อยู่บนเหตุความอยากมากสนอง
อยู่บนความยิ่งใหญ่สมใฝ่ปอง
อยู่บนความเศร้าหมองของผองชน

เมื่อมีรักมักนำคำตัณหา
ชี้นำหน้าพาไปด้วยใจหม่น
หลงรูปรสบทสวาทอนาถคน
ล้วนสุขล้นบนคำพร่ำวจี

แต่ยามใดแพ้ทางใจหมางหมอง
น้ำตานองสองปรางร้างสุขี
ปิ้มจะขาดใจตายหน่ายฤดี
เพียงเท่านี้ที่เห็น..ความเป็นคน.

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, Prapacarn ❀, ♥หทัยกาญจน์♥, พี.พูนสุข, สิงขร, รพีกาญจน์, ปรางทิพย์, บูรพาท่าพระจันทร์, กังวาน, ...สียะตรา.., panthong.kh

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

03 มกราคม 2012, 02:32:AM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #4 เมื่อ: 03 มกราคม 2012, 02:32:AM »
ชุมชนชุมชน

"ช่วยรำพึง ไม่พากย์นะ"

รำพันถึง รำพึงเศร้า เมื่อคราวโศก
ดุจอยู่โลก เดียวดาย ให้สับสน
บทชีวิต ลิขิตฟ้า ชะตาตน
คงเวียนวน ด้วยหวัง สร้างชีวิน

สองไหล่แบก ภาระ นำพาชีพ
เหมือนถูกบีบ ให้ตรม ถมไม่สิ้น
ผงเข้าตา ยากออก ชอกช้ำจินต์
โอ้อกเอ๋ย เศษดิน แทบสิ้นใจ

ร้อยลำนำร่ำระบาย ใจกดเก็บ
สุดแสนเจ็บ เหน็บทรวง ช่วงอ่อนไหว
ใช่เรียกร้อง ใครสน แค่บ่นไป
ปลดเปลื้องใน อารมณ์ ตรมระอา

ให้อักษร เป็นยารักษาจิต
ที่ถูกพิษ ร้าวรอน นอนผวา
สงสารใจ หนาวเหน็บ เจ็บเรื่อยมา
ไม่รู้ว่า วันไหน ได้พ้นทาง

บ่วงชีวิต ติดตรึง ยากดึงหลุด
บ่วงใจสุด ยากให้ ใครสะสาง
บ่วงคล้องคอ ใช่น้อย ยากปล่อยวาง
เมื่ออ้างว้าง วางกลอน อ้อนระบาย...

“สุนันยา”


 
 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, Prapacarn ❀, บ้านริมโขง, ♥หทัยกาญจน์♥, ปรางทิพย์, ...สียะตรา.., รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
03 มกราคม 2012, 03:05:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #5 เมื่อ: 03 มกราคม 2012, 03:05:AM »
ชุมชนชุมชน





บทสังวรก่อนลามากำหนด
ทุกบาทบทบีบคั่นฝันสลาย
วรรควนเวียนเขียนขีดกรีดเนื้อ,กาย
เลือด,จิต,เปลี่ยวเดียวดายคล้ายดั่งกรรม

โลกหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่สิ้นสุด
โธ่! มนุษย์มนาอย่าถลำ
สิ่งใดเกิดเลิศล้นพ้นพระธรรม
ล้วนสิ่งนั้นมั่นจำย้ำไม่มี

รู้ดีชั่วตัวตนค้นให้พบ
สร้างสติผลิสงบกลบวิถี
ความประมาทพลาดพลั้งยังตายดี
แต่สิ่งนี้นั้นหรือคือสิ่งใด

ความสันสนปนสุขทุกข์ขื่นขม
จิตระทมทาบคำนอนร่ำไห้
ร้องคร่ำครวญชวนซึ้งหนึ่งดวงใจ
นั่นคือเพียงเสียงใช่! ชีวิตเรา

โปรยกุหลาบป่านเปรียบเทียบชีวิต
ล้วนดวงจิตใจสุขทุกข์หรือเศร้า
มีคนเหยียบเรียบพื้นฟื้นเพียงเงา
จนอับเฉาฉาบฉวยสวยแค่มอง

หรืออยู่ทนบนทางย่างเยื้องผ่าน
ตราบชั่วกาลก่อแก้วแววสนอง
จนแห้งเหี่ยวเลี้ยวงามตามครรลอง
คือวิถีที่ครองของมนุษย์

ต้องปรับเปลี่ยนเพียรหาว่าที่ใช่
อาจคือไม่มีหรือชื่อสิ้นสุด
ต้องดิ้นร้นตนตัวมัวสมมุติ
นี้ใช่ไหมใคร่หยุดหลุดวังวน

สังสารวัฏชัดเจนเห็นถนัด
ทรัพย์สมบัติบาปบุญคุณสับสน
ทำชั่วดีมีเขียนเวียนยินยล
จงพินิจคิดค้นผลกระทำ



หทัยกาญจน์
๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก


ล้วนเกิดแต่ปัญญาพาสดับ
มาคอยรับนับผลคนถลำ
แต่ปัญญาหายากหลากน้อมนำ
ต้องจดจำพร่ำท่องส่องมโน

หากแต่คนล้นนักมักเย่อหยิ่ง
ไม่เชื่อจริงคำไขใครอักโข
ยกตัวเด่นเห็นก่อนต้อนไห้โฮ
ยิ่งคุยโตโอ้อวดแสนปวดใจ

คงแค่เพียงเอียงหน้าพาหลบหลีก
วางตัวปลีกอีกทางห่างเหลวไหล
พร่ำรำพึงตรึงจิตยามคิดไป
เก็บเอาไว้เรียนรู้ในผู้คน

หาแนวทางสร้างถูกปลูกคุณค่า
ตามเสาะหาคว้าแหล่งแห่งสถล
ก่อมุมมองด้วยเหตุใดเลศปน
น้อมนำตนเข้าถึงซึ่งมรรคา

แม้เห็นต่างแต่วางสร้างวิถี
กำหนดมีเหตุ-ผลชนเสาะหา
รู้ด้วยตนค้นพบสบด้วยตา
ไม่ยืมคำใครมา..พาตัดตอน

หลากหลายนักหักเห-มาเทถม
หลากนิยมคมคำพร่ำสลอน
หลากหลายจิตแนวคิดติดอาวรณ์
หลากสะท้อน..จากปัญญา..ว่าใครมี.

"บ้านริมโขง"
๓ มกราคม ๒๕๕๕

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, ปรางทิพย์, รัตนาวดี, Prapacarn ❀, ...สียะตรา.., รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, สุนันยา, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

05 มกราคม 2012, 03:39:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #6 เมื่อ: 05 มกราคม 2012, 03:39:AM »
ชุมชนชุมชน


"ช่วยรำพึง ไม่พากย์นะ"


รำพันถึง รำพึงเศร้า เมื่อคราวโศก
ดุจอยู่โลก เดียวดาย ให้สับสน
บทชีวิต ลิขิตฟ้า ชะตาตน
คงเวียนวน ด้วยหวัง สร้างชีวิน

สองไหล่แบก ภาระ นำพาชีพ
เหมือนถูกบีบ ให้ตรม ถมไม่สิ้น
ผงเข้าตา ยากออก ชอกช้ำจินต์
โอ้อกเอ๋ย เศษดิน แทบสิ้นใจ

ร้อยลำนำร่ำระบาย ใจกดเก็บ
สุดแสนเจ็บ เหน็บทรวง ช่วงอ่อนไหว
ใช่เรียกร้อง ใครสน แค่บ่นไป
ปลดเปลื้องใน อารมณ์ ตรมระอา

ให้อักษร เป็นยารักษาจิต
ที่ถูกพิษ ร้าวรอน นอนผวา
สงสารใจ หนาวเหน็บ เจ็บเรื่อยมา
ไม่รู้ว่า วันไหน ได้พ้นทาง

บ่วงชีวิต ติดตรึง ยากดึงหลุด
บ่วงใจสุด ยากให้ ใครสะสาง
บ่วงคล้องคอ ใช่น้อย ยากปล่อยวาง
เมื่ออ้างว้าง วางกลอน อ้อนระบาย...

“สุนันยา”




เพื่อนำพาฝ่าพ้นทนต่อสู้
ยามยั้งอยู่หมู่คนบนเป้าหมาย
ก็เพียงเพื่อเลี้ยงตนให้พ้นตาย
ก่อนวางวายสายทาง..คือสร้างตัว

หากมากล้นบนวิธีที่เลือกสรร
แตกต่างกันตามถนัดเข้าจัดขั้ว
ตามบุญกรรมนำมาคราเมามัว
ตามดีชั่วแต่งเติมเสริมปัญญา

ต้องยอมรับกับบุพเพที่เสสม
ต้องยอมตรมขมขาดพลาดปัญหา
ต้องดิ้นรนพ้นภัยใดรุมมา
ต้องฟันฝ่าให้ผ่านต้านระทม

นี่ล่ะหรือ  ชีวิต ยามคิดอยู่
ที่ทุกผู้รู้หวังยั้งสุขสม
จากลืมตาจนหลับตา..คราสิ้นลม
ล้วนคือปมชีวิตคนคิดครวญ

สุขสบายเป้าหมายคล้ายกันทั่ว
ความหวาดกลัวลำบากมากปั่นป่วน
สารพันหวั่นไหวในกระบวน
บนสำนวนชวนชื่นยังลื่นเลย

ทุกชีวิต มีบ่วงคอยห่วงหา
ถูกจัดมาทุกผู้อยู่เฉลย
บ่วงคือวง ชีวิต ให้ชิดเชย
จงคุ้นเคยกับบ่วง..อย่าลวงตน.

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, ช่วงนี้ไม่ว่าง, รพีกาญจน์, สุนันยา, บูรพาท่าพระจันทร์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 มกราคม 2012, 10:18:AM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #7 เมื่อ: 10 มกราคม 2012, 10:18:AM »
ชุมชนชุมชน



เพื่อนำพาฝ่าพ้นทนต่อสู้
ยามยั้งอยู่หมู่คนบนเป้าหมาย
ก็เพียงเพื่อเลี้ยงตนให้พ้นตาย
ก่อนวางวายสายทาง..คือสร้างตัว

หากมากล้นบนวิธีที่เลือกสรร
แตกต่างกันตามถนัดเข้าจัดขั้ว
ตามบุญกรรมนำมาคราเมามัว
ตามดีชั่วแต่งเติมเสริมปัญญา

ต้องยอมรับกับบุพเพที่เสสม
ต้องยอมตรมขมขาดพลาดปัญหา
ต้องดิ้นรนพ้นภัยใดรุมมา
ต้องฟันฝ่าให้ผ่านต้านระทม

นี่ล่ะหรือ  ชีวิต ยามคิดอยู่
ที่ทุกผู้รู้หวังยั้งสุขสม
จากลืมตาจนหลับตา..คราสิ้นลม
ล้วนคือปมชีวิตคนคิดครวญ

สุขสบายเป้าหมายคล้ายกันทั่ว
ความหวาดกลัวลำบากมากปั่นป่วน
สารพันหวั่นไหวในกระบวน
บนสำนวนชวนชื่นยังลื่นเลย

ทุกชีวิต มีบ่วงคอยห่วงหา
ถูกจัดมาทุกผู้อยู่เฉลย
บ่วงคือวง ชีวิต ให้ชิดเชย
จงคุ้นเคยกับบ่วง..อย่าลวงตน.

"บ้านริมโขง"






ไม่เคยคิด ลวงตน ทนชีวิต
เส้นทางปิด สิทธิ์ไร้ ไม่เป็นผล
ช่องว่างยัง ห่างไกล ให้กังวล
จิตสับสน ปนเป ดั่งเรรวน

ถูกชะตา ฟ้าแกล้ง คล้ายแต่งแต้ม
แม้แต่รอย ยิ้มแย้ม แซมกำสรวล
ซ่อนหนาวเหน็บ เก็บไว้ ในอกครวญ
โอ้..เอ๋ยนวล สะกดช้ำ ซ่อนน้ำตา

คงได้แต่ กราบหมอน วิงวอนไหว้
เหล่าเทพไท้ เบื้องบน-บนบานหา
ขอประทาน เส้นทาง สว่างมา
ล้างรอยใจ เหว่ว้า สร่างซาทรวง

ช่วยก้าวพ้น หนามขวาง ทางชีวิต
ช่วยนิมิต วันใหม่ คล้ายเช่นสรวง
ช่วยพาเงา ระทม ถมแดดวง
ไกลจากบ่วง ฤดี นี้ด้วยเทอญ....

"สุนันยา"
เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, บ้านริมโขง, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s