**--DUST IN THE WIND--**
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
26 เมษายน 2024, 05:15:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: **--DUST IN THE WIND--**  (อ่าน 4849 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
24 มีนาคม 2011, 09:53:PM
อักษรารำพัน
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 84
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 120



« เมื่อ: 24 มีนาคม 2011, 09:53:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ เพียงหลับตา..ครานั้น..ก็ผันผ่าน
ทุกความฝัน..วันวาน..ก็พาลหาย
ดังธุลี..ที่คลุ้ง..ฟุ้งกระจาย
ที่เรียงราย..กรายไป..ในสายลม


๐ เหมือนเพลงเก่า..เล่าขาน..แต่นานครั้ง
ประดุจดัง..น้ำหยด..เข้ารดถม
ในมหา..ชลาลัย..ใหญ่บรม
แล้วผสม..กลมกลืน..ผืนวารี

๐ เหมือนมนุษย์..ปุถุชน..บนผืนหล้า
ล้วนกำเนิด..เกิดมา..ทำหน้าที่
แม้เราจะ..ปฏิเสธ..เหตุที่มี
ก็ยากลี้..หนีเร้น..ความเป็นจริง


๐ อย่าชะแง้..แชเชือน..เพื่อนทั้งหลาย
เพราะสุดท้าย..ตาย-ดับ..ทุกสรรพสิ่ง
สมบัติใด..ไร้ค่า..มาประวิง
ท้ายก็นิ่ง..ดิ่งลับ..ไปกับกาลฯ...๚ะ๛


-อักษรารำพัน-

                           - DUST IN THE WIND -      KANSAS

I close my eyes, only for a moment, and the moment's gone
All my dreams, pass before my eyes, a curiosity
Dust in the wind, all they are is dust in the wind


Same old song, just a drop of water in an endless sea
All we do, crumbles to the ground, though we refuse to see
Dust in the wind, All we are is dust in the wind


Don't hang on, nothing lasts forever but the earth and sky
It slips away, all your money won't another minute buy
Dust in the wind, All we are is dust in the wind


๏ หลับตาคราหนึ่งเสี้ยว....กาลสมัย
ผันล่วงกาลกลายไป...........แปลกแท้
ความฝันผ่านตาไกล..........จิตอยาก-  รู้นา
ดังเศษธุลีแล้....................  ผ่านพลิ้วปลิวลม  ๚


๏ เทียบบทเพลงเก่านั้น......เสมือนหยาด-  ธารแฮ
ผสานสู่ทะเลหาด...............เหือดแห้ง
พวกเราต่างประมาท..........ทำสาบ-  สูญนอ
ปฏิเสธสิ่งควรแจ้ง..............เพ่งให้คลายฉงน ๚

๏ ธุลีคละคลุ้งลิ่ว.................ลมสนอง
สรรพกิจจิตควรตรอง..........ตรึกไว้
ปราศสิ่งยั่งยืนครอง.............คู่โลก-  ธาตุนา
พิภพเวหาไซร้......................จักยั้งนิรันดร์ ๚


๏ เงินทองของเนื่องด้วย.......ตนครอบ- ครองนา
เธอย่อมปรากฏกรอบ...........หยั่งรู้
มวลสารสรรพสัตว์ชอบ-.....ถกลเช่น  ธุลีเฮย
เราต่างเป็นเช่นผู้..................เปรียบเพี้ยงฝุ่นลอย  เริงลม ๚ะ๛


โคลงสี่สุภาพ โดยคุณ -อัลมิตรา- แห่งไทยโพเอม

Dust in the wind ต้นตำรับฉบับเดิมที่ร้องเพลงนี้ คือ  วง  kansas 1977
ซึ่งเป็นวงร็อคที่ยิ่งใหญ่มากวงหนึ่งในยุค70’-80’ กระทั่งแมงป่องผยองเดช
scorpions  ที่ลือลั่นสนั่นพิภพ นำมาเพลงนี้ขับร้องใหม่ 
ได้อย่างน่าฟังและโด่งดังไปทั่วโลก  ในชุด  acoustica

บทกวีที่แฝงใว้ด้วยสัจจธรรมแห่งชีวิตเพื่อที่บางคนกำลังพ่ายแพ้หรือจมปลัก
ในสิ่งที่ทำให้วุ่นวายกังวลสับสนใจจะได้หันมามองตัวเอง 
และเรื่องราวทั้งมวลว่าควรที่จะยังจมปลักหรือฉุดรั้ง 
หรือยังครุ่นคิดตัดวังวนเดิม ๆ อยู่  โดยที่ยังไม่ไปไหน

หรือยังค้นหา สิ่งที่ใจอยากค้นหา  แต่ทว่ายังไม่ประสบพบเจอสักครั้ง
ปล่อยจินตนาการ และจิตใจให้เป็นอิสระเถิดทุกสิ่งล้วนเป็นเช่น 
เถ้าธุลีที่เคลื่อนคล้อยลอยตามลม  เท่านั้น
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 มีนาคม 2011, 02:12:PM
อักษรารำพัน
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 84
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 120



« ตอบ #1 เมื่อ: 26 มีนาคม 2011, 02:12:PM »
ชุมชนชุมชน

๏ คราวหลับตาเวลานั้นก็ผ่านพ้น
สิ่งสากลเสมือนฝันพลันเลือนหาย
ดั่งฝุ่นมีธุลีคลุ้งฟุ้งกระจาย
ล้วนเรียงรายละลิ่วไปในสายลม


๏ ดั่งเพลงเก่าเล่ามาคราก่อนนั้น
เช่นน้ำอันหยาดนทีที่สั่งสม
ในคงคา มหาสมุทร สุดนิยม
ยังจ่อมจมผสมผสานธารวารี


๏แล้วชีวิตจิตใจทั้งใหญ่น้อย
บ้างต่ำต้อยศักดินาต่างหน้าที่
จักทับถมจมดิ่นถิ่นธาษตรี
ถึงเรานี้…ปฏิเสธเหตุทั้งปวง

 
๏ หมายยื้อยุดฉุดรั้งด้วยหวังว่า
ยังโหยหาสารพันอันใหญ่หลวง
ด้วยมุ่งมาดคาดหวังทั้งจริงลวง
อีกเฝ้าห่วงหวงแหนแม้นเนิ่นนาน


๏ เช่นธุลีที่ขจายคลายเคลื่อนคล้อย
ปลิวล่องลอยในนภาคราลมผ่าน
แล้วแยกย้ายสลายพลันอันตรธาน-
คือหลักการแห่งธุลีมีฝุ่นดิน


๏ การขังจิตติดใจในสรรพสิ่ง
แท้ความจริงเหล่านั้นพลันเสื่อมสิ้น
ไม่มีใครใดอยู่คู่ฟ้าดิน
ทั้งทรัพย์สินเกินวิสัยให้มั่นคง-


๏ หมายซื้อกาลวารเปลี่ยนหมุนเวียนว่าย-
ตามมุ่งหมายพร้อมพรั่งดั่งประสงค์
สิ่งสามัญ…สัจจ์ธรรมสิ่งดำรง
ไตรลักษณ์คงให้เห็นเป็นธรรมดา


๏ เพียงฝุ่นปลิวละลิ่วลาคราลมล่อง
แล้วหวังปองฝันใฝ่ใดนักหนา
แท้เราเป็นเช่นฝุ่นอันคุ้นตา
สิ่งนั้นหนา ล้วน “ ธุลีที่ปลิวลม ” ๚ะ๛


-อัลมิตรา-
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 มีนาคม 2011, 10:39:PM
MASAPAER
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 456
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 586


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 26 มีนาคม 2011, 10:39:PM »
ชุมชนชุมชน


"เถ้าธุลี"


สิ่งเล็กนิดปลิดลงก็ปลงสิ้น
เพียงเศษหินผินดับก็ทับถม
เป็นเศษดินสิ้นแล้วมิแคล้วจม
สลายล่มล้มหายไปตามกาล

เพียงหนึ่งคนวนรอบกรอบสมัย
ฤาห่างไกลไอดินถิ่นสสาร
คือเศษส่วนมวลคละจักรวาล
จะตระหง่านนานไหมไม่อาจเดา

ผงธุลีมีคลุ้งพุ่งและหล่น
ละลิ่ววนบนห้วงพร้อมร่วงเฉา
รอตะกอนนอนดิ่งละทิ้งเงา
สิ้นรากเถาเถ้าฝุ่นหมดสูญไป

หนึ่งธุลีขี้เถ้าเงาอากาศ
พายุสาดซัดปลิวละลิ่วไล่
ละล่องลอยพลอยฟุ้งคละคลุ้งไกล
นานเท่าใดหายลับและดับลง

จะฝืนรั้งตั้งขึ้นยืนเพียงไหน
หากหลงใหลในเงาเราประสงค์
ท้ายที่สุดหยุดดิ้นชีวินปลง
เหลืออยู่คงคือเถ้าเงาตะกอน

 ยิ้มหน้าแมว


ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

27 มีนาคม 2011, 02:17:AM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #3 เมื่อ: 27 มีนาคม 2011, 02:17:AM »
ชุมชนชุมชน




ดุจดั่งฝุ่นธุลีที่ลอยล่อง
ได้เพียงมองจ้องตามยามหวั่นไหว
รู้ว่าเธอหลงทางปลิวห่างไกล
ดั่งดวงใจของฉันถูกสั่นคลอน

เป็นละอองของฉันจะได้ไหม?
มิต้องจากไปไหนใช่มาอ้อน
ขอเพียงเธอฟังคำที่พร่ำวอน
แม้จากจรก็อย่าไปให้ไกลตา

 ขอจีบ...ได้ป่ะ

"ปรางค์  สามยอด"
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s