กลอนจบปริญญาโท
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
19 เมษายน 2024, 12:29:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนจบปริญญาโท  (อ่าน 16903 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
04 มกราคม 2011, 12:30:AM
benz87
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8



« เมื่อ: 04 มกราคม 2011, 12:30:AM »
ชุมชนชุมชน

แต่งไว้ตอน Present สอบจบครับ เป็นกาพย์ยานี11 ลองอ่านดูครับ


ล่าช้ามานานปี   จบเสียทีดีใจหลาย
ทุกข์โศกพลันมลาย   แลร่างกายหายเหนื่อยพลัน

ทั้งเข้าเบญจเพส   เพิ่งไปเขตไม่กี่วัน (เพราะไม่ได้ทำมา 3 ปี แล้ว  เอ้อ..จริงว่ะ)
พบสาวงามดั่งจันทร์   มาทักฉันหน้าเด็กจัง

วางแผนเที่ยวเตร่เตร็ด   งานมรึงเสร็จหมดหรือยัง
เที่ยวเล่นไว้ทีหลัง   จงรีบนั่งแก้งานไป

จบมาก็ตกงาน   ปวดกบาลเป็นไหนไหน
ปริญญาไปอยู่ไส   ช่วยได้ไหมใครตอบที

สิ่งเดียวที่คงอยู่   กับตัวกูผู้ยิ่งใหญ่
คือความ"มุ่งมั่น"ไซร้   จักนำชัยสู่ตัวเรา (แต่ไม่ใช่ตัวกูของกู  อายจัง)

ลดละเลิกอัตตา   ที่นำมาซึ่งความเขลา
ชั่วดีอยู่ที่เรา   อย่านำเศร้ามาบดบัง

ลาภยศเสียงสรรเสริญ   ควรประเมินด้วยอนิจจัง
เป็นสิ่งไม่จีรัง   หากทลายพังทุกเพลา

ตั้งมั่นทางแห่งจิต   เพ่งพินิจพิจารณา
ปัดเป่าซึ่งมิจฉา(ทิฏฐิ) ส่องนำพาสู่ทางธรรม...
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 มกราคม 2011, 12:26:AM
benz87
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8



« ตอบ #1 เมื่อ: 05 มกราคม 2011, 12:26:AM »
ชุมชนชุมชน

3 ปี (กับอีกครึ่งปี) เคลื่อนเลื่อนผ่านไปในวันวาน   ได้พบพานกัลยาณมิตรสนิทเชื้อ
คอยเคี่ยวเข็ญเป็นกำลังดังจุนเจือ         ความเอื้อเฟื้อเหลือล้นจนเปรมปรีดิ์

กราบขอบคุณท่านอาจารย์ประทานให้      ความตั้งใจในการสอนตอนเรียนรู้
เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณความเป็นครู      คอยอุ้มชูปูทางสร้างค่าคน

ไม่เพียงเพิ่มเสริมความรู้คู่คุณธรรม                   แลชี้นำทำจิตใจให้สุขศานต์
สร้างความสุขอิ่มเอมเกษมสำราญ                   สนุกสนานขานขับไว้ไม่เสื่อมคลาย

มาบัดนี้ถึงคราต้องลาจาก         น้ำตาพรากหลั่งไหลไม่ขาดสาย
แสนโศกเศร้าเคล้าอาลัยทั้งใจกาย      น่าใจหายหากเป็นตามความอนิจจัง

ไม่มีแล้วเสียงเย้าหยอกบอกถึงสุข         ปลดเปลื้องทุกข์เติมรอยยิ้มเข้าสู่คลัง (สมอง)
ไม่มีแล้วเสียงอึกทึกครึกโครมดัง         ปานจะพังทั้งตึกไซร้ไร้ต้านทาน

ไม่มีแล้วเสียงรุ่นพี่ที่เคารพ         ไล่ให้จบจักได้ไปหางาน
ไม่มีแล้วเสียงดุด่าจากอาจารย์         อย่าเกียจคร้านงานวิจัยให้ทำมา

ขออำลาพาตนสู่สัมมาชีพ         ต้องเร่งรีบสะสมทรัพย์รับ (ความ) ก้าวหน้า
เพื่อครอบครัวที่รักยิ่งปานชีวา         ขอรักษามิให้ม้วยด้วยวิญญา

จักเตือนตนว่าเป็นคนสีเลือดหมู         พระเกี้ยวคู่อยู่รำลึกนึก (ถึง) ทุกครา
นำประสพการณ์ความรอบรู้คู่ตนมา                   จักพัฒนาแผ่นดินไทยให้รุ่งเรือง

ปิดท้ายด้วยกลอนคำสอนในตอนจบ      นำไปขบทบทวนคิดคงไม่เปลือง (สมอง)
เป็นคุณธรรมจำเป็นยิ่งต่อบ้านเมือง      โปรดอย่าเคืองฝากไปด้วยช่วยคิดที

...คือพลังอันยิ่งใหญ่            หากขาดไปไร้คำนึงซึ่งสิ่งนี้
ความแตกแยกความหม่นหมองต้องราคี      ทั้งอัปปรีย์จักกำเนิดเกิดขึ้นเอย...

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ๏☼↕‼kenijirealma‼↕☼๏

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s