~*~เสน่หา..อาวรณ์~*~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
26 เมษายน 2024, 04:41:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~*~เสน่หา..อาวรณ์~*~  (อ่าน 13012 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
03 พฤษภาคม 2010, 09:29:AM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 09:29:AM »
ชุมชนชุมชน



ปลิดปลิวใจลอยคว้างกลางลมโบก
พรากดอกโศกลิ่วลอยจนคล้อยหาย
พาเสน่หากระจ่างขึ้นพร่างพราย
โชนประกายโชติช่วงกลางห้วงมน

รื่นเพียงเสียงพากย์ย้ำแต่คำรัก
ดังจำหลักรอยถวิล..รานจินต์หม่น
เสน่หาอาวรณ์ก็ย้อนวน
แตะแต้มความมืดมนจนพร่างพราย

ครานั้น..แว่วสังคีตประณีตบท
กับท่วงพจน์ผ่านให้พร้อมนัยหมาย
ย่อมรับรู้อาลัยแห่งใจชาย
ด้วยถ้อยร่ายหวานล้ำที่พร่ำวอน

ชื่นไหนเลยเทียบได้กับนัยนั้น
จึงไหวสั่นใจอยู่ไม่รู้ถอน
สั่งสมแรงหวั่นไหวให้อาวรณ์
จนสุดผ่อนโซ่ขึงดังตรึงตรวน

ฤๅหวังผูกคล้องรัดเข้ามัดล่าม
พันพ่วงความแต่งแต้มรอยแย้มสรวล
ด้วยเลศนัยฝากพรมผ่านลมครวญ
เผยทั่วถ้วนแรงถวิลจากถิ่นมาน

โอ้หนอคำความกล่าวราวหมายว่า
จะผลาญพร่าใจมดด้วยรสหวาน
ด่ำดอมหอมหลั่งรินลืมสิ้นปราณ
เสพทราบมาลย์ซ่านฉมจนจมลง

เมื่ออาวรณ์ถวิลนั้นรินหลั่ง
คล้ายเกลียวคลื่นโถมถั่งสู่ฝั่ง, ส่ง-
แรงกระทบกระแทกซ้ำ..ก็ย้ำตรง-
เวียนเป็นวงระลอกคอยหยอกล้อ

จะหลีกหลบฤๅพ้น..กลับวนลิ้ม
มิรู้อิ่มรสหวานที่ผ่าน, ล่อ
ฤๅอาจรู้ ใยสานที่มานทอ
จะเพื่อรอเหยื่อหลง..แล้วปลงชนม์

ปลิดปลิวใจลอยคว้างออกห่างแล้ว
แต่ยินแว่วถ้อยปวงก็ร่วงหล่น
ราวผูกด้วยแรงถวิลเกินดิ้นรน
ยอมพลีร่างวางบนก้นบึ้งทรวง!


ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
03 พฤษภาคม 2010, 10:32:AM
สุภาพบุรุษทรชน
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 147
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 781


"ถ้อยคำ...คือน้ำเสียงของหัวใจ"


« ตอบ #1 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 10:32:AM »
ชุมชนชุมชน


อยู่ในห้วงแห่งจบสงบนิ่ง
อยู่ในสิ่งผิดหวังแต่ยังห่วง
อยู่ในความช้ำใจไปทั้งปวง
อยู่ในคำว่าลวงยังห่วงใย

ความอ่อนแอแช่อยู่ดูเอาเถิด
ตามันเปิดประตูผู้อาศัย
กว่ารับรู้เละเห็นความเป็นไป
น้ำใส-ใสก็ไหลรินจนชินชา

เป็นอารมณ์สั่งสมระทมทุกข์
เหมือนโดนปลุกให้ตื่นสะอื้นหา
ความรู้สึกนึกคิดสะกิดมา
พร้อมถ้อยคำที่สั่งลาเหมือนฆ่ากัน!

ยังอาลัยอาวรณ์ตอนต้องจาก
พูดลำบากว่าเจ็บเก็บมาฝัน
ฝันถึงโลกสีทองเป็นของวัน
ฝันถึงฉันและเธอหลงเพ้อคอย.

....................................

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"รักษาตัวไม่เท่าไหร่..รักษาใจไม่ได้เลย"
03 พฤษภาคม 2010, 10:55:AM
plyfha
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 36
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 95



« ตอบ #2 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 10:55:AM »
ชุมชนชุมชน

เสน่หาอาวรณ์ในตอนเช้า
หัวใจเหงา ฝากไป ไม่ผกผัน
ฝากคิดถึง คำซึ้ง ไปถึงกัน
จนตะวัน ลาลับไป ไม่มีรอ

ความรัก ความคิดถึง ความห่วงใย
จากคนไกล ฝากมา หาไหมหนอ
สานรักมั่น ห่วงใยกัน ไม่เคยพอ
มาเคล้าคลอ เอ่ยคำ ก่อนอำลา

ลมลาล่วง ลับเลย เฉลยถ้อย
ลมเชยชิด จิตร้อย อาวรณ์หา
ลมรักเอ๋ย เลยผ่านกาลเวลา
ลมพัดพา เสน่หา มาอยู่เคียง

]
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมทุกบทกลอนของปลายฟ้าค่ะ
03 พฤษภาคม 2010, 11:36:AM
พิมพร
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 92



« ตอบ #3 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 11:36:AM »
ชุมชนชุมชน





เสน่หาอาวรณ์ที่ร้อนรุ่ม
อัคคีสุมแน่นในหัวใจหวัง
ร้อยเรียงพจน์หยดย้อยคอยประดัง
ที่ไหลหลั่งพรมใจจนไหวเอน

กระซิบคำย้ำรักปักใจมั่น
ผ่านคืนวันอันหนาวดุจร้าวเข่น
เจ็บทุกคราถ้าไกลใจเคยเย็น
กลับรุมเล่นเข่นใจให้อาวรณ์

มีเพลงรักกล่อมจินต์คอยรินรด
หวานหยาดหยดสดใสมิถ่ายถอน
จากพูดจาพาใจใฝ่อาทร
ทุกหนาวร้อนอ้อนกันทุกวันไป

ผ่านคืนวันผันเปลี่ยนรู้เรียนรู้
ให้หยุดอยู่แค่นั้นอย่าหวั่นไหว
ถ้อยหวานล้ำนำสรรกำนัลใจ
อย่าปล่อยให้ไหวอ่อน....อาวรณ์เลย...
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 พฤษภาคม 2010, 03:23:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 03:23:PM »
ชุมชนชุมชน


อยู่ในห้วงแห่งจบสงบนิ่ง
อยู่ในสิ่งผิดหวังแต่ยังห่วง
อยู่ในความช้ำใจไปทั้งปวง
อยู่ในคำว่าลวงยังห่วงใย

ความอ่อนแอแช่อยู่ดูเอาเถิด
ตามันเปิดประตูผู้อาศัย
กว่ารับรู้เละเห็นความเป็นไป
น้ำใส-ใสก็ไหลรินจนชินชา

เป็นอารมณ์สั่งสมระทมทุกข์
เหมือนโดนปลุกให้ตื่นสะอื้นหา
ความรู้สึกนึกคิดสะกิดมา
พร้อมถ้อยคำที่สั่งลาเหมือนฆ่ากัน!

ยังอาลัยอาวรณ์ตอนต้องจาก
พูดลำบากว่าเจ็บเก็บมาฝัน
ฝันถึงโลกสีทองเป็นของวัน
ฝันถึงฉันและเธอหลงเพ้อคอย.
....................................



เพียงคิดถึงตรึงทรวงเป็นบ่วงคล้อง
ก็ร่ำร้องคร่ำครวญหวนละห้อย-
ด้วยแรงรัดมัดมั่นนั้นย้ำรอย-
แล้วค่อยค่อยบาดซ้ำกระหน่ำใจ

ถ้าหากลืมเลือนได้คงไม่เจ็บ
แต่กลับเก็บเถือเชือดให้เลือดไหล
ด้วยคมรักคมหวงห่วงอาลัย
ที่เผาไหม้โชนเชื้อลามเนื้อทรวง

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
03 พฤษภาคม 2010, 05:17:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #5 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 05:17:PM »
ชุมชนชุมชน



อันรสรักปักทรวงดั่งบ่วงบาศก์
พิศวาสราดรดหยดระเหย
ช่างชื่นฉ่ำด่ำดวงห่วงกอดเกย
พิรุณเอยเชยชื่นระรื่นมาน

เสน่หายาใจให้ทอดถอน
แสนอาวรณ์พิณเสกวิเวกหวาน
บรรเลงกล่อมรอมลิบทิพย์พิมาน
สั่นสะท้านธารระทวยด้วยแรงลม

โอ้ อกเอ๋ยเชยชมภิรมย์เจ้า
ต่างรุกเร้าโรมรันดั่งจันทร์ข่ม
พิศวาสโจมจู่ราหูอม
วิมานล่มเผดียงถ้ำถูกทำลาย

ดั่งฟ้าฟาดประกาศก้องร้องสำทับ
ต้องระงับดับจิตพิชิตหมาย
โดนรังแกแพ้ยับสุดอับอาย
ถูกมารร้ายยื้อยุดฉุดดวงมาลย์

ถอนสะอื้นกลืนกล้ำระกำรด
ทุกหยาดหยดหมดสิ้นดั่งดินด้าน
แตกระแหงแล้งไรที่ใดปาน
ต้องซมซานซ่านมาสุดอาวรณ์

 ขอจีบ...ได้ป่ะ

“ปรางค์  สามยอด”


ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

03 พฤษภาคม 2010, 05:50:PM
nangfamusic
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 40
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 248



« ตอบ #6 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 05:50:PM »
ชุมชนชุมชน

หลงในบ่วง... ลวงเล่ห์เสน่หา
ปริ่มฤทา...พาเคลิ้มต่อเติมฝัน
ยามระลึก...นึกภาพดั่งอาบจันทร์
เสกสีสัน..ปั้นรักจักตราตรึง..

สุดอาวรณ์...ตอนพรากจากกันเสี้ยว
เพียงยามเดียว...เปลี่ยวเปล่าคราวฝันถึง
สุดอาลัย...ใฝ่หาพาคนึง
แสนซาบซึ้งถึงกมลก้นหัวใจ

มองละห้อยคล้อยตามยามเดินลับ
ใจแทบดับแดดิ้น...สิ้นตักษัย
เหมือนถูกปลิด...สะกิดเนื้อมิเหลือใจ
เหลือทิ้งไว้ฤทัยร้าง...ห่างคนจร

"นางฟ้ามิวสิค"

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอฝากตัวฝากใจไว้ตรงนี้
เป็นมุมที่พักใจในยามเหงา
เป็นมุมหนึ่งของใจที่ไร้เงา
ของคนเศร้าคนหนึ่งฝากถึงเธอ
      "นางฟ้ามิวสิค"
03 พฤษภาคม 2010, 08:28:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 08:28:PM »
ชุมชนชุมชน

เสน่หาอาวรณ์ในตอนเช้า
หัวใจเหงา ฝากไป ไม่ผกผัน
ฝากคิดถึง คำซึ้ง ไปถึงกัน
จนตะวัน ลาลับไป ไม่มีรอ

ความรัก ความคิดถึง ความห่วงใย
จากคนไกล ฝากมา หาไหมหนอ
สานรักมั่น ห่วงใยกัน ไม่เคยพอ
มาเคล้าคลอ เอ่ยคำ ก่อนอำลา

ลมลาล่วง ลับเลย เฉลยถ้อย
ลมเชยชิด จิตร้อย อาวรณ์หา
ลมรักเอ๋ย เลยผ่านกาลเวลา
ลมพัดพา เสน่หา มาอยู่เคียง

]



เมื่ออาลัยไหลหลากจนกรากเชี่ยว
ด้วยนัยเดียวหมายฝากก็ยากเลี่ยง
แม้ว่าอยากหลบเร้นกลับเอนเอียง
ยินแต่เสียงสั่งใจมอบให้กัน

เหลือแต่รอภพชาติมาพาดช่วง
ให้หัวใจสองดวงได้พ่วงขวัญ
เพื่อบอกโลกรับรู้คู่ชีวัน
ครองนิรันดร์ดังถวิลจินตนา

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
03 พฤษภาคม 2010, 09:03:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 09:03:PM »
ชุมชนชุมชน





เสน่หาอาวรณ์ที่ร้อนรุ่ม
อัคคีสุมแน่นในหัวใจหวัง
ร้อยเรียงพจน์หยดย้อยคอยประดัง
ที่ไหลหลั่งพรมใจจนไหวเอน

กระซิบคำย้ำรักปักใจมั่น
ผ่านคืนวันอันหนาวดุจร้าวเข่น
เจ็บทุกคราถ้าไกลใจเคยเย็น
กลับรุมเล่นเข่นใจให้อาวรณ์

มีเพลงรักกล่อมจินต์คอยรินรด
หวานหยาดหยดสดใสมิถ่ายถอน
จากพูดจาพาใจใฝ่อาทร
จึงปูทางทุกหนาวร้อนอ้อนกันทุกวันไป

ผ่านคืนวันผันเปลี่ยนรู้เรียนรู้
ให้หยุดอยู่แค่นั้นอย่าหวั่นไหว
ถ้อยหวานล้ำนำสรรกำนัลใจ
อย่าปล่อยให้ไหวอ่อน....อาวรณ์เลย...

ถ้อยลำนำคำหวานที่ผ่านฝาก
นั้นแสนยากปัดพ้น..คำคนเผย
ทุกถ้อยล้วนครวญหาเหมือนว่าเคย
ทุกคำเปรยคล้ายว่ายินมานาน

ฤๅบุพเพเบื้องบรรพ์สวรรค์สร้าง
จึงปูทางให้ลิ้มชิมความหวาน
เหมือนผึ้งภู่เวียนวนบนสุมาลย์
ที่แย้มบานรื่นหอมล้อมถิ่นอวล

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
03 พฤษภาคม 2010, 10:55:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 10:55:PM »
ชุมชนชุมชน



อันรสรักปักทรวงดั่งบ่วงบาศก์
พิศวาสราดรดหยดระเหย
ช่างชื่นฉ่ำด่ำดวงห่วงกอดเกย
พิรุณเอยเชยชื่นระรื่นมาน

เสน่หายาใจให้ทอดถอน
แสนอาวรณ์พิณเสกวิเวกหวาน
บรรเลงกล่อมรอมลิบทิพย์พิมาน
สั่นสะท้านธารระทวยด้วยแรงลม

โอ้ อกเอ๋ยเชยชมภิรมย์เจ้า
ต่างรุกเร้าโรมรันดั่งจันทร์ข่ม
พิศวาสโจมจู่ราหูอม
วิมานล่มเผดียงถ้ำถูกทำลาย

ดั่งฟ้าฟาดประกาศก้องร้องสำทับ
ต้องระงับดับจิตพิชิตหมาย
โดนรังแกแพ้ยับสุดอับอาย
ถูกมารร้ายยื้อยุดฉุดดวงมาลย์

ถอนสะอื้นกลืนกล้ำระกำรด
ทุกหยาดหยดหมดสิ้นดั่งดินด้าน
แตกระแหงแล้งไรที่ใดปาน
ต้องซมซานซ่านมาสุดอาวรณ์

 ขอจีบ...ได้ป่ะ

“ปรางค์  สามยอด”





เมื่อไหวหวั่นผันด้านที่หวานล้อ
พาทย์พิณคลอดังแว่วโหยแผ่วอ่อน
ประณีตรสบทร้อยตรารอยย้อน
หรือปางก่อนเลื่อนช่วงมาพ่วงพัน

ฤๅอาจต้านอาลัยให้ผ่านพ้น
เมื่อทั้งทรวงร่วงหล่นอยู่บนฝัน
คล้ายเรื่อรุ้งเลื่อมพรายแห่งปลายวัน
แต้มสีสันงดงามล่วงลามจินต์

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
04 พฤษภาคม 2010, 04:44:AM
peerapon
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 56



« ตอบ #10 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2010, 04:44:AM »
ชุมชนชุมชน

เกิดเสน่ห์ แสนสนิท พิศวาท
ทุกเยื้องยาตร  ยังโลม โหมถวิล
รัดรึงเร้า รอยโศก วิโยคจินต์
ยังรวยริน เรื่อยเรื่อย มิเฉื่อยชา

หวังหนอหวัง  พร่างพรม จากลมหวาน
มาประสาน  หัวใจ  ที่ใฝ่หา
พรมน้ำเย็น ยืนแห้ง  ที่แล้งมา
ชุบชีวา  อีกหน  ของคนคอย

ชื่นฉ่ำไหน เท่าคำ  ชื่นฉ่ำรัก
คอยปกปัก หวานล้ำ เกินคำถ้อย
เนาว์แนบชิด สนิทเตือน  มิเลื่นลอย
เคียงข้างคอย  พิศวาท  มิขาดลา 

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
04 พฤษภาคม 2010, 08:30:AM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2010, 08:30:AM »
ชุมชนชุมชน

หลงในบ่วง... ลวงเล่ห์เสน่หา
ปริ่มฤทา...พาเคลิ้มต่อเติมฝัน
ยามระลึก...นึกภาพดั่งอาบจันทร์
เสกสีสัน..ปั้นรักจักตราตรึง..

สุดอาวรณ์...ตอนพรากจากกันเสี้ยว
เพียงยามเดียว...เปลี่ยวเปล่าคราวฝันถึง
สุดอาลัย...ใฝ่หาพาคนึง
แสนซาบซึ้งถึงกมลก้นหัวใจ

มองละห้อยคล้อยตามยามเดินลับ
ใจแทบดับแดดิ้น...สิ้นตักษัย
เหมือนถูกปลิด...สะกิดเนื้อมิเหลือใจ
เหลือทิ้งไว้ฤทัยร้าง...ห่างคนจร

"นางฟ้ามิวสิค"



เหมือนติดบ่วงพ่วงคล้องจำจองไว้
ด้วยเยื่อใยล่ามรัดไม่ผัดผ่อน
สุมสั่งไฟโชนคุระอุร้อน
ทับถมซ้อนซ่อนปม แทบล่มทรวง

อยากถามฟ้าหล้าธารผ่านสามภพ
ไยเมื่อสบรอยกาลกลับผ่านล่วง
สัมผัสงามเลอค่ากว่าใดปวง
เหมือนสร้างบ่วงผูกพันธ์แล้วบั่นทิ้ง

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
04 พฤษภาคม 2010, 06:13:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2010, 06:13:PM »
ชุมชนชุมชน

เกิดเสน่ห์ แสนสนิท พิศวาท
ทุกเยื้องยาตร  ยังโลม โหมถวิล
รัดรึงเร้า รอยโศก วิโยคจินต์
ยังรวยริน เรื่อยเรื่อย มิเฉื่อยชา

หวังหนอหวัง  พร่างพรม จากลมหวาน
มาประสาน  หัวใจ  ที่ใฝ่หา
พรมน้ำเย็น ยืนแห้ง  ที่แล้งมา
ชุบชีวา  อีกหน  ของคนคอย

ชื่นฉ่ำไหน เท่าคำ  ชื่นฉ่ำรัก
คอยปกปัก หวานล้ำ เกินคำถ้อย
เนาว์แนบชิด สนิทเตือน  มิเลื่นลอย
เคียงข้างคอย  พิศวาท  มิขาดลา 



หวังสายลมพรมโบกคลายโศกเศร้า
พรากเงียบเหงาจากใจผู้ใฝ่หา
แช่มชื่นเย็นอาบทรวงไม่ล่วงลา
ดังสายฝนพรมหล้าชุ่มอารมณ์

ปลิดปลิวใจลอยไกลฝากไปถึง
ปนหอมซึ้งสุมาลย์กลิ่นซ่านฉม
แม้ไกลห่างต่างฟ้า..เมื่อคราตรม
วานสายลมพรมปลอบรายรอบทรวง

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
05 พฤษภาคม 2010, 10:25:PM
BuaJantra
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 16
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 117



« ตอบ #13 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2010, 10:25:PM »
ชุมชนชุมชน

กาลเวลา ล่วงเลย ล่วงเลยผ่าน
กลายวันวาน วานล่อง ตามกาลผัน
ห้วงอารมณ์ ตัวตนยลคำมั่น
ปริ่มรักปักสวรรค์ ซับรอยจำ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤษภาคม 2010, 11:58:AM
Red Poet
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 38
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 98


แต่งตามฉันทลักษณ์ ถูกหลักภาษา


« ตอบ #14 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2010, 11:58:AM »
ชุมชนชุมชน

ปลิดปลิวใจลอยคว้างกลางลมโบก
พรากดอกโศกลิ่วลอยจนคล้อยหาย
พาเสน่หากระจ่างขึ้นพร่างพราย
โชนประกายโชติช่วงกลางห้วงมน

รื่นเพียงเสียงพากย์ย้ำแต่คำรัก
ดังจำหลักรอยถวิล..รานจินต์หม่น
เสน่หาอาวรณ์ก็ย้อนวน
แตะแต้มความมืดมนจนพร่างพราย

ครานั้น..แว่วสังคีตประณีตบท
กับท่วงพจน์ผ่านให้พร้อมนัยหมาย
ย่อมรับรู้อาลัยแห่งใจชาย
ด้วยถ้อยร่ายหวานล้ำที่พร่ำวอน

ชื่นไหนเลยเทียบได้กับนัยนั้น
จึงไหวสั่นใจอยู่ไม่รู้ถอน
สั่งสมแรงหวั่นไหวให้อาวรณ์
จนสุดผ่อนโซ่ขึงดังตรึงตรวน

ฤๅหวังผูกคล้องรัดเข้ามัดล่าม
พันพ่วงความแต่งแต้มรอยแย้มสรวล
ด้วยเลศนัยฝากพรมผ่านลมครวญ
เผยทั่วถ้วนแรงถวิลจากถิ่นมาน

โอ้หนอคำความกล่าวราวหมายว่า
จะผลาญพร่าใจมดด้วยรสหวาน
ด่ำดอมหอมหลั่งรินลืมสิ้นปราณ
เสพทราบมาลย์ซ่านฉมจนจมลง

เมื่ออาวรณ์ถวิลนั้นรินหลั่ง
คล้ายเกลียวคลื่นโถมถั่งสู่ฝั่ง, ส่ง-
แรงกระทบกระแทกซ้ำ..ก็ย้ำตรง-
เวียนเป็นวงระลอกคอยหยอกล้อ

จะหลีกหลบฤๅพ้น..กลับวนลิ้ม
มิรู้อิ่มรสหวานที่ผ่าน, ล่อ
ฤๅอาจรู้ ใยสานที่มานทอ
จะเพื่อรอเหยื่อหลง..แล้วปลงชนม์

ปลิดปลิวใจลอยคว้างออกห่างแล้ว
แต่ยินแว่วถ้อยปวงก็ร่วงหล่น
ราวผูกด้วยแรงถวิลเกินดิ้นรน
ยอมพลีร่างวางบนก้นบึ้งทรวง

* * * ~ ~ ~ * * * ~ ~ ~ * * * ~ ~ ~ * * * ~ ~ ~ * * *
เมื่ออาวรณ์ ร้อนใจ ด้วยนัยรัก
คงรู้จริง แจ้งประจักษ์ อันหนักหน่วง
จะหลีกหลบ ก็มิพ้น ดั่งกลลวง
ประหนึ่งบ่วง รัดรึง ตรึงชีวี

หรือว่างง หลงเล่ห์ สิเนหา
อั้นอุรา อัดล้น กมลพี่
สะท้อนหวาม ความหวาน ซ่านฤดี
จากวจี ที่เอ่ย เผยรำพัน

อยากสลัด ปัดจิต คิดถอดถอน
แต่อาวรณ์ กลับฉุด ให้หยุดมั่น
เหลือจะขืน ฝืนรั้ง ยั้งไม่ทัน
ดอกรักนั้น กลายเป็นโศก วิโยคใจ
   

 
น้อยใจแล้วด้วย น้อยใจแล้วด้วย น้อยใจแล้วด้วย น้อยใจแล้วด้วย น้อยใจแล้วด้วย

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

นักเลงกลอน นอนกรน
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s