~*~ สายกาล ~*~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
30 เมษายน 2024, 08:44:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~*~ สายกาล ~*~  (อ่าน 7547 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
26 เมษายน 2010, 03:44:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« เมื่อ: 26 เมษายน 2010, 03:44:PM »
ชุมชนชุมชน

พลิ้วร่อนร่วงควงคว้างออกห่างต้น
คือสีหม่นตาลไหม้ของใบหมอง
เคยระบัดริ้วเขียวยามเหลียวมอง
ต่อนี้ล่องลมไล้ลอยไกลลับ

แดดเมษาผ่าวร้อนไม่ผ่อนแล้ง
ผืนดินแห้งธารเหือดแทบเดือดดับ
พรายแสงวันสั่นระยิบอยู่วิบวับ
ราวระยับเพลิงคุระอุอวล

หางนกยูงยืนต้นอย่างหม่นเศร้า
กิ่งก้านเปล่าระกะระลมหวน
ตุ่มตาดอกแตกแต้มก่อนแย้ม,ยวน
เผยงามล้วนสล้างกลางลมไกว

เจ้าผลิบานอวดช่อล้อแดดร้อน
กลีบบางอ่อน เรื่อแดง ยังแกว่งไหว
สูรย์เมษาส่องสาดดาดผ่าว,ไอ
โลมดอกไม้เร่งเร้าเจ้าโรยรา

ค่อยค่อยรานร่วงพรากจากช่วงช่อ
เผยงามพอชมชื่นแล้วคืนค่า
คือรอยกาลผ่านพ้นจนชินชา
ผันวนเปลี่ยนเวียนมาแล้วลาไป

กี่ฤดูกี่เดือนที่เคลื่อนคล้อย
ฝากร่องรอยบางบทที่สดใส
ฝากร่องรอยบางคราวที่ร้าวใจ
มอบหวานไหว..แข็งกร้าว..กี่คราวครั้ง

คือเริ่มต้นเติมต่อจากก่อเกิด
ค่อยค่อยเปิดเผยงามและความหวัง
ค่อยถักสานสายใยสู่ใจดัง
สุมาลย์ครั้งแตกช่อรอแย้มบาน

งามอยู่กลางวุ่นวนบนรอยย่าง
ความบอบบางความงามความอ่อนหวาน
อาจพาเจ้าหลุดหลงสู่ดงมาร
และแหลกลาญย่อยยับเกินกลับย้อน

หากเป็นไปตามกาลจนรานร่วง
ผ่านโชนช่วงแสงฝันแห่งวันก่อน
ยามกาลล่วงสุดหมายแห่งปลายจร
ย่อมอาวรณ์อาลัยเคยใยดี

ฤาอาจฝืนยืนยงให้คงอยู่
คืองามตรูแปรเปลี่ยนเวียนจากที่
ดังกลิ่นหอมพร้อมหวานสุมาลย์มี
ย่อมเรื่อยรี้ลับหาย ตาม..สายกาล
ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
26 เมษายน 2010, 04:42:PM
plyfha
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 36
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 95



« ตอบ #1 เมื่อ: 26 เมษายน 2010, 04:42:PM »
ชุมชนชุมชน


ดอกไม้งาม ท่ามกลางสายลมร้อน
หมู่ภมร ร่อนมา พาสงสาร
บินเสาะหา ร่มเงา มองสายธาร
หาน้ำหวาน กลับไป ใจระรวย

ฟ้ากระจ่าง พร่างตา ท้าลมฝน
หมู่ภมร บินวน บนไม้สวย
มองผีเสื้อ บินร่อน อ่อนระทวย
ดอกไม้สวย สีขาว พราวพร่างตา

เมฆสีหม่น ยามสาย มาบ่ายค่ำ
ไม่ชอกช้ำ ย้ำให้ ยังใฝ่หา
หมู่ผีเสื้อ บินวนเวียน เพียรผ่านมา
แดดส่องฟ้า สว่างใส ดอกไม้งาม
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมทุกบทกลอนของปลายฟ้าค่ะ
26 เมษายน 2010, 08:18:PM
สายลมสีขาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 261
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 823


จงพัดพา ความเป็นไปได้


« ตอบ #2 เมื่อ: 26 เมษายน 2010, 08:18:PM »
ชุมชนชุมชน

ตะวันแย้ม กลีบฟ้า งามสีสัน
อัศจรรย์ สุรีย์ ส่องไสว
เมื่อนภา กลายเป็น ขั้นบันได
กลับเรียงชั้น สีไล่ เป็นรุ้งทอ

ส่องประกาย หลายสี นภาฝัน
เหล่าเครือวัลย์ ต่างพา กันเกี่ยวขอ
แม้บุพผา ยังแย้ม ผลิบานรอ
วิหคต่าง ขับคลอ เสียงดนตรี

สายลมพลิ้ว ลิ่วลู่ สู่ทุ่งกว้าง
ภมรย่าง สู่ผกา ตามดิถี
มัจฉาว่าย แหวกผ่าน ม่านวารี
อุบลงาม ต่างคลี่ กลีบดอกพลัน

ดั่งท้องฟ้า บรรจง ระบายวาด
เดียรดาษ ด้วยมนตร์ กลสีสัน
นี่แหละหนา ธรรมชาติ อัศจรรย์
ที่คงมั่น อยู่ตลอด กับสายกาล
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 เมษายน 2010, 09:18:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 27 เมษายน 2010, 09:18:PM »
ชุมชนชุมชน


กระแสกาล ต่อ เติม เสริมสร้างค่า
แล้วก็พาลบเลือนเมื่อเคลื่อนผ่าน
ไม่ยืนยงคงอยู่ให้ดูนาน
แม้สังขารยังพรากลาจากลับ

ได้หลงชื่นชั่วครั้งหวังชั่วครู่
ได้เรียนรู้สุขเศร้าเคล้าสลับ
มีเหตุการณ์ผ่านมาเกินกว่านับ
กี่ย่อยยับ กี่ยิ้ม อิ่มอุ่นใจ

เป็นโชคดีใช่ไหม..ที่ได้พราก
ที่ได้จากก่อนลับ ก่อนดับขัย
เพื่อเตรียมตัวจบกันวันร้างไกล
เพื่อหมดสิ้นเยื่อใยไปนิรันดร์

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
27 เมษายน 2010, 09:32:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,699


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 27 เมษายน 2010, 09:32:PM »
ชุมชนชุมชน


ชีพอาจสิ้น เมื่อดินทบ ลงกลบหน้า
มิรู้ว่า ฝ่านรก วกสวรรค์
แต่สองใจ ได้หวาน ชั่ววารวัน
อาจสัมพันธ์ หลายภพ ยากลบเลือน


ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
27 เมษายน 2010, 10:50:PM
peerapon
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 56



« ตอบ #5 เมื่อ: 27 เมษายน 2010, 10:50:PM »
ชุมชนชุมชน

หากจะเปรียบ เทียบไป ในชีวิต
มิเพี้ยนผิด ผันไป ในความเหมือน
ปรับแปรเปลี่ยน เวียนคล้อย เริ่มลอยเลือน
เป็นข้อเตือน  สำหรับ  ไว้ปรับตัว

เมื่อเริ่มต้น    เตาะแตะ เบาะแบะท่า
สว่างจ้า       เต่งตึง   หึงหอมทั่ว
เมื่อเนิ่นนาน   โตงเตง  เริ่มเกรงกลัว
รูปนามรั่ว      ต้องตาย คืนสายธรรม
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 พฤษภาคม 2010, 10:56:AM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 10:56:AM »
ชุมชนชุมชน


ชีพอาจสิ้น เมื่อดินทบ ลงกลบหน้า
มิรู้ว่า ฝ่านรก วกสวรรค์
แต่สองใจ ได้หวาน ชั่ววารวัน
อาจสัมพันธ์ หลายภพ ยากลบเลือน



เพียงภพเดียวเกี่ยวฝันก็พลันพราก
ต้องจำจาก เจ็บจบ คอยกลบเกลื่อน-
ความปวดร้าวคราวใจใครบิดเบือน
ยังย้ำเตือนตราอยู่ให้รู้จำ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
04 พฤษภาคม 2010, 09:44:PM
ศรีอุดร
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 137


...คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก...


« ตอบ #7 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2010, 09:44:PM »
ชุมชนชุมชน

สายกาล สายธรรม สายน้ำไหล
สายใย สายห่วง สายดวงจิต
สายชั่ว สายดี สายชีวิต
สายคิด สายขั้น สายปัญญา

สายบุญ สายบรรลุ สายกุศล
สายบน สายล่าง สายกังขา
สายจริง สายเท็จ สายเมตตา
สายกล้า สายรอ สายท้อแท้

สายรัก สายเพียร สายเรียนรู้
สายสู้ สายเดิน สายเกินแก้
สายโศก สายทุกข์ สายสุขแล
สายแพ้ สายชนะ สายละอาย

สายใด สายโพ้น สายโน้นนี่
สายนั่น สายไหนดี มีความหมาย
เสียแต่...ถ้าไม่เลือก สักเชือกลาย
ชีวิต คงสาย เสียดายเกิน....
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ.........ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก...............จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย -สุนทรภู่
04 พฤษภาคม 2010, 09:57:PM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #8 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2010, 09:57:PM »
ชุมชนชุมชน





]อยู่ที่นี่ปรับแต่งแฝงชีวิต
ดีกวาคิดโลดโผนผจญนั่น
จะย่ำแย่แม้กายเช่นไม้พันธ์
อาจแปรผันเปลี่ยนเป็นไม่เช่นเดิม

ดอกไมตรีเร่งน้ำคอยเติมปุ๋ย
เพียรขุดคุ้ยเถิดเจ้าเฝ้าส่งเสริม
เมื่อแตกกิ่งจึงแต่งงามตามเพิ่มเติม
แล้วค่อยเริ่มปลูกใหม่เช่นใจจง[
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s