"...เดินทาง..."
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 พฤษภาคม 2024, 03:28:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "...เดินทาง..."  (อ่าน 5473 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
09 ตุลาคม 2011, 03:01:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« เมื่อ: 09 ตุลาคม 2011, 03:01:PM »
ชุมชนชุมชน




เดินทาง
...............

รู้สึกชื้นที่ตาเมื่อมาส่ง
ส่วนแม่คงนั่งรอพ่อกลับบ้าน
ความอาลัยห่างเหินเกินประมาณ
นั่นคือการพลัดพราก, จากครอบครัว

พอรถออกจากหน้าสถานี
ทุกอย่างที่พบเห็นเป็นไปทั่ว
เห็นเด็กน้อยคอยนั่งอยู่หลังวัว
เห็นโลกที่น่ากลัว, จากตัวเรา

…………......

อยู่ในที่กว้างใหญ่อย่างไร้เพื่อน
อาศัยเดือนส่องสว่างเป็นทางเท้า
สะพายเป้ที่หลังแต่ยังเยาว์
กลางคืนกล่อมกลางวันเหงา, เศร้าเหลือเกิน

ยังมีอีกไม่น้อยคอยโอกาส
เหมือนคลื่นที่ซัดสาดความขาดเขิน
เป็นสิ่งที่ชี้นำการดำเนิน
ให้เผชิญต่อโลก, โชคชะตา

……………..

แต่ละหยดรดอาบคราบความหวัง
ถึงอีกฝั่งไม่หยุดไปสุดหล้า
บานประตูบานเก่าสีเทาทา
ใกล้จะได้หลังคา, เอามามุง

อวลกลิ่นอายยิ้มแย้มภาพแจ่มชัด
ความหมายพัดพาฝันของวันพรุ่ง
จากขายแรงฝันเฟื่องอยู่เมืองกรุง
เก็บข้าวของใส่ถุง, มุ่งกลับบ้าน

………………

เช้าวันหนึ่งเบื้องบนดูหม่นพร่า
หยิบจดหมายสีฟ้าขึ้นมาอ่าน
บ้านของเรามันล่มจมบาดาล
กล้าที่หว่านพาลหมด, แทบอดตาย

จากทุกสิ่งหลายเรื่องก็เปลืองเปล่า
คำบอกเล่าของแม่แค่มาสาย
สิ้นวิญญาณของพ่อรอทักทาย
เมื่อความหวังสุดท้าย, ได้หายไป!

………………

 น้อยใจแล้วด้วย
๙/๑๐/๕๔

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, amika29, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, --ณัชชา--, บ้านริมโขง, พิมพ์วาส, rit sriduang, Music, ดาว อาชาไนย, คนกันเอง.., เมฆา..., พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 ตุลาคม 2011, 06:13:PM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2011, 06:13:PM »
ชุมชนชุมชน



โลกมนุษย์ สุดคิด ปริศนา 
เมื่ิอผู้มา ลาไกล  ทำใจหาย
ดูนอกสุข ทุกข์ใน ฤทัยกาย
ก็มิวาย หมายปลอบ อุ่นครอบกาล...

รัตนาวดี
 ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : --ณัชชา--, ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, พิมพ์วาส, ภู กวินท์, Music, บ้านริมโขง, ดาว อาชาไนย, คนกันเอง.., เมฆา..., พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
10 ตุลาคม 2011, 01:02:AM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #2 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2011, 01:02:AM »
ชุมชนชุมชน



บ้าน

..............

อากาศเริ่มแปรปวนปั่นป่วนจิต
ท้องฟ้ามืดสนิทลุกปิดม่าน
แผ่นดินคล้ำน้ำหมองมองโรงงาน
หมดแรงต้านตั้งหลัก, ปักกำแพง

เสียงรถทัวร์เคลื่อนตัวอย่างช้าช้า
เห็นน้ำป่าไหลหลากมาจากแสง
เหมือนเลือดใครไหลปรี่มีสีแดง
สุดเรี่ยวแรงแฝงข้น, เริ่มหม่นมัว

ถ้าจะนับย้อนหลังเหมือนฟังว่า
หลายปีกว่าน้ำท่วมไม่ถึงหัว
แต่ปีนี้น้ำมากลำบากตัว
ซอกซอนทั่วไปหมด, ไร้กฎเกณฑ์

…………..

ฝนยังไม่โรยราจากฟ้าเก่า
บทสวดเศร้าเฝ้ารับเหมือนขับเน้น
ธูปหนึ่งดอกบอกนำสิ้นกรรมเวร
ลูกบวชเณรหน้าไฟ, อาลัยนัก

พร้อมจุดเทียนวางลงตรงกระถาง
ภาพทุกอย่างผ่านมาพาตระหนัก
ลูกอยากบอกความจริงพ่อยิ่งนัก
ว่าลูกรักยังอยู่, เพื่อดูแล

……….......

เราสูญเสียมากมายเมื่อบ่ายนี้
แต่เรามีชีวิตไม่ผิดแน่
วิญญาณพ่อสั่งสอนไม่อ่อนแอ
กับคำพูดของแม่, อย่าแพ้พ่าย

……………

น้ำในนาสีหม่นท่วมบนข้าว
ทุกรอยก้าวของพ่อต่อความหมาย
เก็บคันไถขึ้นมาจากความตาย
ตรงที่พ่อล้มหาย, อยู่ปลายนา

เก็บความหวังฝังลงตรงที่เก่า
ลบความเศร้าเฝ้าทนสู่ตนกล้า
เพียงหัวใจไม่ห่างสร้างศรัทธา
ลูกชาวนาไม่หยุด, สู้สุดแรง!

……………

 เคารพรัก
๑๐/๑๐/๕๔

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, Music, --ณัชชา--, บ้านริมโขง, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ดาว อาชาไนย, คนกันเอง.., เมฆา..., พี.พูนสุข, พิมพ์วาส

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 ตุลาคม 2011, 04:06:AM
--ณัชชา--
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2081
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,304


เวลาเปลี่ยนไปใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง


pim
« ตอบ #3 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2011, 04:06:AM »
ชุมชนชุมชน

ใช้เรื่องราวในอดีตชีวิตเศร้า
มาปลุกเล้ากายใจให้เข้มแข็ง
ยึดมันเป็นบทเรียนเพื่อเปลี่ยนแปลง
เราต้องแข่งกับชะตาต้องฝ่าไป

โรงงานเจ้งหายลับก็กลับบ้าน
กลับไปมุ่งทำงานเพื่อหว่านไถ
นามันล่มที่เห็นไม่เป็นไร
ฟื้นขึ้นใหม่วิญญานพ่อท่านรอดู

natcha

 ไฮปาร์ค...ย๊าก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านริมโขง, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥, ดาว อาชาไนย, คนกันเอง.., เมฆา..., พี.พูนสุข, พิมพ์วาส, Music

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 ตุลาคม 2011, 03:44:PM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2011, 03:44:PM »
ชุมชนชุมชน

                           





















































                     


กราบแม่ ... ที่บ้านนา

ณ ป่านนี้บ้านเราที่เนินเขา
คนเงียบเหงาเงียบงันเศร้าหนักหนา
แม่คงรอลูกสาวดาวกลับนา
ที่จากมาเนิ่นนานเป็นแรมปี

ส่งมาเรียนเขียนอ่านในเมืองหลวง
ลงกลล่วงโง่งมจมแสงสี
ยืนรอแล้วรอเล่าไม่เห็นมี
ลูกคนนี้รู้ไหมมีใครรอ

คงชะเง้อเหม่อมองที่ท่ารถ
ในมือถือดอกไม้สดใจจดจ่อ
พวงมาลัยพวงกลมเพื่อไหว้พ่อ
อีกไม้ช่อชูไสวในสองมือ

จัดปิ่นโตโถใหญ่ใส่อาหาร
อีกข้าวสารข้าวสุกพานจับถือ
เพื่อทำบุณสุนทานการเลื่องลื่อ
วัดแถวบ้านลานเลื่องชื่อของชาวไพร

แม่คงเหนื่อยเมื่อยล้าเพื่อรอลูก
ข้าวที่ปลูกท้องนาน้ำพลัดไหล
น้ำเอ่อนองท่วมท้นล้นทรวงใน
แม่รอลูกกลับไปซับน้ำตา

ออกพรรษาปีที่แล้วมิแคล้วกลับ
เหมือนดาวเดือนเลื่อนลับพับเวหา
ลืมหนทางทางเดินจนคลาดคลา
ลืมสองหน้าพ่อแม่แลท้องลาน

มาปีนี้ลูกคนนี้จะหนีหาย
จากเมืองกรุงศิวิไลต์มุ่งกลับบ้าน
กลับไปซับน้ำตาคราแหลกร้าน
จากภัยผลาญธรรมชาติชั่วทำร้าย

ไปไหว้พ่อที่วัดเพื่อเคารพ
ลุกขึ้นยกสำหรับปรุงทำถวาย
น้ำข้าวสารอาหารอีกมากมาย
แม่เคยทำกับยายครั้งวัยเยาว์

วางสองมือมอบลงเพื่อก้มกราบ
แทนความฝันเฟื่องภาพอันโง่เขลา
ลูกจะไม่ไปไหนแล้วให้นานเนาว์
จะอยู่เย้าอยู่บ้านและเฝ้าเรือน

เอื้อนเอยร่ำคำขอโทษที่ไร้ค่า
ที่หลงเชื่อเรื่องบ้ามาเพื่อเพื่อน
จะทำนาอยู่กินถิ่นเคียงเดือน
พร้อมปริญญาย้ำเตือนเพื่อเลือนใจ

หทัยกาญจน์

 ซึ้งจัง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดาว อาชาไนย, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, ภู กวินท์, สุนันยา, พี.พูนสุข, เมฆา..., พิมพ์วาส, Music

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
10 ตุลาคม 2011, 09:11:PM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2011, 09:11:PM »
ชุมชนชุมชน



กราบแม่ ... ที่บ้านนา
ฉบับแก้ไข-สมบูรณ์


คิดถึงบ้านเหลือเกินที่เนินเขา
คงเงียบเหงาเช้าเย็นเป็นหนักหนา
แม่คงรอข่าวคราวดาวกลับนา
ที่จากมาเนิ่นนานเป็นแรมปี

ส่งมาเรียนเขียนอ่านในเมืองหลวง
หลงติดบ่วงโง่เขลาเฝ้าแสงสี
ยืนรอแล้วรอเล่าไม่เห็นมี
ลูกคนนี้รู้ไหมมีใครรอ

แม่ชะเง้อเหม่อลอยเหมือนคอยรถ
ในมือถือดอกไม้สดใจจดจ่อ
พวงมาลัยพวงกลมชื่นชมพอ
เก็บเอาไว้ไหว้พ่อ ช่อสองมือ

จัดปิ่นโตโถใหญ่ใส่อาหาร
ทั้งคาวหวานธูปเทียนเพียรยึดถือ
เพื่อทำบุณสุนทานการเลื่องลือ
ทั้งหมดคือการคิดอุทิศไป

แม่คงเหนื่อยเมื่อยล้าและว้าเหว่
เหมือนทะเลเข้าซัดพัดน้ำใส่
น้ำเอ่อนองท่วมท้นล้นทรวงใน
แม่รอลูกกลับไปซับน้ำตา

ออกพรรษาล่วงเลยไม่เคยกลับ
เหมือนดาวเดือนเลื่อนดับลับเวหา
ลืมถนนหนทางระหว่างนา
หรือลืมหน้าของแม่แก่มานาน

ปีนี้ลูกคนดีไม่หนีหาย
จากเมืองกรุงวุ่นวายได้กลับบ้าน
กลับไปซับน้ำตาคราแหลกลาญ
จากภัยผลาญธรรมชาติพินาศร้าย

ไปไหว้พ่อที่วัดเพื่อเคารพ
เตรียมมาครบข้าวพระ ยกถวาย
น้ำข้าวสารอาหารอีกมากมาย
แม่เคยทำกับยายครั้งวัยเยาว์

วางสองมือหมอบลงเพื่อก้มกราบ
แทนความฝันอันหยาบภาพโง่เขลา
ลูกจะไม่หวนกลับจับมัวเมา
จะคอยอยู่ บ้านเราและเฝ้าเรือน

เอื้อนเอ่ยคำขอโทษโปรดเห็นค่า
ที่หลงเหลือศรัทธามากลบเกลื่อน
จะทำนาปลูกข้าวกับดาวเดือน
พร้อมปริญญาฝาเรือน…เพื่อเตือนใจ


หทัยกาญจน์

 เธอนั่นแหละจ้ะ
ปล. ขอขอบคุณพี่ ทำ มะ ดา ที่ช่วยแก้ไขให้มีความไพเราะมากยิ่งขึ้นคะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ภู กวินท์, พี.พูนสุข, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s