~*~ สองฝั่งฟ้า ๒ ~*~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
01 มิถุนายน 2024, 10:11:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~*~ สองฝั่งฟ้า ๒ ~*~  (อ่าน 2754 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
05 พฤษภาคม 2010, 06:37:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2010, 06:37:PM »
ชุมชนชุมชน



เมื่ออาลัยอาวรณ์เผยตอนแล้ว
ฤๅจักแคล้วคลาดสิ้นถวิล, หวาน
โอ้อกใจใยหนอทรมาน
ดังปลิดปราณผลาญพร่าชีวาวาย

แว่วดนตรีบรรเลงเพลงแผ่วพลิ้ว
ก็คล้ายปลิดใจปลิวลิ่วลอยหาย
ท่วงทำนองอ้อนเอื้อนเหมือนบรรยาย-
บอกความหมายชายหนึ่งคำนึงครวญ

ช่างอ่อนหวานรินไหลไหวระรื่น
ปลุกเต้นตื่นอาวรณ์จนย้อนหวน
ผ่านสายลมคลอเคล้ามาเย้ายวน
ย้ำกำสรวลทรวงถวิล..จากถิ่นไกล

รับรู้ถ้วนปรารถนาในท่าที
ราววาดวีทรวงขวัญจนหวั่นไหว
รับรู้ความเสน่หาและอาลัย
ที่ลามไหลเอ่อท้นออกล้นทรวง

หรือหมายรั้งอีกทรวงให้พ่วงถึง
จึงโอนซึ้งซ่านอยู่อย่างรู้หวง
ทั้งถ้อยพากย์ฝากย้ำร่ายบำบวง
วอนถึงสรวง..ปวงนัยที่ใจปอง

ฤๅอาจห้ามอาวรณ์แสนอ่อนหวาน
รอแต่กาลเคลื่อนภพประสบ, สอง-
ดวงฤทัยล่วงล้ำได้จำจอง
ให้ผูกคล้องรัดล่ามเอาตามใจ

กี่วัฏฏะสงสารจะพานพบ
ได้ครันครบรูปนามตามสมัย
กี่คืนวันผันเปลี่ยนหมุนเวียนไป
จึงอาจพ่วงสายใยด้วยนัยเดียว

ต่างครวญคร่ำถ้อยขานผ่านผืนฟ้า
พรรณนา..ด้วยเศร้าปนเปล่าเปลี่ยว
นานเท่าไรรอยฝันได้พันเกลียว
เข้าโน้มเหนี่ยวผูกคล้องสองดวงมาน

ถวิลดั่งลอยคว้างกลางหาวห้วง
ยากเหนี่ยวหน่วงเลื่อนพ้องคล้องผสาน
อยู่แต่ปวด เปื้อนป่นจนแหลกลาญ
สูญสิ้นลับดับปราณเพียงผ่านคล้อย

ขอตั้งจิตพิษฐานผ่านร่ายพจน์
บริบทจำหลักอักษรสร้อย
กี่ภพชาติพลาดแล้วไม่แคล้วคอย
ขอสบรอยดังถวิลจินตนา

รอเพื่อถึงฝั่งฝันสิ้นคั่นเขต
รวมนิเวศน์ร่วมหน อยู่บนหล้า
หวังบุญเก่าเกื้อค้ำช่วยนำพา
สมดังความปรารถนา..ร่วมฟ้าเดียว!
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
05 พฤษภาคม 2010, 07:02:PM
จะไม่เด็ด
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 109
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 440



« ตอบ #1 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2010, 07:02:PM »
ชุมชนชุมชน



ช่างเหลือคำสาธยายรอบรายเขต
แม้นิเวศน์ยังห่างไกลสุดใจเฉลียว
พบคราหนึ่งยังซึ้งอยู่..แต่ผู้เดียว
ความกลมเกลียวส่งผ่าน..ม่านประเพณี

ที่ฝั่งฟ้าคราก่อนย้อนไปพบ
ได้ประสบเนื้อเย็นเป็นสักขี
ทอดสายตามาพบ...ก็สบฤดี
ใจเหลือที่..จะสเน่หามิลาเลือน..อิอิ

....แบบว่า...มาแจมอะ
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 พฤษภาคม 2010, 07:58:PM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #2 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2010, 07:58:PM »
ชุมชนชุมชน





โลกนี้กว้างทางไกลแม้ไหวหวั่น
ยากฝ่าฟันต่อไปเมื่อไร้เพื่อน
ในผิดถูกทุกสิ่งคอยติงเตือน
ฟ้าดาวเกลื่อนอาจเปลี่ยวและเดียวดาย

อันอารมณ์ข่มไว้ข้างในเถิด
เมื่อมันเกิดมาความดีนี้ห่างหาย
เอาเหตุผลค้นไขว่ไปทำลาย
ซุกซ่อยอายเพราะเสียใจทำไมกัน

เมื่อปัญหาเกิดมีแล้วหนีห่าง
ยังแต่สร้างเสริมส่งให้คงผัน
หากไม่แก้แพ้พ่ายเสียดายกัน
เจ็บนั้นพลันมากมายกลายทวี

ฟ้ากว้างไกลไยแคบแอบแอบคิด
เมื่อมีมิตรมากมายแล้วหน่ายหนี
ยิ้มรักนั้นมีค่าความปรานี
กว่าความดีเย้ยหยันนั้นเข้าใจ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s