Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 เมษายน 2024, 02:25:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย  (อ่าน 161472 ครั้ง)
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2013, 08:43:PM »

เปิดกระทู้นั่น กระทู้นี่ ไปเรื่อย แล้วก็มาเจอะอันเนี้ย

 หัวเราะเยาะ ขอแจมซะหน่อยนะครับ


"The Story of Sri-phreung"

(กลอนสุภาพ)
เมื่อครั้งยังเรียนขั้นชั้นมัธยม
ตัวกระผมชอบกลอนอักษรศิลป์
อีกกาพย์โคลงร่ายฉันท์ประพันธ์พิณ
อ่านแล้ว in จนถึงก้นบึ้งมาน

ครู "ศรีปราชญ์" นั้นหรือคือต้นแบบ
ว่างก็แอบลิลิตโคลงโยงถักสาน
ส่งให้สาวดาวห้องผ่องสะคราญ
แต่ถูกกานดาสลัดตัดเยื่อใย

(ฉบงง)
อกหนาวร้าวรวดปวดใจ           เยี่ยงนี้เรื่อยไป
สาวเกลียดหยามเหยียดคนกลอน

จำจากจำร้างลาจร                 ละทิ้งกลบวร
มุ่งวิทย์คณิตตามกระแส

(โคลงสี่สุภาพ)
ดวงแดจักชอกช้ำ              เพียงไร
มุเพื่ออรไท                     ไป่ท้อ
ปลุกปลอบพลังใจ              ผสานจิต
เลขเก่งสาวมิล้อ                แน่แท้...กรี๊ด! กระจาย

มิอายใครทั่วทั้ง                โรงเรียน
คณิตฟิสิกส์เซียน              แกว่นกล้า
สาวสาวแห่วนเวียน            รายรอบ
เอิบอิ่มทะลุฟ้า                 เนื่องรู้...พลังตน

(มาณวกฉันท์)
อันกิจะใด               ในปฐพี
แม้นวะฤดี               มั่นจะผจญ
ล้วนก็สำเร็จ            เสร็จดุจะมน
หากทมะทน             เพียรพยะยาม

ครั้นประลุล่วง           ช่วงปัจะฉิม   >> (ใกล้จบมัธยม)
เนื้อนุชนิ่ม               องคะวิราม
เธอก็เฉลย              เอ่ยพจะความ
ว่าบมิหยาม              กลอนกวิเรา

(รายสุภาพ)
ขมองอิ่มพริ้มเพรา                  ยุพเยาว์เจ้าแถลง              แจ้งสัจจะความจริง
ว่าเคยปิ๊งอนุชาย                   แต่ด้วยอายสุดเหนียม          มิได้เตรียมกมลาศ
จึ่งรีบคลาศเคลื่อนหนี              ดวงฤดีสั่นระทึก                ถูกชายคึกพร่ำเสนอ
กถาเพ้อบทกลอน                   ออดอ้อนทุกเช้าเย็น           เพื่อนเห็นเป็นถูกแซว
กนิษฐ์แก้วจึ่งทำเฉย                ดั่งมิเคยสนใจ                  จนหทัยชายมลาน
หยุดสานบทกวี                      มุวิถีวิทย์วิชา                    เลิกบ้าศาสตร์อักษร
"สายสมรเพริศพริ้ง                 เธอกล่าวพจีทิ้ง                ชอบท้นคนกลอน"

(จบ: โคลงสี่สุภาพ)
จรจากพรากนิ่มเนื้อ               นงไพร
เดินสู่มหา' ลัย                    สุดคว้าง
คำอนุชตราหทัย                  ตรึงจิต
เรียนหย่อนเป็นเสกสร้าง         ถักร้อยเรียงกวี

เลือกนาม "ศรีเปรื่อง" ไว้          แทนตน
เหตุคลั่ง "ศรีปราชญ์" จน         สุดไส้
กลอนหวานซ่านกมล               ดาดาษ
จึงมุ่งลิขิตให้                        ป่วนถ้อยกวนกถา

ศรีเปรื่อง
๑๕ ก.ค.๒๕๕๖

ปล.

สุดท้ายผมกับเธอก็ไม่ได้คบกันในฐานะแฟน 555 (แต่ก็มีความสุขเสมอที่ได้คิดถึง)  น้อยใจแล้วด้วย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

...สียะตรา.., ไพร พนาวัลย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, Prapacarn ❀, เนิน จำราย, เพรางาย, สมนึก นพ, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 กรกฎาคม 2013, 09:08:PM โดย ศรีเปรื่อง » บันทึกการเข้า


Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s