พิมพ์หน้านี้ - .....ลำนำนักกลอน.....

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนบอกรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: โรแมนติค ที่ 27 พฤศจิกายน 2009, 06:07:AM



หัวข้อ: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: โรแมนติค ที่ 27 พฤศจิกายน 2009, 06:07:AM

หากความรักเป็นมาลัยมาให้ร้อย
จะประดอยประดิษฐ์รจน์ ให้สดสวย
จะอบร่ำมนตรามหาระรวย
จะร้อยด้วยสายใจแทนไหมทอง

แล้วเอามาลัยรักอันศักดิ์สิทธิ์
เสกใส่อิทธิเจซ้ำคำรบสอง
ให้เลิศสุคนธ์ล้ำค่าผกากรอง
เพื่อมอบน้องถนอมไว้คล้องใจงาม

แทนของขวัญสัญญาบอกว่า "รัก"
แน่และหนักยิ่งจบสิ้นภพสาม
จะกี่เดือนกี่ปีมิมีทราม
จะคงความรักไว้ไม่โรยรา

ขอแค่พวงมาลัยมอบให้น้อง
อย่าลอยล่องร้างเร่เสน่หา
หากยามชังหมดชื่นค่อยคืนมา
สิ้นศรัทธาอย่าย่ำให้ช้ำเลย ฯ



หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 27 พฤศจิกายน 2009, 09:28:AM
เห็นดาวร่วงห่วงดาวจะร้าวแหลก
อุตส่าห์แบกฟูกหนามารองหล่น
นอนชมดาวพราวฟ้าห้าหกคน
รู้สึกตนฟ้าแจ้งแล้งเศษใด

เห็นเถาวัลย์พันไม้ไปปลายยอด
คงอยากกอดเมฆเย็นเห็นใช่ไหม
เที่ยวตัดไผ่ต่อสูงสูงขึ้นไป
สูงแค่ไหนไม่เห็นถึงจึงเศร้านัก

ปลูกดอกหญ้าเบ่งบานในลานกระดาษ
เศษผ้าขาดแปลงกายให้ประจักษ์
สาวชาวบ้านเป็นเจ้าหญิงหยิ่งในรัก
เชิญมาพักพิงคำ...ลำนำกลอน


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: ย่อง~~ ที่ 27 พฤศจิกายน 2009, 10:27:AM

หากความรักเป็นมาลัยมาให้ร้อย
จะประดอยประดิษฐ์รจน์ ให้สดสวย
จะอบร่ำมนตรามหาระรวย
จะร้อยด้วยสายใจแทนไหมทอง

แล้วเอามาลัยรักอันศักดิ์สิทธิ์
เสกใส่อิทธิเจซ้ำคำรบสอง
ให้เลิศสุคนธ์ล้ำค่าผกากรอง
เพื่อมอบน้องถนอมไว้คล้องใจงาม

แทนของขวัญสัญญาบอกว่า "รัก"
แน่และหนักยิ่งจบสิ้นภพสาม
จะกี่เดือนกี่ปีมิมีทราม
จะคงความรักไว้ไม่โรยรา

ขอแค่พวงมาลัยมอบให้น้อง
อย่าลอยล่องร้างเร่เสน่หา
หากยามชังหมดชื่นค่อยคืนมา
สิ้นศรัทธาอย่าย่ำให้ช้ำเลย ฯ


รจนาเสี่ยงมาลัย  ได้เงาะคู่
พี่ไม่รู้เสี่ยงไป  ได้ไหมเอ่ย
หรือจะเหลวและเป็น  เหมือนเช่นเคย
จะชวดเชยเสียกระมัง  สู้รั้งรอ

พวงมาลัยควรหรือให้  ห่างใจน้อง
ลอยละล่องเลยไป  ทำไมหนอ
แม้นน้องมีพวงมาลัย  ใครคล้องคอ
พี่จะขอยืนโยง....คล้อง"โลงใจ"




หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: plak ที่ 27 พฤศจิกายน 2009, 12:19:PM

ย่ำสนธยาลาผ่านไปนานแล้ว
ทั่วถิ่นแถวเงียบระงับต่างหลับไหล
ฟ้ามีจันทร์แรมเสี้ยว แลเปลี่ยวใจ
เสียงเรไรร้องฟังยิ่งวังเวง

นานนานทีที่พระพายโชยชายผ่าน
หนาวสะท้านที่ต้องลมมาข่มเหง
ยิ่งอาวรณ์ยามแว่ว แผ่วเสียงเพลง
แทนนอนเขลง ลุกกอดเข่า เฝ้ารำพึง ฯ


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 28 พฤศจิกายน 2009, 12:16:PM
(http://drnui.com/poempix/malaidokruk.jpg)


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 28 พฤศจิกายน 2009, 03:52:PM

หลงถลำอ้อนลำนำตามหาสาว
ไร้ข่าวคราวของนวลใยให้ใจเสีย
ป่านฉะนี้เจ้าไปไกลหนอมายเดีย
พี่ละเหี่ยเหลือใจได้แต่รอ...อิอิ

...แบบว่า..เล่นลำนำไม่เป็นอะครับ..


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: แพรว >w< ที่ 28 พฤศจิกายน 2009, 06:49:PM

ลำนำ...วอนเว้า...เหงา...เงาจันทร์

โสมส่องสว่างสลายเมฆามัวหมอก
กระจ่างจอกจัณฑ์หอมพยอมพลิ้ว
เสียงไผ่อ้ออ่อนเสียงเพียงหวีดหวิว
พระพายปลิวปลิดกลีบผกาพิณ

กระท่อมไม้เอนเอี๊ยดเอียดเอียดอ๊าด
เสียงแกรบกราดกระท่อมหลังคากระวิน
เพียงนิดนิดหวั่นไหวจิตใจจินต์
กบโดดดิ้นบนบัวระรัวไป

ลำนำกลอนวอนเว้าเงาคนรัก
สุดจะหักใจถึงตรึงเธอไว้
เธอลาละลาทิ้งทุกข์ทนใจ
ทิ้งบ้านไผ่กระทอมไม้หมองมัว

จันทร์สุขใสสว่างแต่ร้างรัก
ใยดาวปักใจอยู่คู่เคียงทั่ว
ยังรายร้อมจันทรมิห่อนกลัว
แล้วใยตัวจึงไร้ใครเคียงกาย



หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: นกฯ ที่ 29 พฤศจิกายน 2009, 08:37:AM

ย่ำสนธยาลาผ่านไปนานแล้ว
ทั่วถิ่นแถวเงียบระงับต่างหลับไหล
ฟ้ามีจันทร์แรมเสี้ยว แลเปลี่ยวใจ
เสียงเรไรร้องฟังยิ่งวังเวง

นานนานทีที่พระพายโชยชายผ่าน
หนาวสะท้านที่ต้องลมมาข่มเหง
ยิ่งอาวรณ์ยามแว่ว แผ่วเสียงเพลง
แทนนอนเขลง ลุกกอดเข่า เฝ้ารำพึง ฯ


ยามโลกสู่นิทราเวลานี้
ม่านราตรีแผ่รอบเป็นขอบขึง
เงียบส่ำสรรพ สำเนียง เสียงดังตึง
ดูประหนึ่ง โลกใหม่ ใช่โลกคน

เพราะโลกเราหรือเป็นได้เช่นนี้
เห็นแต่มีเลวทรามความสันสน
ต่างชิงดีชิงเด่นเล่นซ่อนกล
ใครเขลาจน ถูกย่ำจม ล้มทั้งยืน ฯ


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 29 พฤศจิกายน 2009, 06:10:PM

เรื่องร้องขอเมตตานั้นอย่าหวัง
ใช่เรือนั่งเอียงหนอยังพอฝืน
มีแต่ซ้ำเติมให้ใส่ไฟฟืน
หากจะฟื้น ก็ฟก อ่อนอกใจ

โลกเข้าสู่ นิทรา ราตรีนี้
เหมือนภูตผีชั่วช้าพาหลับไหล
หลับไปเถิดเหล่าอธรรม หลับกันไป
เพื่อโลกใหม่ มนุษยธรรม พบกรรมดี ฯ


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: tanapok ที่ 29 พฤศจิกายน 2009, 06:42:PM



เสียงเรไร   ร้องกล่อมตัว   ทั่วท้องทุ่ง

ต้นละหุ่ง     ก้านสะบัด     พัดพริ้วไหว

ไผ่ในก่อ     เบียดลำ      ยินร่ำไร

คนหลับไหล    บนกองฟาง    ข้าง ๆ โพน



สั่นระริก        เย็นย่ำ          ค่ำคืนหนึ่ง

ลมระบึง       ขึงสะบัด         พัดอายโหน

แวววาบหวิว      ปลิ่วระราย    พระพายโจน

กายอ่อนโอน    ขยับรับ           ปรับท่าทาง



แสงอรุณ          หมุนกลับ       รับอีกครั้ง

ตัวคนยัง          ฝั่งผ่อน            นอนไม่สร่าง

ลมพัดหาย          เสียงไผ่         ก็ไร้จาง

จึ่งต้องวาง           นิทรา          มาเริ่มการณ์



ลำนำชีพ           รีบเร่งทำ         ตามหน้าที่

ลำนำกลอน        ก็มี                  วจีสาน

ประดับแต่ง         แผลงปรุง       ฟุ้งคำกานท์

จึ่งขับขาน          ไพเราะ            เสนาะใจ





พอจะเรียกว่า    ลำนำ   ได้ไหม  ครับ


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 30 พฤศจิกายน 2009, 09:31:AM

ลำนำรักนักกลอนอ้อนไม่เก่ง
มีแต่ครื้นเครงปลอบปลุกให้สุขสันต์
ได้ระบายเป็นบทกลอนอ้อนรำพัน
ก็ชื่นวันในแบบเรา...หวังเธอเข้าใจ..อิอิ

..แบบว่า


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 30 พฤศจิกายน 2009, 02:18:PM

เรื่องร้องขอเมตตานั้นอย่าหวัง
ใช่เรือนั่งเอียงหนอยังพอฝืน
มีแต่ซ้ำเติมให้ใส่ไฟฟืน
หากจะฟื้น ก็ฟก อ่อนอกใจ

โลกเข้าสู่ นิทรา ราตรีนี้
เหมือนภูตผีชั่วช้าพาหลับไหล
หลับไปเถิดเหล่าอธรรม หลับกันไป
เพื่อโลกใหม่ มนุษยธรรม พบกรรมดี ฯ


สมัยนี้สมัยเงินเดินนำหน้า
ส่วนศีลธรรมจรรยาพากันหนี
โลกนั้นเล่าค่อยลดหมดไมตรี
คุณความดี ดูกร่อย ร่อยหรอลง

ยิ่งเจริญทางวัตถุบรรลุผล
ยิ่งใจคนเสื่อมซาอานิสงส์
เห็นแก่ตัวชั่วชาติขาดซื่อตรง
สิ่งประสงค์ตนยิ่งเหนือสิ่งใด ฯ



หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: * พรรัก* ที่ 01 ธันวาคม 2009, 03:59:AM

ที่อะลุ้มอล่วยคอยช่วยเหลือ
ก็หมดเยื่อใยค่าอัชฌาสัย
ค่าน้ำเงินเดินย่ำค่าน้ำใจ
คำว่า "ให้" จึงหาย กลายเป็น "เอา"

ความผูกพันทางใจมักไม่แน่น
หากขาดแคลนเงินถุงตุงกระเป๋า
รุนแรงมาเงินขวางย่อมบางเบา
เงินพระเจ้าจริงแท้อย่างแน่นอน

 


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: โรแมนติค ที่ 01 ธันวาคม 2009, 04:22:AM

สมัยก่อน  นั้นธรรม  คืออำนาจ
เงินคือทาส  รับใช้  ซื้อไถ่ถอน
สมัยนี้  เงินนำ  ก้องกำจร
แม้มีพร  จากพรหม  แพ้ อม เงิน

อำนาจทรัพย์  จับจ่าย   ยาก ง่าย หมด
เงินกำหนด  สิ่งนั้น  น่าสรรเสริญ
ขืนบูชา  ค่าเงิน  กันจนเพลิน
อาจต้องเดิน  ตกหลุมชั่ว  ฝังตัวเอง ฯ


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวฯ ที่ 01 ธันวาคม 2009, 07:40:AM

เมื่อลมหนาวเยือนมาฟ้าสดใส
เสียงไม้ไกวต้องลมมาข่มเหง
หมู่ผีเสื้อเต้นรำนกฮัมเพลง
ช่างครื้นเครงเบิกบานสำราญใจ

มวลพฤกษาชูช่อลออสี
ชงโคคลี่กลีบอยู่ดูไสว
หางนกยูงเหลืองแดงส่ายแกว่งไกว
สลัดใบทักจำปีที่ริมคู
 




หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: กอบรัก ที่ 01 ธันวาคม 2009, 07:54:AM

"หนาวไหมจ๊ะ จำปีจ๋า หน้าหนาวแล้ว"
จำปีแก้วหลุบกิ่งเฉยนิ่งอยู่
มัวคิดตอบคำถามต้นก้ามปู
ในเรื่องหมู เรื่องรำ รัฐธรรมนูญ


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: โรแมนติค ที่ 01 ธันวาคม 2009, 08:49:AM

"หนาวสิจ๊ะยูงทองน้องที่รัก"
มันหนาวหนักยิ่งองศาต่ำกว่าศูนย์
ต้องหันขอความช่วยเหลือความเกื้อกูล
จากเพื่อนคูนกอดเกี่ยวเอี่ยวไอกัน

แต่ยังหนาวไม่เท่าพวกเราหรอก
เขาหนาวนอกหนาวในจนใจสั่น
ต่างดิ้นรนบ่นว่าสารพัน
เอ๊ะ...ใครนั่นคือคนล้นปัญญา ฯ


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: เฒ่าทารกฯ ที่ 01 ธันวาคม 2009, 11:01:AM

พระอาทิตย์ส่องหล้ามาลาแย้ม
นั่นต้นแขมแซมปลอมในหย่อมหญ้า
ทั้งมดง่ามมดแดงแย่งพุงปลา
เจ้ากิ้งก่า ชูคอ เฝ้ารอดู

พอพบหมู ในอวย  ร่วมช่วยชาติ
พวกขี้ขลาด โดนกวาด เป็นหมวดหมู่
ก่อเป็นม็อบ เหลืองแดง แย่งปลาทู
น่าอดสู  สู้เพื่อเงิน...เพลินศรัทธา..ฯ


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 01 ธันวาคม 2009, 07:37:PM

(http://pic.moohin.com/01-12-2009/200912011259668564.jpg)


ประหนึ่งเล่น เร้นกาย เบี่ยงบ่ายปิด
ทุกทั่วทิศ มิตรกลอน สะท้อนเสียง
อยู่หนใด ไขขาน คำกานท์เรียง
เหมือนอยู่เคียง เพียงตา จ้องหากัน

ยามมิตรรัก ทักทาย ระบายถ้อย
เป็นสิ่งร้อย รอยกวี เมธีฝัน
ให้พลิกฟื้น คืนคง สืบพงศ์พันธุ์
คู่ตะวัน นิรันดร........บ้านกลอนไทย

 emo_12 emo_26 emo_54
(http://img90.imageshack.us/img90/6379/123gifs006hn4.gif)


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: นกฯ ที่ 01 ธันวาคม 2009, 08:05:PM

"หนาวสิจ๊ะยูงทองน้องที่รัก"
มันหนาวหนักยิ่งองศาต่ำกว่าศูนย์
ต้องหันขอความช่วยเหลือความเกื้อกูล
จากเพื่อนคูนกอดเกี่ยวเอี่ยวไอกัน

แต่ยังหนาวไม่เท่าพวกเราหรอก
เขาหนาวนอกหนาวในจนใจสั่น
ต่างดิ้นรนบ่นว่าสารพัน
เอ๊ะ...ใครนั่นคือคนล้นปัญญา ฯ


เขายังหนาว กว่าเรา เขาเขลาแน่
เขาเก่งแก้ หนาวหาย ได้หลาย ท่า
แต่หนาวหนึ่ง ที่เขา เศร้าอุรา
หนาวเพราะศูนย์ องศา เมตตาเอย


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: apairun ที่ 01 ธันวาคม 2009, 08:20:PM
Title : .ลำนำนักกลอน...
Author : เอื้ออารมณ์

              หยิบอักษรที่เรียงรายอยู่กลางลาน
              นี่คืองานนักกลอนกานท์กวีแน่
              นำคำมาเรียงร้อยคอยดูแล
              หวังเพียงแค่มีลำนำประจำตน
บ้างเพียรเก็บซึ่งประสบการณ์
ตระเวนอ่านบทกวีที่มากล้น
คำไพเราะเสนาะซึ้งตรึงกมล
สู้อดทนศึกษาภาษากลอน
              บ้างสรรคำนำมาเรียงเพียงเพราะรัก
             ไตร่ตรองหนักเมื่อผสมอักษร
             เป็นลำนำคำกวีของนักกลอน
             ทุกบททุกตอนผ่านทบทวน
หยิบอักษรที่เรียงรายอยู่เต็มลาน
สร้างสรรค์งานลำนำศิลป์ที่เลิศล้วน
สู่สาธารณชนคนทั้งมวล
ที่อบอวลการอ่านงานกวี...


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน..คนละบท.....
เริ่มหัวข้อโดย: นกฯ ที่ 01 ธันวาคม 2009, 08:27:PM

อรุณเริ่มประเดิมหล้านภาผ่อง
ฉายแสงทองแสงเงินเหนือเขินเขา
มวลมาลีคลี่ช่อล้อลมเบา
สิ่งซบเซากลับฟื้นแช่มชื่นบาน


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: (ฟ้า) มารสุรา ที่ 01 ธันวาคม 2009, 09:16:PM

อรุณเริ่มประเดิมหล้านภาผ่อง
ฉายแสงทองแสงเงินเหนือเขินเขา
มวลมาลีคลี่ช่อล้อลมเบา
สิ่งซบเซากลับฟื้นแช่มชื่นบาน



สาดแสงส่องต้องตาพราวพร่าพร่าง
อาบเรือนร่างอบอุ่นแท้แผ่ซาบซ่าน
คลายหนาวเหน็บเก็บไอผ่าวหนาวแผ้วพาน
อันตธานหายไปในบันดล
[/color]


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 01 ธันวาคม 2009, 09:20:PM
เพชรน้ำค้างพร่างระยับกับใบหญ้า
สกุณาหากินบินสับสน
สายหมอกขาวพราวพริ้วละลิ่วชล
ต่างเริ่มต้นหุงข้าวติดเตาไฟ


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 02 ธันวาคม 2009, 03:32:AM

นกกระจิบ จิ๊บร้อง เที่ยวจ้องเหยื่อ
ยอดมะเกลือ นกกระหรอด พรอดเสียงใส
นกกระจอก ขยอกหนอน แล้วร่อนไป
แซงแซวไล่ ตามตี หนีลนลาน

หมู่นกการ่าร้องแซ่ซ้องเสียง
บ้างบินเคียง เป็นคู่ เป็นหมู่ผ่าน
บ้างกระโดด โลดเต้น ลงเล่นธาร
บางตัวคร้าน เกาะคอน ทำอ่อนใจ ฯ


อ้าว!....เกิน..อิอิ  emo_45


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 02 ธันวาคม 2009, 03:48:AM

คนมาดึก คึกคัก น่ารักแท้
แต่งกลอนแก้ แลดู กระทู้เขา
ยามดึกเงียบ เรียบเรียง แอบเคียงเงา
ประหนึ่งเจ้า.... เป็นพราย ชอบหายตัว   
    emo_26

แบบว่า....ยามดึกผีไม่ชอบนอนไงครับ   หุหุ

(http://i242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/dookdik/linepattern/linenew/208.gif)


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: plak ที่ 04 ธันวาคม 2009, 09:11:AM

ลำนำกลอนอ่อนคำนำมาจัด
ไร้สัมผัสทางใจไฟสลัว
เจอภูตผีปีศาจพาลหวาดกลัว
จึงนำตัวหนีรอดความปลอดภัย

ตั้งนะโม อิติปิโส โอ้หมาหอน
ช่วยชี้แนะคำกลอนขอวอนไหว้
มาตอนดึก ศึกหนัก ชักยังไง
เลยเปลี่ยนใจ มาเช้า ตอน เก้าโมง....
(อิอิ แอบเข้ามาแซวจ้ะ)  emo_60 emo_57



หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: plak ที่ 04 ธันวาคม 2009, 11:13:AM

นกกระจิบ จิ๊บร้อง เที่ยวจ้องเหยื่อ
ยอดมะเกลือ นกกระหรอด พรอดเสียงใส
นกกระจอก ขยอกหนอน แล้วร่อนไป
แซงแซวไล่ ตามตี หนีลนลาน

หมู่นกการ่าร้องแซ่ซ้องเสียง
บ้างบินเคียง เป็นคู่ เป็นหมู่ผ่าน
บ้างกระโดด โลดเต้น ลงเล่นธาร
บางตัวคร้าน เกาะคอน ทำอ่อนใจ ฯ


อ้าว!....เกิน..อิอิ  emo_45

นกกระยางขายาวก้าวย่างเหยาะ
สาลิกา บินเลาะ เกาะไม้ไหว
กิ่งไม้อ่อน โอนเอน เห็นแกว่งไกว
ทั้งลิงค่าง วิ่งไต่  ไล่พัลวัน

นกกินปลีเร่หาปลาในหนอง
กระทุงท่องร้องขู่ดูน่าขัน
นกกะยาง แดงกรอก ออกตามกัน
ขายาวอันเหยาะย่องมองปลาปู


นกขมิ้นเหลืองอ่อนบินจรเดี่ยว
พลันนกเหยี่ยวเฉี่ยวถูกคว้าลูกหนู
นั่นนกเขา ขนมัน ร้องขันคู
ส่วนอีมู ร้องมา ไม่น่าฟัง ฯ


เกินกว่า...อิอิ... emo_57  emo_45




หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: barame ที่ 04 ธันวาคม 2009, 12:11:PM

เสียงดุเหว่าร้องว่า ดังกาเว้า
ไข่แล้วเอาให้กาฟักหลอกหักหลัง
เช่นสาวสาวปัจจุบันนั้นน่าชัง
คลอดลูกยังเอาทิ้งให้....ได้ลงคอ.


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ห์ ที่ 04 ธันวาคม 2009, 03:37:PM

ลำนำกลอน อักษรแปลก แหวกแนวนิด
อย่าได้คิด ทำลาย พรายฯ ร้องขอ
พ่อใจดำ แม่ใจดำ ทำลงคอ
ไม่คิดบ้าง เลยหนอ ก่อเรื่องราว

ลูกทำผิด คิดยังไง ใจร้ายนัก
พ่อแม่มัก มากกาม ความอื้อฉาว
ชีวิตมาร หัวขน ไม่ยืดยาว
เพราะหนุ่มสาว โส-มม...จมโลกีย์

 





หัวข้อ: Re:...ลำนำนักกลอน...ชีวิตกับเวลา..
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 23 ธันวาคม 2009, 12:47:AM
ชีวิตกับเวลา

ปฏิทินใบสุดท้ายปลายปีสิ้น
วันคืนบินเร็วหลีกติดปีกหนี
สุดเหนี่ยวรั้งเหนี่ยวเวลาแม้นาที
ประเดี๋ยวปี ประเดี๋ยวปี ที่ผ่านไป

สิบสองเดือนเตือนจิตใครคิดบ้าง
ว่าเราสร้างบุญกุศลสักหนไหม
หรือกอปรกิจการงานสถานใด
ชีพกำไรขาดทุนงบดุลดู

ปีที่แล้วเหลวไหลไม่ได้เรื่อง
ก็ปลดเปลื้องชีพใหม่ให้สวยหรู
ยึดความดีเป็นตัวยืนช่วยฟื้นฟู
ใจเป็นครูคอยเตือนไม่เชือนแช

อย่าคิดปี-ใหม่นี้ มีหลายครั้ง
พอผิดพลั้ง ปล่อยไป ไม่แยแส
ขืนคงรูป เดิมมั่น มิผันแปร
ครั้นตอนแก่ ก็จะกลาย เป็นสายเกิน

ปฏิวัติชีพใหม่ในปีนี้
ทำสิ่งที่เกิดผลคนสรรเสริญ
อายุเยาว์อย่ามัวช้า..ก้าวหน้าเดิน
เพื่อเผชิญสิ่งหวังสมดังปอง

สิ้นปีเก่าเรามี..วันปีใหม่
เป็นหลักชัยนำหน้าฝ่าภัยผอง
สร้างปีใหม่ปีนี้เป็นปีทอง
สุขสนองเปี่ยมแปล้...อย่างแท้จริง.


สวัสดี..ทักทายทุกท่านครับ... emo_47



หัวข้อ: ...สวัสดีปีใหม่...
เริ่มหัวข้อโดย: plak ที่ 07 มกราคม 2010, 03:00:AM
(http://i249.photobucket.com/albums/gg202/eda199/hi5-comments/happy-new-year/107.gif)

สวัสดีปีใหม่กลอนไทยเวป
ขออย่าเจ็บอย่าจนอย่าหม่นหมอง
มีคนภักดิ์รักรื่นชื่นสมปอง
มีเงินทอง เกียรติยศ ปรากฎไกล

ขอความสุขสวัสดีในปีขาล
ดลบันดาล ชีวิต จิตแจ่มใส
สมาชิกทุกท่านสำราญใจ
จงปลอดภัย..ไร้ทุกข์ ..สุขนิรันดร์


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/439/10439/blog_entry1/blog/2008-08-19/comment/303049_images/4_1219124405.gif)





หัวข้อ: Re:...สวัสดีปีใหม่...
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้แกละ ที่ 07 มกราคม 2010, 09:45:AM
สวัสดีปีใหม่ไทยทั้งชาติ
ขอพรสาด ส่งสุข ทุกสถาน
ให้มั่งมี ศรีสุข ตลอดกาล
เทพประทาน วานช่วย อำนวยชัย

ให้พี่น้องชาวไทยใจผาสุก
ปราศจากทุกข์ สุขเจริญ เดินไปไหน
มีคนภักดิ์ รักเมตตา พาปลอดภัย
และมีใจ พิสุทธิ์ ยุติธรรม 

(สวัสดีปีขาล...ทุกท่านครับ) emo_47
 



 


 




หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: โรแมนติค ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2010, 10:39:AM


ลำนำห้อมกล่อมจิต..มวลมิตรรัก
สุขทายทัก ถักทอ คลอสดใส
ขอชีวิต มิตรสุข ทุกดวงใจ
พรมากมาย รายล้อม สู่อ้อมทรวง

ปรารถนา สิ่งใด สมใจนึก
จะตรองตรึก ลึกตื้น คืนลุล่วง
จงพ้นทุกข์ สุขล้น ปลอดคนลวง
มีคู่ควง หวานชื่น ทุกคืนวัน

ปี ส.เสือ เผื่อแผ่ แชร์สุขศานติ์
พรประทาน โอบอ้อม พร้อมกล่อมขวัญ
เกียรติยศ ขจรไกล ไปนิรันดร์
จากใจฝัน...โรแมนติค...กิ๊กอ่านกลอน....
emo_46

 


หัวข้อ: Re: .....ลำนำนักกลอน.....
เริ่มหัวข้อโดย: น้องติ๋ว ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 11:37:AM
(http://i121.photobucket.com/albums/o207/bicfomh/gg01/rose/ros022.gif)

ลำนำกลอนพรหวานสราญรื่น
อ่านแล้วชื่นดวงจิตมิตรอักษร
ไม่ได้มาเสียนานประทานพร
พนมกร รับมา พาสุขใจ

เก็บทุกคำ ล้ำเลิศ ประเสริฐศิลป์
ที่หลั่งริน จินต์ชื่น รื่นสดใส
คิดถึงนัก รักฉ่ำ ปลื้มน้ำใจ
มิตรบ้านไทย จงมีสุข  ถ้วนทุกคน....นะคะ
  emo_116 emo_46 emo_28

(http://www.wakemeupbeforeyoulogo.com/tint/tint_thankyou.gif)