พิมพ์หน้านี้ - ชมพนา

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุวรรณ ที่ 06 พฤศจิกายน 2009, 05:58:PM



หัวข้อ: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 06 พฤศจิกายน 2009, 05:58:PM


ไม้สล้างกลางภูดูชูช่อ
งามลออกอดอกออกสีสัน
แซมเหลืองแดงแสดม่วงมาประชัน
ชมพูเขียวตัดกันสีสันงาม

ภูผาตั้งตระหง่าน ณ.ลานป่า
สะดุดตามาเห็นเป็นเถื่อนถ้ำ
โอ่โอฬารเหลือคณาจะกล่าวคำ
ใหญ่เหลือล้ำถ้ำใหญ่ในไพรวัน

เดินสำรวจตรวจดูคูหาห้อง
อำพันผ่องทั่วท้องรโหฐาน
แสงสะท้อนพราวเพชรเก็จตระการ
ระยิบระยับทั่วลานท้องถ้ำทอง


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: panomwan ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 12:59:AM
ชมพนา

เขียวเข้มเขียวเข้มเติมเต็มเขา
ใสเย็นสะท้อนเงาตกหน้าผา
ธารใสไหลกระเซ็นเห็นตัวปลา
สัตว์ป่าสัตว์ปีกอยู่ประปราย

โยงยางพยุงใหญ่สูงใกล้เมฆ
ป่าสรรค์ปั้นเศกเป็นป่าสาย
ดงดิบดินดำน้ำฉ่ำทราย
ตะวันฉายธรรมชาติประกาศชม
[/b]


หัวข้อ: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 01:40:PM
หอมกลิ่นไพรให้พรช้อนสัมผัส
ชวนกระหวัดคัดคลึงคะนึงหา
กลิ่นยั่วเย้าเคล้าเคียงเสียงพนา
มนตร์เสน่ห์ตรึงตราช่างน่าชม

รอยน้ำค้างย่างกรายก่อนสายเหยียบ
ยังประเทียบเปรียบถ้อยเป็นสร้อยสม
ประพนธ์ผ่านกานท์ผันเป็นพันคม
จึงนิยมชมป่าพนาดอน


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: ปาระ ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 02:59:PM
รุกขชาติ  กลาดเกลื่อน  เถื่อนบรรพต
ลายปรากฎ ไพรพนา  หลากหลายสี
ทั้งธารา  เลี้ยวลด  สดใสดี
เถื่อนถ่ำมี  ปรากฎ  งดงามตา



หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 07:38:PM
ชมพฤกษาป่าไพรใฝ่ละเมอ
สายลมเพ้อเผลอถึงคนึงหา
ดอกพเยียเคลียคลอล้อนภา
ทุกเวลาเมื่อยลกลิ่นบุษบง

หอมเจ้าเอย...กลิ่นใดใยจึงหอม
ฤา...พะยอมพร้อมดอกออกให้หลง
หรือไม้ป่าโชยกลิ่นในป่าพง
จนให้หลงเคลิ้มชมดงพนา


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: มานพ ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 08:33:PM
ชมพฤกษาป่าไพรใฝ่ละเมอ
สายลมเพ้อเผลอถึงคนึงหา
ดอกพเยียเคลียคลอล้อนภา
ทุกเวลาเมื่อยลกลิ่นบุษบง

หอมเจ้าเอย...กลิ่นใดใยจึงหอม
ฤา...พะยอมพร้อมดอกออกให้หลง
หรือไม้ป่าโชยกลิ่นในป่าพง
จนให้หลงเคลิ้มชมดงพนา
หอมอันใดกลิ่นไหนที่ว่าหอม
ดอกพยอมหอมยวนชวนใจข้า
บุบผาชาติดูดื่นดาษสะอาดตา
ดงพนาในป่านี้เหมือนมีมนต์

 emo_47 emo_47 emo_47 emo_47


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 09:05:PM
ชมพฤกษาป่าไพรใฝ่ละเมอ
สายลมเพ้อเผลอถึงคนึงหา
ดอกพเยียเคลียคลอล้อนภา
ทุกเวลาเมื่อยลกลิ่นบุษบง

หอมเจ้าเอย...กลิ่นใดใยจึงหอม
ฤา...พะยอมพร้อมดอกออกให้หลง
หรือไม้ป่าโชยกลิ่นในป่าพง
จนให้หลงเคลิ้มชมดงพนา (สุวรรณ)

หอมอันใดกลิ่นไหนที่ว่าหอม
ดอกพยอมหอมยวนชวนใจข้า
บุบผาชาติดูดื่นดาษสะอาดตา
ดงพนาในป่านี้เหมือนมีมนต์ (มานพ)

วิจิตรศิลป์รินร่ายระบายป่า
แต้มผกาผาภพสบเวหน
ตัดขอบเวิ้งเพิงไพรกับสายชล
ดังเทพดลภาพงามตามความจริง (สุวรรณ)



หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 09:14:PM

ชมพฤกษาป่าไพรใฝ่ละเมอ
สายลมเพ้อเผลอถึงคนึงหา
ดอกพเยียเคลียคลอล้อนภา
ทุกเวลาเมื่อยลกลิ่นบุษบง

หอมเจ้าเอย...กลิ่นใดใยจึงหอม
ฤา...พะยอมพร้อมดอกออกให้หลง
หรือไม้ป่าโชยกลิ่นในป่าพง
จนให้หลงเคลิ้มชมดงพนา (สุวรรณ)

หอมอันใดกลิ่นไหนที่ว่าหอม
ดอกพยอมหอมยวนชวนใจข้า
บุบผาชาติดูดื่นดาษสะอาดตา
ดงพนาในป่านี้เหมือนมีมนต์ (มานพ)

วิจิตรศิลป์รินร่ายระบายป่า
แต้มผกาผาภพสบเวหน
ตัดขอบเวิ้งเพิงไพรกับสายชล
ดังเทพดลภาพงามตามความจริง (สุวรรณ)

คือรูปภาพ สร้างกล มนตร์พฤกษา
จึงมีค่า บุปผา ดั่งเวทสิ่ง
คือความงาม ธรรมชาติ อย่างแท้จริง
สงบนิ่ง ไหวลู่ รู้สมควร (สายลมสีขาว)


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: มานพ ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 09:44:PM
วิจิตรศิลป์ รินร่าย ระบายป่า
แต้มผกา ผาภพ สบเวหน
ตัดขอบเวิ้ง เพิงไพร กับสายชล
ดังเทพดล ภาพงาม ตามความจริง (สุวรรณ)

คือรูปภาพ สร้างกล มนตร์พฤกษา
จึงมีค่า บุปผา ดั่งเวทสิ่ง
คือความงาม ธรรมชาติ อย่างแท้จริง
สงบนิ่ง ไหวลู่ รู้สมควร (สายลมสีขาว)

แสนสุขใจ นิ่งนัก พักป่านี้
หากคนดี มาด้วย ช่วยชมสวน
บรรยากาศ แบบนี้ พี่อยากชวน
ขอเนื้อนวล นอนหนุนตัก พักสักคืน (มานพ)


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: (ฟ้า) มารสุรา ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 10:19:PM
วิจิตรศิลป์ รินร่าย ระบายป่า
แต้มผกา ผาภพ สบเวหน
ตัดขอบเวิ้ง เพิงไพร กับสายชล
ดังเทพดล ภาพงาม ตามความจริง (สุวรรณ)

คือรูปภาพ สร้างกล มนตร์พฤกษา
จึงมีค่า บุปผา ดั่งเวทสิ่ง
คือความงาม ธรรมชาติ อย่างแท้จริง
สงบนิ่ง ไหวลู่ รู้สมควร (สายลมสีขาว)

แสนสุขใจ นิ่งนัก พักป่านี้
หากคนดี มาด้วย ช่วยชมสวน
บรรยากาศ แบบนี้ พี่อยากชวน
ขอเนื้อนวล นอนหนุนตัก พักสักคืน (มานพ)  

นอนนิ่งแนบแอบอิงพิงอกชิด
แล้วจุมพิตเกศเกล้าเจ้าหอมชื่น
กลางพนามีป่าห่มรักกลมกลืน
ช่างหวานชื่นป่าอุ้มสมภิรมย์กัน ( ยองหละปูน )
[/color]


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: (ฟ้า) มารสุรา ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 11:00:PM
 
 
วิจิตรศิลป์ รินร่าย ระบายป่า
แต้มผกา ผาภพ สบเวหน
ตัดขอบเวิ้ง เพิงไพร กับสายชล
ดังเทพดล ภาพงาม ตามความจริง (สุวรรณ)

คือรูปภาพ สร้างกล มนตร์พฤกษา
จึงมีค่า บุปผา ดั่งเวทสิ่ง
คือความงาม ธรรมชาติ อย่างแท้จริง
สงบนิ่ง ไหวลู่ รู้สมควร (สายลมสีขาว)

แสนสุขใจ นิ่งนัก พักป่านี้
หากคนดี มาด้วย ช่วยชมสวน
บรรยากาศ แบบนี้ พี่อยากชวน
ขอเนื้อนวล นอนหนุนตัก พักสักคืน (มานพ)   

นอนนิ่งแนบแอบอิงพิงอกชิด
แล้วจุมพิตเกศเกล้าเจ้าหอมชื่น
กลางพนามีป่าห่มรักกลมกลืน
ช่างหวานชื่นป่าอุ้มสมภิรมย์กัน ( ยองหละปูน)

ชวนชิดชมชูชื่นคราคืนค่ำ
ลมร่ายรำระบำป่าเวลาฝัน
ละอองดินกลิ่นโปรยโชยชื่นพลัน
กอดน้องนั้นชันชู...ขอสู้ตาย    (หนูนะโม)

ย่างอรุณอุ่นไอได้ซึมซาบ
กลิ่นไออาบความรักมิหักหาย
หมู่วิหคขับขานหวานมิคลาย
ปลุกสองกายตื่นบรรทมชมพนา ( ยองหละปูน )


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: สิบคน ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 11:19:PM

วิจิตรศิลป์ รินร่าย ระบายป่า
แต้มผกา ผาภพ สบเวหน
ตัดขอบเวิ้ง เพิงไพร กับสายชล
ดังเทพดล ภาพงาม ตามความจริง (สุวรรณ)

คือรูปภาพ สร้างกล มนตร์พฤกษา
จึงมีค่า บุปผา ดั่งเวทสิ่ง
คือความงาม ธรรมชาติ อย่างแท้จริง
สงบนิ่ง ไหวลู่ รู้สมควร (สายลมสีขาว)

แสนสุขใจ นิ่งนัก พักป่านี้
หากคนดี มาด้วย ช่วยชมสวน
บรรยากาศ แบบนี้ พี่อยากชวน
ขอเนื้อนวล นอนหนุนตัก พักสักคืน (มานพ)  

นอนนิ่งแนบแอบอิงพิงอกชิด
แล้วจุมพิตเกศเกล้าเจ้าหอมชื่น
กลางพนามีป่าห่มรักกลมกลืน
ช่างหวานชื่นป่าอุ้มสมภิรมย์กัน ( ยองหละปูน)


ชวนชิดชมชูชื่นคราคืนค่ำ
ลมร่ายรำระบำป่าเวลาฝัน
ละอองดินกลิ่นโปรยโชยชื่นพลัน
กอดน้องนั้นชันชู...ขอสู้ตาย    ฮ่าๆ      (หนูนะโม)

แต่งอะไรหว่าเนี้ย   ฮ่าๆ อย่าคิดลึกนะครับมาจาก กลอนพาหลงป่าท่านยองหละปูน   ฮ่าๆ   emo_26

ถึงตอนนี้คงไม่ชมไพรแล้ว
เสือช้างแว่วเวียนมาก็อย่าหมาย
ว่าอ้อมโอบอาจเลื่อนจะเคลื่อนคลาย
ชีวาวายกายอยู่เคียงคู่เธอ......(อิ อิ)
([url]http://tinypic.com/bhja7c.gif[/url])


เทวดา ผีป่า พนาสัณฑ์
เห็นในรัก ผูกพัน มั่นเสมอ
จึงช่วยชุบ ชีวัน พลันบอกเกลอ
อย่ามีเผลอ ร่วมรักแท้ แต่พองาม(สิบคน)


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 11:44:PM

วิจิตรศิลป์ รินร่าย ระบายป่า
แต้มผกา ผาภพ สบเวหน
ตัดขอบเวิ้ง เพิงไพร กับสายชล
ดังเทพดล ภาพงาม ตามความจริง (สุวรรณ)

คือรูปภาพ สร้างกล มนตร์พฤกษา
จึงมีค่า บุปผา ดั่งเวทสิ่ง
คือความงาม ธรรมชาติ อย่างแท้จริง
สงบนิ่ง ไหวลู่ รู้สมควร (สายลมสีขาว)

แสนสุขใจ นิ่งนัก พักป่านี้
หากคนดี มาด้วย ช่วยชมสวน
บรรยากาศ แบบนี้ พี่อยากชวน
ขอเนื้อนวล นอนหนุนตัก พักสักคืน (มานพ)  

นอนนิ่งแนบแอบอิงพิงอกชิด
แล้วจุมพิตเกศเกล้าเจ้าหอมชื่น
กลางพนามีป่าห่มรักกลมกลืน
ช่างหวานชื่นป่าอุ้มสมภิรมย์กัน ( ยองหละปูน)


ชวนชิดชมชูชื่นคราคืนค่ำ
ลมร่ายรำระบำป่าเวลาฝัน
ละอองดินกลิ่นโปรยโชยชื่นพลัน
กอดน้องนั้นชันชู...ขอสู้ตาย    ฮ่าๆ      (หนูนะโม)

แต่งอะไรหว่าเนี้ย   ฮ่าๆ อย่าคิดลึกนะครับมาจาก กลอนพาหลงป่าท่านยองหละปูน   ฮ่าๆ   emo_26

ถึงตอนนี้คงไม่ชมไพรแล้ว
เสือช้างแว่วเวียนมาก็อย่าหมาย
ว่าอ้อมโอบอาจเลื่อนจะเคลื่อนคลาย
ชีวาวายกายอยู่เคียงคู่เธอ......(อิ อิ)
([url]http://tinypic.com/bhja7c.gif[/url])


แว่วสำเนียงเพี้ยงเพี้ยนเปลี่ยนไปได้
ออกแนวอาร์มาไง ขอเซนต์เซ่อร์
ชมพนาป่าเขาเถิดผองเกลอ
รสกลอนเบลอเผลอแผลบแค่แว๊บเดียว         

สวัสดีค่ะเพื่อนที่รักในบทกลอนทุกท่าน สุวรรณเห็นกลอนออกมาแนวนี้ ก็อยากขอร้องให้ทุกคนเขียนแนวธรรมชาติตามที่ตั้งใจไว้นะคะ
แนวนี้อ่านแล้วไม่สมควรค่ะ  ขอร้องนะคะ


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 07 พฤศจิกายน 2009, 11:53:PM
วิจิตรศิลป์ รินร่าย ระบายป่า
แต้มผกา ผาภพ สบเวหน
ตัดขอบเวิ้ง เพิงไพร กับสายชล
ดังเทพดล ภาพงาม ตามความจริง (สุวรรณ)

คือรูปภาพ สร้างกล มนตร์พฤกษา
จึงมีค่า บุปผา ดั่งเวทสิ่ง
คือความงาม ธรรมชาติ อย่างแท้จริง
สงบนิ่ง ไหวลู่ รู้สมควร (สายลมสีขาว)

แสนสุขใจ นิ่งนัก พักป่านี้
หากคนดี มาด้วย ช่วยชมสวน
บรรยากาศ แบบนี้ พี่อยากชวน
ขอเนื้อนวล นอนหนุนตัก พักสักคืน (มานพ)

กำลังชมดมสวนมวลดอกแก้ว
ยินเสียงแว่วแผ่วมาจากทิศอื่น
หันมาพบสบมานพกำลังยืน
ยิ้มละไมชวนชื่นยื่นไมตรี

ขอขอบคุณในน้ำใจให้หนุนตัก
สุวรรณขอนั่งพักตรงฟากนี้
ใต้ร่มไม้ใบใหญ่เหมาะสมดี
เป็นสตรีแม่สอนให้ไว้นวล

ธรรมชาติพิลาสนักเชิญพักผ่อน
ซบดินดอนขอนไม้ในไพรสวน
แล้วลิ้มรสความสุขจากป่าควน
ฟังกระแสทวนของลมชมพนา


หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: มานพ ที่ 08 พฤศจิกายน 2009, 11:15:AM
กำลังชมดมสวนมวลดอกแก้ว
ยินเสียงแว่วแผ่วมาจากทิศอื่น
หันมาพบสบมานพกำลังยืน
ยิ้มละไมชวนชื่นยื่นไมตรี

ขอขอบคุณในน้ำใจให้หนุนตัก
สุวรรณขอนั่งพักตรงฟากนี้
ใต้ร่มไม้ใบใหญ่เหมาะสมดี
เป็นสตรีแม่สอนให้ไว้นวล

ธรรมชาติพิลาสนักเชิญพักผ่อน
ซบดินดอนขอนไม้ในไพรสวน
แล้วลิ้มรสความสุขจากป่าควน
ฟังกระแสทวนของลมชมพนา(สุวรรณ)

แสนสุขใจนิ่งนักพักป่านี้
แม้คนดีอยู่ห่างยังสุขหนา
พี่ขอเพียงเมียงมองจ้องสบตา
สุขอุราไหนเท่ามองเจ้าเพลิน

ธรรมชาติสดใสใจสดชื่น
มีขวัญยืนเคียงใกล้ไม่เคอะเขิน
พี่แสนรักไม่ทำร้ายไม่ล่วงเกิน
อยู่บนเนินแนวป่าพนาไพร(มานพ)



หัวข้อ: Re: ชมพนา
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 10 พฤศจิกายน 2009, 10:32:AM
ตะวันพลบหลบแสงแปลงสีน้ำ
จากแดงก่ำแปรทองชวนมองใหญ่
ฝูงปักษิณข้ามฟ้าล้าทางไกล
คืนเคหาสน์ปลายไม้ไว้สำเนียง

พระจันทร์เคียวเกี่ยวดวงกับห่วงเมฆ
ศิขเรขซึมเซาราวหลีกเลี่ยง
แท้เวทีรัตติกาลไขม่านเคียง
ประดิษฐ์เสียงกล่อมไพรให้ครึกครื้น