พิมพ์หน้านี้ - ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: Alpha ที่ 10 พฤศจิกายน 2007, 09:29:PM



หัวข้อ: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 10 พฤศจิกายน 2007, 09:29:PM
เพื่อนๆพอจะบอกได้มั้ยคะ...ว่าตอนที่ตั้งนามปากกาให้ตัวเอง
มีแรงบันดาลใจอะไรบ้าง emo_54

อย่างชื่อ อัณณ์ริน
มีความหมายว่า สายน้ำที่รินไหล ค่ะ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สารพัด*เพี้ยน ที่ 10 พฤศจิกายน 2007, 09:34:PM
เออ emo_23
พูดยากจังแหะ
แอมคิดมาได้เพราะ
อยากหาชื่อที่มันแปลกๆอ่ะ
เลยได้มาอย่างนี้
อีกอย่างชอบพริกด้วยเหละ
พริกขี้หนูนี้มันเล็กก็จริงแต่เผ็ดมากมาย
แล้วพริกชี้ฟ้านี้มันออกมาแปลกดี
มีอย่างที่ไหนผลชี้ขึ้นไปบนฟ้า
555
เลยได้ออกมาอย่างที่เห็นนี้เหละ
(ต้องมีคน งง แน่เลย emo_31)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: วันใหม่ที่เหมือนเก่า ที่ 14 พฤศจิกายน 2007, 09:01:PM
ของผมก็ชื่อจริงเลยคับง่ายดีเป็นตัวของตัวเองไม่คิดให้วุ่นวาย......เออแล้วรูปล่ะคับแต่ละคนสื่อถึงอะไรบ้างคับ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: วันใหม่ที่เหมือนเก่า ที่ 14 พฤศจิกายน 2007, 09:39:PM
ผมก็ชอบอ่านคับผมอ่านได้ทุกอย่างแต่ที่ชอบพิเศษก็แนวป่าดงพงไพรกะผีๆคับผมส่วนรูปก็เพื่อนยามเหงาผมเองคับผมอีกตัวอัลเซเชียลไม่ได้เอาลง


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ZAMURAI DEEPER ที่ 21 พฤศจิกายน 2007, 07:48:PM
ก็ชื่อผมอ่ะ ตั้ว=tour
เมื่อกอ่นที่ใช่ zamurai deeper เพราะ ชอบกาตูนเรื่อง kyo ครับ
สาวกเยย


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: :::U-ly::: ที่ 15 ธันวาคม 2007, 10:33:PM
Sinnour มาจากบรรดาศักดิ์ขุนนางของปรเทศอะไรไม่รู้จำไม่ได้ แต่เอาเป็นว่าเราชอบคำนี้ล่ะกัน


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ploy 072 ที่ 25 ธันวาคม 2007, 11:04:AM
ก็พลอยเป็นชื่อหนูจริงๆนี่คะ ไม่มีอะไรมากหรอก


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: พริกหยวกตะไคร้หอม ที่ 25 ธันวาคม 2007, 01:05:PM
พอดีเปนคนไม่ค่อยมีหัวคิดอะครับ  emo_45
ชื่อนี้แฟนเลยตั้งให้ อิอิ
(โง่จิงเรา) emo_50


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: อิสรชน ที่ 29 ธันวาคม 2007, 08:58:PM
เมื่อกระทู้ให้ความสนใจในเรื่องนี้  ก็แสนยินดีและคงมิบังควรอำพรางครับ
            1.  อิสรชน  เป็นคำซึ่งได้จากการสนธิระหว่างคำว่า อิสระ กับ ชน (กลุ่มคน)
            2.  อิสรชน ในที่นี้หมายถึงผู้ซึ่งไม่ยึดติดกับความวุ่นวายแห่งสังคม แต่จะฝักใฝ่ในความสงบ และสุนทรียภาพ(ไม่ใช่พระและนักบวช  เพราะยังมีกิเลสตัณหาอยู่... emo_45)
            3.  อิสรชน คือผู้รักอิสระและสันติภาพ
            4.  อิสรชน  ถือว่าชุมชนคนบ้ากลอนแห่งนี้ก็คืออีกแหล่งปัญญา  ความสงบ และสันติภาพสำหรับอิสรชนครับ (โดนใจๆ)
                                                                                                         ด้วยความนับถือ
                                                                                                               อิสรชน


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: bourana ที่ 17 มกราคม 2008, 03:47:PM
...บูรณา...นั่นหนามาจากชื่อ...
ความจริงคือ...ไม่รู้จะตั้งว่าไฉน
ก็เลยเอาชื่อเรา...ใส่เข้าไป
...ผลจึงได้...นามปากกา...นี้มาครอง

แฮะ..แฮะ... emo_45



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: munin ที่ 17 มกราคม 2008, 03:54:PM
เป็น emo_40อะไรที่ใจบอกว่า...ต้องชื่อนี้เลย emo_21
เอาจริงๆๆๆน่ะ......นิลเอามาจากชื่อขึ้นต้นภาษาอังกฤษตัวเองค่ะ
p-pสองตัวนี้ ส่วน k นามสกุล  แล้ว  Jung  เพื่อความน่ารัก ขิขิขิ emo_43
นี้คือทั้งหมดค่ะ emo_50


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: รักคนหลายใจ..... ที่ 26 มกราคม 2008, 09:40:PM
สายเลือดอันเยือกเย็น มาจาก ไม่ถูกกับญาติ
แล้วเวลาเจอกันก็ ปะทะ คารมณ์กันทุกทีแบบไม่เกรงใจ
ก็เลยเหมือนว่า เยือกเย็น กัน  กลายเปง สายเลือดอันเยือกเย็น


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: nan ที่ 27 มกราคม 2008, 10:28:AM
เป็นชื่อค่ะ น่าน
คนเมือง ความถึง คนเหนือ
น่านเป็นจ.หนึ่งทางภาคเหนือ
เลยตั้งเป็นชื่อ น่าน คนเมือง  (คนเมือง น่าน )

อิอิ รักบ้านเกิดค่ะ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: {sone}_____theploy ที่ 18 มีนาคม 2008, 01:56:PM
มาจากที่คุณครูสอนค่ะ
เวลาให้กำลังใจเด็กนักเรียนเวลาสอบตก  อะไรประมาณนี้ค่ะ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: นายโปริสาท_ฅนกินฅน ที่ 18 มีนาคม 2008, 02:09:PM
.-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-.
.-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-.
.-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-.
.-*""*-..-*""*-..-*""*-.
.-*""*-..-*""*-.
.-*""*-.

เป็นผู้ชายต้องมีนายนำหน้า

ปุริสา ปุริส  บุรุษหนา

บวก อิท แปลงเป็น อาท นา

แปลออกมาคือกินชิมรสดู

เมื่อสนธิแล้วกลายเป็นโปริสาท

ความหมายวาดฅนกินฅนทุกคนรู้

คนหลายใจไร้ใจเพราะเจ้าชู้

จึงได้อยู่ในฉายาสมญานาม

.-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-.
.-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-.
.-*""*-..-*""*-..-*""*-..-*""*-.
.-*""*-..-*""*-..-*""*-.
.-*""*-..-*""*-.
.-*""*-.


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านางอ้ออ๋อย ที่ 19 มีนาคม 2008, 01:59:PM
เจ้านางอ๊ออ๋อย  emo_54 emo_20

เจ้านาง มาจากว่า ใส่แล้วดูสูงส่งดี  emo_12
อ๊ออ๋อย มาจากภาษาเหนือ คนเหนือคงรู้ดี  emo_47

แต่เราไม่รู้จะอธิบายยังไงดีอ่ะ emo_01 emo_06 emo_23

= = = = = =
เด็กเฮีย บอกว่า อ้ออ๊อย บ่ไจ้  อ๊ออ๋อย เน้อเจ้า

จากลุงเว๊ป  emo_119
= = = = = =




******* อิน้องหื้อมันเป็นเสียงสูงแหนเจ้า คนพะเยาเปิ้นฮ้องอี้แนะ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ⊹⊱⋛⋋ รักครั้งสุดท้าย⋌⋚⊰⊹ ที่ 19 มีนาคม 2008, 04:58:PM

คนใจเดียวก็หมายความไปตรงๆเรยแหละ

รักเดียวใจเดียว

ไม่ได้เจ้าชู้หลายใจ  เหมือน..ใครบางคน

  emo_31 emo_31


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: nineten ที่ 25 มีนาคม 2008, 11:39:PM
  ผมชื่อ เทน ครับ   nine = นาย คำนำหน้าผู้ชาย ครับ  ten = ชื่อของผมครับ
  บทสรุป คือ nineten      (เก้า แล้ว สิบ ครับ)  emo_47 emo_47


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: nan ที่ 26 มีนาคม 2008, 01:32:PM
  ผมชื่อ เทน ครับ   nine = นาย คำนำหน้าผู้ชาย ครับ  ten = ชื่อของผมครับ
  บทสรุป คือ nineten      (เก้า แล้ว สิบ ครับ)  emo_47 emo_47

ที่บอกอะอายุเหรอ...อ่านนิเนเทนตั้งนาน... emo_26 emo_26



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 27 มีนาคม 2008, 02:57:PM
ตอนแรกใช่ชื่อ"munn"ครับ
แล้วดินเขาให้ตั้งนามปากกาอ่ะครับ
ผมเลยคิดว่าใช้ชื่อ"ก๋วยเจ๊ง"อ่ะครับแต่ดินเขาบอกไม่สื่อครับ
เขาเลยตั้งชื่อให้ผมเลยครับ"มั่นในรัก"
ผมเชื่อคนง่ายครับเลยเอาชื่อนี้เลยครับ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ღღหัวใจหลงทางღღ ที่ 27 มีนาคม 2008, 09:18:PM
แหะๆ ก็ดินชอบชื่อไทยๆอ่ะ มั่นในรัก..เหมาะแล้วสำหรับคนเรียบร้อยแสนดีอย่างมั่นไง  emo_43

พี่ดินคิดยังงัยว่าดี  อิอิ

ตอนแรกเอมา  ก็  AAA  เลยค่ะ  พี่ดินแนะนำให้เปลี่ยนค่ะเพราะไม่เพราะ
เลยได้นามปากกาใหม่มาจาก  การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งค่ะ  ชอบเลยเอามาใช้ค่ะ
ความหมายตรงกับชื่อเลยค่ะ     


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: คนผิงดาว ที่ 27 มีนาคม 2008, 11:43:PM
ที่มาของนามปากกา  คนผิงดาว     

เป็นเรื่องราวเหมือนคนเศร้านักหนา

ดูซิพอถึงราตรีกาลของเวลา

ก็ออกมานั่ง..ผิงดาว..เพียงลำพัง

................................................

เป็นเหมือนดั่งคนเศร้า

จึงมาหาดาวนั่งผิง

หวังเพียงแค่ขอไออุ่นอิง

จึงหวังนั่งผิงเพียงแสงดาว

......................................................
   ดูคนเศร้าที่นั่งเหม่อมองบนฟากฟ้าแล้วมีน้ำตารินไหลหน่อยหนึ่งนะๆๆๆเข้าบรรยายกาศแล้วนั่งกอดเข่ามองดวงดาว

          แม้ๆๆๆเข้าบรรยายกาศคนผิงดาวเลยครับ  และเป็นเพลงๆหนึ่งที่ผมชอบมากๆที่คนเขียนเขาเขียนถึงคนรักตอนเดินทางในค่ำคืนโดยที่เขามองเห็นดวงดาวจากริมหน้าต่างรถทัวร์ในคืนนั้นจึงเป็นคำคมที่ซึ้งมากๆท่อนหนึ่งที่ว่า... คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนฟ้า จากรักจากศรัทธาของเรา,,,

                         จึงมาเป็น กวีคนเศร้า คนผิงดาว


                         โอ้ๆๆๆๆๆชักแม่น้ำมาตั้ง 7สายยังกล่าวที่มาไม่จบ เอาไว้เล่าต่อภาค2 เหมือนตำนานสาวหิมะคุณดินหญ้า(ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆก๊ากๆๆๆๆๆๆ)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมแห่งรัก ที่ 04 เมษายน 2008, 12:50:PM
กระผมนายเอ็กช์ครับ    ยินดีที่ได้รู้จักชาวอักษร
ตัวกระผมนี่ชอบแต่งกลอน  แต่แต่งไม่ค่อยคล้องเลยชักที่
เพื่อน ๆ น้องพี่จงโปรดช่วย  แนะนำด้วยมีอะไรบอกกันหน่า
สายลมแห่งรักจะนำและชักพา  ความสุขอุราให้แก่ทุก ๆ คน
 ( ไม่รู้ว่าสูข หรือ ทุกข์ดี อิอิ )

นามปากกานี้ได้มายังไง
สายลม  =  หมายถึง ลมพัดเย็น ๆ  ลมพัดเอื่อย ๆ
แห่งรัก  =  หมายถึง ความรักครับ

สายลมแห่งรัก  =  สายลมที่หอบเอาความรักมาครับ อิอิ  

ขอโทษที่พูดมากน๊ะครับ เกิด มา พ่อแม่ ก็ กลุ้มใจ มากครับ เพราะ พูดมาก พูด จน ลิง หลับ เลย ครับ อิอิ
นายเอ็กช์  สายลมแห่งรัก


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ⊹⊱⋛⋋ รักครั้งสุดท้าย⋌⋚⊰⊹ ที่ 04 เมษายน 2008, 08:13:PM
ทีแรก   ใช้ Yumi    เพราะว่าไม่รู้จะเอาไรดี  เพราะว่าชื่อยู เลยเติม มิ เข้าไป    emo_45 emo_45
แล้วทีนี้ก็เปลี่ยนมาเป็น   เกลียดผู้ชาย เพราะว่าตอนนั้นกำลังอยู่ในช่วง..เกลียดผู้ชาย..จริงๆ   emo_31 emo_31
แล้วต่อมาไม่นานก็เปลี่ยนเป็น  คนใจเดียว   ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรถึงอยากใช้ชื่อนี้  แต่มันตรงกับตัวเองดี มั้ง   emo_45
ตอนนี้ใช้ชื่อว่า  รักครั้งสุดท้าย   ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นชื่อสุดท้ายหรือเปล่านะ  แต่ชอบมากเลยชื่อนี้

ต่อไป..ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนอีกมั้ยน้อ   emo_45 emo_45

= = = = =
เปลี่ยนชื่อบ่อยๆ มันทำให้ลุงweb (คนอื่นๆด้วยมั๊ง) จำหนูไม่ได้ รู้ไหม  emo_13
ลุงว่าใช้ชื่อใดชื่อหนึ่งไปเลยดีกว่านะ

จากลุงเว๊ปจอมซ่า
= = = = =


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สารพัด*เพี้ยน ที่ 04 เมษายน 2008, 08:55:PM
♬♪♩♂ ร้า?lดี?Jสา♀ ♬♪♩  

อืม  ไม่รู้สิค่ะ มันถูกกะชื่อนี้อ่ะ
ใน hi5 ก็ชื่อนี้ มันแบบให้ความรู้สึก
ตกลงจะร้ายรึไม่ร้าย
แสบแบบเด็กๆง่ะ
เอิก้ๆ ต่อไปจาเป็นชื่อรายอีกน๊า 
คิกๆ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำเน่า...เงาจันทร์ ที่ 29 เมษายน 2008, 10:34:PM
panitan(ปณิธาน) เป็นชือที่บิดา@มารดาตั้งให้ซึ่งแปลว่า ตั้งใจไว้
 เป็นไงซึ้งเหลือไหมละ
 แค่ชื่อนั้นสำคัญที่ตรงใหน
 หากว่าใจที่แท้สำคัญกว่า
 หากจะรักอย่ามองเพียงรูปตัว
 มองให้ทั่วถึงข้างในหัวใจคน


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยชมพู ที่ 12 พฤษภาคม 2008, 05:11:PM
มีอยู่ 2 ที่มาค่ะ  คือ
1 ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบดอกมะลิ   แล้วก็ชอบสีดำด้วย  ก็เลยเอาเป็นมะลิสีดำ
2 คนส่วนมากที่รู้จักเราแต่ไม่สนิท   เค้าจะมองว่าเราเป็นคนเรียบร้อยไม่ค่อยพูดจา  เปรียบกับดอกมะลิ
แต่คนที่สนิทกันจริงจะรู้ว่านิสัยเราไม่ได้เรียบร้อยอะไรเล้ย   ก็เลยมาเป็นมะลิสีดำ
คำว่าสีดำนี่มันไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกนะ    แต่เป็นคนอารมณ์ดี  กวนๆมากกว่า   (แต่บางทีก็มีนิสัยโก๊ะๆเปิ่นๆ แฮะๆ)
จะใช้มะลิสีแดงหรือสีเหลืองมันก็ไม่เข้ากัน  ก็เลยเอามะลิสีดำนี่แหละเท่ดี


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: โหน่ง ที่ 12 พฤษภาคม 2008, 05:17:PM
วิทย์ แปลว่า วิชา
ธวัช แปลว่า อะไรไม่รู้ 
รวมกัน แปลว่า วิชาอะไรไม่รู่ (มั่ว)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: รัศมีธรรมส่องทาง ที่ 12 พฤษภาคม 2008, 06:07:PM
"รัศมีธรรมส่องทาง"  ความหมายก็คือ

รัศมีธรรม = รัศมีหรือแสงที่สว่างของพระธรรม (คำสอน)

ส่องทาง = ส่องทางในที่นี้  คือ  ทางดับทุกข์  หรือ  พระนิพพาน 

รวมเป็น  รัศมีธรรมส่องทาง  คือ  แสงสว่างแห่งพระธรรมจักนำไปสู่ทางดับทุกข์ได้

เป็นนามปากกาที่ใช้ในการแจกหนังสือธรรมะและสื่อธรรมะเป็นธรรมทาน

ใช้มาตั้งแต่ปี  พ.ศ. 2540 

ใช้เพราะว่าได้ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว  ซาบซึ้งมาก

ดุจหงายของที่คว่ำ  เปิดของที่ปิด  จุดประทีปในที่มืด  บอกทางแก่คนหลงทาง  ฉันใดก็ฉันนั้น

จึงเป็นที่มาของคำว่า  รัศมีธรรมส่องทาง  ดังนี้แล

 emo_12 emo_12 emo_12 emo_12 emo_12

รัศมีธรรม  ส่องทาง  สว่างจิต
รัศมีธรรม  นำชีวิต  สว่างใส
รัศมีธรรม  ส่องกว้าง  ในทางไกล
รัศมีธรรม  นำใจ  ใฝ่สุขเย็น

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

รัศมีธรรม  ส่องทาง  สว่างใส
รัศมีธรรม  นำใจ  ใฝ่สุขศรี
รัศมีธรรม  นำให้สร้าง  แต่ความดี
รัศมีธรรม  ประทีปนี้  มีคุณจริงฯ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: โหน่ง ที่ 13 พฤษภาคม 2008, 12:55:PM
รัศมีธรรมส่องทาง"  ความหมายก็คือ

รัศมีธรรม = รัศมีหรือแสงที่สว่างของพระธรรม (คำสอน)

ส่องทาง = ส่องทางในที่นี้  คือ  ทางดับทุกข์  หรือ  พระนิพพาน 

อ้างถึง
รวมเป็น  รัศมีธรรมส่องทาง  คือ  แสงแห่งธรรมจักนำพ้นจากทุกข์ได้ (สาธุ)

เป็นนามปากกาที่ใช้ในการแจกหนังสือธรรมะและสื่อธรรมะเป็นธรรมทาน

ใช้มาตั้งแต่ปี  พ.ศ. 2540 

ใช้เพราะว่าได้ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว  ซาบซึ้งมาก

ดุจหงายของที่คว่ำ  เปิดของที่ปิด  จุดประทีปในที่มืด  ฉันใดก็ฉันนั้น

จึงเป็นที่มาของคำว่า  รัศมีธรรมส่องทาง  ดังนี้แล


โอ้...........รสพระธรรม







หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ใจnSๅมeๅมlxJๅ ที่ 30 มิถุนายน 2008, 09:29:PM
 emo_32


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 30 มิถุนายน 2008, 11:42:PM
เพลงผ้า= อิสระความคิด ที่ล่องลอยพริ้วไหวเหมือนผ้าแพรยามต้องลมไปตามอารมณ์ของตัวโน๊ตอย่างมีสุข emo_47


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ยาจกพเนจร ที่ 02 กรกฎาคม 2008, 11:06:AM
.......ยาจกพเนจร.....
       ความหมายก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพียงแค่ผมเห็นหนังจีนทั่วไปเรียกบรรดาขอทานว่ายาจก แล้วมีพรรคตั้งกันเป็นกิจลักษณะอยู่กันเป็นกลุ่มคอยช่วยเหลือกันและกัน  สร้างความร่มเย็นให้ยุทธภพ  ผมก็เลยคิดว่ายาจกเขาแม้จะยากจนเข็ญใจอย่างไรก็ยังมีใจช่วยเหลือให้สังคมอยู่อย่างสงบสุข   ก็เลยนำชื่อ ยาจก มาเป็นนามปากกา แต่เราไม่ได้มีพรรคกระยาจกเหมือนจีนเขา เลยต้องอยู่คนเดียวพเนจรไปเรื่อย ๆ ไม่มีกำลังจะไปช่วยเหลือคนอื่น ก็ขอใช้คำพูดและบทกลอนช่วยปลอบใจ เป็นกำลังใจให้เขาในขณะเขาเบื่อหน่าย  อ่อนล้า แม้ได้ไม่มากก็ยังดีเลยมาใช้ชื่อ " ยาจกพเนจร " มาตั้งแต่สมัครสมาชิกเวบนี้

........ยาจกพเนจร.....

แม้จะเป็น...... " ยาจก " ที่ทุกข์เข็ญ
แม้จะเป็น......คนจรดูไร้ค่า
แม้จะเป็น......คนไม่มีราคา
ไม่มีแม้........ชายคาคุ้มหัวตน

แต่ขอเป็น....เสี้ยวหนึ่งในสังคมนี้
จะขอสร้างความดีทุกแห่งหน
จะไม่ให้เสียชาติเกิดมาเป็นคน
ที่ปะปนอยู่ทุกที่ทั้งดีเลว...  
             
                       
                       


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สุภาพบุรุษบ้านนอก ที่ 02 กรกฎาคม 2008, 03:28:PM
สุภาพบุรุษ...บ้านนอก
ความหมายของคำนี้ก้อไม่มีไรมากมายหรอกคับ
คือตัวของผมเป็นคนชอบอ่านนิยายและสะสมหนังสือกลอน
แล้วก้อชอบท่องเที่ยวเสาะหากลอนมาสะสมไว้แล้วบังเอิญว่า
ไปสะดุดคำ ๆ นึงในหนังสือกลอนก้อคือ   " สุภาพบุรุษบ้านนอก"
ผมว่ามันก้อเพราะดีถึงจะยาวไปหน่อย ก้อเลยนำมาใช้ในกลอนไทย
 emo_85 emo_85 emo_85

(http://upload.sodazaa.com/files/4kryzmmqldzynnvejdih.gif)



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ++ แตง ++ ที่ 03 กรกฎาคม 2008, 08:24:PM
tang057

มาจากชื่อเล่น แตง

ส่วน 057 ไม่ใช่อายุ หรือเป็นเลขเด็ดอะไรไม่ใช่นะคะ (แต่ใครจะเอาไปแทงหวยก็มิว่ากัน)  คือ 057 มาจากรหัสนักศึกษาตอนเรียนมหาวิทยาลัย  เพราะในห้องมีคนชื่อแตงสองคน ก็เวลาเรียกก็จะบวกรหัสนักศึกษาไปด้วย

นี่แหละคือที่มาของ  แตง057 ค่ะ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: โหน่ง ที่ 04 กรกฎาคม 2008, 01:24:AM
053  อะอะอะ อย่าคิดว่าเลขเด็ด คีอรหัสนิสิตปี 51 เอาะๆ อยู่เลยเรา อิอิ emo_26 emo_45


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: v.nefertali ที่ 17 สิงหาคม 2008, 10:08:AM
จริงๆแล้วเป็น  Nefertali Vivi 

เป็นชื่อของเจ้าหญิงแห่ง อลาบาสต้า

ที่ชอบ เพราะว่า เจ้าหญิงผมสีฟ้าคนนี้ อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ    emo_110



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: กวีพเนจร ที่ 17 สิงหาคม 2008, 11:42:AM
หวัดดีครับ โรมีโอ ครับ
ชื่อนี้มาจาก....จากไหนหว่า emo_40
แต่ใครๆก้อคิดว่ามาจาก Romeo & Juliet อ่ะ
ที่จริงตั้งมาจากการสร้างตัวละครในเกมส์อ่ะนะ (พอดีว่าคิดชื่อนี้ได้น่ะ) emo_45

โรมีโอ คนโก้ กวีน้องใหม่
ฝากหัวใจ โทรมๆ สักครั้งหนา
หาจูเลียต ตั้งนาน ก้อไม่มา
ซ้ำอุรา จูเลียต อยู่หนใด...

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดชาย ที่ 18 สิงหาคม 2008, 01:35:AM
เดิมใช้ naiguide ครับ ประกอบด้วยคำว่า "nine" และ "guide"

คำว่า "nine" ใช้ทับศัพท์แทนคำว่า "นาย"

คำว่า "guide" เป็นชื่อเล่นผมเองครับ รวมกันก็เป็น นายไกด์

แต่น้องดิน เขาบอกว่าเข้ามาเวปกลอนไทยแล้วขอให้เปลี่ยนชื่อให้เป็นภาษาไทย

ก็เลยเลือกใช้คำว่า "ยอดชาย" ที่มาของคำนี้ มาจากสมัยเรียนระดับมหาวิทยาลัย

เพื่อน ๆ ในกลุ่มจะเรียกผมว่า "ยอดชาย นายไกด์" ครับ ก็เลยใช้คำว่ายอดชาย

เป็นนามปากกา ในการแต่งกลอน และการแสดงความคิดเห็นในกระทู้ต่าง ๆ ของแต่ละ Web ครับ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวบนพื้นดิน ที่ 21 สิงหาคม 2008, 02:28:PM
การรอคอยของนาฬิกาทราย
จะรอคอยอยู่อย่างเงียบ
รอคอยโอกาสที่เธอจะมอบให้
โอกาสที่ทำให้เธอมีความสุขและรอยยิ้ม
แม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม emo_12 emo_12  



การรอคอยของนาฬิกาทราย


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: warlcat^^ ที่ 31 สิงหาคม 2008, 10:23:AM
ของหนูชื่อ warlcat(วอลแคท)ค่ะ

ก็เคยมีคนสงสัยเหมือนกันว่าชื่อหนูมันมาได้ยังไง

จริงๆชื่อนี้เพื่อนของหนูเป็นคนตั้งให้นะ เขาบอกว่าหนูซุกซนเหมือนแมว

ขี้เล่น และเอ่อ .. ชอบร้องเหมียวเล่นกับเพื่อนด้วยอ่าค่ะ

ส่วนwarlcat ในความหมายของหนูก็คือ แมวชอบแกล้ง ขี้เล่น อาไรประมาณเนี้ยค่ะ^^



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ผีโป่งโหงพราย ที่ 04 กันยายน 2008, 10:46:PM
พรานไพรใจฉกาจ

ก็ไม่มีไรมากแฟนเก่าเป็นทหารพรานอ่ะ

อิอิ

เท่ห์ซ่ะไม่มี


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ~เห่าหอน...ยามราตรี~ ที่ 29 กันยายน 2008, 04:51:PM
ตอนแรกหนูใช้ว่าkarn14673      emo_18

karn - ชื่อของหนู  emo_51

14673 - เลขประจำตัวของรร.เรียนอยู่  emo_54

แต่เดี๋ยวนี้หนูใช้ชื่อของหนูเลยคือ กานต์  emo_20

บางคนอาจไม่รู้ว่ากานต์ที่มี ต์ มีความหมายว่าอะไร emo_40

กานต์ - ผู้เป็นที่รัก  emo_50



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: kradan ที่ 24 ตุลาคม 2008, 11:25:PM
กระดาน


= ="

ยังต้องให้บอกอีกหรอว่ามาจากไหนอ่ะ

กระดานมีประโยชน์นะ  เป็นเครื่องมือที่ช่วยอธิบาย หรือ แสดงสาระต่างๆได้
จริงๆ ที่ตั้งว่ากระดานก็เพราะเพื่อนเรียก เรียกบ่อยกว่าชื่อเล่นอีก  ก็เลยตั้งว่ากระดาน อิอิ


=  =  =  =  =
อ้อ...เฮียเข้าใจล่ะ emo_19
จาก webmaster
=  =  =  =  =


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 25 ตุลาคม 2008, 02:08:PM
อ้างจาก: กานต์
ตอนแรกหนูใช้ว่าkarn14673      emo_18

karn - ชื่อของหนู  emo_51

14673 - เลขประจำตัวของรร.เรียนอยู่  emo_54

แต่เดี๋ยวนี้หนูใช้ชื่อของหนูเลยคือ กานต์  emo_20

บางคนอาจไม่รู้ว่ากานต์ที่มี ต์ มีความหมายว่าอะไร emo_40

กานต์ - ผู้เป็นที่รัก  emo_50





(http://dragonflygang79.exteen.com/images/icon/1a.gif)(http://dragonflygang79.exteen.com/images/icon/1a.gif)แล้ว "กานต์ของมั่น" เนี้ยแปลว่าอะไรเหรอ ^^ (http://dragonflygang79.exteen.com/images/icon/1a.gif)(http://dragonflygang79.exteen.com/images/icon/1a.gif)



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 25 ตุลาคม 2008, 02:25:PM
อ้างจาก: kradan
กระดาน


= ="

ยังต้องให้บอกอีกหรอว่ามาจากไหนอ่ะ

กระดานมีประโยชน์นะ  เป็นเครื่องมือที่ช่วยอธิบาย หรือ แสดงสาระต่างๆได้
จริงๆ ที่ตั้งว่ากระดานก็เพราะเพื่อนเรียก เรียกบ่อยกว่าชื่อเล่นอีก  ก็เลยตั้งว่ากระดาน อิอิ


=  =  =  =  =
อ้อ...เฮียเข้าใจล่ะ emo_19
จาก webmaster
=  =  =  =  =



นามนี้มีที่มา....มาจากหุ่นของเจ้าของชื่อน่ะ
(http://www.thainewsland.com/images/th/34949.jpg)
เนี้ยรูปเจ้าของชื่อ ^^


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: kradan ที่ 25 ตุลาคม 2008, 02:28:PM
เออ แต่น่ารักอ่ะ 55+


โอเค   emo_15


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ne-on ที่ 25 ตุลาคม 2008, 03:14:PM
ne-on...มาจากชื่อรุ่นของรถอ่ะครับ  รถยนต์แบรนด์    CHRYSLER  ร่น    NEON ทุกวันนี้ก็ควบเจ้าne-on...อยู่ก็เลยเอามาใช้เป็นชื่อ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ใจnSๅมeๅมlxJๅ ที่ 25 ตุลาคม 2008, 05:34:PM
รถน่านั่งเน้อ

คุณขุนกระบี่


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 26 ตุลาคม 2008, 10:53:PM
รถน่านั่งเน้อ

คุณขุนกระบี่


(http://img.clubzaa2499.info/images/687323008.jpg)
ให้ไวเลย หลิม รถจะออกแล้ว รถ ต้น ขับเครื่องล้อหลังน่ะ เดี๋ยวมีดิ๊บโชว์



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: หลานเจ๊กโรงสุรา ที่ 26 ตุลาคม 2008, 11:29:PM
นามปากกา Akira นี่ เราเป็นคนชอบชื่อญี่ปุ่นน่ะ แต่ชื่อไทยก็มี แฮะๆๆ ว่าจะเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็นชื่อไทยจ๊าบๆ งั้นขอตัวไปคิดก่อนละกันเนาะ  emo_47


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: นักเดินทาง ที่ 27 ตุลาคม 2008, 07:40:AM
สำหรับ นามปากกาว่า นักเดินทาง  จักขออธิบายอย่างนี้นะครับว่า
ชีวิตของเราเป็นชีวิตนักเดินทางอย่างเต็มตัว เพราะเราได้ออกจากบ้านมาศึกษายังสถานที่ที่แสนไกล และแน่นอนเรามีความเชื่อว่า ชีวิตคือการเดินทาง เดินทางไปโดยมีความตายเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดแห่งการเดินทางในภพชาตินี้  ระหว่างการเดินทางไปสู่ความตายอันเป็นจุดมุ่งหมายแห่งการเดินทางในภพชาตินี้ของเรา คือมวลแห่งประสบการณ์ที่เราจะต้องเก็บเกี่ยวและเรียนรู้ภายใต้กฏและกรอบแห่งคุณงามความดีและศีลธรรมอันไม่เบียดเบียนใคร....


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: อัลิปรียา ที่ 28 ตุลาคม 2008, 01:37:PM
บุษบงกช กรไชย
ค่ะ มาจากชื่อจริงของน้อง นั่นก็คือ บุษกร ไชยราช
บุษกร แปลว่าดอกบัว น้องชอบดอกบัว บุษ เฉยๆก็แปลว่าดอกไม้ บงกช ก็แปลว่าดอกบัว
น้องจึงเอาคำว่า บุษ กับ คำว่า บงกชมารวมกัน เป็นบุษบงกช
 ส่วนกรไชยนั้นก็มาจากนามสกุล ไชยราช กับคำสุดท้ายของชื่อ บุษกรค่ะ
ซึ่งกรไชย ก็พ้องกับ กรชัย คือผู้ที่มีชัยชนะ ความหมายดีน้องก็เลยเอามารวมกันเป็น
บุษกร ไชยราช _บุษบงกช กรไชยค่ะ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: pimyda ที่ 28 ตุลาคม 2008, 02:20:PM
 emo_50
ชื่อเล่น พิม  เจ้าคะ  (จริง)ก็ญาดา
แปลว่า  นักปราชญ์
ที่นี้ก็หานามปากกา  หาเท่าไหร่ก้อไม่ได้ไปซ้ำกะคนอื่นหมดเลยขอ  ชื่อตัวเอง

พิม+ญดา  =  พิมญดา  อิอิ emo_58
ฝากงานเขียนที่ยังเพียรด้อยร้อยกานท์กลอนสักคนนะคะ emo_75 รักนะจุฟฟฟฟฟฟฟ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: pimyda ที่ 28 ตุลาคม 2008, 02:41:PM
emo_50
ชื่อเล่น พิม  เจ้าคะ  (จริง)ก็ญาดา
แปลว่า  นักปราชญ์
ที่นี้ก็หานามปากกา  หาเท่าไหร่ก้อไม่ได้ไปซ้ำกะคนอื่นหมดเลยขอ  ชื่อตัวเอง

พิม+ญดา  =  พิมญดา  อิอิ emo_58
ฝากงานเขียนที่ยังเพียรด้อยร้อยกานท์กลอนสักคนนะคะ emo_75 รักนะจุฟฟฟฟฟฟฟ

พึ่งรู้นะเนี่ย...ตอนแรกเข้าใจว่ามาจาก..."พิม...อย่าด่า"..ซะอีก...อิอิอิ แต่คงไม่หรอกทั้งสวย ทั้งน่ารักปานนี้ ถ้าด่าเก่งละก็...ขายไม่ออกแน่เลย...

มาแซวน้องก่อนนอน (พักกลางวัน)จ้า


จ๊าก emo_69...ชื่อพิมออกเพราะง่ะ  พี่แจ๊กกี้ emo_62
แล้วพี่ชายและคะ..สงสัยจาหล่อแน่ๆๆเยย..แปลว่ารายง่า..หล่อดำหรือขาวเนี่ย..อ้วนด้วยเปล่า.. emo_82คิดม่ายออกอ่า..เอารูปลงหน่อยดิพี่ชาย..พิมจาได้ประกาศขาย..พี่ชายจาได้ขายออกซะที..อิอิ emo_104

นามปากกาของท่านได้แต่ไรมา
ใช้แจ๊กกี้อักษราพาสงสัย
ตัวจริงท่านจะหล่อล่ำดำหรือไร
ขาวยองใยหล่อเกินใครในโลกา

ช่วยเล่าแจ้งแถลงการณ์ทีพี่ท่าน
มาปลุกปั่นก่อวงค์วานนามใครหนา
บ้างน่ารักบ้างสวยงามตามจินตนา
ร้อยภาษากลอนกานท์ลานกลอนไทย

พิมญดา ชื่องาม..ตัวจริงก็บ่งามนักเจ้า.. emo_110


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: webmaster ที่ 28 ตุลาคม 2008, 07:54:PM
^
^
^
ที่มาของ นามปากกาของพี่แจ๊กกี้นั้น น่าจะเป็นเพราะว่าแกติดอ่างน่ะ  emo_26 emo_26 emo_26


แซวเล่นนะเพ่ชาย  emo_85


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: กวีพเนจร ที่ 29 ตุลาคม 2008, 06:40:AM
ที่แท้นามปากกาพี่แจ็คก้อมาจากความชอบส่วนตัวนี่เอง
ชอบของที่สาวๆใช้ซะด้วย เพิ่งจะรู้นะเนี่ย ว่านามปากกาพี่แจ็คมาจาก
ยี่ห้อชุดชั้นใน นึกว่ามาจากชื่อนางแบบซะอีก เอิ๊กส์ๆๆๆ
 emo_45 emo_45 emo_45

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากันนา ที่ 29 ตุลาคม 2008, 08:01:AM


นามปากกา "ป้ากันนา" คือชื่อเล่น
และก็เป็นคนคราวป้าของหนูหนู
บางคนก็เรียกแม่น่าเอ็นดู
ที่รู้รู้ป้าใจดีไม่มีภัย

มาเล่นกลอนบ้านนี้เพราะน้องพิม
คนจิ้มลิ้มชวนชี้นี่บ้านใหญ่
มีเพื่อนพ้องนักกลอนหลายหลากวัย
อายุไม่สำคัญอย่าหวั่นเกรง


 
อิอิ  เขินนิดนิดบอร์ดนี้ออกจะวัยสะรุ่น  555


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: หลานเจ๊กโรงสุรา ที่ 29 ตุลาคม 2008, 08:51:PM
ได้นามปากามาใหม่แล้วจ้า จาก "Akira" เป็น "ณัฐกวินท์"(นัด-กะ-วิน หรือ นัด-ถะ-กะ-วิน) ซึ่งแปลว่า นักปราชญ์แห่งกวี ปลื้มสุดๆ 555



นามปากกา "ป้ากันนา" คือชื่อเล่น
และก็เป็นคนคราวป้าของหนูหนู
บางคนก็เรียกแม่น่าเอ็นดู
ที่รู้รู้ป้าใจดีไม่มีภัย

มาเล่นกลอนบ้านนี้เพราะน้องพิม
คนจิ้มลิ้มชวนชี้นี่บ้านใหญ่
มีเพื่อนพ้องนักกลอนหลายหลากวัย
อายุไม่สำคัญอย่าหวั่นเกรง


 
อิอิ  เขินนิดนิดบอร์ดนี้ออกจะวัยสะรุ่น  555

ฮุฮุ ก็ไม่เท่าไหร่หรอกจ้ะ หนูอยู่แค่ ม.1 เอง แต่ชอบแต่งกลอนมาก ว่างๆก็นั่งแต่งเล่น
ตอนที่เพิ่งรู้ว่ามีเว็บบอร์ดกลอนนี่ ดีใจสุดๆ จะได้ไม่แต่งแล้วขยำทิ้ง 555

มีเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นทั้งเหตุการณ์และประสบการณ์
ตอนที่อยู่ ป.6 ไม่รู้ว่าครูจะให้ส่งผลงานประกวดวันแม่ภายในวันนี้
รีบวิ่งขึ้นห้องจับปากกานั่งคิดแล้วก็บ่นงึมงำๆอยู่คนเดียว (แฮะๆๆ)
....................................................................
ซักพักนึงก็ ปิ๊ง! คิดออกแล้วบทนึง จดๆๆๆๆ
ยังไม่มันส์ ต่ออีกบทที่สอง เขียนๆๆๆๆ
จากนั้นก็สปีดเต็มที่ ส่งครูขณะที่กำลังจะตัดสินนั่นแหละ

เช้าวันต่อมา รร.จัดงานวันแม่ ก็เลยอยู่รอฟังผลการประกวดกลอน
Yessssss ด.ญ.(ขอสงวนชื่อเด้อ) ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดกลอนเทิดไท้พระคุณแม่
ยังทำหน้างงอยู่เลย เอ้า เราชนะรึนี่ เพื่อนบอก "เฮ้ย ขึ้นไปรับรางวัลซิวะ งงอยู่ได้"
ในบทกลอนที่เขียนส่ง(ก็ไม่ค่อยเพราะสละสลวยเท่าไหร่) มีใจความว่ายังงี้



ดอกมะลิ ร้อยมาลัย ให้คนหนึ่ง
คนที่ซึ่ง รักเรา เท่าชีวิต
คนที่เคย เห็นเรา ได้ทำผิด
แต่ไม่คิด จะทำโทษ แม้โกรธเรา

คนๆนี้ เป็นใคร รู้ไหมหนอ
เคยถักทอ ความรัก แบ่งปันให้
และคนนี้ เป็นคน มีน้ำใจ
มิใช่ใคร แน่แท้ "แม่"ของเรา


มือใหม่ก็ยังงี้แหละเนาะ มันคล้องจองกันก็บุญแล้ว 555


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: 27071979chom ที่ 12 พฤศจิกายน 2008, 04:07:AM
มาจากคนที่ผมรักที่สุด


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: นายขี้เหร่ดำปืด ที่ 23 พฤศจิกายน 2008, 01:51:AM
นายขี้เหร่ดำปืด   ที่มา เพราะหน้าตาไม่ดี จบ  emo_30 emo_27


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: wonderloveyou ที่ 23 พฤศจิกายน 2008, 08:12:PM
นายขี้เหร่ดำปืด   ที่มา เพราะหน้าตาไม่ดี จบ  emo_30 emo_27

รักกันดูที่ใจไม่ใช่หรอ..

------------------------------------



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 23 พฤศจิกายน 2008, 09:57:PM
อ้างจาก: OomyimZoda


รักกันดูที่ใจไม่ใช่หรอ..

------------------------------------

ใช่ครับผมเห็นด้วยน่ะครับ
คนเราไม่ได้คบกันที่หน้าน่ะครับ นิสัยใจคอมากกว่าน่ะครับ
คนเราหน้าตามันเปลี่ยนกันได้น่ะครับ และที่สำคัญที่สุด
ก็คือหน้าอกครับ 
อ่ะๆไม่ใช่อย่างที่คุณคิดน่ะครับผมหมายถึงหน้าอก
ข้างซ้ายครับ นั้นคือหัวใจครับ
แล้วก็รูปร่างด้วยครับ รูปร่างต้องเร้าใจครับ
 emo_26 emo_26 emo_26


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ⊹⊱⋛⋋ รักครั้งสุดท้าย⋌⋚⊰⊹ ที่ 26 พฤศจิกายน 2008, 11:52:AM
นายขี้เหร่ดำปืด   ที่มา เพราะหน้าตาไม่ดี จบ  emo_30 emo_27


ใช่หรอ   ไม่ได้มาจากที่หน้าตาไม่ดีหนิ


ดูแล้วก็ไม่ขี้เหร่นะ


แต่ว่าดำปืดอ่ะ ของจิง   อิอิ




ล้อเล่นนะเพื่อน  emo_20 emo_20 emo_20


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ขวด ที่ 04 ธันวาคม 2008, 06:58:PM
ที่ผมใช้นามปากกาว่าขวดนั้นก็เพราะว่า
ผมประทับใจในขวดที่สามารถบรรจุสิ่งอะไรลงไปก็ได้ เปรียบเสมือนสมองที่สามารถจะบรรจุสิ่งต่างๆรอบตัวได้
แค่นั้นแหละ
เหอๆๆ ฮ่าๆๆ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: doddko9N ที่ 07 ธันวาคม 2008, 10:13:AM
ชื่อผมอะคับ ได้มาจากการเขียนชื่อจริงเป็นภาษาไทยแล้วลืมกดเปลี่ยนภาษาอะคับ emo_12


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ⊹⊱⋛⋋ รักครั้งสุดท้าย⋌⋚⊰⊹ ที่ 08 ธันวาคม 2008, 12:44:PM
ชื่อผมอะคับ ได้มาจากการเขียนชื่อจริงเป็นภาษาไทยแล้วลืมกดเปลี่ยนภาษาอะคับ emo_12


ผู้ชายชื่อกนกกานต์หรอ มันแปลกๆนะ  emo_40 emo_40


แล้วทำไมไม่ไปเปลี่ยนละคะ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดชาย ที่ 08 ธันวาคม 2008, 07:49:PM
ที่ผมใช้นามปากกาว่าขวดนั้นก็เพราะว่า
ผมประทับใจในขวดที่สามารถบรรจุสิ่งอะไรลงไปก็ได้ เปรียบเสมือนสมองที่สามารถจะบรรจุสิ่งต่างๆรอบตัวได้
แค่นั้นแหละ
เหอๆๆ ฮ่าๆๆ

ว่าแต่เป็นขวดเล็ก หรือขวดใหญ่ละครับ เพราะราคาไม่เท่ากันนะ 5555 เอิ๊ก

...

แซวเล่นนิดหน่อยคงไม่ว่ากันนะ  emo_45 ขำๆ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ขวด ที่ 11 ธันวาคม 2008, 07:12:PM
อ้าวอย่างผมก็ต้องขวดใหญ่สิเพราะผม คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก  ขวดก็ต้องใหญ่ไม่ขวดเล็ก
เพราะเล็กๆไม่ ใหญ่ๆทำ
เหอๆๆ ฮ่าๆๆ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: หลานเจ๊กโรงสุรา ที่ 25 ธันวาคม 2008, 09:38:PM
Akira เขียนเป็นภาษาอังกฤษแต่ถ้าเป็นภาษาต้นตำรับ ภาษาไทยคือ อคิราภ์ มีความหมายว่าแสงอาทิตย์ แต่ในภาษาญี่ปุ่นจะอ่านว่าอากิระ มีความหมายว่า แสงสว่าง

ณัฐกวินท์ แยกความหมายออกได้ดังนี้ ณัฐ แปลว่า นักปราชญ์ กวินท์ แปลว่าเจ้าแห่งบทกวี ณัฐกวินท์จึงรวมความหมายได้ว่า นักปราชญ์แห่งบทกวี

ตั้งนามปากกาให้เป็นมงคลหน่อย แหะๆๆ เชื่อเรื่องนี้เหมือนกันนะเนี่ย  emo_12 emo_12 emo_12

(http://i290.photobucket.com/albums/ll255/KillerOrDie/Akira.jpg)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: มานพ ที่ 03 มกราคม 2009, 07:58:PM
manop มาจากภาษาไทย มานพ แปลว่าหนุ่มน้อย(หนุ่มเหลือน้อย)
และมีนามปากกาอีกอันว่า"ก่องกิก"เผื่อบางคนในที่นี้จะรู้จักบ้าง...แค่นี้แหละครับ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: อัคนีรุทร์ ที่ 04 มกราคม 2009, 01:06:AM
   สมัครครั้งแรกใช้      "noinoinoi"  (อ่านว่า  น้อยน้อยหน่อย  )     มาจากชื่อเล่น  น้อย  ตอนสมัครเขาให้ใช้แต่อักษรภาษา ปกิษ อ่ะนะ  แถมใส่คำเดียวไม่ได้ด้วยเพราะมีสมาชิกท่านอื่นใช้นามปากกานี้ก่อนแล้ว เลยต้องใส่เป็น 3 คำซ้อนกัน  เลยเป็นที่มาของนามว่า  noinoinoi   ( น้อยน้อยหน่อย )  ครับ
   กาลเวลาผ่านไปรู้ฉึกว่านามนี้ไม่เหมาะกับบ้านกลอนไทย  เพราะเป็นภาษาปกิษ  จึงเปลี่ยนมาเป็น  "อัคนีรุทร์" 


     (  อัคนีรุทร์   ชื่อนี้เป็นชื่อตัวละครในนวนิยายเรื่อง  เพชรพระอุมา    โดยเป็นชื่อในอดีตชาติของ  พรานรพินทร์  ไพรวัลย์  หรือ  พรานใหญ่  ที่เป็นพระเอกในเรื่องครับ ประมาณว่า เป็นนวนิยายในดวงใจครับ  อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ  )


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 04 มกราคม 2009, 12:42:PM
สุวรรณย่อจากนามสุวรรณา
บุพการีตั้งมาแต่กำเนิด
เป็นมงคลดีแม้นามไม่ล้ำเลิศ
ชื่อนี้แหละบรรเจิดเพราะพ่อแม่ท่านให้มา

จากนามว่าสุวรรณา เพื่อนเรียกย่อ
ไว้ยามล้อต่อคำหยิกกัดหนา
เรียกสุวรรณ สุวรรณ จนชินมา
เลยใช้นาม..ว่า..สุวรรณในบ้านกลอน


สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆที่รักในร้อยแก้ว ร้อยกรองเหมือนกัน
ขอบคุณที่มีบ้านกลอนไทย ไว้ให้เราได้ขีดเขียนสิ่งที่พวกเราชอบค่ะ emo_54


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: CatZaTan ที่ 19 มกราคม 2009, 09:51:PM
ดีจ้า ชื่อเราหลอ ก็เราชอบแมว นิสัยเหมือนแมว และก็ซ่าๆน่ะ แถมยังสร้างเรื่องยุ่งให้ บ่อย (คนข้างๆบอก)   ก็เรยเปงชื่อ แมวซาตานซะเรย
 และก็ รูปเราที่เอามาเพราะ เราชื่อ ลูกกวาด น่ะ เอาภาพมาตามชื่อ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 19 มกราคม 2009, 10:29:PM
อ้างจาก: CatZaTan
ดีจ้า ชื่อเราหลอ ก็เราชอบแมว นิสัยเหมือนแมว และก็ซ่าๆน่ะ แถมยังสร้างเรื่องยุ่งให้ บ่อย (คนข้างๆบอก)   ก็เรยเปงชื่อ แมวซาตานซะเรย
 และก็ รูปเราที่เอามาเพราะ เราชื่อ ลูกกวาด น่ะ เอาภาพมาตามชื่อ

ผมก็ชอบแมวเหมือนกัน ทำไมใจเราตรงกันอ่ะจ๊ะ
ผมชื่อมั่นน่ะ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Imagine ที่ 27 มกราคม 2009, 07:19:PM
Imagine มีความหมายว่าจินตนาการ ส่วนชื่อจริงๆชื่อจินตนาค่ะ เป็นนามแฝง...แฝงชื่อจริง 555


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สุภาพบุรุษทรชน ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2009, 11:45:PM
..."สุภาพบุรุษทรชน"...ข้างนอกในสายตาคนอื่นดูว่าเลว..แต่ข้างในดีงามประมานนั้นมั่ง... emo_57


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 01 มีนาคม 2009, 04:28:PM
สายลมสีขาว - แม้ไม่มีตัวตน แต่หากสัมผัสและรับรู้ได้ด้วยหัวใจ  emo_12


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Ichigo00 ที่ 01 มีนาคม 2009, 08:16:PM
"อิจิโกะ"- เป็นชื่อตัวละครในการ์ตูนเรื่องbleach เทพมรณะ ภาษาญี่ปุ่นแปลว่าสตอเบอรี่ก็ได้ครับ(เเต่แปลได้อีกความหมายคือ อิจิ=รางวัลที่1 โกะ=ผู้พิทักษ์)


สรุปคือ Ichigo00 (0=ไม่)      แปลว่าไม่มีที่มีชีวิตที่perfectไม่ได้มีแต่ความโชคดีเเละไม่มีใครที่ทำตัวเป็นผู้พิทักษ์ได้ตลอดครับ        emo_47 emo_45 emo_54


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: u-sun ที่ 02 มีนาคม 2009, 04:36:PM
ยูซัน ก็ง่ายๆค่ะ  เราชื่อเล่นชื่อสุ ส่วนแฟนชื่อเล่นชื่อยัน ยัน+สุ=ยูซัน แต่มีอีกนามปากกานะคะ sayo sup เอาชื่อจริงเรากับแฟนมาบวกกัน


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Tong kajok ที่ 21 มีนาคม 2009, 06:33:PM
ผมชื่อตงครับ Tong เพื่อนชอบเรียกผมว่าโตงเตง
ผมแต่งกลอนไม่ค่อยเก่งเลยตั้งชื่อว่าTong kajokครับ  แค่นี้แหละครับ
อีกหน่อยจะเปลี่ยนชื่อดีกว่าชื่อเดิมไม่ค่อยเป็นมงคลเลย  emo_32

                                                                                      รักกลอนไทยครับ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 30 มีนาคม 2009, 09:18:PM
hort39 มาจาก horticultue  แปลว่าพืชสวน         ส่วน 39  คือรุ่นที่จบออกมา     


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ท้องฟ้าสีชมพู ที่ 30 มีนาคม 2009, 09:54:PM
นามปากกา ท้องฟ้า สีชมพู
ดูเป็นชื่อ งงงัน หลากความหมาย
อันท้องฟ้า ต่างก็มี สีมากมาย
แล้วเหตุใด ถึงต้องเป็น สีชมพู

....คือว่ามีที่มาว่า....
อยากได้นามปากกาที่ไม่ใช่ชื่อเล่นหรือชื่อจริงหรืออะไรมากมายก็เลยมาลองคิดๆดู
แล้วก็มีคนนึงเค้าบอกว่าจ๋าเหมือนท้องฟ้าก็เลยเอามาตั้งแต่ว่าอยากให้มันพิเศษหนอ่ย
เพราะเป็นท้องฟ้าธรรมดาคงไม่คอ่ยเท่ห์เท่าไหร่ ก็เลยเติมสีชมพูลงไป
แล้วเหตุผลทีเป็นสีชมพูเพราะว่าให้เป็นท้องฟ้ายามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตกเพราะว่าจ๋าคิดว่ามันสวยดีแล้วก็ดูเศร้าๆด้วย
เคยเห็นท้องฟ้าเป็นสีชมพูไม่คอ่ยบ่อยก็เลยคิดว่าแปลกก็เลยเอามาตั้งนี่แหละค่ะ
แต่ท้องฟ้าสีชมพูตอนเย็นนี้เป็นเครื่องหมายถึงความเศร้าด้วยนะ
เพราะว่าคนที่บอกว่าจ๋าเหมือนท้องฟ้าคนนั้นน่ะเค้าไม่ได้อยู่ใกล้ๆจ๋าแล้วล่ะ

อิอิอิอิ พิมพ์มาซะยืดยาว จะมีใครมาหยุดอ่านมั้ยเนี่ย55++55++
.................................................


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Hikari ที่ 02 เมษายน 2009, 03:13:PM
Hikari  ได้มาจากเซ็นเซย์ที่เป็นคนญี่ปุ่น คือเค้าจะตั้งให้ทุกคนในห้องแล้วพอดีจับได้ชื่อนี้ก็เลยเอามาใช้
ความหมายในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า แสงสว่าง


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 13 พฤษภาคม 2009, 04:59:PM

เมื่อใหม่ใหม่ผมใช้sjaiครับ
ไม่ค่อยรับกับwebเสพย์ภาษา
จึงเปลี่ยนชื่อไทยไทยสบายตา
สายใยมาจากนาย "spider man"
               ฝากตัวด้วยครับผม


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 13 พฤษภาคม 2009, 06:20:PM
ในบ้านกลอนไทยแห่งนี้ผมใช้ชื่อจริงครับ
จึงไม่สามารถตอบอะไรได้มากมาย
ส่วนนามปากกาอื่นมีครับ
แต่ขออุบไว้ก่อน(สงวนท่าที)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: GLUE ที่ 23 พฤษภาคม 2009, 07:27:PM
ในบ้านนี้ ชื่อผม ก็คือGLUE(กลู)
บางท่านรู้ GLUEนั้น เป็นคำแผลง
มาตอนนี้ เอาอีกที เลยแสดง
GLUEนั้นแผลง แปลงว่า"กาว" ชื่อเราเอง

สรุปแล้ว กาว ในภาษาอังกฤษ คือGLUE
ก็เลยเอามาเป็น ชื่อนามปากกา และชื่อuserในนี้ด้วย

อธิบายอีกที จากกระทู้นี้นะครับ
http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=6045.msg59403#new (http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=6045.msg59403#new)



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ฌลา ที่ 23 พฤษภาคม 2009, 09:08:PM

ฌลา แปลว่าแสงสว่าง
ช่วยนำทาง....คนเคว้งคว้างให้หายเหงา
จะอธิบายที่มาของเรื่องราว
ที่บอกเล่ากล่าวนามถามที่มา

ชอบตัว..."ฌ"....มากมาย
เลยตามหาความหมายตามประสา
เลยได้คำดีดีที่อ่านมา
เป็นคำว่า "ฌลา"...ดูน่าฟัง


 ฌลา แปลว่าแสงสว่างค่ะ พอดีชอบตัว ฌ กระเชอเป็นการส่วนตัวเลยเลือกคำที่นำมาจากตัว ฌ ที่เพราะๆ ความหมายดีๆ เลยได้มาเป็นคำนี้ค่ะ



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: nontawit ที่ 07 มิถุนายน 2009, 10:57:PM
ไม่มีไรมากครับ เอาชื่อจริงเลย(นนทวิชญ์) emo_28 emo_54 emo_45 emo_20


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ஐยาจกน้อย In ⓛⓞⓥⓔ ที่ 09 มิถุนายน 2009, 11:14:AM
ยาจกน้อย  In ⓛⓞⓥⓔ

อันตัวฉันมีนามว่ายาจก   ซึ่งสกปรกนิดหน่อยอย่าถือสา

เติมคำอินเลิฟนั้นเข้ามา   นี่แหละหนาคือ  ยาจกน้อย  In ⓛⓞⓥⓔ  ไง


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: มารเงา ที่ 25 มิถุนายน 2009, 09:56:PM
...อันPhantom นามปากกา นี้ได้มา
จากโดต้า(DotA) ตัวPhantom โปรดหลากหลาย
ชื่อ Phantom Assasin ชอบมากมาย
คริกระจาย ดับชีวิน สิ้นชีวี
 ...อีกนัยหนึ่ง Phantom แปลว่าเงา
ติดตามเรา ไปทุกถิ่น ไปทุกที่
ดูซ่อนเร้น ลึกลับ ความหมายดี
สิ้นชีวี เมื่อยาม แสงดับไป
...แต่เมื่อแสง ส่องเงาฟื้น คืนชีพกลับ
ว่ายเวียนดับ เวียนวน เกิดได้ใหม่
ไม่มีวัน สูญหาย สลายไป
ขอเพียงใจ สู้ต่อ อย่าท้อลง


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: นักกวี...พเนจร~ ที่ 04 กรกฎาคม 2009, 10:14:AM
ปากกาข้า มีนามว่า นักกวี...พเนจร
ไร้ทายาท แต่มีมารยาท พเนจร ค้นหา
บทกวีต่าง ๆทั่วโลก ฟ้าดิน


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ...CirclE~* ที่ 12 กรกฎาคม 2009, 08:12:PM

......ในที่มาของชั้นนี้
......มาจากรักแรก ที่เจาะเจอ
......เมื่อครบปี ก็เริ่มkiss
......ครบรอบวันรักกัน


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: แมวเหมียว ที่ 10 สิงหาคม 2009, 05:12:PM
นามปากกาของฉันนั้นได้มา
จากฉายาเพื่อนเรียกว่าแมวเหมียว
เห็นว่ามันออกจะน่ารักเชียว
ไม่รอเดื๋ยว ตั้งชื่อนี้แล้วกัน

(จริงๆก็เป็นเพื่อนกับ แมว นั่นแหละ)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สาละวิน ที่ 21 สิงหาคม 2009, 12:49:PM
   สาละวินคือนามนทีน้อย                 สาละวินไหลลอยแบ่งเขตขัณฑ์
สาละวินโอบล้อมเหล่าไพรวัลย์          สาละวินสายนั้นเย็นชื่นใจ
   สาละวินถูกหยิบมาเป็นชื่อ              เพื่อใช้สื่อว่าเป็นลูกแม่น้ำไหน
สาละวินคนนี้มาแต่ไกล                     แต่อยู่ใกล้กับแม่สาละวิน...

   ดีครับ... สาละวินขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ เผอิญว่าพึ่งเข้ามาใหม่(ในชื่อนี้) อันที่จริงก็อยู่เว็บกลอนไทยมานานแล้วเหมือนกัน
แต่มีเรื่องบางอย่างทำให้ต้องเปลี่ยนอะไรไปนิดหน่อย แต่หัวใจที่ไม่เคยเปลี่ยนก็คือ รักบ้านนี้ และคนที่นี่ที่สุดครับ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: sunsleep ที่ 22 สิงหาคม 2009, 12:55:AM
sun + sleep

ที่มาจาก   เหมือนเคยได้ยินคำนี้จากที่ไหนมาก่อน(แต่ก็ไม่รู้ชัดเจนว่าที่ไหนเมื่อไหน)   แล้วถูกใจ

ประกอบกับมักแต่งกลอน หรือ เรื่องอ่านเล่นช่วงเย็นจนไปถึงหลังพระอาทิตย์ตกดิน


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: [Pink Carnation*] ที่ 22 สิงหาคม 2009, 08:56:AM
เอามาจากชื่อแท้ๆ เลยอะค่ะ

 emo_54


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: จีราวัฒน์ ที่ 22 สิงหาคม 2009, 09:37:AM

 -*- ชื่อแท้เลยครับผม -*-   ก็นะ  ไม่รู้จาตั้งไร  เลยเอาสิ่งที่พ่อกะแม่ตั้งให้มาตั้งซะเลย  555+


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: [Pink Carnation*] ที่ 22 สิงหาคม 2009, 10:32:AM
555+

ถ้าแท้ๆ ของเรา Amika จ๊า

อันนี้ชื่อเร่น  emo_54


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูไพร ที่ 01 กันยายน 2009, 11:39:AM
เอามาจากชื่อกล้วยไม้ค่ะ แล้วก็ดอกไม้ที่สีชมพูที่ออกดอกตามป่าเขาค่ะ หาชมยาก



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 01 กันยายน 2009, 02:35:PM
แต่ก่อนใช้ชื่อว่า หิ่งห้อยฤาจะสู้แสงจันทร์  จ๊ะใช้ตั้งแต่เรียน
แต่จะใช้นามปากกาอยู่ 3 ชื่อนะคะแบบว่าตามอารมณ์คนแต่งมากกว่า
ถ้าอกหักรักคุดก็จะใช้ หิ่งห้อยฤาจะสู้แสงจันทร์
ถ้าโกรธมากๆหรือไม่พอใจก็จะใช้  นางฟ้าซาตาน
แต่ถ้าสดใสหน่อยก็จะใช้ ตะวันฉาย...
สรุปผลสุดท้ายก็สู้ตะวันฉายไม่ได้ เพราะชอบมากกว่าคะ
ชื่อตะวันฉาย เหมือนมีความหวัง วันใหม่ให้ก้าวไปอยู่เสมอ

"หากตะวันขึ้นทางทิศตะวันออกฉันใด...
ตะวันก็จะตกทิศตะวันตกฉันนั้น..."


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 18 ธันวาคม 2009, 07:26:PM
ดอกกระเจียว..คือความสดใสแบบติดดิน..ก็ผมมันแค่ชาวนาตาดำๆไม่มีอะไรมากกว่านั้น emo_73 emo_09 emo_09


                                                                   ดอกกระเจียว


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 18 ธันวาคม 2009, 08:29:PM

ชื่อจะไม่เด็ด.....แบบว่าอยากล้อเลียนจะเด็ด....ก็เลยเติมไม่ซะเลย

แต่ว่าจริง ๆก็มีหลายนามปากกานะ....แบบว่านามแรกสุดคือ...ลมแปรแขมร์เลอ  (ตอนแรกว่าจะตั้งเป็นขยอลแปรแขมร์เลอ...ซึ่งเป็นภาษาเขมร..และตั้งล้อเลียน..หนาวลมที่เรณู...ซึ่งตอนนั้นทำงานที่นครพนมครับ

ส่วนต่อมาก็เป็น...จอมปราชญ์แดนอาคเนย์...เริ่มขึ้นเมื่อสมัยที่หมกมุ่นกับการศึกษาประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเอาเป็นเอาตาย...ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังได้สัมผัสกลิ่นอายของอดีตอยู่...

...รู้สึกว่าอยากได้นามปากกาใหม่ครับ...มีใครช่วยตั้งให้หน่อยก็ดีนะ..แบบว่า


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สุภาพบุรุษทรชน ที่ 18 ธันวาคม 2009, 09:55:PM

"สุภาพบุรุษทรชน" มาจากหนังสือกาตูนย์ครับ!

สุภาพบุรุษ  น. ชายที่มีกิริยาวาจาเรียบร้อย รู้กาลเทศะและมีคุณธรรม
 เช่น เขาช่วยเหลือเธอตามหน้าที่สุภาพบุรุษ.

ทรชน น. คนชั่วร้าย, ทุรชน ก็ว่า.
 
คล้ายๆสองสิ่งที่แตกต่างมาอยู่ในสิ่งเดียว...ขาวกับดำ

ตามความรู้สึกที่เลือกเพราะ อยากประชดอะไรบางอย่าง หุหุ เช่นภายนอกอาจดูเป็นทรชนแต่ข้างในอาจเป็นสุภาพบุรุษก็ได้.... emo_86

  emo_73 emo_73
 


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Kotchanan ที่ 19 ธันวาคม 2009, 12:27:AM

ชื่อจะไม่เด็ด.....แบบว่าอยากล้อเลียนจะเด็ด....ก็เลยเติมไม่ซะเลย

แต่ว่าจริง ๆก็มีหลายนามปากกานะ....แบบว่านามแรกสุดคือ...ลมแปรแขมร์เลอ  (ตอนแรกว่าจะตั้งเป็นขยอลแปรแขมร์เลอ...ซึ่งเป็นภาษาเขมร..และตั้งล้อเลียน..หนาวลมที่เรณู...ซึ่งตอนนั้นทำงานที่นครพนมครับ

ส่วนต่อมาก็เป็น...จอมปราชญ์แดนอาคเนย์...เริ่มขึ้นเมื่อสมัยที่หมกมุ่นกับการศึกษาประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเอาเป็นเอาตาย...ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังได้สัมผัสกลิ่นอายของอดีตอยู่...

...รู้สึกว่าอยากได้นามปากกาใหม่ครับ...มีใครช่วยตั้งให้หน่อยก็ดีนะ..แบบว่า


.............โห... เยอะแฮะ   

อยากได้นามปากกาใหม่เหรอ?   emo_44
.. "นายแบบว่า.. ไม่รู้สิ" เอาป่ะ..  emo_68 หุหุ



**แวะมาแซวค่ะ emo_26
 




หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 19 ธันวาคม 2009, 12:27:PM
๏ นามวฤก (กึกกือ) คือ ?หมาป่า?
อยู่วนาวรรณศิลป์ถิ่นอักษร
เขียนโคลงฉันท์ปั้นกาพย์กำซาบกลอน
นับแต่ตอนตั้งต้นพ้นเก้าปี ๚ะ๛


นี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่เปิดเผยที่มาของชื่อ ...
 
นาม ?วฤก? ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อโลดแล่นในโลกอินเตอร์เนตได้เก้าปีแล้ว

เรื่องของเรื่องคือผมเป็นชอบดูดาว จนมองเห็นว่านักกลอนแต่ละคนเปรียบเสมือนกับเป็นแต่ละดวงดาวที่กำลังทอแสงประดับประดาท้องฟ้าวรรณศิลป์ในยามค่ำคืน

ผมก็อยากเป็นดาวดวงหนึ่งบนท้องฟ้ากับเขาด้วย ... ตอนแรกจึงคิดว่าจะใช้ ?ดาวฤกษ์? เป็นนามปากกา

แต่... เนื่องจากว่าเป็นคนคิดมาก แต่บรรดาเพื่อน ๆ บอกว่าเป็นคนสิ้นคิด

จึงมาคิดอีกทีว่าใช้ชือ ?ดาวฤกษ์? ไม่น่าจะเหมาะ เพราะจะต้องถูกแปลงชื่อเป็น (ไอ้ )ดาวน์(ซินโดรม) เลิก (เขียนกลอนเหอะ) แน่ ๆ

นั่นคือที่มาของการพิจารณาคำว่า ?ดาวฤกษ์? ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
แล้วพลันก็ค้นพบว่ามีคำว่า ?วฤก? ซึ่งแปลว่า ?หมาป่า? แฝงเอาไว้อยู่ในคำว่า ?ดาวฤกษ์? นั้น


ผมจึงสรุปปุบปับกับตัวเองตามประสาคนสิ้นคิดอย่างที่เพื่อน ๆ ว่าเอาไว้ในทันทีว่า...

?เอาวะ.... ในเมื่อเป็นดาวไม่ได้ ... ก็เป็นหมาไปก่อนก็แล้วกัน?

นามว่า... วฤก จึงถือกำเนิดนับแต่นั้นมา

 emo_85



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 19 ธันวาคม 2009, 12:31:PM


นามดินสอผม คือ...นะโม....ครับ สั้นๆแค่นั้น
เพราะมาจากชื่อผมเอง
จำความได้พ่อกับแม่ก็เรียก โม (ที่มาท่านสองคนชอบกินแตงโม )
พอเข้าโรงเรียนจนถึงปัจจุบันเพื่อนเรียก นะโม ซะงัน เลยปล่อยเลยตามเลยครับ

แบบว่า ตอนสมัครสมาชิกครั้งแรก เดือนตุลาที่ผ่านมานี่มั่ง คิดนามปากาไม่ออก เลยเอานามดินสอไปแทนแล้วกัน ฮ่าๆ emo_26

และมีเรื่องรบกวนด้วยครับ....วอนท่านพี่(ถ้าว่างนะครับ)
ช่วยคิดนามปากาให้ผมด้วยครับ
อยากมีกับเขาบ้างน่ะ....

          emo_111

(http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 19 ธันวาคม 2009, 01:16:PM


นามดินสอผม คือ...นะโม....ครับ สั้นๆแค่นั้น
เพราะมาจากชื่อผมเอง
จำความได้พ่อกับแม่ก็เรียก โม (ที่มาท่านสองคนชอบกินแตงโม )
พอเข้าโรงเรียนจนถึงปัจจุบันเพื่อนเรียก นะโม ซะงัน เลยปล่อยเลยตามเลยครับ

แบบว่า ตอนสมัครสมาชิกครั้งแรก เดือนตุลาที่ผ่านมานี่มั่ง คิดนามปากาไม่ออก เลยเอานามดินสอไปแทนแล้วกัน ฮ่าๆ emo_26

และมีเรื่องรบกวนด้วยครับ....วอนท่านพี่(ถ้าว่างนะครับ)
ช่วยคิดนามปากาให้ผมด้วยครับ
อยากมีกับเขาบ้างน่ะ....

          emo_111

([url]http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif[/url])



?นะโม? ลง... มงคลค่าล้นแล้ว
คือดวงแก้วก่องแท้พ่อแม่ขาน
พรั่งพร้อมมิตรประดิษฐ์ช่วยอำนวยการ
ให้คนอ่าน อาราธนา... ใฝ่หาธรรม ฯ


ชื่อที่พ่อแม่เรียก ย่อมเป็นมงคลแก่ลูก
ชื่อที่เพื่อน ๆ ตั้งให้ ย่อมแสดงถึงไมตรีจากสหาย
ชือ... นะโม มีความหมาย เพราะเป็นคำแรกที่เราต้องกล่าวอารธนาเวลาไหว้พระ

เพราะฉะนั้น ผมเห็นว่า ชื่อนี้มีค่า สมควรที่จะป็นได้ทั้งนามปากกา ดินสอ ยางลบ และไม้บรรทัด .... ยกเว้นไม้เรียวเชียวนะ.. ว่าไหมครับ

 emo_100


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 19 ธันวาคม 2009, 02:31:PM
 emo_12  ที่จริงก็มีนามปากกามากมายเหมือนกัน .. แต่อาจจะยกตัวอย่างได้ไม่ทั้งหมด
แต่ละนามปากกา ตั้งขึ้นเพราะเขียนงานหลาย ๆ แนว

ตั้งใจจะเป็นนักเขียนนะ แต่ก็ยังไม่ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักที
เขียนงานไปก็จองนามปากกาเอาไว้ก่อน

นามปากกาที่จองไว้ก็มี อาทิ ซาฮาร่า โอ-มา จิตรา พระจันทร์สีน้ำเงิน ประมาณนี้ (อิอิ .. มากมาย)

แต่นามปากกาที่ใช้อยู่ตอนนี้ แต่เดิมตั้งไว้แค่ จี-ซอน แหละ
เหตุเพราะซีรีย์เกาหลีอินเทรน ก็เลยเขียนนิยายแนวเกาหลี๊ .. เกาหลี ไว้เรื่องหนึ่ง
พอมาสมัครสมาชิกเวปก็เลยเอามาใช้ แต่ส่วนลีเนี่ย เป็นแซ่ของคนที่ชอบน่ะค่ะ (อิอิ .. เลยแอบใช้  emo_50)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: (ฟ้า) มารสุรา ที่ 19 ธันวาคม 2009, 02:47:PM
สืบเชื้อสายชนเผ่ายองของภาคเหนือ
จึงตั้งเพื่อเทิดทูนตระกูลหนา
แต่ชื่อจริงบิดรแลมารดา
ให้ชื่อ "ฟ้า" แทนชื่อเล่นและชื่อจริง

         (ฟ้า) ยองหละปูน

หละปูน เป็นภาษาถิ่นเหนือ คือ  ลำพูน  เน่อเจ้า


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ปาระ ที่ 19 ธันวาคม 2009, 04:20:PM
ฮกหลง.......คำนี้ได้มาจาหนังสือเรื่องสามก๊กครับ

ฮกหลง แปลว่า มังกรหลับ

เป็นฉายาหนึ่งของจูกัดเหลียง(ขงเบ้ง)ครับ
ตอนที่สมัครคิดอะไรไม่ออกจำอะไรได้ก็ใส่ไปครับ...อิอิอิ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 19 ธันวาคม 2009, 04:48:PM

ชื่อจะไม่เด็ด.....แบบว่าอยากล้อเลียนจะเด็ด....ก็เลยเติมไม่ซะเลย

แต่ว่าจริง ๆก็มีหลายนามปากกานะ....แบบว่านามแรกสุดคือ...ลมแปรแขมร์เลอ  (ตอนแรกว่าจะตั้งเป็นขยอลแปรแขมร์เลอ...ซึ่งเป็นภาษาเขมร..และตั้งล้อเลียน..หนาวลมที่เรณู...ซึ่งตอนนั้นทำงานที่นครพนมครับ

ส่วนต่อมาก็เป็น...จอมปราชญ์แดนอาคเนย์...เริ่มขึ้นเมื่อสมัยที่หมกมุ่นกับการศึกษาประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเอาเป็นเอาตาย...ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังได้สัมผัสกลิ่นอายของอดีตอยู่...

...รู้สึกว่าอยากได้นามปากกาใหม่ครับ...มีใครช่วยตั้งให้หน่อยก็ดีนะ..แบบว่า


.............โห... เยอะแฮะ   

อยากได้นามปากกาใหม่เหรอ?   emo_44
.. "นายแบบว่า.. ไม่รู้สิ" เอาป่ะ..  emo_68 หุหุ



**แวะมาแซวค่ะ emo_26
 





อิอิ..ชื่อแบบว่าเนี่ย..เคยลองตั้งแล้วหละ..แต่เป็นภาษาอังกฤษนะ..จะเขียนเป็น...Babwa..พอดีว่าไม่ค่อยคล่องภาษาอังกฤษเท่าไหร่..หลัง  ๆจึงคงไว้แต่ภาษาไทยอะครับ...ขอบคุณ..คุณกชนันท์ที่ร่วมตั้งชื่อให้....ส่วนไม่รู้สิ..ออกจะตลกนะ..อิอิ...เอาเป็นว่าไว้ให้ผมใช้อุทานเวลาแต่งกลอนเศร้า ๆ แล้วกันนะ.. emo_116















หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 19 ธันวาคม 2009, 06:50:PM
?นะโม? ลง... มงคลค่าล้นแล้ว
คือดวงแก้วก่องแท้พ่อแม่ขาน
พรั่งพร้อมมิตรประดิษฐ์ช่วยอำนวยการ
ให้คนอ่าน อาราธนา... ใฝ่หาธรรม ฯ


ชื่อที่พ่อแม่เรียก ย่อมเป็นมงคลแก่ลูก
ชื่อที่เพื่อน ๆ ตั้งให้ ย่อมแสดงถึงไมตรีจากสหาย
ชือ... นะโม มีความหมาย เพราะเป็นคำแรกที่เราต้องกล่าวอารธนาเวลาไหว้พระ

เพราะฉะนั้น ผมเห็นว่า ชื่อนี้มีค่า สมควรที่จะป็นได้ทั้งนามปากกา ดินสอ ยางลบ และไม้บรรทัด .... ยกเว้นไม้เรียวเชียวนะ.. ว่าไหมครับ

 emo_100


      โหยยยยยย....ท่านพี่(ดวงดาวแห่งกวีอันส่องสว่าง)
นอกจากจะแตกฉานด้วนกวีแล้ว.....วจียังคม และไพเราะ
ขอบพระคุณมากครับ

งันกระผมจะเอานามดินสอนี่แหละครับ
ไม่เปลี่ยนแล้วเนาะ  ฮ่าๆ

+ 1 แทนคำขอบคุณจากใจครับ....

  emo_100 emo_100 emo_100
(http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวฉัน* ที่ 22 มกราคม 2010, 06:11:PM
ก้อ เอามาจากชื่อ เล่น ของตัวเอง ค่ะๆ

แต่ที่ใช้ maymay -- 5 555
เพราะ รุ้สึกว่า มานยาว กว่า คำว่า may คำเดียวๆ

มั่ยรู้ จะตั้ง อะไร เลยๆเอาจากชื่อ ตัวเอง นี่แหระ ค่ะ จำงายดี
  emo_85 emo_85 emo_85
[/font][/size][/color][/b][/color]


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: คนเมืองน้ำ ที่ 04 มีนาคม 2010, 07:04:PM
ตั้งเป็น ชื่อ"คนเมืองน้ำ" เพราะเป็นคนชลบุรีตั้งแต่เกิด


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: หยาดน้ำค้าJ ที่ 15 มีนาคม 2010, 10:06:PM
เป็นหยาดน้ำค้างที่ชุ่มฉ่ำที่ทำให้ยามเช้าดูสดใส
เป็นเพียงหยาดน้ำบนยอดหญ้าที่ไม่เคยเรียกร้องอะไร
ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลใดๆในการคงอยู่หรือจากไป
แต่เมื่อจากไปกลับมีคนอาลัยอาวรณ์
มันArtดี
ชอบๆ
55


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: namangle ที่ 25 มีนาคม 2010, 12:17:PM
ตัวเองมีชื่อว่าน้ำค่ะ
แล้ว angle คือนางฟ้า
เลยเปน
namangle
ใช้ชื่อนี้มาตลอด
เพราะเคยมีคนบอกว่าเราเปนนางฟ้าในใจเขา
แต่สำหรับวันนี้
มันคงจะจบแล้ว


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 30 มีนาคม 2010, 11:53:PM
ตัวผมนี้มีนาม hort39
มาคอยเฝ้ารอเพื่อนที่กลอนบ้าน
อ่านกลอนบ้างแต่งกลอนบ้างสร้างผลงาน
ที่กล่าวขานส่วนใหญ่ได้แต่ฮา

รู้จักเพื่อนนักกลอนอยู่หลายรุ่น
บ้างเรียกคุณ บ้างเรียกพี่ บ้างเรียกป๋า
เรียกอะไรก็ยินดีแสนปรีดา
ก็เพราะว่าบ้านกลอนไทยใจหนึ่งเดียว

(ชักจะมั่วๆตอนจบนี่แหละ)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี พฤกษา ที่ 31 มีนาคม 2010, 12:07:AM
ไม่ต้องอ่านเป็นกลอนนะครับ ผมไม่ได้แต่ง

ผมใช้นามปากกาว่า"ธาตรี พฤกษา"
เพราะเหตุ ดังนี้

ธาตรี แปลว่า แผ่นดิน ............ผมอยากเป็นคนที่หนักแน่นเหมือนแผ่นดิน และอยากให้บทกวีหนักแน่นเหมือนแผ่นดินด้วยครับ

พฤกษา แปลว่า ธรรมชาติ ป่าไม้ ....ผมชอบความงาม ความร่มรื่น ร่มเย็น ธรรมชาติสวยๆ จึงอยากเป็นคนที่ไม่ใจร้อน สุขุม และอยากให้บทกวีที่เขียนแล้วผู้อ่านรู้สึกว่า ฟังสบายๆ เหมือนมีความร่มรื่น ร่มเย็น เหมือนอยู่ในโลกของธรรมชาติ ครับ

ธาตรี พฤกษา ..........หนักแน่นดุจแผ่นดิน อ่อนไหวดุจไพรสัณฑ์


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกแกะพระเจ้า... ที่ 25 เมษายน 2010, 03:21:PM
ลูกแกะพระเจ้า...

เพราะผมรักพระครับ จึงใช้นามปากกานี้

แต่อย่าหาว่าผมเป็นคนเคร่งศาสนาเลยนะ แค่อยากแสดงออกให้คนอื่นรู้ว่าผมเชื่อในพระ ถึงแม้ว่าใครต่อใครจะไม่ได้อยากรู้ก็เถอะ
emo_19



คนไทย ช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: attaset ที่ 25 เมษายน 2010, 03:55:PM
ตอนตั้งไม่ได้คิดอะไรเลย โดยปกติเวลาเขียนจะใช้นามสกุล
เป็นนามปากกา......แต่ในเนทเอาชื่อจริงเลย ที่นี่เป็นเวบที่2
ที่มาเล่น นามปากกาแปลว่า***เศรษฐีใหญ่***
ชอบชื่อนี้เพราะว่าจน...ก็แค่นั้นเอง


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: พาธามัทนา ที่ 10 พฤษภาคม 2010, 04:53:PM
มาจากมัทนพาธาค่ะที่แปลว่า ความรักที่เจ็บป่วย

มัทน มาจาก มัทนา ที่แปลว่า ความรัก

พาธา ก็ตรงๆค่ะ แปลว่า ความเจ็บป่วย

ดังนั้น พาธามันทนา ก็คือการเจ็บเพราะว่ารักค่ะ

ความหมายของพาธามัทนาก็คือผู้ที่ทำให้ความรักเกิดความเจ็บปวด ซึ้งอันที่จริงแล้วมันก็ความหมายคล้ายกัน
 แต่ต่างกันที่เป็นฝ่ายกระทำและถูกกระทำมากกว่าค่ะ

 emo_116


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 10 พฤษภาคม 2010, 05:27:PM
อัน "มาตา"หนาความหมายง่ายง่ายคือ
"แม่" แน่แท้ดังร่ำลือเราคือแม่
"กุล"แปลว่า "ตระกูล, สกุล" แท้
จึงเป็นแม่แห่งสกุลคุณสามี


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: "คำหวาน" ที่ 10 พฤษภาคม 2010, 05:39:PM
(http://add.klonthaiclub.com/images/21_3588_3635_3627_3623_3.bmp)

" คำหวาน "...เป็นชื่อของเพลงไทยเดิมที่มีความไพเราะมาก
ผมชอบมากเลยฟังแล้วรู้สึกสบายจริงๆ ...... บังเอิญที่หนังเรื่อง
โหมโรงนำมาใส่ไว้ในเนื้อเรื่อง ตอนที่พระเอกกำลังเล่นเพลงนี้
ตอนที่หันไปเห็นนางเอกพอดี ก็เลยบรรยายคำหวานด้วยทำนอง
เพลงแทนคำพูด ตามภาพที่นำมาลงให้ดูนะครับ...


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ดินแล้งหมดแรงใจ ที่ 16 มิถุนายน 2010, 05:39:PM
อ้อ ที่มาของนามปากกาผม (ดินแล้งหมดแรงใจ) มาจากบุคคลท่านหนึ่ง ผมชื่นชมในผลงานเขา


เขามีนามปากกาว่า(  ดินหญ้ากาช้ำ)


หลายคนอาจรู้จักดี


ผมตอบกระทู้เขามาโดยตลอด และพยายามตั้งชื่อให้คล้องจองจนได้เป็นชื่อนี้


ที่มาก็แค่นี้แหละคับ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 16 มิถุนายน 2010, 08:30:PM
ยามพระอาทิตย์อัสดง  หนูก้อยังไม่เข้าใจหรอกค่ะ ตอนตั้งชื่อ ยังไม่ทราบความหมาย ด้วยซ้ำ แต่รู้ว่า ไพเราะ  ชอบคำว่าอัสดง พระอาทิตย์ ก็เป็นกำลังใจ ที่ดี ที่จะให้เริ่มมีชีวิต กับวันใหม่ เพราะ พระอาทิตย์ ขึ้นทุกวัน เหมือนชีวิต ที่ต้อง สู้ทุกวันเช่นกัน ค่ะ เลยเอาชื่อนี้ รายงานตัวเจ้าค่ะ

ชื่อเพราะแล้วครับ
พระอาทิตย์ตก ก็สวยด้วย

  emo_106


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ♥▬รู้ว่ารัก▬♥ ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 02:55:PM
ก้อคือผมอ่านไหนหนีงสือมติชนมีตั้งชื่อภาษาเกาหลีว่าจองอันยาวอะครับเลยมาตั้งในบ้านกลอนไทย


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: WinNoCute ที่ 11 กรกฎาคม 2010, 11:14:AM
(http://image.ohozaa.com/io/lovesong.gif) (http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,11759.0.html)



"Love"ของฉัน หมายถึง คำว่ารัก

แต่ไม่มี ใครนัก รู้ความหมาย

"Song"ของฉัน มันมี มากมายไป

แต่หัวใจ ของฉัน มีเพียงเธอ

L Love     ความรัก
O Often    นาน
V validity ความมีเหตุผล
E Eternity ชั่วนิรันดร์
S SORRY    ขอโทษ
O Orbit    โคจร
N natural  เป็นธรรมชาติ
G Global   โลก



LOVESONG หมายถึง
ความรักต้องการเหตุผลและการขอโทษ
รักจะได้ยาวนานจนชั่วนิรันดร์และโคจรบนโลกอย่างเป็นธรรมชาติ


มีหลายที่มานะงับ อิอิ~


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าพเจ้า ที่ 03 กันยายน 2010, 04:42:PM
TAITANIK มาจากหนังเรื่อง ไททานิก ครับดูแล้วชอบมากๆครับ emo_100 ที่มาของนามปากกาผม มีโพสต์เป็นกลอนที่หัวข้อแนะนำตัวด้วยนะครับ emo_94


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ฉันมันก็แค่นี้ ที่ 26 กันยายน 2010, 07:13:PM
   คำว่า เตื่อย ก็ ริมฝีปากมันเตื่อย ( แต่เตื่อยอย่างมีเสน่ห์ )
ส่วน ศรศิลป์ ศรชัย  มาจากพระเอก นวนิยาย เรื่อง ไอ้หน้าบาก ของพนมเทียน 
ผมชอบนิสัย ของละครตัวนี้...คงกระจ่างใจ...
   emo_94


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหนุ่มไม่รู้จักโต ที่ 11 พฤศจิกายน 2010, 09:53:PM
ก็    เอามาจากนิสัยผมอ่ะฮะ   
เพราะนิสัยผมค่อนข้างยังเป็นเด็กอยู่มาก  แหะๆ  จะเข้าเรียนมหาลัยอยู่แล้วนะเนี่ยย   
 emo_85


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 12 พฤศจิกายน 2010, 11:31:PM
เพื่อนๆหลายคนก็เคยพยายามแปลให้ครับ
บางคนบอกว่า พราย มาจากพร่าพราย แปลว่า เลือนๆไม่ค่อยชัด พรายม่าน ก็น่าจะแปลว่า สิ่งที่ลางเลือนเพราะมีม่านบังอยู่
บางคนก็ว่า พรายมาจากพริ้วพรายมั้ง พรายม่านก็น่าจะแปลว่า ม่านที่พริ้วไสวเวลาต้องลม
ผมก็เงียบๆตีขลุมไป เพราะแปลออกมาแล้วเท่ดี

แต่จริงๆไม่ใช่ทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เปิดเผยความจริงที่นี่เสียวันนี้เลย

พราย แปลว่าผีครับ ส่วนม่าน เป็นคำที่คนเมืองเรียกพม่าครับ รวมกันก็แปลว่า ผีพม่า คือนามปากกานี้ ผมใช้ตั้งแต่คราวย้ายไปทำงานที่แม่สอด อยู่ในเหมืองลึกเข้าไปในป่าโน่น ทีนี้ทีทำงานผมมีคนงานพื้นเมืองเป็นพม่าเยอะและเจ้าพวกนี้อยู่ไปนานๆแล้วรอบจัดไม่ใช่เล่น ชอบลองของพนักงานที่มาจากเมืองและยังไม่รู้ตื้นรู้ลึก นึกว่าเจ้าพวกนี้เป็นคนต่างด้าวมาอาศัยทั้งแผ่นดินและเงินทองของเราอยู่คงไม่กล้าหือ ก็เลยโดนหลอกอยู่บ่อยๆ ผมมีหน้าที่ปราบเจ้าพวกนี้ครับ เลยเป็นที่เดียจฉันท์ จนได้สมญาว่าผี เวลาผมเดินเฉียดไปในขณะที่ พระคุณท่านกำลังสุมหัวกันอยู่ ก็จะซุบซิบกันว่า เฮ้ยๆ ผีมาๆ

ผมก็เลยได้ชื่อว่า ผีพม่า นับตั้งแต่วันนั้น   


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณาต้องน้ำ ที่ 23 พฤศจิกายน 2010, 05:04:PM
กฤษณาต้องน้ำ เป็น นัยหนึ่งกฤาณาหมายถึงผลึกยางไม้ที่มีกลิ่นหอม
                       การกลั่นน้ำหอมจากกฤษณามี 2 วิธีคือ
                   1. กลั่นด้วยแอลกอลฮอล์หรืออย่างอื่นที่ไม่ใช่น้ำได้ได้กลิ่นที่หอมแรง  ยั่วเย้ายวนใจ แค่เริ่มแรกที่ปะทะจมูกก็หลงเข้าอย่างจัง
                       (ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเจอสาวสวยในชุด ราตรีสีแดงเว้าสูง กำลังโปรยยิ้มให้)
                   2. กลั่นด้วยน้ำ  จะได้น้ำหอมที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกหวาน ให้ความรู้สึกหอมเรียบๆแต่มีมนต์ขลังยิ่งดม                         ยิ่งรู้สึกว่ามีเสน่ห์พอรู้ตัวอีกทีก็หลงรักไปโดยไม่รูตัว  (ให้ความรู้สึกเหมือนเจอสาว ที่โก๊ะๆ ไม่เซ็กซี่ แต่ก็ใสๆซื่อๆ กำลังยิ้มให้)
                     
                       อีกนัยหนึ่งการกลั่นกฤษณาจะต้องหมักในน้ำประมาณ 10 วันเพื่อให้กลิ่นที่หอมหวล สมบูรณ์แบบครับ

            กฤษณาต้องน้ำ จะเป็นการบอกเป็นนัยๆว่า เป็นการกลั่นแบบใช้น้ำที่ถึงแม้จะหอมน้อยกว่า แต่ว่ากลับให้ความรู้สึกมีมนต์ขลังมากกว่า
                         


                 กฤษณาต้องน้ำ<--------------------นามปากกาของของผมเอง
                   เสริมงาม <------------------------เป็นชื่ออำเภอเล็กๆใน จังหวัดลำปาง
            29 มค 54


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 16 มกราคม 2011, 01:48:PM


มายาวิน  ถ้าจะแปลตามความหมายก็น่าจะหมายถึง ผู้ที่มีเล่ห์มายา

แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เช่นนั้นครับ  ตั้งเอาเพราะอย่างเดียว  เพราะจริงๆแล้วเป็นชอบพูดแบบตรงไปตรงมามากกว่า

ไม่ชอบคิดอะไรซับซ้อน  ดีก็ว่าดี  ไม่ดีก็คือไม่ดี จนคนส่วนมากก็มองเป็นกระด้าง  ไม่ค่อยถนอมน้ำใจผู้อื่น

มาเล่นกลอนไม่ได้คิดตั้งตัวเป็นผู้รู้  ทุกท่านที่มีไมตรีจิตว่ากล่าวตักเตือน  ถือว่าเป็น กัลยาณมิตรกันครับ

สิ่งใดที่ท่านแนะนำมาผมก็จะรับฟัง  สิ่งใดที่ผมติงไป โปรดรับฟังในฐานะมิตร โปรดอย่าถือเป็นการสอนสั่ง

เพราะผมมิใช่ครู  และไม่อาจเป็นครูใครได้    ขอบคุณครับ    emo_47


                Mayawin


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 16 มกราคม 2011, 02:20:PM

([url]http://static.duniu.com/gphoto/c/h/tzyi/2008/6/10/1213030223430.jpg[/url])


ยามพระอาทิตย์อัสดง  หนูก้อยังไม่เข้าใจหรอกค่ะ ตอนตั้งชื่อ ยังไม่ทราบความหมาย ด้วยซ้ำ แต่รู้ว่า ไพเราะ  ชอบคำว่าอัสดง พระอาทิตย์ ก็เป็นกำลังใจ ที่ดี ที่จะให้เริ่มมีชีวิต กับวันใหม่ เพราะ พระอาทิตย์ ขึ้นทุกวัน เหมือนชีวิต ที่ต้อง สู้ทุกวันเช่นกัน ค่ะ เลยเอาชื่อนี้ รายงานตัวเจ้าค่ะ



อ้าวววววววววววว  ไอ้เราก็นึกว่ารู้ซะอีก

พระอาทิตย์อัศดง  ก็คือ  พระอาทิตย์ตกดินไงครับ  ตกดังตุ้บ  (สงสัยมีรอยบุบด้วยมั้ง  ไหนดูซิเจ็บหรือเปล่า emo_45)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: คนเผาถ่าน ที่ 16 มกราคม 2011, 04:53:PM
ที่มา...นามปากกา..คนเผาถ่าน

ตามเพลงนี้เลยครับ.....http://www.4shared.com/embed/306177408/63c1be0d (http://www.4shared.com/embed/306177408/63c1be0d)
เรียนจบกลับไปทำงาน
ขุดดินเผาถ่าน อยู่เมืองกาญจน์บ้านเรา
ลุกจากที่นอน รีบจรก่อนเขา เข้าป่าเสือดาว
เข้าไปแบกฟืน พักผ่อน ถึงตอนกลางวัน
ร้องเพลงดังลั่น ปานกับเสียงปืน
พอตกเย็นค่ำลงกลางคืน กลับบ้านแบกฟืน
เอาไปไว้สุมไฟ อยู่กับบ้าน
จังหวัดกาญจนบุรี ณบ้านเลขที่ เจ็ดสิบสี่ จำได้
ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย
มีพลอยเม็ดใหญ่ ถ้าหากว่าคุณสงสัย
จะพาไปดูอยู่บ้านกำนัน ปริญญาได้รับมาภูมิใจ
ทำจนร่างกาย ทั้งมือไม้ดำด้าน
อดทนมานะ มาเป็นเวลาช้านาน
บอกกล่าวให้เขารู้กัน อาชีพผมนั้น ทุกวันเผาถ่าน

ตอนนี้เลิกเผาแล้วครับ....ไม้มันหมด
เข้ากรุงเทพฯไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า......อิอิ
emo_73 emo_73


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 16 มกราคม 2011, 05:19:PM


นานเลยนะนั่น พ.ศ.๒๕๒๐  ตั้งแต่ผมยังแค่ ๗ ขวบเอง emo_40


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าพเจ้า ที่ 16 มกราคม 2011, 05:27:PM


มายาวิน  ถ้าจะแปลตามความหมายก็น่าจะหมายถึง ผู้ที่มีเล่ห์มายา

แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เช่นนั้นครับ  ตั้งเอาเพราะอย่างเดียว  เพราะจริงๆแล้วเป็นชอบพูดแบบตรงไปตรงมามากกว่า

ไม่ชอบคิดอะไรซับซ้อน  ดีก็ว่าดี  ไม่ดีก็คือไม่ดี จนคนส่วนมากก็มองเป็นกระด้าง  ไม่ค่อยถนอมน้ำใจผู้อื่น

มาเล่นกลอนไม่ได้คิดตั้งตัวเป็นผู้รู้  ทุกท่านที่มีไมตรีจิตว่ากล่าวตักเตือน  ถือว่าเป็น กัลยาณมิตรกันครับ

สิ่งใดที่ท่านแนะนำมาผมก็จะรับฟัง  สิ่งใดที่ผมติงไป โปรดรับฟังในฐานะมิตร โปรดอย่าถือเป็นการสอนสั่ง

เพราะผมมิใช่ครู  และไม่อาจเป็นครูใครได้    ขอบคุณครับ    emo_47


                Mayawin
มายาวิน เป็นชื่อคัมภีร์เวทย์มนต์ดำ ของพ่อมดมันตรัย ในเรื่องเพชรพระอุมาครับ
ศักดิ์สิทธิ์มาก สุดยอดแห่งคัมภีร์เวทย์มนต์ ลองไปอ่านเรื่องเพชรพระอุมาดูครับ อิอิ

 ป.ล.พี่มายาวินเป็นแฟน เพชรพระอุมาหรือเปล่า


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 16 มกราคม 2011, 05:34:PM


อืมม...จริงสินะครับ...ผมลืมไปเลย

ตอนนิทรานคร   เรื่องนี้ผมอ่านเป็นเดือน  กว่าจะจบ  ยอมรับว่าชอบมาก

แต่มันนานมาแล้วละ 


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าพเจ้า ที่ 16 มกราคม 2011, 05:46:PM

ที่มานามปากกา ก้านกล้วย

พี่สาวตั้งให้ครับ(ที่รัก)

ความหมายพึ่งมาคิดหลังจากที่ตั้งแล้วครับ

แปลตรงๆ
๑.ก้าน+เก่ง กล้วย+กล้วย =เก่งกล้วย
๒.ก้านกล้วย+ตัวละคร ช้างก้านกล้วย ช้างทรงพระนเรศวร
๓.ก้านกล้วย+ก้านของต้นกล้วย ส่วนที่ตัดเอาใบออกหมดแล้ว

แปลอ้อมๆ
๑.ก้านกล้วย+เก่งแต่เรื่องง่ายๆ อิอิ
๒.ก้านกล้วย+นิสัยเหมือนตัวช้างก้านกล้วย อิอิ
๓.ก้านกล้วย+ไร้ค่า(ก้านของต้นกล้วย ไม่มีใครเอา) อิอิ

มั่วเอา  emo_68


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: คนแบกไมค์ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 06:13:PM
ง่ายๆชื่อเดียวกับอีเมล์ emo_100


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: โบ้ พรหมราช ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2011, 03:25:PM
 มะมีอะไรมากงะ
โบ้ คือชื่อเล่นงะ (มาจาก จัมโบ้ งิ)
พรหมราช แปลมาจาก
พรหม คือพระพรหม
ราช คือ เจ้าแห่งสิ่งใดสิ่งหนึง

รวมคือ  เจ้าแห่งพรหมทั้งหลาย   หรือ   เป็นผู้สร้างทุกๆอย่าง

เป็นไง  เว่อร์ปะ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: (ฟ้า) มารสุรา ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2011, 05:41:PM
ยองหละปูน    คือชื่อเริ่ม    ประเดิมแรก
ต่อมาแตก     แยกใหม่     ให้ดูสม
เปลี่ยนเป็นฟ้า    มารสุรา   น่าภิรมย์
เพราะนิยม     ชมชิด      มิตรสุรา

เกือบสามสิบ   กว่าปี      ที่ลองลิ้ม
คราได้ชิม      ลิ้มหยด  รดชิวหา
จะซ่านซึม    ดื่มด่ำ    ฉ่ำอุรา
คือที่มา       ปากกานาม   ตามความจริง



 emo_101 emo_101 emo_101 emo_101 emo_101


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ~ploy pim~ ที่ 19 เมษายน 2011, 10:29:PM
                                                  (http://image.ohozaa.com/i/e6e/eploy.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=096ad59a23a607e0b0ac86025c863fe8)

                            "~Ploy ..คือชื่อ เฌอมาลย์ ที่แสนสวย   
                                         ช่างสำรวย เอิบอิ้ม พริ้มพักตร์หวาน
                            ฉันแอบชอบ แอบชม  มาแสนนาน
                                         จึงขอขาน นามแฝง ไว้ใช้...Pim~"....                     

                      (http://www.ohzeed.com/bar_182.gif) (http://www.ohzeed.com)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อนจันทร์ ที่ 20 เมษายน 2011, 02:47:PM



แต่แรกเริ่ม เดิมอยากใช้ จันทร์เจ้าขา
แต่เหมือนว่า ชื่อโหล เพราะโก้หลาย
เลยขยับ ปรับเปลี่ยน เหลี่ยมอุบาย
เป็นความหมาย เว้าวอน ออดอ้อนจันทร์

จันทร์เจ้าขา อ้อนจันทร์ จันทร์เจ้าขา
รู้ไหมว่า มีใคร ใจเฝ้าฝัน
ประทานรัก อุ่นไอ ในเร็ววัน
ประทาน(ความ)หวัง แรงเพิ่ม ให้เริ่มเดิน...




หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Rallow ที่ 12 สิงหาคม 2011, 04:33:AM
ผมแต่งเพราะผมชอบเรื่อง Pearl Harbar ผมคิดว่า Rallow คือการทำให้เครื่องบินมันหมุน
หนังเรื่องนี้ชอบที่สุดเลยครับ ผมเป็นคนโรแมนติกอ่า


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: บอม ซอง ดุ๊ก ที่ 12 สิงหาคม 2011, 10:03:AM

(http://www.ohzeed.com/bar_131.gif) (http://www.ohzeed.com)

"บอม ซอง ดุ๊ก"

แบบว่า..ชื่อนี้เป็นภาษาตากะล๊อกผสมเอธิโอเปียตอนใต้..ลูกครึ่งเยอรมัน..และมีกลิ่นอายของเขมรแดงหน่อยๆ (ล้อเล่นครับ..แหะๆ)  emo_23

..เข้าเรื่องเลยเนาะ..ก่อนมาตั้งรากฝากตัวอยู่บ้านกลอนไทยนั้น..ข้าน้อยและน้องชาย"ใบชาที่ไร้หนอน" เคยเริ่มต้นเขียนกลอน"เว็บกวีคลับ" ข้าน้อยและน้องชายก็เคยได้ใช้ชื่อนี้มาแล้ว

สาเหตุที่ใช้ชื่อนี้เพราะ..ตอนนั้นข้าน้อยไม่ได้จริงจังกับการเขียนกลอน เลยตั้งเอาขำ คำง่าย ความหมายไร้!! น้องชายก็เช่นกัน ใบชาที่ไร้หนอน(แสดงว่าใบชาฉีดยา ฮี่ๆ )  แต่สองพระหน่อพ่อคุณ..เขียนไปเขียนมา ดั๊นหลงพิศวาสการเขียนกลอน..ไปซะงั้น  emo_24

 ด้วยใคร่อยากรู้หลักฉันทลักษณ์ที่ถูกต้อง (บ้านกวีเขาจะอยู่กันเงียบๆ ข้าน้อยเลยบ่รู้จะถามไผ อยากจะถามพี่ดินกับเพื่อนสมาชิกก็เกรงใจ) ข้าน้อยและคุณน้อง จึงจำใจร่อนเร่เห่พัดไปตามสไตร์หนุ่มร็อคแอนด์โรล์ผสมหมอลำซิ่ง

  emo_47 พอมาเจอบ้านกลอนไทย และที่นี่มีครูบาอาจารย์ผู้ใจดีอยู่มากมาย เลยถลาซบอกฝากเนื้อฝากตัว พร้อมเริ่มต้นเปลี่ยนบทบาทใหม่ในชื่อ "บอม ซอง ดุ๊ก" นั่นเลยนอ ฮ่าๆๆ (เปลี่ยนตรงไหนหว่า)  emo_49

...รู้สึกชื่อนี้จะถูกโฉลกกับตัวเองดีครับ เข้ากับสไตร์กลอนเฮฮาไร้สาระแบบข้าน้อยเป๊ะเลย แต่...แม้นไร้ความหมาย ไร้คำแปล แต่จะขอมั่นไว้ในนามปากกานี้ตราบเท่าที่สมองและสองมือยังผสานกันได้อยู่ครับ


...ขอบพระคุณที่ทนอ่านจนจบนะครับ  emo_17

 

ประวัติโดยสังเขป จากพณ.ท่าน บอม ซอง ดุ๊ก 


(http://www.ohzeed.com/bar_131.gif) (http://www.ohzeed.com)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: •ปักษาวายุ○ ที่ 17 สิงหาคม 2011, 09:19:PM
ปักษาวายุ รู้จักชื่อนี้จากภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่ง มีคำแปลส่วนตัวว่า "โบยบินไปในสายลม" อืม.. ชอบใจมาก เลยนำมาใช้ครับ  emo_100


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำปลาปลอม ที่ 20 สิงหาคม 2011, 06:09:PM
น้ำปลาปลอม เค็ม แต่ไม่จริง คน จริง แต่ไม่เค็ม แฮ่ ๆ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สุนัขรำพัน ที่ 25 สิงหาคม 2011, 08:30:PM
จะว่าไป สุนัขรำพัน นี่มันมาจาก ตอนที่อาจารย์สอนวิชาการแต่งคำประพันธ์ให้คิดนามปากกาขึ้นมา

ก็เลยมองหาอะไรที่มัน เป็นตัวเราที่สุด

แล้วผมก็ดันชอบสุนัขเอามาก ๆ ตอนเล่นเว็บบอร์ดนักเขียน ก็เคยเปรียบตัวเองเหมือนสุนัข

แล้วจะสุนัขอะไรที่จะเข้ากับคำประพันธ์พวกกวีนิพนธ์ ก็เลยใช้รำพัน

เป็น สุนัขรำพัน มันก็ฉะนี้แล


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 25 สิงหาคม 2011, 09:16:PM




......รักวรรณคดีเรื่อง..อิเหนา....เต็มหัวใจ...แต่จะไม่อ่านมากเพราะเกรงจะติดสำนวนกลอน...หลงใหลตัวละครในเรื่อง..โดยเฉพาะ..สียะตรา....เป็นตัวละครที่สะท้อนอะไรได้หลายอย่างของตัวเอง...





หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ♥หทัยกาญจน์♥ ที่ 25 สิงหาคม 2011, 10:33:PM
หทัยกาญจน์ แปลว่า  ผู้เป็นดั่งดวงใจดุจทองคำที่มีค่ายิ่ง     
ซึ่งคำว่า  ดวงใจ  คือชื่อจริงของเราคะ  แต่เราอยากใช้เป็นนามปากกา
ก็เลยคิดว่าอยากใช้ชื่อที่ใกล้เคียงกับชื่อตนเองมากที่สุดก็เลยใช้ หทัยกาญจน์  เพราะชอบชื่อนี้มากคะ
เราว่าถ้ามีคนเปรียบผู้ที่รักยิ่ง  ดั่งแก้วตาดวงใจกับทองคำบริสุทธิ์ก็คงเป็นผู้ผญิงที่มีค่าและสูงส่ง ทองก็ยังเป็นทองอยู่วันยันค่ำนะคะ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 25 สิงหาคม 2011, 10:51:PM
มาแจมบ้างครับ มีคนทักผิดทักถูก เขียนผิดเขียนถูก บ่อยมาก
อันว่า ตุลาทิตย์ ไม่ใช่ ตุลาทิพย์  นะครับ
นามปากกาเต็มๆ คือ นพตุลาทิตย์ ครับ มีคนมาทักว่า เป้นพี่นพ บ้าง เป็น พี่ก้อง มานพ บ้าง

เลยใช้ตุลาทิตย์ นี่ล่ะ มีคนนามสกุลนี้จริงๆ ด้วยนะ แปลกมาก ดันตรงกัน
 ถ้าแปลคง       นพ แปลว่า เก้า
            ตุล แปลว่า คันชั่ง หรือเดือนตุลาคม
   สมาสกับ อาทิตย์ คือวันอาทิตย์ หรือ พระอาทิตย์

คุณกานฑิตา (ไม่รู้ถูกเปล่า) เคยบอกว่า พระอาทิตย์เดือนตุลา
   หรือจะแปลว่า คันชั่งพระอาทิตย์ดี ฮ่าๆ

จริงๆ มาจากวันเกิดครับ ใช้ชื่อนี้ตั้ง แต่ก่อนเข้าวงการ เลยนะ นานมาก  emo_126


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 26 สิงหาคม 2011, 05:26:AM

อือม์ เห็นน้องๆหลานๆเข้ามาแนะนำตัวเอง จึงทำให้ได้รู้จักตัวจริงกันบ้างตามสมควร  จริงๆแล้ว ลุง เคยแนะนำตัวเองเมื่อตอนเข้ามาใหม่ๆแล้ว แต่ตอนนี้ น้องๆหลานๆหน้าใหม่ๆเข้ามาหลายๆคน คงมีใครอยากรู้จัก "ปรางค์  สามยอด" บ้างเป็นแน่ งั้นลุงจะเล่าให้ฟังเลยนะ พอได้ยินคำว่า ปรางค์สามยอด ก็คงคิดถึงปรางค์สามยอด ที่ลพบุรีแน่ๆเลยใช่ไหม? ถูกแล้ว ลุงปรางค์เป็นคนลพบุรีแต่กำเนิด และไปตั้งรกรากอยู่ ตำบลเขาสามยอด ทางเข้าวัดพระบาทน้ำพุที่รักษาโรคเอดส์นั่นแหละ  เมื่อก่อนเคยใช้นามปากกาว่า "เปาบุ้นจิ้น" (เพราะมีลูกชายชื่อ วังเปา และลูกสาวคนต่อมาชื่อ บุ้นจิ้น พอคุยกับลูกๆใน MSN ใช้ชื่อว่า "บิดาเปาบุ้นจิ้น" พอมาเขียนหนังสือเล่นๆ ก็ย่อให้สั้นลง) แต่พอมาบ้านกลอน ก็เลยอยากใช้ชื่อใหม่ๆดูบ้าง  ก็เลยปิ๊ง ชื่อ ปรางค์ สามยอด นี่แหละ และก็ไม่คิดจะเปลี่ยนอีกเลย แต่ถ้าใครๆเคยเห็นชื่อ "ไพร พนาวัลย์" ในบางที่บ้าง นั่นก็คืออีกนามปากกาหนึ่ง แต่ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ และที่เห็นรูปส่วนตัวเป็นทะเลทราย เพราะตอนนี้ยังขุดทราย หาทองอยู่ ยังไม่จบภาระกิจ เพราะสองสาวยังไปเรียนต่อโท ณ คนละฟากฟ้า กันอยู่

 emo_55

ลุงปรางค์

 emo_86


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: rit sriduang ที่ 07 ตุลาคม 2011, 08:22:PM
ชื่อ ฤทธิ์ ศรีดวง

ใช้ชื่อนี้เพราะเป็นคำพ้องเสียงกับ ริด สีดวง คิดว่ามันขำดี กะเอามันซะมากกว่า เริ่มเขียนกลอนตอนอยู่มัธยมปลาย ตอนนั้นแอบรักเพื่อนต่างโรงเรียน ก็เลยรู้คุณค่าของแรงบันดาลใจ หยุดเขียนไปกว่าสิบปีหลังจบ ม.ปลาย เพิ่งกลับมาเขียนเมื่อประมาณปี 50 เว็ปไทยโพ เห็นเพื่อนๆแต่งกลอนกันเก่งๆ แล้วอยากเขียนแบบนั้นได้มั่ง เริ่มจากเขียนเล่นๆ ต่อมามันก็ติดใจ คงเพราะว่าเพลิน ที่จริงผมชอบเขียนเรื่องสั้นมากกว่า เพราะส่งสำนักพิมพ์แล้วได้ตังค์
พอติดกลอนก็ไม่ค่อยได้เขียนเรื่องสั้น แต่เอาหลักการเขียนเรื่องสั้นมาเขียนกลอน ก็เลยกลายเป็นกลอนเล่าเรื่อง

เพื่อนที่เก่าหายหน้าไปหมดก็เลยลองแวะมาที่นี่ ดูมีอะไรเยอะดี แต่ทำไม่ค่อยเป็นหรอก แค่อ่านเฉยๆ แจมบ้างนิดหน่อย 

เขียนได้สักพักมีคนเรียกอาจารย์บ้าง ครูบ้าง ตกใจนะ เฮ้ย! เราไม่ถึงขนาดนั้น แค่เขียนเล่นๆ ไม่ได้เป็นอาจารย์ภาษาไทยด้วย ทำงานก่อสร้างอยู่กับอิฐ หิน ปูน ทราย เขียนอย่างอื่นก็ไม่เป็น เพราะไม่มีความรู้อะไรเลย เป็นแต่กลอนกับกาพย์ เพราะง่าย คำเยอะดี เล่าเรื่องได้ง่าย ความรู้ฉันทลักษณ์แค่เท่าที่เรียนมัธยม แล้วก็ไม่ได้ศึกษาเพิ่มเติม เพราะไม่ได้คาดหวังจะเอาดีทางนี้

ผมเขียนเรื่องสั้นเพราะเป็นอุบายในการฝึกพิมพ์ไทยที่ผมมีปัญหามาก
กลอนที่ผมเขียนช่วงหลังจะค่อนข้างยาว นั่นเป็นอุบายอันหนึ่งที่ฝึกพิมพ์ไทยในมือถือ  ตอนทำงานอยู่กรุงเทพฯ นั่งเรือเกือบทุกวัน ผมเสียดายเวลามาก อ่านหนังสือก็ปวดตา จึงใช้มือถือหัดพิมพ์ด้วยมือซ้ายแต่งกลอน ปรากฎว่าเพลินมาก ได้ทั้งผลงานและทักษะมือซ้าย ซึ่งกลายเป็นว่าคล่องกว่ามือขวา

ตอนที่มีการประกวดแต่กลอน ผมจะเป็นคนดี  ตอนนั้นซื้อหนังสือไปอ่าน จับประเด็นหลัก วางพล็อต แล้วก็พิมพ์ใส่มือถือเหมือนเดิม จนเกือบจบเรื่อง ผมว่าการได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเป็นความสุข

เล่าให้ฟังครับ เผื่อว่าคนที่ให้เกียรติผมจนเกินเหตุจะได้กลับตัวทัน

ขอให้มีความสุขมากๆทุกท่านครับ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ภู กวินท์ ที่ 07 ตุลาคม 2011, 09:11:PM




ชื่อ  “ทำ มะดา”  เป็นคำพ้องเสียงของ  “ธรรมดา” เช่นเดียวกับ "ท่านฤทธิ์ ศรีดวง" ที่จริงแล้วเลียนแบบ "ท่านฤทธิ์ ศรีดวง"  นั่นแหล่ะครับ!  เพราะเข้าไปอ่านกลอนในไทยโพเอ็ม แล้วชื่นชอบในกลอนของท่าน และตัวท่าน ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

คิดว่าจะแต่งกลอนแบบธรรมดาๆก็เลยใช้ชื่อนี้นะครับ


พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน

ทำ : ความหมาย

ก. กระทํา, ประกอบขึ้น, ผลิตขึ้น, สร้างขึ้น, ก่อขึ้น, เช่น ทําเก้าอี้ ทําโต๊ะ ทํารองเท้า ทํารัง; ประกอบการงาน เช่น ทํานา ทําสวน ทําโป๊ะ; ดําเนินการ, ปฏิบัติงาน, เช่น ทําหน้าที่ประธาน ทําตามคําสั่ง ทําตามกฎหมาย; แต่งให้งาม เช่น ทําผม ทํานัยน์ตา ทําจมูก; คิดและปฏิบัติไปตามกฎเกณฑ์ที่กําหนดไว้ เช่น ทําเลข ทําการฝีมือ, ประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับการนั้น ๆ เช่น ทําวัตร ทําศพ; แสดงเช่น ทําบท ทําเพลง ทําเบ่ง; (ปาก) ศึกษาในระดับปริญญา เช่น ทําปริญญา ทําดอกเตอร์.

มะดา : ความหมาย

น. ดวงตา. (ช. มะตา).


ซึ่่ง “ทำ มะดา” ตามความคิดของผม หมายถึง การเขียนออกมาจากสิ่งที่เราเห็น หรือ ทำมาจากดวงตา(อันนี้คือ คิดเอาเองครับ)


ถ้าการกระทำอันใดไม่เหมาะสมหรือก้าวล่วงบุคคลใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ!


                           ด้วยจิตคารวะ "ทำ มะดา"



                                   emo_126


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษการกลอน ที่ 08 ตุลาคม 2011, 12:40:AM
KrittyHema
 ชื่อนี้ไม่ได้คิดแค่กลัวลืมusernameพาสเวิร์ด เลยใช้อันเดียวกะในเฟสบุคซะเลย
 จริงๆชอบชื่อไทยๆมากกว่า สละสลวยกว่าอังกฤษแยะ
ถึงแม้ว่างานที่ทำไม่ค่อยได้ใช้ภาษาไทยเท่าไหร่
แต่หัวใจก็ซาบซึ้งกับภาษาไทยมากกว่า

บางครั้งงานเหนื่อยมากคิดกลอนไม่ออก
บางครั้งอดนอนยิ่งไปกันใหญ่
เลยพอแต่งได้แต่ต้องอาศัยแรงบันดาลใจ
และได้นอนเต็มตาแล้วด้วย
 
อาจขอเวลาเก็บตัวหน่อย
ถ้ามั่นใจมากขึ้นจะกลับมาใช้นามปากกาไทยๆ
ตั้งใจจะอ่านกลอนสุนทรภู่ให้จบทั้งหมด
ภาษาจะได้ดีขึ้นบ้าง



หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: นาคสวาท ที่ 08 ตุลาคม 2011, 08:47:AM
    
         "องคตฤาษีกล่าวกำเนิดมรกต นาคสวาท ครุฑธิการ ว่าแต่ก่อนยังมีพระยานาคตัวหนึ่งชื่อ พาสุกินนาคราช พระยาครุฑพาเอาไปกิน ณ เมืองตรุดตราด เมื่อพาสุกินนาคราชจะตาย จึงคายโลหิตออกเป็นปฐม เกิดเป็นนาคสวาท คายโลหิตออกภายหลัง เกิดเป็นมรกต น้ำลายพระยานาคอันตกลง เป็นครุฑธิการ"

            นี่คือที่มาของนามปากาผมครับ ส่วนตัวชอบพญานาคมากๆๆๆๆๆ แต่งโครงนิยายพญานาคไว้ แต่ไม่ได้เริ่มสักที หุหุ มีของสะสมเป็นพวกหิน พลอย ควอตซ์ จุยเจีย เยอะพอสมควร มีความรู้บ้างใครสนใจแลกเปลี่ยนความรู้กันได้นะครับ เค้าเชื่อว่าหินพวกนี้เป็นมณีของนาคไง เลยชอบสะสม เผื่ิอเค้ามาทวงจะได้เจอคุยกัน

            นอกจาก นาคสวาท แล้วผมยังใช้ อาทิตยามันตุ์ ซึ่งเป็นชื่อพญานาคีแสนสวยแสนเก่งในนิยายเรื่องหนึ่ง แปลตามศัพท์แปลว่า เชื้อวงศ์ของพระอาทิตย์ เอาเป็นว่าเจออะไรเกี่ยวกะพญานาคให้สงสัยผมไว้ก่อนละกัน หุหุ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: สาวน้อยกวีเอก ที่ 03 มีนาคม 2012, 08:19:AM



                        ของหนูคือ สาวน้อยกวีเอก

                                                                สาวน้อย ก็หมายความว่ายังเด็กอยู่

                                                                ส่วนกวีเอกนี่ไม่ได้หมายความว่าแต่งกลอนเก่งนะ แค่อยากเป็นเฉยๆ


                                                                emo_102 emo_102 emo_102


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 06 เมษายน 2012, 12:19:AM
ขอเล่าย้อนก่อนมาชายคานี้                ผมโชคดีได้ดูหนังเมื่อครั้งฉิน
จักรพรรติองค์ยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน           ครอบครองสิ้นรวมดินแดนเป็นแผ่นเดียว


(http://images.temppic.com/12-02-2013/images_vertis/1360651767_0.84947800.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?12-02-2013:1360651767_0.84947800.jpg)

มีแคว้นจ้าวเหลืออยู่เป็นคู่ศึก              ร่วมผนึกต้านทัพใหญ่ได้แน่นเหนียว
โดยมีสามจอมยุทธผู้ปราดเปรียว         หาช่องเลี้ยวสังหารท่านจิ๋นซี


(http://image.ohozaa.com/i/399/SF4uGF.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vZHrjSKy7O6TvsVa)(http://image.ohozaa.com/i/a2c/d8udHy.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vZHrb1hv2hhY2a8o)

กระบี่หักคู่รักหิมะเหิน                     ทั้งฟ้าเวิ้งเก่งเกินใครในวิถี
คู่รักสองบุกสังหารอ๋องฉินนี้             ทั้งที่มีทหารหาญเป็นพันนาย

ด้วยฝีมือที่ลือลั่นฟาดฟันถึง            อ๋องตะลึงแต่ไม่ขลาดหากผึ่งผาย
รู้ว่าแพ้แต่ก็สู้จนตัวตาย                 จอมยุทธชายหยุดกระบี่แล้วหนีไป

แต่บัดนั้นครั้นจะเฝ้าเอาร้อยก้าว        ตั้งกฏกร้าวพร้อมตรวจเค้นเป็นเงื่อนไข
แต่ถ้ามีสามศาตรามากับใคร            ผ่อนผันให้ใกล้สิบก้าวเข้าชิดองค์


ด้วยความเก่งสามเพลงยุทธหยุดท่านอ๋อง   จึงหมายปองชีพทั้งสามตามประสงค์
จอมยุทธไหนไกลห่างวางดาบลง      ชีพก็คงม้วยมอดวอดวายไป


(http://image.ohozaa.com/i/44d/ig30eD.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vZHsjV1TKrMdTlV6)(http://image.ohozaa.com/i/4eb/8UFT13.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vZHshrb7Lnv9oSFa)


ชายหนึ่งคนขนอาวุธชุดทั้งสาม        ชายไร้นามขอเข้าเฝ้าปราศรัย
อ๋องยินยอมตามอ้างพลางติดใจ        เพราะเหตุใดไร้นามปราบราบสามรายฯ

(http://image.ohozaa.com/i/778/bGMAAM.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vZHsn6Q2iDKa5Nfy)(http://image.ohozaa.com/i/2a6/mdm0RO.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vZHsuyomfQWOTqZG)


(นี่เป็นหนังจีนกำลังภายในที่สนุกมากครับ เป็นหนังในดวงใจผมและเป็นที่มาของนามปากกาผม, โดยเฉพาะประโยคที่แขวนอยู่หน้าอ๋องฉิน ที่แปลว่าใต้หล้านั้นทำให้กระบี่หักยกเลิกภารกิจกระทันหัน)
 emo_126 emo_126 emo_126 emo_126 emo_126




*ไฟล์ภาพบางส่วนถูกแก้ไขโดยผู้ดูแลระบบ (หมดอายุ)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: หนามเตย ที่ 06 เมษายน 2012, 04:09:AM

นามปากกาของฉันนั้นหลากหลาย
เขียนกระจายเล่นไปเพื่อใฝ่หา
แต่ที่รู้ตั้งแต่เขียนกลอนมา
เก็บรักษาเอาใส่ไว้ในใจ
เพื่อไม่ให้ตัวเองนั้นสับสน
ว่าตัวตนจริงแท้แน่ที่ใหน
จะกี่นามปากกาไม่เป็นไร
หนึ่งเดียวในใจฉันนั้นชื่อเธอ....
   emo_95 emo_95 emo_95 emo_95 emo_95 
 





*ไฟล์ภาพถูกแก้ไขโดยผู้ดูแลระบบ (หมดอายุ)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 19 เมษายน 2012, 02:06:PM
(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRDN_PzV98FGv3-w-D9x--HW2B6A2p7bfPdnO0BzcEf84zgTIep)(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSjs8jIysIBa2mp3qVn6C83ccMfGTre5MiY1toZyfyJG6IvLWZL)

นามปากกา..กุสุมา..ตั้งตามชื่อที่คุณแม่ท่านตั้งให้ซึ่งท่านได้ให้ความหมาย
..ตามเครื่องอัญมณีที่ท่านได้มอบรับขวัญในวันเกิดคือ..”อัญมณีนพเก้า
ที่ทำคู่กับทองเนื้อเก้า..ทองคำ99.99.. “ “..ให้เป็นเครื่องประดับประจำกาย..”
ซึ่งหมายถึงชื่อ..กุสุมา..เจ้าค่ะ
..ก็เลยนำชื่อมาตั้งเป็นนามปากกาเจ้าค่ะ..


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ดุลย์ ละมุน ที่ 12 พฤษภาคม 2012, 07:59:PM
(http://image.free.in.th/z/iz/301663_165163243564431_100002122689982_358130_784075_n.jpg)

อันธพาลครองเมืองเคยเรืองยุค
ย้อนกระตุกต่อมบู้สู้ล้างผลาญ
แดงไบเล่ดำเอสโซ่โก้ประมาณ
เป็นตำนานที่กล่าวขานลานนักเลง

พอเด็กชายย่างกายเป็นวัยรุ่น
ใจหันหุนครุ่นครุว่ากูเจ๋ง
มุ่งเดินดุ่ยลุยไฟไม่กลัวเกรง
เร่งอวดเบ่งศักดาท้าประจัญ

เป็นเรื่องราวคราวหนุ่มน้อยด้อยความคิด
ใช้ชีวิตเปิดเปิงระเริงฝัน
วิถีถ่อยปล่อยใจไปวันวัน
เริงสวรรค์บันเทิงบนเพลิงเปลว


555 หลายๆ ท่านคงแปลกใจว่า ชื่อสามัญๆอย่าง ดุลย์ ละมุน มีที่มาด้วยหรือ5555
เดิมทีตอนเป็นสมาชิกแรกๆนั้นผมใช้ชื่อว่า ดุลยภาพแห่งลำนำ คืออยากจะตั้งให้คล้องกับ
ชื่อจริงและฟังดูเท่ๆ5555 แต่พอนานไป เห็นว่าฝีมือการแต่งกลอนของตน ช่างอ่อนด้อยนัก
ไม่สมกับชื่อที่ใช้ เลยคิดเปลี่ยนชื่อ และมาลงตัวที่ชื่อ ดุลย์ ละมุน โดยมีที่มาจาก 2 สาเหตุคือ
1. เป็นชื่อที่น่าจะเข้ากับกลอนที่ชอบเขียน แซว หยอก กับสาวๆ 55555555
2. เป็นสมญานามในวัยเด็ก ที่เรียกกันในหมู่เพื่อน คือ ช่วงนั้น มีหนังเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง
เข้าฉาย และเขาเรียกชื่อเป็นสมญานามกัน เช่น แดงไบเล่ ปุ๊ระเบิดขวด 55555 ตอนนั้นทุกคนเลยมี
สมญานามกันหมดเพื่อความเท่555 ชื่อเพื่อนผมก็เช่น แม้สเปร์  โบ๊ทสไปท์  เถ่าบังตอ  แระไฝ   ดีน92 เป็นต้น
ส่วนผม สังกัดอยู่ในกลุ่ม 5 ละ(ระ) ซึ่งประกอบไปด้วย   ดุลย์ละมุน   ลาวละเมียด   แอ๊ดละไม  หนึ่งละม่อม  และ ตั๋งระยำ 55555
ลองดูในภาพสมัยนั้นนะครับ    คนไหนกันเอ่ย คือ  ดุลย์ ละมุน 5555555555555


 emo_85


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 12 พฤษภาคม 2012, 11:34:PM

พี่ดุลย์ นั่งหน้าแซม..
แซมคนใส่หมวก.. พี่ดุลย์ คนถือหมวก...
  emo_107


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 13 พฤษภาคม 2012, 07:38:AM
             
  ทายมั่ง ๆ

       คนยกมือ หน้าขำขำ ดำกว่าเพื่อน
  คนหน้าเหมือน ณเดชน์ ใช่ไหมล่าา...
  คนหัวโปก  คนสวมหมวก  สวมแว่นตา
  คนนั่งขวา  คนค้ำคาง  นั่งกลางมั้ง

             ยอม !

           คนนี้แน่ ๆ
           (http://image.ohozaa.com/i/ba2/wu490.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/rjka)
            พี.พูน


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 13 พฤษภาคม 2012, 08:41:AM
นักกลอนลูกเขียวทองมาลองเขียนฯ
                                       




 


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 15 กรกฎาคม 2013, 08:43:PM
เปิดกระทู้นั่น กระทู้นี่ ไปเรื่อย แล้วก็มาเจอะอันเนี้ย

 emo_68 ขอแจมซะหน่อยนะครับ


"The Story of Sri-phreung"

(กลอนสุภาพ)
เมื่อครั้งยังเรียนขั้นชั้นมัธยม
ตัวกระผมชอบกลอนอักษรศิลป์
อีกกาพย์โคลงร่ายฉันท์ประพันธ์พิณ
อ่านแล้ว in จนถึงก้นบึ้งมาน

ครู "ศรีปราชญ์" นั้นหรือคือต้นแบบ
ว่างก็แอบลิลิตโคลงโยงถักสาน
ส่งให้สาวดาวห้องผ่องสะคราญ
แต่ถูกกานดาสลัดตัดเยื่อใย

(ฉบงง)
อกหนาวร้าวรวดปวดใจ           เยี่ยงนี้เรื่อยไป
สาวเกลียดหยามเหยียดคนกลอน

จำจากจำร้างลาจร                 ละทิ้งกลบวร
มุ่งวิทย์คณิตตามกระแส

(โคลงสี่สุภาพ)
ดวงแดจักชอกช้ำ              เพียงไร
มุเพื่ออรไท                     ไป่ท้อ
ปลุกปลอบพลังใจ              ผสานจิต
เลขเก่งสาวมิล้อ                แน่แท้...กรี๊ด! กระจาย

มิอายใครทั่วทั้ง                โรงเรียน
คณิตฟิสิกส์เซียน              แกว่นกล้า
สาวสาวแห่วนเวียน            รายรอบ
เอิบอิ่มทะลุฟ้า                 เนื่องรู้...พลังตน

(มาณวกฉันท์)
อันกิจะใด               ในปฐพี
แม้นวะฤดี               มั่นจะผจญ
ล้วนก็สำเร็จ            เสร็จดุจะมน
หากทมะทน             เพียรพยะยาม

ครั้นประลุล่วง           ช่วงปัจะฉิม   >> (ใกล้จบมัธยม)
เนื้อนุชนิ่ม               องคะวิราม
เธอก็เฉลย              เอ่ยพจะความ
ว่าบมิหยาม              กลอนกวิเรา

(รายสุภาพ)
ขมองอิ่มพริ้มเพรา                  ยุพเยาว์เจ้าแถลง              แจ้งสัจจะความจริง
ว่าเคยปิ๊งอนุชาย                   แต่ด้วยอายสุดเหนียม          มิได้เตรียมกมลาศ
จึ่งรีบคลาศเคลื่อนหนี              ดวงฤดีสั่นระทึก                ถูกชายคึกพร่ำเสนอ
กถาเพ้อบทกลอน                   ออดอ้อนทุกเช้าเย็น           เพื่อนเห็นเป็นถูกแซว
กนิษฐ์แก้วจึ่งทำเฉย                ดั่งมิเคยสนใจ                  จนหทัยชายมลาน
หยุดสานบทกวี                      มุวิถีวิทย์วิชา                    เลิกบ้าศาสตร์อักษร
"สายสมรเพริศพริ้ง                 เธอกล่าวพจีทิ้ง                ชอบท้นคนกลอน"

(จบ: โคลงสี่สุภาพ)
จรจากพรากนิ่มเนื้อ               นงไพร
เดินสู่มหา' ลัย                    สุดคว้าง
คำอนุชตราหทัย                  ตรึงจิต
เรียนหย่อนเป็นเสกสร้าง         ถักร้อยเรียงกวี

เลือกนาม "ศรีเปรื่อง" ไว้          แทนตน
เหตุคลั่ง "ศรีปราชญ์" จน         สุดไส้
กลอนหวานซ่านกมล               ดาดาษ
จึงมุ่งลิขิตให้                        ป่วนถ้อยกวนกถา

ศรีเปรื่อง
๑๕ ก.ค.๒๕๕๖

ปล.

สุดท้ายผมกับเธอก็ไม่ได้คบกันในฐานะแฟน 555 (แต่ก็มีความสุขเสมอที่ได้คิดถึง)  emo_62


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 01 กันยายน 2013, 10:23:PM

ที่มาของ "ป๋าฮอร์ท" (hort39)

เขาเรียกเราว่าป๋าแหมน่าขำ
คนหาเช้ากินค่ำทำเศรษฐี
คงหมายถึง"ป๋าหมาก"เพราะปากดี
ด่าคนนี้คนนั้นดั้นเป็นกลอน

คนไม่รู้นึกว่ารวยช่วยเรียกขาน
หนี้ยังบานบางทีมีผัดผ่อน
ชอบแต่งกลอนหนักหนักแถมปากบอน
จึงต้องซ่อนบางบทจดดูเอง...


 emo_94


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 02 กันยายน 2013, 03:54:PM
พนมหัตถ์ นมัสการ ท่านเจ้าที่              พระคุณมี มากล้น พ้นสงสัย
เปิดประตู ทุกบาน บ้านกลอนไทย         ให้เวไนย สรรค์สร้าง ทางกาพย์กลอน
เป็นคุณูปการ  แก่บ้านเมือง                ได้รุ่งเรือง เสริมศิลป์ เป็นอนุสรณ์
อยู่ยั่งยืน ก้าวหน้า สถาพร                   น้อมยอกร ยกกวี เป็นศรีไทย
ข้า...วนเวียน เพียรผ่าน บานประตู        โดยไม่รู้ จะเข้าบ้าน ณ บานไหน
พบน้องน้อย นงราม งามน้ำใจ             รีบคลาไคล เข้ามา "สุนันยา" ชวน
นามกร นายจำเริญ เนินจำราย             คนปักษ์ใต้ อาชีพเอย เคยทำสวน
ปลูกมังคุด ลางสาด  แถวลาดควน        เปรยประมวล เคร่าเคร่า ขอเข้าการ
คารวะ...เพื่อนพ้อง เหล่าน้องพี่           ช่วยชวนชี้ กลกลอน อักษรสาร
ให้เสนาะ เพราะสำเนียง เสียงกังวาล    ขับคำขาน ทำสำนวน ชักชวนชม
ฉันทลักษณ์ ชัดถ้อย ร้อยเสนาะ          สัมผัสเกาะ คำก้าวย่าง อย่างเหมาะสม
กลิ่นกำจาย หอมหวน ลอยทวนลม       ใครฟังชม ฟังซ้ำ ลำนำเรา

วันแรกที่เข้าบ้านกลอนไทยครับ


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: (พระอภัย) ที่ 07 กันยายน 2013, 09:31:PM
ถ้าให้พูดถึงเรื่องนามปากของผม หึหึหึหึหึ  ผมก็ไม่รู้จะตั้งยังไงให้มันเเสดงถึงตัวตนที่เเท้จริงของตัวเอง
"พระอภัย"เป็นคำที่ผมนึกออกเป็นคำเเรกเเล้วก็ดูเทห์ที่สุดในกมองผมเพราะขณะนั้นผมหน้ามืดตาลายคล้ายอยากเเต่งกลอนมือก็สั่นพิมพ์สมัครสมาชิกกว่าจะได้55
ผมว่าไอ้การตั้งนามปากกานี่ละลำบากใจกว่าการเเต่งกลอนซะอีกคิดเเล้วคิดอีก    สนทรทู่มั้ง,เซียงน้อยมั้ง,กุฎิยาวมั้ง,สุดท้ายก็ออกมาเป็นพระอภัย    เเรงบันดาลใจที่ทำให้ผมเเต่งกลอนนั้น
ก็คือ   ผมชอบฟังเพลงคาราบาวโดยเฉพาะเพลงซึ้งนี้ฟังเเล้วเหมือยขุนลุกใจสั่นๆรู้สึกใจสงบขี้น   โดยเฉพาะเพลง  "ขวานไทยใจหนึ่งเดียว"เสียงสีซอบาดหัวใจมากปวดๆเหมือนโรคหัวใจจะกำเริบ55เลยเริ่มเเต่งตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา   เจริญพร55555ผมเคยบวชเรียนมา5ปี     ได้ปธ.๑-๒เเต่ปธ.๓ ไปไม่รอด 5555  นักธรรมโท  สมัครมาหนึ่งปีผมพึ่งหลงมากระทู้นี้ให้ตายสิ!!!


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: jaja ja ที่ 15 พฤศจิกายน 2013, 10:26:PM
เป็นชื่อเล่นของตัวเองค่ะ  แค่เล่นคำซ้ำๆ ก้อได้นามปากกาแล้ว ไม่คิดอะไรที่สลับซับซ้อน emo_60 emo_60 emo_60


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: คารมจมโคลน ที่ 12 มิถุนายน 2014, 11:49:AM
ไม่มีอะไรให้คิดหนัก
ชื่อ นายเมฆ นี้ชอบนัก เพราะมันคือชื่อของผมนี่แหล


 emo_68 emo_68


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: junior12345678 ที่ 16 มิถุนายน 2020, 07:34:PM
ชื่อ กะทิ ครับ เพราะบางทีชอบเขียนเนื้อหาที่มีความเข้มข้น ไม่มีอะไรพิเศษนอกจากนี้ครับ แทงบอลออนไลน์ufa365 (https://w88onlineth.com/แทงบอลออนไลน์ufa365/)
เคล็ดลับแทงบอลufa365 (https://blacksuccube.com/เคล็ดลับแทงบอลufa365)


หัวข้อ: Re: ที่มาของนามปากกาเพื่อนๆในกลอนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 16 มิถุนายน 2020, 08:52:PM

ขอต้อนรับด้วยความยินดียิ่ง


“กะทิ”คากระทะ     คารวะวันทามิ
มั่น  สุ จิ ปุ ลิ     ฟัง คิด ตาม ถามแล้วเขียน

ผูกมิตรฝากสัมพันธ์      สมานฉันท์ร่วมมือเรียน
กลอนกานท์,กาพย์ วนเวียน      สมประสงค์กล่อมลงใจ

เนิน จำราย