พิมพ์หน้านี้ - ใจกวี

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนเพื่อน => ข้อความที่เริ่มโดย: hort39 ที่ 06 พฤษภาคม 2013, 10:26:PM



หัวข้อ: ใจกวี
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 06 พฤษภาคม 2013, 10:26:PM
เขาว่าใจกวีนี้อ่อนไหว
ลอยล่องไปตามอารมณ์ผสมศิลป์
ด้วยลีลาหลายหลากกลั่นจากจินต์
ไม่เคยสิ้นไม่เคยลด หมดศรัทธา

บทกวี สื่อสาร ผ่านอักษร
เป็นกาพย์กลอน โคลงฉันท์ อันล้ำค่า
อาจอ่อนแีรง ไปบ้าง ในบางครา
แต่กลับมา ทุกครั้ง เหมือนอย่างเคย

หากใจเธอ เหมือนกวี ที่กล่าวอ้าง
อย่าแรมร้าง ห่างไป คล้ายเงียบเฉย
ใจกวี นี้เหงา เศร้าจังเลย
จึงต้องเอ่ย เอื้อนออก บอกความนัย...


 emo_111


หัวข้อ: Re: ใจกวี
เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 06 พฤษภาคม 2013, 11:07:PM
 

emo_62


...ยามหายหน้า คราไหน แต่ใจอยู่
ยังเคียงคู่ เสมอ เธอรู้ไหม
ยามที่อยาก มาหา ในคราใด
กังวลใจ กลืนกล้ำ ต้องทำงาน...

...แม้จะดึก ดื่นแล้ว แก้วใจเอ๋ย
ใครหนออยู่ ชิดเชย เปรยคำหวาน
เพียงเวลา คราที่ มีเหตุการณ์
คนรักหาย ฟุ้งซ่าน นานป่วยลา... emo_33

รัตนาวดี
 emo_111


หัวข้อ: Re: ใจกวี
เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 06 พฤษภาคม 2013, 11:32:PM



ต่อจากคุณ Hort39 นะครับ


ผลิตผลงานผ่านสื่อนั่นคือเวป
เพื่อนได้เสพศิลป์กลอนอักษรใส
แต่มีบ้างบางคราวปวดร้าวใจ
กลอนถูกแอบก๊อบไปไร้ร่องรอย

เอาไปโพสต์ที่อื่นแสนชื่นฉ่ำ
เจ้าของกลอนนอนช้ำระกำหงอย
ส่วนนักก๊อบมือโปรโอ้..เลิศลอย
สุดจะสอยสูงส่งคนหลงชม

นั่นยังพอทำเนาไม่เท่าไหร่
ที่มากไปกว่านี้ ที่ขื่นขม
มีบางรายคล้ายว่าหลงคารม
ไปนิยมยินดีกวีปลอม

ไปก๊อบต่อขอเขาเอามาใหม่
ลงเว็บเรานั่นไงใฝ่ถนอม
ทั้งเชิดชูบูชาให้ค่าคอมฯ
เครดิตติดพร้อมย้อมกระพือ

ฝ่ายเจ้าของมองหน้าตาปริบปริบ
ถูกเขาหยิบกลอนไปมิใส่ชื่อ
เพื่อนไปคัดต่อมาทำฮาฮือ
ให้อึงอื้อออกลั่นสนั่นเว็บ

หัวอกคนเขียนกลอนต้องนอนกลุ้ม
เหมือนเพลิงสุมทรวงในสุดใจเจ็บ
เหมือนถูกค้อนย้อนยอกเข้าตอกเล็บ
โอ้...ต้องเก็บความช้ำสุดกล้ำกลืน...



        เขียนจากเรื่องจริงครับ  กลอนที่ผมเคยแต่งบทหนึ่ง  เคยลงที่บ้านกลอนไทยนี้เมื่อประมาณสองปีก่อน
แต่ภายหลังเนื่องจากว่า มีคำบางคำมันไปสื่อความหมายคล้ายกับพาดพิงเพื่อนสมาชิกบางคน
ดังนั้นหลังจากลงกลอนนั้นได้ประมาณสองวันผมก็ลบกลอนนั้นทิ้งไป โดยไม่ได้เซฟหลักฐานไว้
ต่อมาปรากฏว่ามีคนก๊อบเอาไปลงที่เว็บอื่นโดยที่ไม่ได้ให้เครดิต
        แล้วก็บังเอิญมีเพื่อนสมาชิกที่เป็นกวีในเว็บเรานี่แหละไปเห็นแล้วก็เกิดชอบเข้า  จึงได้ก๊อบมาลงที่
เว็บบ้านกลอนไทยนี้อีกทีพร้อมกับให้เครดิตคนที่ก๊อบไปนั้นเสียยกใหญ่(ไอ้ตอนที่เราแต่งเราโพสต์ลงให้อ่าน
เขาไม่แม้แต่จะสนใจชายตามอง  แต่ไปเห็นของคนที่ก๊อบของเราไป กลับชอบ นำเอามายกย่องเชิดชู
ให้เครดิตเสียยกใหญ่)  ผมได้เตือนแล้วว่าคนที่เขาให้เครดิตนั้นไม่ใช่คนแต่ง  แต่เป็นคนที่ก๊อบไปจาก
บ้านกลอนไทยเรานี่เอง  แต่เขาไม่เชื่อ  ต้องการให้มีหลักฐานพิสูจน์เสียก่อน
หลังจากนั้นก็ทำทองไม่รู้ร้อน  ช่วยกันกระพือ...ต่อไป(กระพืออะไรผมคงไม่ต้องบอกนะครับ)
         จากเรื่องที่เล่ามานี้ คุณลองคิดดูว่าผมจะรู้สึกยังไง   เมื่อกลอนที่ตัวเองแต่งถูกคนอื่นก๊อบไป
ซ้ำร้ายเพื่อนสมาชิกที่คุ้นเคยชื่อเสียงเรียงนามกันไปก๊อบมาแล้วเครดิตคนที่ก๊อบเราไปอีกที่
เราบอกเขาๆก็ไม่เชื่อ  ยืนยันที่จะช่วยกระพือชื่อเสียงให้กับคนที่ก๊อบของเราต่อไป  โดยไม่แคร์  ไม่รู้สึกละอายต่อเรา
          สำหรับนักกลอนอย่างเราๆ เมื่อยึดถือคุณธรรมว่า ก๊อบกลอนคนไหนมาลง ต้องให้เครดิตคนนั้น
ข้อนี้ผมไม่เถียง  แต่ถามว่าเคยคิดเฉลียวใจบ้างไหมว่า คนที่เราไปก๊อบของเขามานั้นใช่คนแต่งตัวจริงแน่หรือ ?
เมื่อมีผู้ท้วงติงเหตุใดจึงไม่ยอมฟังกันบ้าง  ทำไมจึงแน่ใจนักว่าคนๆนั้นใช่ ?  หรือว่าแม้แต่คำพูดของเพื่อนสมาชิก
ด้วยกันก็ไม่มีน้ำหนัก  ไม่ควรค่าแก่การเชื่อถือ ไม่ควรค่าที่จะทำให้เฉลียวใจคิดสักนิด
           ความจริงไม่ได้เรียกร้องสิทธิ์  หรือต้องการให้ยกเครดิตมาให้  เพราะถึงอย่างไรกลอนนั้นก็เป็นกลอนที่
ตัดสินใจลบไปแล้ว   แต่ขอได้ไหม  ช่วยหยุดกระพือ...ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง  ขอเพียงแค่นั้นแหละ

        นี่ก็คือความในใจของคนที่เป็นกวีอีกคนหนึ่งครับ  คิดแล้วมันปวดใจ
บางทีก็คิดว่า ในเมื่อมันมีปัญหามกนักก็ไม่ต้องแต่ง  ไม่ต้องลงมันเลยซะก็หมดเรื่อง....



                                                             ช่วงนี้ไม่ว่าง



 




หัวข้อ: Re: ใจกวี ❤
เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 07 พฤษภาคม 2013, 12:34:AM



ต่อจากคุณ Hort39 นะครับ


ผลิตผลงานผ่านสื่อนั่นคือเวป
เพื่อนได้เสพศิลป์กลอนอักษรใส
แต่มีบ้างบางคราวปวดร้าวใจ
กลอนถูกแอบก๊อบไปไร้ร่องรอย

เอาไปโพสต์ที่อื่นแสนชื่นฉ่ำ
เจ้าของกลอนนอนช้ำระกำหงอย
ส่วนนักก๊อบมือโปรโอ้..เลิศลอย
สุดจะสอยสูงส่งคนหลงชม

นั่นยังพอทำเนาไม่เท่าไหร่
ที่มากไปกว่านี้ ที่ขื่นขม
มีบางรายคล้ายว่าหลงคารม
ไปนิยมยินดีกวีปลอม

ไปก๊อบต่อขอเขาเอามาใหม่
ลงเว็บเรานั่นไงใฝ่ถนอม
ทั้งเชิดชูบูชาให้ค่าคอมฯ
เครดิตติดพร้อมย้อมกระพือ

ฝ่ายเจ้าของมองหน้าตาปริบปริบ
ถูกเขาหยิบกลอนไปมิใส่ชื่อ
เพื่อนไปคัดต่อมาทำฮาฮือ
ให้อึงอื้อออกลั่นสนั่นเว็บ

หัวอกคนเขียนกลอนต้องนอนกลุ้ม
เหมือนเพลิงสุมทรวงในสุดใจเจ็บ
เหมือนถูกค้อนย้อนยอกเข้าตอกเล็บ
โอ้...ต้องเก็บความช้ำสุดกล้ำกลืน...



        เขียนจากเรื่องจริงครับ  กลอนที่ผมเคยแต่งบทหนึ่ง  เคยลงที่บ้านกลอนไทยนี้เมื่อประมาณสองปีก่อน
แต่ภายหลังเนื่องจากว่า มีคำบางคำมันไปสื่อความหมายคล้ายกับพาดพิงเพื่อนสมาชิกบางคน
ดังนั้นหลังจากลงกลอนนั้นได้ประมาณสองวันผมก็ลบกลอนนั้นทิ้งไป โดยไม่ได้เซฟหลักฐานไว้
ต่อมาปรากฏว่ามีคนก๊อบเอาไปลงที่เว็บอื่นโดยที่ไม่ได้ให้เครดิต
        แล้วก็บังเอิญมีเพื่อนสมาชิกที่เป็นกวีในเว็บเรานี่แหละไปเห็นแล้วก็เกิดชอบเข้า  จึงได้ก๊อบมาลงที่
เว็บบ้านกลอนไทยนี้อีกทีพร้อมกับให้เครดิตคนที่ก๊อบไปนั้นเสียยกใหญ่(ไอ้ตอนที่เราแต่งเราโพสต์ลงให้อ่าน
เขาไม่แม้แต่จะสนใจชายตามอง  แต่ไปเห็นของคนที่ก๊อบของเราไป กลับชอบ นำเอามายกย่องเชิดชู
ให้เครดิตเสียยกใหญ่)  ผมได้เตือนแล้วว่าคนที่เขาให้เครดิตนั้นไม่ใช่คนแต่ง  แต่เป็นคนที่ก๊อบไปจาก
บ้านกลอนไทยเรานี่เอง  แต่เขาไม่เชื่อ  ต้องการให้มีหลักฐานพิสูจน์เสียก่อน
หลังจากนั้นก็ทำทองไม่รู้ร้อน  ช่วยกันกระพือ...ต่อไป(กระพืออะไรผมคงไม่ต้องบอกนะครับ)
         จากเรื่องที่เล่ามานี้ คุณลองคิดดูว่าผมจะรู้สึกยังไง   เมื่อกลอนที่ตัวเองแต่งถูกคนอื่นก๊อบไป
ซ้ำร้ายเพื่อนสมาชิกที่คุ้นเคยชื่อเสียงเรียงนามกันไปก๊อบมาแล้วเครดิตคนที่ก๊อบเราไปอีกที่
เราบอกเขาๆก็ไม่เชื่อ  ยืนยันที่จะช่วยกระพือชื่อเสียงให้กับคนที่ก๊อบของเราต่อไป  โดยไม่แคร์  ไม่รู้สึกละอายต่อเรา
          สำหรับนักกลอนอย่างเราๆ เมื่อยึดถือคุณธรรมว่า ก๊อบกลอนคนไหนมาลง ต้องให้เครดิตคนนั้น
ข้อนี้ผมไม่เถียง  แต่ถามว่าเคยคิดเฉลียวใจบ้างไหมว่า คนที่เราไปก๊อบของเขามานั้นใช่คนแต่งตัวจริงแน่หรือ ?
เมื่อมีผู้ท้วงติงเหตุใดจึงไม่ยอมฟังกันบ้าง  ทำไมจึงแน่ใจนักว่าคนๆนั้นใช่ ?  หรือว่าแม้แต่คำพูดของเพื่อนสมาชิก
ด้วยกันก็ไม่มีน้ำหนัก  ไม่ควรค่าแก่การเชื่อถือ ไม่ควรค่าที่จะทำให้เฉลียวใจคิดสักนิด
           ความจริงไม่ได้เรียกร้องสิทธิ์  หรือต้องการให้ยกเครดิตมาให้  เพราะถึงอย่างไรกลอนนั้นก็เป็นกลอนที่
ตัดสินใจลบไปแล้ว   แต่ขอได้ไหม  ช่วยหยุดกระพือ...ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง  ขอเพียงแค่นั้นแหละ

        นี่ก็คือความในใจของคนที่เป็นกวีอีกคนหนึ่งครับ  คิดแล้วมันปวดใจ
บางทีก็คิดว่า ในเมื่อมันมีปัญหามกนักก็ไม่ต้องแต่ง  ไม่ต้องลงมันเลยซะก็หมดเรื่อง....



                                                             ช่วงนี้ไม่ว่าง



  emo_116   emo_126


...โถ..คุณพี่ ไตร่ตรอง อย่าหมองนัก
รัตน์คิดหนัก อยู่แล้ว มิแคล้วฝืน
เหตุเพราะกลอน หลอนไว้ เป็นไฟฟืน
รัตน์สะอื้น เลยหนา พี่มาเปรย...

...ก็บอกแล้ว แนวเห็น เช่นข่าวแต่ง
เข้าจังหวะ ระแวง มิแกล้งเฉย
หากว่ามี หลักฐาน มาสานเลย
พี่เฉลย เดี๋ยวนี้ ยิ่งดีใจ...

...เรื่องประหนึ่ง รู้ดี พี่ใจหาย
ดวงใจรัตน์ แทบวาย บรรยายให้
โถพี่ช่วงฯ ใจเย็น โปรดเห็นไกล
รัตน์จบได้ เรื่องนิด เครดิตลบ...

...ก็ครานี้ พี่เน้น เป็นหลักฐาน
เล่าเหตุการณ์ คลายคลี่ ที่น่าจบ
มีพี่มา สาธยาย จริงคล้ายพบ
รัตน์ขอซบ กล่าวตอบ ด้วยชอบใจ...ค่ะ  emo_46

http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=24135.msg192401#msg192401

จากดวงใจ

รัตนาวดี
emo_116 emo_126

emo_50 จะลบเครดิต ณ บัดนี้จ้า  emo_15 อยากย้ำคำว่า.. ชอบใจคุณพี่ช่วงฯมากๆ เลยจ้า... emo_17 emo_126

http://www.youtube.com/watch?v=_OACMLCLMdY


หัวข้อ: Re: ใจกวี
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 07 พฤษภาคม 2013, 12:52:AM
ใจกวีชนอ่อนไหวในรู้สึก
ร่อนผลึกคิดตรองค่าฤดีสมัย
แล้วถักทอกรองกานท์หอมละไม
มาวางรายกำนัลพิภพบรรณ

ในอ่อนไหวใจกวีใช่อ่อนแอ
ธาตุทองแท้ทายท้ามิท้อหวั่น
ทูนคุณค่าสุนทรีย์แก้วศิลป์วรรณ
ใจดื้อรั้นด่ำดื่มเสกจารกรอง

ใจกวีนั้นเด็ดเดี่ยวในวิถี
ท่องเส้นทางสายกวีอำไพผ่อง
แม้กิ่วไส้ท้องหิวยังลำพอง
ร้อยกวีกานท์กู่ก้องให้โลกยิน

บนเส้นทางเปราะบางของคนกวี
มีเพียงใจภักดีแกร่งผาหิน
ผ่านทดท้อลำบากล้นชาชิน
ประจักษ์แท้กวีศิลป์แก้วใจชนฯ

สนอง เสาทอง
สุรินทร์
6 พฤษภาคม 56


*"คนกวี" และ "ใจกวี" อ่อนไหวได้...อย่าอ่อนแอ หวั่นไหว และท้อแท้ ไม่มีใครทำลายหรือขโมย “ใจกวี” และความเป็น "คนกวี" ไปจากเราได้


หัวข้อ: Re: ใจกวี
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 07 พฤษภาคม 2013, 03:35:PM

emo_79    emo_111    emo_111

เฝ้าพากเพียรเขียนกลอนในตอนดึก
นั่งตรองตรึกนึกภาพเพื่อฉาบให้
บทกวีมีมนต์จากคนไกล
สู่หทัยหน้ามนได้ยลยิน

ว่าคิดถึงห่วงใยด้วยใจภักดิ์
ไม่หยุดพักรักเจ้าเฝ้าถวิล
ฝากหัวใจสู่ดาวจากชาวดิน
อยากโบยบินมาหาแก้วตาจัง

เฝ้าพากเพียรเขียนกลอนในตอนเหงา
ยังไม่เข้าขั้นกวีดั่งที่หวัง
สื่อความหมายอ่อนด้อยไม่โด่งดัง
เกรงเจ้าชังคนเชยที่เอ่ยคำ

“ไพร พนาวัลย์”


หัวข้อ: Re: ใจกวี
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 07 พฤษภาคม 2013, 08:40:PM
emo_126 emo_126
เฝ้าพากเพียร เลียนแบบ แอบตอนดึก
นั่งตรองตรึก นึกภาพ ที่ฉาบขำ
บทกวี มีมนต์ จากคนดำ
อ่านแล้วจำ จดเอา เข้ายลยิน

ว่ารำพึง ห่วงใย ในความรัก
นั่งนอนพัก ปักจิต คิดถวิล
ฝากหัวใจ สู่ห้อง ปองชีวิน
อยากโบยบิน มาคู่ จู๋จี๋จัง

หมั่นฝึกเพียร เขียนกลอน ในตอนดึก
ยังไม่สม ใจนึก ฝึกแทบคลั่ง
สื่อความหมาย ผิดเพี้ยน เอียนน่าชัง
เกรงจนหลัง ไหล่หลุด สุดเยียวยา
พันทอง
emo_126 emo_126


หัวข้อ: Re: ใจกวี
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 12:50:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
 
เอ๊ะ งานเรา ทำไม เขาไม่ก๊อป
ฉันช๊อบชอบแต่ไยเขาไม่สน
เข้ามาอ่านก็มีไม่กี่คน
คงสุขล้นหากกลอน เราว่อนเว็บ..

ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ครับ อิ อิ
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: ใจกวี
เริ่มหัวข้อโดย: บอม ซอง ดุ๊ก ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 03:02:PM


(http://www.qzub.com/bar_131.gif) (http://www.qzub.com)


จีกะไว

กวีพูด พูดติดพ้อง
กวีร้อง คล้องติดหลัก
กวีเล่า เล่าเป็นวรรค
กวีทัก ทักแบบกลอน.. emo_13

กวีหรือ คือ กวี
กวีหรือ คือ อักษร 
กวีฝัง รากฝาก แม้นจากจร
กวีบท ยังสะท้อน ทุกตอนตน  emo_34

กวีรู้ ทางกวี...ชัด
กวีสัตย์ สาสน์,สื่อ ซื่อเหตุผล
กวีสาน กานท์สื่อ ซื้อใจคน
กวีชน กวีชาติ...ผู้อาจอง  emo_09


กวีรู้ ใจกวี...แล้ว
กวีแก้ว แจวถึงฝั่ง ดังประสงค์
กวีรักษ์ หลักครู ผู้ธำรง
กวีคง สืบศิลป์ คู่ถิ่นไทย  emo_43

กวีอยู่ เยี่ยงกวี....ดีแล้ว
กวีแน่ว แนวดำริ..มิหวั่นไหว 
กวีอยู่ เยี่ยงกวี...ผู้มีชัย
กวีสู้ ชูเชิดไว้...ใจกวี  emo_46
 

 emo_56จบแบบงงๆ


บอม ซอง ดุ๊ก



(http://www.qzub.com/bar_131.gif) (http://www.qzub.com)