พิมพ์หน้านี้ - หน้ากากดิน

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: attaset ที่ 27 เมษายน 2010, 04:44:PM



หัวข้อ: หน้ากากดิน
เริ่มหัวข้อโดย: attaset ที่ 27 เมษายน 2010, 04:44:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/happy_028.jpg)


เพียงเพื่อภาพฉายฉวยด้วยสีศิลป์
ขยำดิน มาบด กดรูปหน้า
แล้วแต่งเติมเส้นสายให้ลายตา
เพราะคิดว่ามันงามตามใจคน

หลงลองเล่นเป็นไปด้วยไม่คิด
เกิดหลงผิดติดใจคล้ายสับสน
ไม่อยากถอดออกมาจากหน้าตน
เลยทุรนกับซากหน้ากากดิน

ในสังคมคนนี้นั้นมีมาก
ใส่หน้ากากเอาไว้ไม่รู้สิ้น
ตั้งแต่เกิดจนตาวายชีวิน
ร่างฝังดินจะจากหน้ากากเอง

 emo_116 emo_95 emo_116

(........ขอโทษนะ........)
27453


หัวข้อ: Re: หน้ากากดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ..ทักษมน.. ที่ 27 เมษายน 2010, 10:44:PM
เพียงเพื่อภาพฉายฉวยด้วยสีศิลป์
ขยำดิน มาบด กดรูปหน้า
แล้วแต่งเติมเส้นสายให้ลายตา
เพราะคิดว่ามันงามตามใจคน

หลงลองเล่นเป็นไปด้วยไม่คิด
เกิดหลงผิดติดใจคล้ายสับสน
ไม่อยากถอดออกมาจากหน้าตน
เลยทุรนกับซากหน้ากากดิน

ในสังคมคนนี้นั้นมีมาก
ใส่หน้ากากเอาไว้ไม่รู้สิ้น
ตั้งแต่เกิดจนตาวายชีวิน
ร่างฝังดินจะจากหน้ากากเอง  (ท่าน อศ.)

                         emo_40   emo_06   emo_06   emo_06   emo_06   emo_06   emo_06   emo_40

.....ขอต่อแบบไม่สัมผัสอักษร แต่ สัมผัสใจ นะคะ.....

อ่านแล้วซึ้งดึงดันสำคัญผิด
ด้วยราคะจริต..ผิดวิสัย
เกิดมาเป็นมนุษย์สุดแต่ใจ
พาลพบใคร?ใส่หัวโขนหรือโดนอำ?

ไม่มีใครหลอกใคร? ได้ทั้งชาติ
ถ้าผิดพลาด มองเห็น ให้เป็นขำ
ข้างนอกใสข้างในเศร้า..เราก็ทำ
อย่าจองจำ..ความเจ็บ โปรดเก็บใจ

มิสามารถหยั่งไป..ข้างในสุด
ต้องเลือกหยุดพาที...จะดีไหม?
อย่าหักหาญห่อหุ้ม..เหมือนสุมไฟ
ทั้งเนื้อนอกเนื้อใน...ก็ใจคน

ชีวิตนี้...สั้นนัก รัก หา ยาก
ถ้า คิด มาก รู้ ไหม? ใครสับสน?
เห็นใครเค้า เคียงคู่ กลับดูตน
ยังวก-วน อนิจจา โอ้ว่ากรรม

ชีวิตเหมือน"บานเช้า"เรื่องราวพบ
พอสายบานบ่ายหลบ...จบเมื่อค่ำ
มันเวียนวน วัฏจักร เป็นหลักธรรม
ขอน้อมนำ "กำลังใจ" ส่งให้แทน

ถ้าแม้นมาดปรารถนาจะหาเพื่อน
ยอมคลาดเคลื่อนเหตุผลเรื่องค้นแผน
หวังกระเทาะเปลือกใจ..ข้างในแกน
จะขาดแคลนอารมณ์..ด้วยปมใจ

ขอโทษท่าน อศ.ด้วยครับ ถ้าแต่งนอกเรื่อง-นอกราว

.


หัวข้อ: Re: หน้ากากดิน
เริ่มหัวข้อโดย: GreenMonkey ที่ 27 เมษายน 2010, 11:02:PM
พื้นดินต่ำ ย้ำค่า หาได้น้อย
คนนับร้อย กลับปั้น และสรรค์แต่ง
ให้แพร้วเพริศ เลิศล้ำ เหมือนจำแลง
แล้วเสแสร้ง สร้างบท กำหนดตน

ภาพเบื้องหน้า เด่นดี มีคนรัก
หลังกลับชัก มีดเฉือน เหมือนหวังผล
ลิ้นพาเลว ลวงหลอก กลับกลอกจน
พาผู้คน เดือนร้อน นอนร้าวราน

ยามใดที่ หน้ากากดิน สิ้นราศี
เลวหรือดี ย่อมแสดง แจ้งจริงผ่าน
ดินเคยปั้น ปิดหน้า มาหมดงาน
เหลือประจาน ความจริง ให้ยิ่งอาย

.. GreenMonkey :: ลิงเขียว ..


หัวข้อ: Re: หน้ากากดิน
เริ่มหัวข้อโดย: attaset ที่ 27 เมษายน 2010, 11:54:PM
เพียงเพื่อภาพฉายฉวยด้วยสีศิลป์
ขยำดิน มาบด กดรูปหน้า
แล้วแต่งเติมเส้นสายให้ลายตา
เพราะคิดว่ามันงามตามใจคน

หลงลองเล่นเป็นไปด้วยไม่คิด
เกิดหลงผิดติดใจคล้ายสับสน
ไม่อยากถอดออกมาจากหน้าตน
เลยทุรนกับซากหน้ากากดิน

ในสังคมคนนี้นั้นมีมาก
ใส่หน้ากากเอาไว้ไม่รู้สิ้น
ตั้งแต่เกิดจนตาวายชีวิน
ร่างฝังดินจะจากหน้ากากเอง  (ท่าน อศ.)

                         emo_40   emo_06   emo_06   emo_06   emo_06   emo_06   emo_06   emo_40

.....ขอต่อแบบไม่สัมผัสอักษร แต่ สัมผัสใจ นะคะ.....

อ่านแล้วซึ้งดึงดันสำคัญผิด
ด้วยราคะจริต..ผิดวิสัย
เกิดมาเป็นมนุษย์สุดแต่ใจ
พาลพบใคร?ใส่หัวโขนหรือโดนอำ?

ไม่มีใครหลอกใคร? ได้ทั้งชาติ
ถ้าผิดพลาด มองเห็น ให้เป็นขำ
ข้างนอกใสข้างในเศร้า..เราก็ทำ
อย่าจองจำ..ความเจ็บ โปรดเก็บใจ

มิสามารถหยั่งไป..ข้างในสุด
ต้องเลือกหยุดพาที...จะดีไหม?
อย่าหักหาญห่อหุ้ม..เหมือนสุมไฟ
ทั้งเนื้อนอกเนื้อใน...ก็ใจคน

ชีวิตนี้...สั้นนัก รัก หา ยาก
ถ้า คิด มาก รู้ ไหม? ใครสับสน?
เห็นใครเค้า เคียงคู่ กลับดูตน
ยังวก-วน อนิจจา โอ้ว่ากรรม

ชีวิตเหมือน"บานเช้า"เรื่องราวพบ
พอสายบานบ่ายหลบ...จบเมื่อค่ำ
มันเวียนวน วัฏจักร เป็นหลักธรรม
ขอน้อมนำ "กำลังใจ" ส่งให้แทน

ถ้าแม้นมาดปรารถนาจะหาเพื่อน
ยอมคลาดเคลื่อนเหตุผลเรื่องค้นแผน
หวังกระเทาะเปลือกใจ..ข้างในแกน
จะขาดแคลนอารมณ์..ด้วยปมใจ


ทักษมน


เมื่อนิวรณ์ทั้งห้าเข้ามาขวาง
ปิดหนทางให้จิตคิดครวญใคร่
ทำให้ยุ่งฟุ้งซ่านรำคาญใจ
แถมลังเลสงสัยในใจคน

ถีนะมีทธะยังเข้าสิง
เห็นทุกสิ่งขัดเคืองเรื่องเหตุผล
เลยยินดีพอใจภายในตน
โดยไม่สนสิ่งใดภายนอกตัว

แค่ปิดตาปิดหูดูไม่เห็น
แล้วร่วมเล่นเป็นส่วนเรื่องชวนหัว
ไม่ต้องขัดข้องใครให้ใจมัว
ถนอมตัวแค่นิดไม่ผิดใจ

เพราะโลกนั้นมันเป็นเช่นละคร
เดินตามบทตามตอนที่แต่งไว้
งั้นขอสวมร่วมเล่นจะเป็นไร
ก็แค่ตายตามกฎบทละคร

attaset


                                                                นิวรณ์5คือสิ่งขวางกั้นสมาธิ
                                                    1.กามฉันทะคือความยินดีพอใจในรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัส
                                                    2.พยาบาทะคือความโกรธ ความขัดเคืองใจ
                                                    3.ถีนมีทธะคือหดหู่ท้อถอยง่วงเหงาหาวนอน
                                                    4.อุทธัจจกุกกุจะคือความฟุ้งซ่านรำคาญใจ
                                                    5.วิจิกิจฉาคือความลังเลสงสัย


หัวข้อ: Re: หน้ากากดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ..ทักษมน.. ที่ 28 เมษายน 2010, 01:38:AM
"กามฉันทะ"ในมนุษย์..สุดบังคับ
มันเร้นลับ ส่งผล กับคนสอน
นิวรณ์ห้า ท้าทาย มลายกลอน
จะอ้อนวอน เสียดาย เหมือนสายไป

จะ"วิจิกิจฉา"...หาพระแสง
จำแอบแฝง..สักหน ก็หม่นไหม้
ใครไม่รู้เรื่องราว...เหมือนหนาวใจ
เจ็บที่ใคร?..ก็เป็นรอง เราสองคน




หัวข้อ: Re: หน้ากากดิน
เริ่มหัวข้อโดย: attaset ที่ 28 เมษายน 2010, 07:38:AM
พรหมวิหารของฉันนั้นมันน้อย
อุเบกขามันห้อยคอยจะหล่น
มุทิตาหายากลำบากตน
มันปะปนคละเคล้ากันเข้าไป

เหตุยึดมั่นถือมั่นในการนี้
จากฤษีหนีภูเขาไม่เอาไหน
อยากจะเหาะเหินฟ้านภาลัย
ก็ไม่ไปเพราะใจไม่ได้ญาณ

แต่ที่ได้มาบานยานต่องแต่ง
ไม่ต้องแย่งต้องยื้อคือหลักฐาน
ที่ผิวหนังเหี่ยวห่อพอประมาณ
โลกเมตตาเจือจานแจกทุกคน

กรุณาเข้าใจ....ในวันนี้
วันหน้ามีเกิดได้อีกหลายหน
ขอขมาลาโทษ.โปรดอดทน
ปุถุชนคนนี้........ยังมีกรรม




                           พรหมวิหาร 4 เป็นหลักธรรมประจำใจเพื่อให้ตนดำรงชีวิตได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์
                                         1.เมตตา   ความปรารถนาอยากให้ผู้อื่นมีความสุข
                                         2.กรุณา    ความปรารถนาอยากให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
                                         3.มุทิตา    ความยินดีที่ผู้อื่นมีความสุข
                                         4.อุเบกขา  การปล่อยวางจิตใจ


หัวข้อ: Re: หน้ากากดิน
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 28 เมษายน 2010, 11:00:AM
เก็บหน้ากากร้าวแยกที่แตกหล่น
คนหนอคนชอบคลายก็หายหน้า
ปั้นประดิษฐ์คิดแต่งแปลงราคา
ล่วงเวลาค่าลดหมดจากใจ

เคยเป็นดินอย่างเห็นก็เป็นอยู่
คนสิจู่มองเห็นเป็นสิ่งใหม่
ลวงตาตนจนเผลอเพ้อตามไป
เห็นความจริงกลับโกรธใหญ่...ใครหลอกลวง!!!


หัวข้อ: Re: หน้ากากดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ..ทักษมน.. ที่ 28 เมษายน 2010, 11:15:AM
พรหมวิหารไม่ดีมันมีน้อย
อุเบกขามันห้อยคอยจะหล่น
มุทิตาหายากลำบากตน
มันปะปนคละเคล้ากันเข้าไป

เหตุยึดมั่นถือมั่นในการนี้
จากฤษีหนีเขาไม่เอาไหน
อยากจะเหาะเหินฟ้านภาลัย
ก็ไม่ไปเพราะใจไม่ได้ญาณ

แต่ที่ได้มาบานยานต่องแต่ง
ไม่ต้องแย่งต้องยื้อคือหลักฐาน
ที่ผิวหนังเหี่ยวห่อพอประมาณ
โลกเมตตาเจือจานแจกทุกคน

กรุณาเข้าใจ....ในวันนี้
วันหน้ามีเกิดได้อีกหลายหน
ขอขมาลาโทษ.โปรดอดทน
ปุถุชนคนนี้........ยังมีกรรม (นายช่าง อศ.)

   
                             emo_40   emo_40   emo_40   emo_40   emo_40

ชีวิตหนึ่งผ่านหนาวร้อน...ถึงตอนนี้
ถ้าหากมี  "ทิฐิ" ดูสิขำ
ได้ท่องแดนยุทธจักร..ก็.."รักจำ"
แม้หนึ่งคำ...เปลี่ยนได้ ไม่สายเกิน

"สิ่งที่เห็นไม่เป็นอย่างที่คิด"
อย่ารอนฤทธิ์หรือเร่งเร้า..ให้เราเขิน
เลือก"สายกลาง"พุทธองค์ วงให้เดิน
ยามเพลิดเพลิน นอกทาง ก็ย่างคืน




หัวข้อ: Re: หน้ากากดิน
เริ่มหัวข้อโดย: attaset ที่ 30 เมษายน 2010, 02:07:PM
เก็บหน้ากากร้าวแยกที่แตกหล่น
คนหนอคนชอบคลายก็หายหน้า
ปั้นประดิษฐ์คิดแต่งแปลงราคา
ล่วงเวลาค่าลดหมดจากใจ

เคยเป็นดินอย่างเห็นก็เป็นอยู่
คนสิจู่มองเห็นเป็นสิ่งใหม่
ลวงตาตนจนเผลอเพ้อตามไป
เห็นความจริงกลับโกรธใหญ่...ใครหลอกลวง!!!


คนที่ปั้นหน้ากากไม่อยากหลอก
คนที่ดูไม่ออกอยู่นอกบ่วง
คนที่แต้มสีใส่ก็ใช่ลวง
คนน่าห่วงนั้นใซร้...คนใส่เอง


หัวข้อ: Re: หน้ากากดิน
เริ่มหัวข้อโดย: attaset ที่ 05 พฤษภาคม 2010, 09:53:PM
พรหมวิหารไม่ดีมันมีน้อย
อุเบกขามันห้อยคอยจะหล่น
มุทิตาหายากลำบากตน
มันปะปนคละเคล้ากันเข้าไป

เหตุยึดมั่นถือมั่นในการนี้
จากฤษีหนีเขาไม่เอาไหน
อยากจะเหาะเหินฟ้านภาลัย
ก็ไม่ไปเพราะใจไม่ได้ญาณ

แต่ที่ได้มาบานยานต่องแต่ง
ไม่ต้องแย่งต้องยื้อคือหลักฐาน
ที่ผิวหนังเหี่ยวห่อพอประมาณ
โลกเมตตาเจือจานแจกทุกคน

กรุณาเข้าใจ....ในวันนี้
วันหน้ามีเกิดได้อีกหลายหน
ขอขมาลาโทษ.โปรดอดทน
ปุถุชนคนนี้........ยังมีกรรม (นายช่าง อศ.)

   
                             emo_40   emo_40   emo_40   emo_40   emo_40

ชีวิตหนึ่งผ่านหนาวร้อน...ถึงตอนนี้
ถ้าหากมี  "ทิฐิ" ดูสิขำ
ได้ท่องแดนยุทธจักร..ก็.."รักจำ"
แม้หนึ่งคำ...เปลี่ยนได้ ไม่สายเกิน

"สิ่งที่เห็นไม่เป็นอย่างที่คิด"
อย่ารอนฤทธิ์หรือเร่งเร้า..ให้เราเขิน
เลือก"สายกลาง"พุทธองค์ วงให้เดิน
ยามเพลิดเพลิน นอกทาง ก็ย่างคืน


สิ่งที่เห็นไม่เป็นอย่างที่คิด
ถูกหรือผิดติดที่ใจใช่ใครอื่น
ทางสายกลางวงไว้ไยกล้ำกลืน
ทางไม่ลื่นเลี้ยวลดหรือคดคน

กรรมบังเบียดเสียดสีอยู่ที่ไหน
ปากอภัยใจอาฆาตอาจสับสน
เพียงไม่คิดผิดของใครใส่ใจตน
อาจหลุดพ้นกับซากหน้ากากดิน