หัวข้อ: วาเลนไทน์ เริ่มหัวข้อโดย: Jantatep ที่ 07 กรกฎาคม 2007, 07:09:PM บางคนอาจเคยอ่านแล้ว แต่เราชอบเรื่องนี้มาก ๆ
เลยเอามาให้อ่านกัน emo_48 เรื่อง : วาเลนไทน์ > >แต่ง : [email protected] > >?แนนๆ ใกล้วาเลนไทน์แล้วนะ....? จอย เพื่อนร่วมงานของแนนหันมาคุย >ขณะแนนกำลังง่วนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะตัวเอง > >?อืม...วาเลนไทน์อีกแล้วสินะ? แนนเงยหน้าขึ้นสบตาจอยพลางยิ้มพูดเบาๆ > >วาเลนไทน์...14 กุมภาพันธ์ วันที่กุหลาบทั่วโลกบานพร้อมกัน >วันที่ความรักงอกงามได้เร็วกว่าทุกวัน และเป็นวันที่กามเทพแผงศร >ให้หลายๆคู่ได้สมหวัง แต่คงไม่ใช่แนน...เธอคนนี้แน่นอน > >(แนนคิดย้อนอดีตไปตอนเด็ก) > >ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย >ความแออัดและตึกสูงในเมืองหลวง...มีหมู่บ้านจัดสรรเล็กๆกำลังก่อตัวขึ้น >ก่อตัวขึ้นพร้อมกับความรัก ความรักของเขาและเธอ > >?เธอๆ มาเล่นก่อกองทรายด้วยกันมั้ย? >เด็กผู้ชายตัวเล็กๆหน้าตามอมแมมกำลังนั่งเล่นบนกองทรายสูงท่วมหัว > >?เธอชื่ออะไร เราชื่อเอ? เด็กผู้ชายแนะนำตัวเองก่อน >พลางกระโดดลงมาจากกองทราย > >?ฉันชื่อแนน? เด็กผู้หญิงแนะนำตัวเองบ้างพลางค่อยๆนั่งลง >ทั้งคู่ค่อยๆก่อกองทราย เด็กผู้หญิงวิ่งไปเอาน้ำมารดให้ทรายเปียกชุ่ม >เด็กผู้ชายค่อยๆเอาเศษไม้เกลี่ยให้ดินทรายที่เปียกค่อยๆก่อตัวเป็นรูปเป็น ร่าง >จนได้เค้าโครงของปราสาททรายที่ต้องการ > >?เอ เดี๋ยวแนนประดับปราสาททรายเองนะ? >เด็กผู้หญิงวิ่งมาพร้อมกับก้อนหินสีสวยในกำมือ >วางลงข้างๆปราสาททรายที่กำลังจะอวดโฉมออกมาเป็นรูปเป็นร่าง > >?แนนๆ ตรงนี้เป็นห้องของแนนนะ ห้องของเจ้าหญิงงัย >ส่วนตรงนี้เป็นห้องของเอ......อันนี้เป็นห้องประชุมนะ? >เอพูดพลางชี้ไปเรื่อยๆบนปราสาททราย.....กองทรายแห่งความฝัน > >?เอๆ ต้องทำสวนดอกไม้ตรงนี้ด้วย เจ้าหญิงต้องมีสวนดอกไม้นะ? >แนนพูดแย้งขึ้นพลางชี้ไปตรงด้านหน้าปราสาททราย > >?แนนอยากได้สวนอะไร....อยากได้ดอกไม้อะไร? เอพูด >เงยหน้าขึ้นมองหน้าแนนอย่างใจจดใจจ่อ > >?เอาดอกอะไรดี...เอ ช่วยแนนคิดหน่อยสิ? แนนมองหน้าเอด้วยแววตาใสซื่อ >เด็กตัวเล็กๆสองคนกำลังสวมบทเจ้าหญิงและเจ้าชายกันอยู่ > >?อืม...เจ้าหญิงต้องเหมาะกับดอกกุหลาบนะ? เอพูดพลางทำท่าคิด > >?ตกลงๆ สวนดอกกุหลาบนะ เราจะทำสวนดอกกุหลาบที่ลานหน้าปราสาทของเรา? >แนนพูดพลางยิ้ม >ค่อยๆเกลี่ยทรายให้เรียบเพื่อทำเป็นลาน....ทั้งคู่สร้างปราสาททรายแห่งความฝัน ของพวกเขาอยู่นาน....นานจนกระทั่ง > >?เอ ไปได้แล้ว พ่อเสร็จงานแล้วลูก? >เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรเดินมาสะกิดลูกชายตัวเองเบาๆ > >?พ่อๆ ให้เอเล่นกันแนนอีกแป๊บนะ? ลูกชายออดอ้อนพ่อของตัวเอง > >?หน่า ไปได้แล้ว เดี๋ยววันหลังมาเล่นใหม่ก็ได้นี่? พ่อของเขานั่งยองลง >อธิบายให้ลูกชายฟังพลางลูบหัวเบาๆ > >?ตกลงครับ เดี๋ยวให้เอบอกแนนก่อนนะ? >เด็กผู้ชายตัวมอมแมมพูดพลางวิ่งกลับหลังไปหาเพื่อนของเขา > >?แนน เดี๋ยวพรุ่งนี้เอมาหานะ พรุ่งนี้เอจะเอาดอกกุหลาบมา >มาทำสวนกุหลาบให้แนนนะ? เอพูดพลางชี้นิ้วลงตรงลานหน้าปราสาททราย > >?ตกลงๆ พรุ่งนี้เจอกันนะ? แนนยิ้มพูดพลางพยักหน้า >เด็กสองคนเล่นกันช่างดูน่ารักเสียนี่กระไร > >ทุกวัน เอและแนนจะมานั่งก่อปราสาททรายด้วยกัน >ก่อสร้างความหวังบนมิตรภาพและความรัก >ระหว่างลูกชายเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรและลูกสาวนายช่างใหญ่ > > > >?แนนๆ เมื่อวานแม่เราสอนให้เราเขียนหนังสือด้วยแหละ? >เด็กผู้ชายเสื้อผ้ามอมแมมคลุกฝุ่นและทรายเปียกเงยหน้าขึ้นมองเด็กผู้หญิงตัว เล็กๆที่ > >วิ่งเข้ามา > >?ไหนๆ แม่ของเอสอนเขียนคำว่าอะไร? แนนถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น > >?แม่เอสอนเขียนหลายคำ แต่เอจำได้คำเดียว? เอพูดพลางทำเสียงเศร้าๆ >เอคงอยากจำทุกคำมาเขียนให้แนนดู > >?เอจำคำไหนได้ เขียนให้แนนดูหน่อยสิ? แนนพูด เอค่อยๆก้มลงข้างๆกองทราย >หยิบเศษไม้เล็กๆปักลงบนผืนทรายที่เพิ่งผ่านฝนเมื่อคืนแล้วตวัดเป็นจังหวะเพียง ชั่วคร > >ู่ ปรากฎเป็นตัวอักขระลายเส้นบิดพลิ้ว คำว่า รัก >ปรากฎบนผืนทรายราบเรียบที่เกาะตัวเหนียวด้วยหยดน้ำ >เด็กตัวเล็กๆสองคนยืนมองด้วยความตื่นเต้น > >?อ่านว่าอะไร เอ? แนนพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นและแปลกใจ > >?อ่านว่า รัก? เอพูดกระซิบข้างหูแนนเบาๆ > >?เหรอ อ่านว่ารักเหรอ....สอนแนนเขียนหน่อยสิ นะๆๆๆ? >แนนพูดพลางเกาะแขนออดอ้อนเอ > >?มานี่ๆ เอจะสอน? เอพูดพลางหยิบเศษไม้เล็กๆให้แนนจับไว้ >มือเอและมือแนนจับประสานกัน ตวัดบนกองทรายให้เกิดเป็นอักขระบิดพริ้ว > >?นี่ไง แนนเขียนได้แล้ว ดีใจจังเลย? >แนนพูดพลางหันหลังกลับไปกอดเอด้วยความดีใจ > >?มันแปลว่าอะไรเหรอ เอ? แนนยังคงสงสัยไม่หายในความหมายของมัน > >?เอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แม่บอกว่ามันมีความหมายมากนะ >มากจนอธิบายไม่ได้? >ใช่สิ...ความหมายมันคงมากมายเกินกว่าเด็กห้าขวบจะรู้ >หรือแม้แต่คนบางคนใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ไม่อาจรู้ว่าคำว่ารักคืออะไร.... > >?สักวัน เราจะรู้ความหมายมัน แม่เอบอก? เอพูดพลางหันไปมองแนน >เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยืนข้างๆตน > >?อืม สักวันนะ? แนนพูดพลางหันมายิ้มให้กับเอ ใช่ >สักวันแนนและเอคงรู้ความหมายของมัน...... > > > >?โอ๊ย...เจ็บ? >เด็กผู้หญิงผมเปียพูดขึ้นพลางจับผมเปียของตัวเองด้วยสีหน้าเซ็งๆ >เธอโดนเพื่อนแกล้งดึงเปียผมของเธอประจำ > >?ใครดึงผมเปียแนน? >เด็กผู้ชายนั่งข้างๆเธอหันขวับกลับไปมองแทบจะพร้อมกันกับเจ้าของผมเปีย >เห็นเด็กผู้ชายวัยเดียวกันสามคนนั่งอยู่ข้างหลังหัวเราะกันคิกคักพลางชี้นิ้วมา ที่แน > >น > >?ทำไมๆ ข้าดึงเอง จะทำไม? หนึ่งในเด็กสามคนพูดพลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง > >?แกล้งผู้หญิง หน้าตัวเมีย? เอยืนขึ้นชี้หน้าด่า > >?แล้วจะทำไม? เด็กทั้งสามกรูกันมายืนหน้าเอ >ถีบโต๊ะเรียนกระจัดกระจายคนละทิศคนละทาง > >?ไม่เอาเอ อย่าไปยุ่งกับพวกนั้น? แนนพูดพลางเกาะแขนเอไว้แน่น >เอเอามือจับแขนแนนออกจากตัวทันที... > >ปั้ง...หนึ่งหมัดปล่อยออกไป คล้ายเป็นการประกาศสงครามของคนสองกลุ่ม >ทั้งสามคนกรูเข้ามารุมเอคล้ายหมาป่ากำลังรุมขยุ้มเหยื่อ >โต๊ะเรียนที่กระจัดกระจาย >ข้าวของทั้งของเอและแนนตกกระจายเกลื่อนกลาดคนละทิศคนละทาง > >?หยุด!!? >เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง...มีอำนาจมากพอจะทำให้ทั้งสี่คนหยุดการตะลุมบอน กัน > >?พวกเธอทำอะไรกัน อันธพาลกันใหญ่แล้วนะ? >ครูประจำชั้นเข้ามาห้ามทัพหมาป่าขยุ้มเหยื่อ แม้จะห้ามทัพได้ >แต่ก็ได้ปรากฎเลือดไหลซิบๆที่คิ้วและโหนกแก้มของเอ > >?เอ เจ็บมั้ย? แนนวิ่งเข้ามาทันทีที่ครูประจำชั้นเดินออกไป > >?ไม่เจ็บหรอก? เอพูดพลางก้มหน้าหลบสายตาแนน > >?ไม่เจ็บอะไร เลือดไหลใหญ่แล้ว ไปห้องพยาบาลนะ แนนจะทำแผลให้? >แนนพูดพลางดึงตัวเอออกจากห้องเรียนไป >เลือดไหลเป็นทางลงมาจากคิ้วและโหนกแก้มเปรอะเปื้อนเสื้อนักเรียนสีขาวของเอ > >?โอ๊ย...เจ็บ อย่าจับสิ? >เอพูดโพล่งขึ้นขณะที่แนนกำลังกดดูความลึกของบาดแผล...แต่แนนกลับยิ้มออก > >?โอ๊ย แสบ? >เอโอดครวญด้วยความเจ็บปวดทันทีเมื่อแนนค่อยๆกดสำลีชุบแอลกอฮอลงบนแผลของเอ > >?แสบก็ทนสิ อยากหาเรื่องเค้านี่นา? แนนพูดพลางยิ้ม >ค่อยๆเช็ดแผลบนใบหน้าของเอช้าๆอย่างระมัดระวัง > >ทุกครั้งที่มีคนแกล้งแนน เอจะยืดอกปกป้องแนนเสมอ >แม้จะต้องเจ็บตัวหรือตกอยู่ในภาวะเป็นรองก็ตามที.... > > > >?แนนๆ แฮปวาเลนไทน์นะ? >ชายหนุ่มวัยรุ่นแต่งตัวภูมิฐานพูดห้วนๆพลางยืนกุหลาบแดงให้กับมือหญิงสาว > >?อีตาบ๊อง อย่ามาทำหวานใส่ฉันหน่า? แนนพูดกวนๆพลางยิ้ม >เอได้แต่ยืนม้วนด้วยความอาย > >?อ้าว ก็วันนี้วันวาเลนไทน์ >ทำหวานให้เจ้าหญิงของตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป? เอพูดพลางยิ้ม >ทำไมหนุ่มวัยรุ่นเวลาอายนี่ดูตลกดีแท้ ทั้งมือทั้งแขนแทบจะไม่มีที่เก็บ >สงสัยถ้าแทรกแผ่นดินหนีได้คงหนีหายไปแล้ว > >?หวานกับเค้าก็เป็นเหรอ เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นนะ? >แนนพูดพลางยื่นมือไปหยิกจมูกเอด้วยความเขิน >เอยังคงพยายามสำรวมอาการเขินอยู่ > >?เอรักแนนนะ? เอพูดพลางจับมือแนนขึ้นมาเขียนรูปหัวใจไว้ที่ฝ่ามือ >ตอนนี้แนนเริ่มหน้าแดงขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังพยายามกลบเกลื่อนสีหน้าตัวเอง > >?เหรอ....เขียนคำว่ารักตรงนี้ ดูไม่ซึ้งเลย? แนนพยายามบ่ายเบี่ยง >ไม่เลิกแหย่เอ > >?เดี๋ยวสักวัน เอจะเขียนไว้ตรงหัวใจแนนเลยนะ? เอพูดประหม่า >มองหน้าแนนพลางเอื้อมมือดึงตัวแนนเข้ามาโอบกอดไว้แน่น....สักวัน >เอจะเขียนคำว่ารักไว้ในหัวใจแนนเลย..... > > > >ใต้ต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น มีโต๊ะหินอ่อนวางเรียงรายเป็นแนว >มีนักศึกษาจับกลุ่ม บ้างคุยกัน บ้างอ่านหนังสือ >บ้างหยอกล้อกินขนมกัน... > >?เอ เย็นนี้แนนไปทำวิทยานิพนธ์กับเพื่อนนะ? แนนพูดพลางเก็บหนังสือ > >?ไปทำวิทยานิพนธ์กับใคร? เอเงยหน้าขึ้นมองแนนทันที > >?ไปกับกิ๊ฟกับฝนหนะ นะๆๆๆ? แนนพูดพลางเดินไปนั่งข้างๆเอ >เขย่าแขนเหมือนเด็กอ้อนวอนผู้ใหญ่ > >?ให้เอไปส่งมั้ย เอว่างนะ? เอพูดพลางยิ้ม ลูบผมแนนเบาๆ > >?ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฝนเอารถมา? แนนพูดพลางซบหน้าลงบนบ่าของเอ > >?นี่ แล้วกินข้าวเสร็จแล้วอย่าลืมกินยาล่ะ เข้าใจมั้ย >กลับถึงบ้านก็อย่าลืมโทรมาบอกด้วย? >เอพูดพลางจ้องหน้าแนนด้วยสีหน้าจริงจัง > >?ค่ะ หัวหน้า สั่งจริงๆเลย? แนนพูดพลางยิ้ม >เอามือหยิกจมูกเอด้วยความเขิน > > > >?กิ๊ฟๆ แฟนแกเป็นงัยบ้าง? ฝนเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในรถ >ขณะที่ตนอยู่หลังพวงมาลัย > >?ปวดหัวสุดๆ เจ้าชู้เป็นบ้าเลย? >กิ๊ฟพูดปัดๆคล้ายกับไม่ค่อยพอใจในแฟนตัวเองนัก > >?ทำไมไม่เลิกๆไปสิ จะได้ไม่กลุ้ม? ฝนเสนอความเห็น >มองหน้ากิ๊ฟผ่านกระจกมองหลัง > >?หน่า....ให้โอกาสสักครั้ง? >กิ๊ฟพูดพลางซบหน้าลงที่กระจกหันหน้ามองออกนอกรถด้วยอาการเอือมระอา > >?โอกาสสักครั้ง รอบที่ล้าน? เสียงหัวเราะดังขึ้นเกือบพร้อมกันทั้งรถ > >?แล้วแนนล่ะ แหม...เจ้าชายเธอเอาใจเธอดีนะ? >ฝนพูดขึ้นพลางหันไปมองแนนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ > >?โอ๊ย รายนั้นไม่รู้กี่ปีแล้ว >ยังจับไม่ได้สักทีว่ามีกิ๊กเก็บไว้ที่ไหน? >แนนพูดยิ้มพลางหันไปมองหน้าฝน > >?แปลได้สองอย่าง...ถ้าแฟนเธอไม่รักเธอคนเดียว >เค้าก็เก่งมากที่หลอกเธอมานานหลายปี? >เสียงหัวเราะดังขึ้นแทบจะพร้อมกันทั่วรถ > >?เอี๊ยยดดด.....? เสียงเบรกลากล้อดังยาวจากด้านข้างตัวรถ >คนทั้งรถหันไปมองแทบจะพร้อมกัน >รถบรรทุกฝ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนรถเก๋งของฝนอย่างจัง >แรงอัดทำให้กระจกทุกบานแตกละเอียด >ห้องโดยสารด้านหน้าฝั่งคนนั่งยุบเข้ามาอย่างเห็นได้ชัด....ร่างไร้สติของแนนยัง คงสงบนิ่งติดอยู่ในรถเก๋งขนาดสองตอน >มัจจุราชอาจฉุดวิญญาณเธอออกจากร่างได้ทุกเมื่อ > > > >?แนนๆ? เสียงกระซิบเบาๆดังข้างหู ทำให้แนนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา > >?อยู่ไหน....โอ๊ย เจ็บ? แนนค่อยๆอ้าปากพูด แต่ไม่ชัดนัก >เฝือกขาวถูกแต่งแต้มถามร่างกายของแนนคล้ายกับเป็นเครื่องประดับ > >?ใจเย็นๆ แนน เธอสลบไปสองเดือน? .....สองเดือน สองเดือน >แนนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง. >...ฝนค่อยๆอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แนนฟัง..... > >?แล้ว สรุปว่าฉันเจ็บคนเดียวใช่มั้ย? แนนพยายามพูด >เสียงพูดของแนนแทบจะไม่ได้ยิน > >?อืม...? ฝนพยักหน้าเบาๆ กำมือแนนไว้นิ่งๆ > >?เอ ล่ะ เออยู่ไหน? แนนเพิ่งนึกขึ้นได้ แฟนเธออยู่ไหน > >?เอมาหาเธอครั้งเดียว วันแรกที่ชน แล้วหายไปเลย? >ฝนพูดพลางลูบหัวแนนเบาๆ > >?ไม่เป็นไรนะ ไม่มีเอ เราก็อยู่กันได้ จริงมั้ยเพื่อน? >ฝนพยายามพูดปลอบใจแนน > >?อืม...? น้ำตาค่อยๆกลั่นตัวหยดลงมาจากนัยน์ตาของแนน >คำพูดของฝนตอนคุยกันในรถคงจะเป็นความจริง....เขาเก่งมากจริงๆ >เก่งมากที่หลอกแนนมาหลายปี >เก่งมากที่หลอกว่ามีแนนคนเดียว.....ทำไมผู้ชายทั้งโลกถึงนิสัยเหมือนกันหมด เลย >เสียดายเวลาที่อยู่ด้วยกัน เสียดายความรักที่มอบให้.....เสียดาย >เสียดาย เสียดาย > > > >?คุณแนน ค่อยๆก้าวนะครับ ช้าๆ? บุรุษพยาบาลพยายามพยุงแนนขึ้นเดิน >แนนยังคงไม่หายเจ็บดี ยังคงต้องทำการกายภาพบำบัดอีก > >?ระวังล้มนะครับ จับผมไว้ดีๆ? >บุรุษพยาบาลเดินช้าๆเพื่อให้แนนเกาะแขนเดินตามช้าๆ.....ทำไมบุรุษพยาบาลถึงไม่ ใช่เอนะ....ทำไม >ทำไม ทำไม > >?คุณบุรุษพยาบาลค่ะ นี่ฉันสลบไปนานถึงขั้นต้องกายภาพบำบัดกันเลยเหรอ? >แนนถามด้วยความสงสัย > >?โห คุณไม่ได้เดินสามเดือนนี่ มันนานนะครับ? >บุรุษพยาบาลตอบด้วยความสุภาพ > >?จะว่าอะไรมั้ยค่ะ ถ้าจะถามชื่อเล่น คือถ้าเรียกว่าคุณบุรุษพยาบาล >เกรงว่ามันจะยาวไป? แนนพูดพลางยิ้ม > >?ผมชื่อ กอล์ฟ ครับ? บุรุษพยาบาลตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงเรียบๆ > >นับจากวันนั้น แนนและกอล์ฟเริ่มสนิทกัน >ทุกเย็นกอล์ฟจะพาแนนออกไปทำกายภาพบำบัด >ไม่นานแนนก็สามารถเดินเองได้และออกจากโรงพยาบาลในที่สุด.... > > > >?คุณแนนค่ะ น้ำดื่มค่ะ? พยาบาลชุดขาวเดินถือแก้วน้ำมาวางข้างๆเธอ >ขณะเธอนั่งรอกอล์ฟที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล >เธอได้แต่พยักหน้าและยิ้มให้ด้วยไมตรี > >?กอล์ฟๆ ไปกินข้าวกัน? แนนพูดทันทีที่เห็นกอล์ฟเดินออกมา >มีพยาบาลหลายคนยกมือไหว้แนน แนนก็ได้แต่รับไหว้ด้วยสีหน้างงเล็กน้อย > >?ไปสิครับ? กอล์ฟพูดพลางค้อมตัวลงผายมือไปที่ห้องอาหารของทางโรงพยาบาล >ดูกอล์ฟค่อนข้างสุภาพและให้เกียรติแนนมาก....มากจนน่าแปลกใจ >ท่าทางโรงพยาบาลนี้จะเข้มงวดเรื่องมารยาทกับพยาบาลมาก >แนนและกอล์ฟสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ....จนบางครั้งแนนก็อยากให้กอล์ฟมาแทนที่เอ > > > >บ่อยครั้งที่แนนคิดถึงเอ เอก็ไม่โทรมา > >บ่อยครั้งที่แนนอยากคุยกับเอ เอก็ไม่ติดต่อมา > >บ่อยครั้งที่แนนนั่งเหงา อยากให้เอนั่งเป็นเพื่อน แต่เอก็ไม่ปรากฎตัว > >เอ....เอ....เอ เอหายไปไหน > >ไหนล่ะ หัวใจที่เอบอกว่าจะให้แนน > >ไหนล่ะ หัวใจที่เอเคยเขียนไว้บนฝ่ามือแนน > >มันคงหายไปแล้ว....หายไปพร้อมกับเอ > >หายไปพร้อมกับผู้ชายโกหก....ผู้ชายเจ้าชู้ > >ทำไมผู้ชายเหมือนกันทั้งโลก.....ทำไม ทำไม ทำไม > > > >ใกล้วาเลนไทน์เข้าไปทุกที ปีนี้ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ >ไม่มีเอคอยให้ดอกกุหลาบแดง ไม่มีอีตาบ๊องทำท่าเขินอายให้ดู > >?แนนๆ วาเลนไทน์ปีนี้ ว่างหรือเปล่าครับ? เสียงกอล์ฟดังตามสายโทรศัพท์ > >?ว่างค่ะ ทำไมค่ะ? แนนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ > >?พอดีผมมีของจะให้แนนนะครับ >เดี๋ยววันวาเลนไทน์บ่ายสามโมงเจอกันที่สยามนะครับ? กอล์ฟเสนอความเห็น > >?ตกลงค่ะ? แนนพูดพลางกดวางสาย >สีหน้าแววตาเปี่ยมด้วยความหวัง....หวังว่ากอล์ฟคงจะมาแทนที่เอได้เสียที > > > >วันวาเลนไทน์ วันที่กุหลาบแดงบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วโลก >แม้ในลานที่สยามหรือที่วัยรุ่นเรียกกันสั้นๆว่า ?เซนเตอร์พอยต์? >ยังถูกละเลงด้วยดอกกุหลาบสีแดง...นักเรียน >นักศึกษาต่างถือกุหลาบแดงในมือเดินกันขวักไขว่ทั่วลาน > >?ขอโทษค่ะ มาสาย? แนนพูดพลางยิ้มก่อนดึงเก้าอี้ออกมานั่ง > >?ไม่เป็นอะไรครับ? กอล์ฟพูดพลางยิ้ม > >?อืม...ว่าแต่มีอะไรจะให้แนนเหรอ? >แนนพูดพลางจ้องตากอล์ฟ...หากกอล์ฟมีพิรุธ แนนจะจับได้ทันที > >?อันนี้ของแนนนะครับ? ดอกกุหลาบสีแดงถูกดึงออกมาจากถุงอย่างช้าๆ >วางลงบนโต๊ะอย่างนิ่มนวล > >?หมายความว่ายังไงค่ะ จะขอหัวใจแนนเหรอ? แนนพูดติดตลกพลางยิ้ม >เธอคิดว่าเธออ่านเกมส์ออกหมด > >?ผมคงไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอก? กอล์ฟพูดพลางยิ้ม แต่กลับทำให้แนนงง > >?อ้าว...แล้วกุหลาบสีแดงนี่...? ไม่ทันแนนจะพูดจบ >กอล์ฟต่อคำพูดของเขาทันที > >?ผมไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอกครับ เพราะหัวใจของแนนไม่ใช่ของแนน? >ปั้ง...เหมือนมีแผ่นเหล็กหนาหลายฟุตทุบลงกลางศีรษะ >แนนเริ่มงงกับความหมายขึ้นไปทุกที...มันแปลว่าอะไร??? > >?หัวใจของคุณ คือเจ้าของกุหลาบดอกนี้? >กอล์ฟพูดต่อ....แนนทำหน้างงๆไม่เข้าใจความหมายแม้แต่นิดเดียว > >?ตอนคุณประสบอุบัติเหตุเข้ามาที่โรงพยาบาล >คุณเสียเลือดมาก...หัวใจคุณเต้นอ่อนจนแทบจะล้มเหลว >พวกผมและหมอพยายามเยียวยาจนถึงที่สุด? >กอล์ฟเริ่มอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น.....เรื่องที่แนนไม่เคยรู้ > >?มีผู้ชายคนนึง วิ่งเข้ามาบอกว่าเป็นแฟนคุณ เขาบอกให้ช่วยคุณให้ได้ >เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า...เขายอมจ่ายไม่อั้น ไม่ว่าทางเราจะขออะไร >เขาจะจัดหาให้หมด.....คำพูดของเขาทำให้ผมประทับใจมาก? >กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่...แนนรู้ทันทีว่ากอล์ฟหมายถึงเอ > >?ผมยอมแลกทุกอย่างกับชีวิตเธอ - เขายอมแลกทุกอย่างกับชีวิตคุณ? >กอล์ฟพูดพลางจ้องหน้าแนนนิ่ง แต่แนนยังคงทำสีหน้างงอยู่ > >?เขายอมทุกอย่างจริงๆ ทีแรกหมอบอกว่าทางเราหาเลือดไม่พอให้คุณ >เขาวิ่งตามหาเลือดให้คุณไปทั่วทุกโรงพยาบาล >แต่กลับไม่พบว่ามีเลือดถุงไหนที่ตรงกับเลือดคุณ? >กอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงปกติ สายตามองไร้จุดหมาย > >?สุดท้ายเราตรวจเลือดของเขา พบว่าตรงกับของคุณพอดี >เขาบอกให้ทางเราเอาไป เอาไปให้คุณ....ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะเป็นอย่างไร >ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอ? >กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่พยายามกลั้นน้ำตา....แต่นัยน์ตาแนนเริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ใสๆ > >?ต่อมา...ตอนพวกผมถ่ายเลือดให้คุณ หัวใจคุณเต้นอ่อนลงเรื่อยๆ >จนหมอต้องเดินออกไปบอกให้เขาทำใจ.....ทำใจว่าเขาจะต้องเสียคุณ? >กอล์ฟพยายามเล่าต่อไปเรื่อยๆด้วยน้ำเสียงปกติ นัยน์ตาแนนเริ่มแดงก่ำ > >?เขาถามหมอว่า เธอต้องการอะไร.....? ใช่ เอถามหมอว่าแนนต้องการอะไร > >?เธอต้องการ หัวใจครับ หัวใจเธอเต้นไม่ปกติ การสูบฉีดล้มเหลว >เราหาเลือดให้เธอช้าไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่เธอต้องการคือ หัวใจ? >หมอหวังว่าเอคงจะเลิกหวังในตัวแนน...หยุดเล่นเกมกับมัจจุราชเสียที > >?ตกลง ผมหาให้ ? เขาตอบสั้นๆโดยไม่ลังเลเลย? >ตกลงผมหาให้....เอจะหาหัวใจให้แนน >ทั้งๆที่รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้...เขาไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อจะทำให้เธอ > >?คุณรู้มั้ย ว่าคำพูดของเขาทำให้ผมและหมออึ้งกันไปหมด >โรงพยาบาลยังหาหัวใจให้คุณไม่ได้ เขาจะมีปัญญาที่ไหนหาหัวใจให้คุณได้? >กอล์ฟพูดพลางพยายามหลบสายตาแนน....ตอนนี้กอล์ฟเริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว > >?เขาถามเลขบัญชีของโรงพยาบาลกับหมอ....เขาไม่ได้โอนเงินมาซื้อหัวใจเทียมให้ คุณ >แต่เขาโอนมาตั้งมูลนิธิการกุศลให้โรงพยาบาล >มูลนิธิช่วยเหลือผู้ป่วยด้านหัวใจเทียม ?นานา? คุณดูดีๆ คำว่า แนน และ >เอ ถ้าเขียนติดกัน มันคือ ?นานา? นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของเขา ? >เขาอยากให้ตัวเขาเองเป็นคนสุดท้ายที่ไม่ได้อยู่กับคนที่เขารัก...เพราะไม่มี หัวใจเทียมสำรอง? >เปี๊ยง....แนนโดนสะกิดต่อมความจำเข้าเต็มเปา...เธอเคยเห็นป้ายมูลนิธิขึ้นหรา ที่โรงพยาบาล >แต่เธอไม่เคยเฉลียวใจสักนิด...มิน่า >ทำไมหมอและพยาบาลต้องให้เกียรติและดูแลเธอดีเสียจนน่าแปลกใจ >ทั้งๆที่เธอไม่มีส่วนได้เสียกับโรงพยาบาลแม้แต่บาทเดียว > >?ทันทีที่มีการยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีทางโรงพยาบาล >เขาก็ยิงตัวตายในห้องน้ำโรงพยาบาลครับ ทิ้งโน้ตไว้ว่า มอบหัวใจให้เธอ - >เขามอบหัวใจของเขาให้คุณ? ทันทีที่กอล์ฟพูดจบ >แนนปล่อยโฮออกมาเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างๆ >โต๊ะรอบข้างหันมามองแนนเป็นตาเดียว....เอคือเจ้าของหัวใจ >หัวใจที่อยู่ในร่างของแนน > >?เขายอมแลกทุกอย่างกับคุณจริงๆ? >กอล์ฟพูดพลางวางของทั้งหมดที่เอเคยฝากไว้กับทางโรงพยาบาลคืนให้กับแนน >มีทั้งเครื่องเล่นเทป ม้วนเทป จดหมาย..... > >?ผมคงไม่กล้าขอหัวใจคุณหรอก หัวใจคุณเป็นของเขา หัวใจเขาเป็นของคุณ? >ใช่ หัวใจเอเป็นของแนน >เป็นของแนนจริงๆ...ตอนนี้หัวใจแนนตายไปเรียบร้อยแล้ว ตายไปพร้อมกับเอ >ตายไปพร้อมกับผู้ชายที่ยอมทุกอย่างเพื่อเธอ > >?กุหลาบดอกนี้ เขาบอกผมก่อนไปเข้าห้องน้ำว่า...วาเลนไทน์ที่จะถึง >รบกวนซื้อกุหลาบสีแดงให้คุณสักดอก >ขอแค่ดอกเดียวก็พอ...เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายของเขา? >กอล์ฟพูดพลางเช็ดน้ำตา >นั่งนิ่งๆสักพักก่อนลุกจากโต๊ะไป....ทิ้งแนนนั่งนิ่งอยู่เพียงลำพัง > >?เอรักแนนนะ? ?เอรักแนนนะ? ?เอรักแนนนะ? >คำพูดซ้ำๆดังมาจากเครื่องเล่นเทป >เป็นคำพูดเดียวกันที่พูดกันซ้ำโดยไม่มีการตัดต่อทั้งเทป.....เทป 120 >นาทีโดยมีเพลงประกอบเบาๆ >แนนค่อยๆคลี่จดหมายออกอ่าน....จดหมายที่มีเนื้อความเพียงบรรทัดเดียว > >?หัวใจเอ...เขียนคำว่ารักไว้ เขียนให้แนนคนเดียว? หัวข้อ: Re: วาเลนไทน์ เริ่มหัวข้อโดย: webmaster ที่ 15 กรกฎาคม 2007, 07:17:PM มันยาวมากเลยอ่ะ.... emo_03
ยังไม่ได้อ่านเลย emo_19 เดี๋ยวไป ปริ๊น ใส่ กระดาษเก็บไว้ในรถเวลาว่างๆรถติดหยิบมาอ่านดีกว่า emo_20 หัวข้อ: Re: วาเลนไทน์ เริ่มหัวข้อโดย: อิ๋ว ที่ 24 กรกฎาคม 2007, 11:02:AM emo_48 emo_48 emo_48 emo_48 emo_48 ไม่น่าเชื่อเลลยว่าจะมีผู้ชายอย่างนี้บนโลกใบนี้น่ะ เศร้ามากๆๆ
ความรักคือการเสียสละ |