พิมพ์หน้านี้ - เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนเหงา => ข้อความที่เริ่มโดย: วฤก ที่ 20 พฤศจิกายน 2009, 06:28:PM



หัวข้อ: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 20 พฤศจิกายน 2009, 06:28:PM
(http://drnui.com/poempix/seangsauen.jpg)

 emo_05


หัวข้อ: Re: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 20 พฤศจิกายน 2009, 07:06:PM


 emo_05

+ 1 ครับ
ชอบมากกกกกกกก 
แต่งกลอนในสนุกนะครับ   emo_12


หัวข้อ: Re: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: tanapok ที่ 20 พฤศจิกายน 2009, 08:10:PM
เสียงสะอื้น ขื่นขม เคล้าลมหนาว
ตัวข้าเศร้า หนาวใน ใจซิบเป๋ง
ด้วยว่าอยู่ คู่เงา เฝ้าเสียงเพลง
ตัวเราเอง ไร้คู่ อยู่เดียวดาย

ลมระริ่ว   พริ้วมา  พาหนาวยิ่ง
หัวใจนิ่ง  ไร้รอยยิ้ม พริ้มสดใส
นึกถึงคราว สาวอยู่ คู่เคียงใจ
เดี๋ยวนี้ไร้ เงาเจ้า  ที่เฝ้าคลอ

ความขื่นขม ที่จม ลมยังพัด
ทวีซัด  จัดซ้ำ  นำความท้อ
 อยู่โดดเดี่ยว เดียวดาย ไร้คนรอ
เจ็บและท้อ ก็จะขอ รอเจ้าคืน

น้ำตาใส  ไหลลง  อาบตรงแก้ม
สะอื้นแอ้ม  แถมเศร้า  เหงาหลายหมื่น
ยินเพลงรัก สักเพลง  บรรเลงขึ้น
ร้าวรานขื่น ขมสะอื้น  ฝื้นไม่เป็น

เสียงสะอื้น ขื่นขม  เคล้าลมหนาว
เพียงแสงดาว หนึ่งเดียว ที่เหลียวเห็น
เสียงหรีดร้อง เรไร   ไร้คู่เอน
ผู้เป็นเช่น ตัวข้า  ปวดปร่าใจ...



ไม่รู้ว่า  จะ ดี พอ ที่ จะ ต่อไหม นะ หะหะหะ


หัวข้อ: Re: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 07:24:PM
หนุ่มนะโม >>>
ขอบคุณมากครับสำหรับคะแนนที่ให้
และยินดีที่ได้รู้จักกัน

tanapok>>>

ถ้อยคำพลอดออดอ้อนเว้าวอนเจ้า
พี่ฝากเคล้าคลอสายพระพายขาน
กระซิบศัพท์สดับนั้นจงบันดาล
ให้กังวานแว่วในฤทัยเธอ ฯ

ขอบคุณมากครับที่นำกลอนมาร่วมกระทู้

เปลวฟ้า>>>
เพลงเศร้าเศร้าเคล้าลมระทมอก
เหมือนย้ำฟกฝากไว้ในรอยแผล
รอยช้ำช้ำคล้ำหมองครองดวงแด
เพราะจากแม่เหมือนเพลงบรรเลงความ ฯ

กลอนที่นำมาเหมือนยิ่งฟังเพลงเศร้า เลยนะครับ


 emo_45


หัวข้อ: Re: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 09:17:PM
ใครหนอนั่นกลั้นสะอื้นกลางคืนหนาว
แผ่ความร้าวคราวคลอนสู่กลอนขม
เสียงร่ำไห้ไหลห้อมล้อมระทม
ผ้าผวยห่มข่มห้ามยังลามร้าว

ฟังเสียงแว่วแผ่วผ่านสงสารยิ่ง
ลมหนอนิ่ง ความเจ็บยังเหน็บหนาว
เหมือนหมอกม่านพล่านหมองเป็นร่องยาว
ยากเกินก้าวข้ามพ้นหนอหม่นนี้

อนิจจาคราทุกข์ถึงยุคเข็ญ
เหมือนจันทร์เพ็ญเด่นฟ้าหลบหน้าหนี
สิ้นหรือไรใจรักคนภักดี
สะอื้นถี่กระชั้นเข้าเคล้าสายลม


ดาวระดา ขอคารวะบทกลอนพี่หมอครับ


หัวข้อ: Re: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: สิบคน ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 09:32:PM
เสียงสะอื้น ขื่นขม เคล้าลมหนาว
ระทมร้าว คราวถวิล สิ้นรักหวน
หทัยแผ่ว แว่วเสียง สำเนียงครวญ
รักเรรวน รวนเร ว้าเหว่กาย

น้ำเนตรนอง สองแก้ม  แต้มโลหิต
จองจำจิต พินิจแสร้ง แกล้งเลือนหาย
เพียงพายพัด กลัดหนอง หมองระคาย
พิษรักร้าย วายชีวิต ปลิดชีพลง

ปล.อย่าไปเกร็ง ห้าห้า

สิบคน






หัวข้อ: Re: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 11:28:PM
ถ้อยน้ำเสียง คำเรียงลักษณ์ วรรคอักษร
พร่ำขอพร วอนฟ้า ที่พร่าไหว
สะบัดพริ้ว ลิ่วลับ กลับดวงใจ
แต่ไฉน ไร้แว่ว แห่งแววกานต์

น้ำตาร่วง โรยลง ตรงพื้นหน้า
สองมือกล้า พาส่ง อธิฐาน
เหตุใดฟ้า ทำเมิน เดินผิดกาล
แกล้งเป็นผ่าน ลานใจ ให้ตายลง

สายลมเย็น เร้นรัก ภักดิ์ดวงจิต
เงียบสนิท ริดแวว แก้วบุหลง
ดาราเด่น เพ็ญส่อง จ้องแวววง
คล้ายกับกรง ปลงใจ ให้จองจำ


หัวข้อ: Re: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 09:53:AM
สุวิจักขณ์ >>>

เสียงขื่นขื่นสะอื้นอั้นบีบคั้นจิต
อยากจะปลิดแปลงเป็นเช่นกระสรวล
บอกให้หยุด... หยุดพร่ำคำคร่ำครวญ
ร้องไห้ชวนช่วยต้อง...ร้องไห้ตาม ฯ....

. แง ๆๆๆๆๆ


สิบคน >>>

เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
ฤทัยร้าวรุ่มถวิลสิ้นไฉน
กระหายอุ่นละมุนปลอบมอบอวลไอ
แก่หัวใจเจ็บช้ำเคล้าน้ำตา ฯ

แง่ม... ไม่เกร็งเลยครับ


เกล็ดนาคา >>>

ลิ้มน้ำตาลหวานล้ำยังฉ่ำลิ้น
มิรู้สิ้นเสื่อมรสอดชิวหา
ลิ้มรสรักสลักไว้ใรอุรา
รสตรึงตราติดนั้นตราบวันตาย ฯ

ขอบคุณมากครับที่นำกลอนไพเราะ และภาพมาฝาก


สายลมสีขาว >>>

บรรเลงกลอนชะอ้อนออดพร่ำพลอดเจ้า
ในลมเคล้าคลอเสียงเจรียงขาน
เพียงน้อยนิดจิตรับสดับกานท์
พี่ก็ซ่านสุขแล้ว ... นะแก้วตา ฯ



หัวข้อ: Re: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 10:32:AM

อยากสะอื้นกลืนลงคอพ้อลมหนาว
เมื่อถึงคราวที่ถูกเศร้ามาเข้าสุม
รักมาร้างจางไกลไร้สุมทุม
สิ้นเสียงทุ้มเหลือเพียง..เสียงแหบแทน..อิอิ

...แบบว่า..กลอนยังไพเราะเหมือนเดิมเลยครับ คุณวฤก.



หัวข้อ: Re: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 11:57:AM

เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
ใบไม้กราว ร่วงหล่น บนพื้นหล้า
ชีวิตเรา ติดลบ พบรักลา
อนิจจา ไม่เหลือ แม้เยื่อใย

นั่งทานแห้ว ลูกท้อ  พอแก้ช้ำ
ทานระกำ กล้ำกลืน สะอื้นไห้
แสนขมขื่น ปวดร้าว หนาวกายใจ
น้ำตาไหล พรูพรั่ง หลั่งเป็นกลอน ฯ


หัวข้อ: Re: เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 02:18:PM
เมื่อสงกรานต์ผ่านมาปลายหน้าแล้ง
ดินระแหงแห้งผากจากแดดเผา
ทุกแห่งหนผจญร้อนไม่ผ่อนเพลา
แต่รักเรา ผลิ ออก พร้อมดอกคูณ

สัญญาใจให้กันในวันหวาน
แม้เนิ่นนานปานใดรักไม่สูญ
ดังดวงแก้วแพร้วเพริศเจิดจำรูญ
ขอเทิดทูนเพียงเธอเสมอไป

สิ้นคิมหันต์หวั่นใจไยแปรเปลี่ยน
มิอาจเขียนบรรยายเศร้าที่เราได้
คนที่รักหักเยื่อไม่เหลือใย
เขาทิ้งให้ใจช้ำระกำทรวง

พิรุณร่ายคล้ายพี่ที่ร้องร่ำ
สายฝนพรำคือน้ำตาที่บ่าร่วง
เสียงฟ้าร้องพร้องหาสุดาดวง
วสันต์ลวงล่วงพ้นพร้อมคนไกล

เหมันต์เยือนเฉือนใจนี้ให้เจ็บ
ยิ่งหนาวเหน็บเกินข่มระทมไหว
รอยแผลรักลึกเหลือบาดเนื้อใจ
รอยอาลัยรักแสลงใต้แสงดาว

กายสะท้านมานหม่นสุดทนฝืน
เสียงสะอื้นขื่นขมเคล้าลมหนาว
คิดถึงทุก ครั้งพา อุราร้าว
น้ำค้างพราว หนาวนัก เมื่อ..รักร้าง.