พิมพ์หน้านี้ - คนหนอคน..

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: สล่าผิน ที่ 28 มกราคม 2013, 06:05:PM



หัวข้อ: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 28 มกราคม 2013, 06:05:PM
เกิดเป็นคนบนหล้าน่าขบคิด
หลากชีวิตต่างปัญญาพาสับสน
บ้างคิดใกล้คิดไกลต่างใจคน
มีปะปนดีชั่วทั่วปฐพี

บ้างใส่ร้ายป้ายสีที่เพื่อนฝูง
แอบคอยจูงคนนั้นปั่นคนนี่
เพื่อนสนิทลับหลังยังไร้ดี
พ่นวจีลับหลังหวังอะไร

คอยวางแผนแสนแย่แก่พ้องเพื่อน
ยุให้เหมือนชังกันปั้นร้ายใส่
คนนั้นชั่วคนนี้ร้ายป้ายเข้าไป
แต่มิได้มองตนบนความจริง

โทรนินทาว่าคนอื่นมีหมื่นชั่ว
มิมองตัวค้นตนบนทุกสิ่ง
โดยใช้หลักยุติธรรมนำอ้างอิง
แล้วตัดทิ้งตัวตนค้นให้เจอ

พินิจตรองผองเพื่อนไยเลือนหาย
เพื่อนหญิงชายหน่ายยิ่งทิ้งให้เหม่อ
เพื่อนสนิทคิดห่างอย่างน่าเพ้อ
หัวขี้เท่อสุดทู่มิรู้ตัว

ชอบยุแยงแกล้งคนให้หม่นหมอง
ไร้พี่น้องไร้เพื่อนรักหักไปทั่ว
คนนั้นก็ติคนนี่้ก็ว่า..ช่างน่ากลัว
ตนไร้ชั่ว..คิดได้อย่างไรกัน

สล่าผิน

ปล.เพียงบางอารมณ์ที่อยากถ่ายทอดความจริงให้สังคมรับรู้ โดยเฉพาะคนคนนั้นครับ


หัวข้อ: Re: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 28 มกราคม 2013, 07:59:PM
(http://image.ohozaa.com/i/017/VTIASH.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wpcKpSf3AKyi09gE)
เกิดเป็นคน บนหล้า คิดว่าเจ๋ง
เที่ยวอวดเก่ง เบ่งใส่ ไร้สุขสันต์
ยุให้รำ ตำให้รั่ว ทั่วทั้งวัน
แล้วนั่งปั้น หน้าเหวอ เธอเปลี่ยนไป

พวกผองเพื่อน เลือนหลบ ไม่พบปะ
รู้ไหมจ๊ะ เธอทำ กรรมตามไล่
อยู่ไม่สุข หรอกหนอ ละออใจ
อิจฉาให้ จิตนั่น พลันระทม

จะหันซ้าย ย้ายขวา พาอกหมอง
จำจึงต้อง ก้มหน้า ว่าเหมาะสม
ชอบติฉิน นินทา อุราตรม
ไม่นิยม ชมชื่น คนอื่นพ้อ

เลิกเสียเถอะ นิสัย ไม่ไหวแล้ว
เขารู้แนว กันหมด มิปดหนอ
ขืนไม่เลิก สักวัน ท่านเจอตอ
จะเอ่ยเอื้อน เตือนต่อ คงบ่ทัน
พันทอง
โหไปโกรธใครมาแต่ชาติปางไหนเนี้ย เราเลยผสมโรง
(http://image.ohozaa.com/i/017/VTIASH.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wpcKpSf3AKyi09gE)


หัวข้อ: Re: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 28 มกราคม 2013, 08:30:PM
เรื่องนินทากาเลล้วนเล่ห์ลึก
ความรู้สึกรังเกียจน่าเดียดฉันท์
ใช้สมองตรองดูรู้เท่าทัน
ต้องตัดมันให้พ้นอย่าสนใจ

องค์สมเด็จสัมมาพระสัมพุทธ
บริสุทธิ์เรืองรองแสนผ่องใส
ยังถูกคนนินทาทุกคราไป
สนอะไรกับพวกถ่อยจงปล่อยวาง

--ณัชชา--

 emo_126


หัวข้อ: Re: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 28 มกราคม 2013, 08:35:PM


อยากจะเห็นหน้าตนเป็นเช่นไร
หยิบกระจกส่องไปก็เห็นหน้า
ยังแกล้งหลอกตัวเองเลือกหยิบมา
แต่กระจกเบือนท่าให้เข้าที

ส่องทีไรก็สวยก็เสริมส่ง
เลือกจะหลงลวงใจให้เต็มที่
เธอหลับตาทั้งลืมตามานานปี
โลกวันนี้สีอะไรไม่รับรู้


หัวข้อ: Re: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 28 มกราคม 2013, 09:04:PM
อย่าไปสนคนนินทาเข้ามายุ่ง
เรื่องรังรุงคิดไปใจยับยู่
ตัวของเราเป็นอย่างไรใจชื่นชู
อย่าหลงลู่คิดตามหนามหัวใจ

มาแต่งกลอนสุขสันต์ทุกวันเถิด
จะประเสริฐเสียยิ่งกว่าสิ่งไหน
เพื่อนดีดีมีเยอะเจอะเรื่อยไป
บ้านกลอนไทยนี้ก็หนึ่งพอพึ่งพิง

       ---กังวาน---


หัวข้อ: Re: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 29 มกราคม 2013, 12:11:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_160.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

"คน" คือการวนไปให้รอบรอบ
จะต้องมีติดขอบกับบางสิ่ง
หากไม่คนวนไปต้องไหม้ทิ้ง
จะให้ "คน" แล้วนิ่งทิ้งเหมือนกัน

ความพอดีจึงต้องควรมองเห็น
"คน" ให้เป็นจังหวะจะโคนหมั่น
จะซ้ายขวาหาจุดหยุด "คน" นั้น
ต้องสัมพันธ์กับไฟที่ใส่เตา

หากไฟแรงมือล้ามิช้าไหม้
หากมือไวไฟอ่อนเกิดก้อนเน่า
ไฟและมือประสานงานก็เบา
สวยงามเงาไม่เปลี่ยนต้องเพียร "คน"

 emo_126

"กานต์ฑิตา"

๒๙ มกราคม ๒๕๕๖

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_160.gif) (http://www.klonthaiclub.com)








หัวข้อ: Re: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 29 มกราคม 2013, 12:55:AM
แต่บัดนี้เขาคัดพัฒนา
นำไฟฟ้ามาใช้ไม่สับสน
ยัดยัดลงโถใหญ่ได้ปะปน
เปิดสวิตช์เวียนวนคละคนกัน

เปิดฝาดูมันแปลกแยกไม่ออก
ยากบ่งบอกว่าใครคนไหนนั่น
เพราะมาเกิดหลงกลคนทุกวัน
โดนเขาปั่นเพียงนิดจิตรวนเร.

นพ
29ม.ค.56


หัวข้อ: Re: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 08:53:PM
วิถีศรัทธาสมถะปุถุชน

กับวิถีสมถะปุถุชน
มิฝันพ้นอุ่นอิ่มพักผ่อน
มิปรุงฉาบเฉกเช่นโขนละคร
มิดิ้นร้อนลาภยศใดใด

กับวิถีสามัญปุถุชน
มิหวังหนสวรรค์ฟ้าสาไถย
เลือกชีวิตง่ายงามหนทางไท
แม้เข็ญไร้กายใจนั้นสุขเย็น

กับวิถีงามง่ายในฝันใฝ่
สุขทุกข์บ้างเป็นไปดังอยู่เห็น
แม้หนักเหนื่อยมิท้อพรั่นลำเค็ญ
ใจทอเพ็ญวิถีงามแห่งความดี

กับวิถีสมถะที่ได้เลือก
มิหลงกาบติดเปลือกงมกระพี้
มิกอดเปือกอาจมนำชีวี
มิโลภหลงโลกีย์ลาภอบาย

กับวิถีสามัญวิญญูชน
เซ่นชีพตนบวงฝันเบาง่าย
ค่ำเช้าเสพรื่นมวลพฤกษ์ใบ
ชื่นดาราแขไขแรรุ้งฟ้า

กับวิถีธรรมดาปุถุชน
มิปลื้มหนกามเกียรติยศถา
มิหลงเล่ห์ทิฏฐิอวิชชา
วิถีศรัทธาสมถะปุถุชนฯ


สนอง เสาทอง
23 มิถุนายน 2555
สนามชัยเขต
ฉะเชิงเทรา


หัวข้อ: Re: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: m1 ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2013, 04:50:PM
ทุกข์ทุกคน

คำว่าคนปนเปเทรวมกัน         มองให้เป็นสีสันจะดีไหม
ลองปรับเปลี่ยนมุมมองจากข้างใน    ใช้แว่นขยายเมตตาอย่าเชื่อหู
เริ่มจากดูภายในใจของตน       แล้วตรวจค้นตัวร้ายใดสิงใจอยู่
ใช้แว่นธรรมตัวกลางมากางดู      ใช้ตัวรู้สู้ตัวร้ายไล่ตัวถ่วง
ต่อจากนั้นจับให้มั่นในตัวธรรม      แล้วก่อกรรมฝ่ายดีให้โชติช่วง
รู้เท่าทันกิเลสมารที่มาลวง        ปลดเรือพ่วงความทุกข์นั้นทิ้งไป
ทุกข์ทุกคนลงเรือลำเดียวกัน       ควรสร้างสรรค์ถ้อยคำกำลังใจ
อีกคนพลาดอีกคนควรอภัย       เพือเส้นชัยคือฝั่งวังความเจริญ
ฝากหัวใจไว้กับธรรมไม่ช้ำใจ       ธรรมคุ้มภัยจากโลกธรรมคำสรรเสริญ
ไม่หลงรักผลักชังให้หมางเเมิน      ธรรมดำเนินสดใส ใจนาโน


                                 emo_126ร่วมด้วยช่วยแชร์แง่ของคนครับ
                                      m1   18/02/56   


หัวข้อ: Re: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 02 มีนาคม 2013, 09:29:AM
กุนหยี
(บานไม่รู้โรย)

กุนหยี-มิรู้โรย
บานแห้งโดยมิหล่นดิน
บานอยู่มิร่วงสิ้น
ชนยลยินกลีบผกา

ความจริง-ก็เฉกนั้น
จริง-เนื่องวารธารเวลา
หยัดยืนเพื่อทายท้า
มิโรยลากาลสมัย

ความดี-เฉกความจริง
ดี-ห่มอิงอาบใจใด
มิจางมิล้างกลาย
ไป่ชีพวายมิร้างเลือน

ความงาม-เฉกความดี
งาม-คู่ฤดีดุจรวงเรือน
มั่นแท้คู่ดาวเดือน
มิแชเชือนมาพร่างฟ้า

ความจริง-ดี-และ-งาม
อย่าเพียรถามในหนหา
อยากได้เร่งใฝ่คว้า
บวงศรัทธาพลีใจกาย

กุนหยีบานยั่งยืน
มิร่วงพื้นมิโรยไฉน
ความจริง-ดี-งามใด
บานใจใคร 'มิรู้โรย'ฯ


สนอง เสาทอง
นครศรีธรรมราช
2 ตุลาคม 2555

*กุนหยี คือ ดอกบานไม่รู้โรยในภาษาถิ่นปักษ์ใต้


หัวข้อ: Re: คนหนอคน..
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 03 มีนาคม 2013, 06:01:PM
ตราชูตาชั่งธรรม

ตราชูตาชั่งธรรม
เทิดชูค้ำตราชูไท
ตราชูชั่งหทัย
ชั่งชูไทตราใจตน

ตราชูสิทธิ์เสรี
ทูนตราศรีกวีชน
ตาธรรมมิตราฉล
ตราเสกชนพ้นตราเข็ญ

ตราชัดในตราชู
แบกชั่งรู้ ใน-อยู่-เป็น
ตราชูตาธรรมเห็น
มิรอดเร้นตาชั่งชู

ตนใดใจอสัตย์
ตาชั่งวัดตาธรรมรู้
หนักเอียงมิรั้งอยู่
เบี่ยงตราชูมิเที่ยงคง

ตาชั่งตราชูใด
หากตราใจมิตราตรง
ชั่งใดก็ตราโกง
บิดเบือนหลงคดตราใจ

ตราชูตาชั่งธรรม
ชูตราค้ำชั่งตราใด
หากฉ้อตราชูใจ
ก็อย่าหมายตราชูธรรมฯ

สนอง เสาทอง
ท่าพระจันทร์
7 สิงหาคม 53

***ดูหลายครั้งแล้วเห็นกระทู้นี้ดูเครียดๆ ยังไงชอบกล choy ขอยกเอาบทกวี สนอง เสาทอง แต่งไว้เมื่อหลายปีก่อนมาลง (อีกแหละ) เตือนใจสำหรับทุกๆ ฝ่าย ยังไงๆ อย่า “อารมณ์ติสต์” กันมากนะคะ คนบ้าน (กลอนไทย) เดียวกัน