พิมพ์หน้านี้ - ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: อริญชย์ ที่ 11 มิถุนายน 2012, 12:19:PM



หัวข้อ: ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 11 มิถุนายน 2012, 12:19:PM
  ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
ด้วยหาวรรคทองใดยังไม่เห็น
คิดได้แต่ถ้อยคำอันลำเค็ญ
ไม่โดดเด่นด้วยภาษานักกวี

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
แม้จมปลักกับบทกลอนอักษรศรี
แต่ฉันยังเดียวดายทางสายนี้
ฉันไม่มีพรแสวงแสงสวรรค์

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
เพราะรู้จักแต่ถ้อยคำการห้ำหั่น
ใช้สำนวนไม่เด่นดั่งเพ็ญจันทร์
เส้นทางฝันจึงเศร้าไม่พราวพราย

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
จึงขลุกขลักกับนิยามไร้ความหมาย
เขียนแต่เรื่องหนาวเหน็บเกิดเจ็บตาย
หาความหมายใดใด...ไร้ราคา

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
เพียงตระหนักถึงภูเขาลำเนาป่า
ห่วงสัตว์โลกสูญดับไปลับลา
ใครจะมาเพลิดเพลินร่วมเดินทาง

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
ยิ่งเศร้าหนักเมื่อเธอเมินทำเหินห่าง
ชีวิตฉันจึงเสมือนภาพเลือนราง
แสงสว่างที่หวังไว้...พลันไร้แวว!ฯ

                             อริญชย์
                         ๑๑/๖/๒๕๕๕




 emo_107 emo_60 emo_107


หัวข้อ: Re: ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 11 มิถุนายน 2012, 12:52:PM
(http://save2538.files.wordpress.com/2010/11/webboard-topic3492.jpg)


เธอไม่ใช่นักกวีที่ฉันหวัง
แต่เธอคือพลังดั่งดวงแก้ว
เธอไม่มีวรรคทองมาคล้องแนว
แต่ทุกแถว..กลอนกานท์..เธอผ่านใจ
(http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif)
เธอไม่ใช่นักกวีหรอก..ที่รัก
แต่เธอคือที่พักอันยิ่งใหญ่
เป็นศาลาปกป้องคุ้มผองภัย
ให้กับใจหม่นหม่น..ของคนแพ้
(http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif)
เธอไม่ใช่นักกวี..เช่นศรีปราชญ์
แต่สำนวนเธอเด็ดขาดจนฝากแผล
ทั้งคำคม..คมชะมัดตัดดวงแด
ก็เพียงแค่ นี้เท่านั้น...ฉันรักเธอ
(http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif)
แซมค่ะ
(http://upic.me/i/fx/bg181.gif)


หัวข้อ: Re: ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 11 มิถุนายน 2012, 01:59:PM
  ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
ด้วยหาวรรคทองใดยังไม่เห็น
คิดได้แต่ถ้อยคำอันลำเค็ญ
ไม่โดดเด่นด้วยภาษานักกวี

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
แม้จมปลักกับบทกลอนอักษรศรี
แต่ฉันยังเดียวดายทางสายนี้
ฉันไม่มีพรแสวงแสงสวรรค์

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
เพราะรู้จักแต่ถ้อยคำการห้ำหั่น
ใช้สำนวนไม่เด่นดั่งเพ็ญจันทร์
เส้นทางฝันจึงเศร้าไม่พราวพราย

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
จึงขลุกขลักกับนิยามไร้ความหมาย
เขียนแต่เรื่องหนาวเหน็บเกิดเจ็บตาย
หาความหมายใดใด...ไร้ราคา

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
เพียงตระหนักถึงภูเขาลำเนาป่า
ห่วงสัตว์โลกสูญดับไปลับลา
ใครจะมาเพลิดเพลินร่วมเดินทาง

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
ยิ่งเศร้าหนักเมื่อเธอเมินทำเหินห่าง
ชีวิตฉันจึงเสมือนภาพเลือนราง
แสงสว่างที่หวังไว้...พลันไร้แวว!ฯ

                             อริญชย์
                         ๑๑/๖/๒๕๕๕


 emo_107 emo_60 emo_107
(http://image.ohozaa.com/i/658/actgu.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7gna)

เธอไม่ใช่ นักกวี ที่ใครหวัง
เธอเป็นดั่ง นักกวี ที่ใสแจ๋ว
เธอเป็นครู ที่ฉัน ตามต่อแนว
เธอเป็นแก้ว เจียรไน ฉันใฝ่ปอง

เธอไม่เด่น ในใจ ใครก็ชั่ง
แต่ฉันหวัง ให้เธอเด่น ไม่เป็นสอง
ทุกถ้อยคำ อ่านเพลิน มิเมินมอง
เป็นวรรคทอง ทั้งนั้น อย่าหวั่นไป

เธอเป็นเช่น กวี ที่ฉันชอบ
จึงขอมอบ คำหวาน มาขานไข
ว่ามีหญิง คนหนึ่ง ซาบซึ้งใจ
คะนึงใน บทกวี นี้ทุกยาม
(http://image.ohozaa.com/i/b45/ok5i0W.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8fOZpZQhgEgujT6)


หัวข้อ: Re: ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 11 มิถุนายน 2012, 02:32:PM
ฯลฯ
เธอไม่ใช่นักกวี..เช่นศรีปราชญ์
แต่สำนวนเธอเด็ดขาดจนฝากแผล
ทั้งคำคม..คมชะมัดตัดดวงแด
ก็เพียงแค่ นี้เท่านั้น...ฉันรักเธอ

แซมค่ะ

.........

ฉันเข้ามาบ้านนี้หลายปีผ่าน
เพราะได้อ่านบทกวีมีเสนอ
และบอร์ดหนึ่งถูกใจได้เปิดเจอ
รับเสมอห้องฝึกเขียนผู้เรียนกลอน

ยังติชมด้วยนี้ที่หัดแต่ง
คือแสดงเห็นอยู่มีครูสอน
เขียนมาลงกระทู้ดูหลายตอน
พร้อมวิงวอนท่านให้ได้ตรวจทาน

ทั้งหน้าไมค์หลังไมค์ที่ได้รับ
ดีใจครับที่เขาเข้ามาอ่าน
ผิดอยู่นาแก้นะอย่าช้านาน
เวลาผ่านหัดไปได้แค่นี้

ภูมิใจในระดับหนึ่งนั้น
ความผูกพันมีมากยากห่างหนี
แต่ฉันก็มิใช่นักกวี
ความรู้มีแค่ขานอ่านกลอนเป็น

อยากก้าวหน้าต่อไปใครจะสอน
บอร์ดวิงวอนอ้อนต่างวางให้เห็น
อยากจะเขียนกลอนรักช่างยากเย็น
ยิ่งกว่าเข็นครกใหญ่ไปขึ้นภู.

นพ
11มิ.ย.55



หัวข้อ: Re: ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐
เริ่มหัวข้อโดย: kon ที่ 11 มิถุนายน 2012, 06:15:PM
 
emo_116

ผมคนนี้ก็ไม่ใช่กวีครับ
ราชาศัพท์อะไรก็ไม่หรู
เพียงแค่คนอ่านกลอนมาออนดู
หาความรู้น้อยนิดอาจผิดเพี้ยน
ถ้าหากผิดไปบ้างมาอ้างครับ
ผมน้อมรับปรับแก้จะแปรเปลี่ยน
เต็มใจอ่านทุกกลอนมาออนเวียน
เวลาเรียนผมน้อยมันถอยลงทุกที

 emo_100 emo_82 emo_126


หัวข้อ: Re: ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 12 มิถุนายน 2012, 08:11:AM
  ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
ด้วยหาวรรคทองใดยังไม่เห็น
คิดได้แต่ถ้อยคำอันลำเค็ญ
ไม่โดดเด่นด้วยภาษานักกวี

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
แม้จมปลักกับบทกลอนอักษรศรี
แต่ฉันยังเดียวดายทางสายนี้
ฉันไม่มีพรแสวงแสงสวรรค์

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
เพราะรู้จักแต่ถ้อยคำการห้ำหั่น
ใช้สำนวนไม่เด่นดั่งเพ็ญจันทร์
เส้นทางฝันจึงเศร้าไม่พราวพราย

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
จึงขลุกขลักกับนิยามไร้ความหมาย
เขียนแต่เรื่องหนาวเหน็บเกิดเจ็บตาย
หาความหมายใดใด...ไร้ราคา

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
เพียงตระหนักถึงภูเขาลำเนาป่า
ห่วงสัตว์โลกสูญดับไปลับลา
ใครจะมาเพลิดเพลินร่วมเดินทาง

ฉันมิใช่นักกวีหรอก...ที่รัก
ยิ่งเศร้าหนักเมื่อเธอเมินทำเหินห่าง
ชีวิตฉันจึงเสมือนภาพเลือนราง
แสงสว่างที่หวังไว้...พลันไร้แวว!ฯ

                             อริญชย์
                         ๑๑/๖/๒๕๕๕




 emo_107 emo_60 emo_107
แม้นว่าเธอ มิหมาย ให้ดูเด่น
แต่ที่เห็น กรองกานท์ นั้นผ่องแผ้ว
ทั้งตลก สาระ มาเป็นแนว
เธอเหมือนแก้ว แววใส อยู่ในจินต์

ได้แต่แอบ ชื่นชม นิยมชอบ
อยู่ในกรอบ คุณค่า กวีศิลป์
เป็นแบบอย่าง วางไว้ ให้ยลยิน
ไม่เคยสิ้น ศรัทธา ภาษากลอน

ด้วยสำนวน ชวนขำ มีอำบ้าง
หักมุมอย่าง เริงรื่น ชื่นอักษร
พจนารถ วาดวาง อย่างอาทร
ทุกบทตอน สมค่า ว่ากวี

มิต้องหวาน ย้อยหยด ด้วยบทรัก
แต่ตระหนัก คำคม ภิรมย์ศรี
รสอักษร รินร่าย ด้วยไมตรี
เธอนั้นมี พร้อมสรรพ์...(สุ)รับประกัน....

“สุนันยา”

สุเขียนตามความรู้สึกของตัวเอง ที่เป็นจริงค่ะ..

 emo_126 emo_95


หัวข้อ: Re: ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 12 มิถุนายน 2012, 01:01:PM
ท่านคือปราชญ์กวีศรีสยาม
ระยับงามแจ่มแจ้งที่แต่งสรร
กระพริบพราววาววับนานนับวัน
ขอโปรดปั่นเปลื้องคำฉาบฉ่ำมา

ท่านคือปราชญ์กวีศรีสยาม
ทุกหน่อนามชื่นชมคมภาษา
คติพจน์บทจินต์ถิ่นท้องนา
ภาพผืนป่าท่านพาท่องงามผ่องเพ็ญ

ท่านคือปราชญ์กวีศรีสยาม
อย่าครั่นคร้ามน้อยใจให้ใครเห็น
แต่โปรดอยู่แยบแย้มเย้าทุกเช้าเย็น
เพราะท่านเป็นปราชญ์ปกรณ์ผ่อนร้อนทรวง
emo_95


หัวข้อ: Re: ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 12 มิถุนายน 2012, 01:50:PM
ใจใหญ่กว่าห้วงฟ้ามหรรณพ   
บรรจุครบสรรพสิ่งทั้งจริงฝัน
ดอกกวีแกว่งไกวอยู่ในนั้น   
รอคืนวันเราเรียบเรียงเคียงคำริน

กรองถ้อยพจน์หยดย้อยแล้วร้อยเสียง   
เทียบสำเนียงคัดเค้นให้เห็นศิลป์
หวังเล็กน้อยแค่ประมาณก้านกวิน      
ตามองดินจินตนานภางาม
       
          เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: ๐ขอโทษด้วย...ฉันมิใช่นักกวี๐
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 12 มิถุนายน 2012, 03:41:PM


โอ..กวี
โปรยวจีไจ้ไจ้เหมือนไต่ถาม
โปรยดอกคำขำคมนิยมความ
โปรยทุกยามยลเพลินดอกเงินยวง
โปรยสุร่ายทิพย์ฟ้ามารี่รี่
โปรยนทีถ้อยคำบำเรอสรวง
โปรยยอดหญ้าหยาดน้ำที่ฉ่ำดวง
โปรยโชติช่วงเริงร่าแห่งอารมณ์
โปรยคติชีวิตถูกผิดเห็น
โปรยเยือกเย็นธารธรรม์อันเหมาะสม
โปรยรอยยิ้มแย้มเยือนนิยมชม
โปรยทวนลมหอมกวีนี้ยาวไกล
โลกจึงหอมถนอมอยู่มิรู้สิ้น
โลกจึงงามอร่ามศิลป์ประคิ่นไฉน
โลกจึงงามงานเธอเลอพิไล
โลกมิไร้บทกวีที่มีเธอ

กามนิต, ๑๒ มิ.ย.๕๕

 emo_85