|
หัวข้อ: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 เมษายน 2012, 03:15:PM จากบ้านทุ่ง ไร่,นา มานานเนิ่น จนห่างเหิน ขนบ อันอบอุ่น กรำอยู่แดน ศรีวิไล เมืองนายทุน ชุลมุน วุ่นวาย นับหลายปี แทบลืมเลือน อดีต จารีตเก่า ภูมิลำเนา เคยอุ้ม คุ้มเกศี สบโอกาส กลับเคหา มาอีกที พบวิถี ดั้งเดิม ให้เคลิ้มใจ สายลำธาร ห้วย,หนอง คลองยังอยู่ ต้นประดู่ นกยูง ยิ่งสูงใหญ่ บ้านฉันสิ คร่ำคร่า เก่ากว่าใคร เหมือนมิได้ แตกต่าง จากปางบรรพ์ สังคม ธารณะ ชนบท ดำรงกฎ เผื่อแผ่ มิแปรผัน การร่วมจิต ร่วมแรง ร่วมแบ่งปัน สานสัมพันธ์ สืบทอด ตลอดมา นั่น“ละไม” ใส่งอบ หอบผักบุ้ง ทักทายลุง“สมชาย” กับ“ยายสา” หนึ่งให้ผัก อีกฝ่าย ก็ให้ปลา ยิ้มเฮฮา เหลียวแล มีแก่ใจ ตา“ทองดี” ปวดน่อง เดินย่องแย่ง กล่าวขอแรง “เจ้านวย” ช่วยถางไร่ ส่วน“เฉลา” เยาวพา ชวนน้าไพ ขึ้นรถไป เยี่ยมหลาน ป้ากานดา ความเป็นอยู่ เรียบง่าย ในหลักแหล่ง ไร้ขันแข่ง แบ่งแยก แตกปัญหา มิต้องสวม หน้ากาก มากมารยา ดูสุขกว่า เมืองกรุง ที่รุ่งเรือง สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 16 เมษายน 2012, 04:43:PM (http://www.qzub.com/bar_123.gif) (http://www.qzub.com) อยู่ส่วนไหน ของไทย จะไปอยู่ เพราะไม่รู้ บอกมา อย่ามากเรื่อง ฟังเพียงเล่า ใช่เลย อยากลาเมือง ชวนประเทือง คลาไคล ไปด้วยกัน จะหาซื้อ ที่ดิน ซักสิบไร่ ปลูกกล้วยไข่ กล้วยหอม พร้อมใจฉัน ปลูกฟักแฟง แตงกวา ถั่วและมัน ปลูกพริกหยวก เท่านั้น ยังไม่พอ จะขอแรง ชาวบ้าน สานตระกร้า แล้วทำข่าย ดักปลา น่าหัวร่อ เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงเป็ด มะละกอ พลางขุดบ่อ เลี้ยงกบ ครบพอดี พันทอง (http://www.qzub.com/bar_123.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 เมษายน 2012, 05:37:PM สิงอยู่ใน ความฝัน อันไกลลิบ คงเอื้อมหยิบ ลำบาก ยากเหลือที่ ถึงหาทั่ว ไผท คงไม่มี ทุกวันนี้ พบแต่ ความแปรปรวน จินตนาการ ปลอบใจ ไปเท่านั้น แท้สูญพันธุ์ จากถิ่น สิ้นทุกส่วน ไปไหนเห็น แต่คน บ่นโอดครวญ จนทั่วถ้วน อับเฉา เท่าเทียมกัน สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 16 เมษายน 2012, 06:17:PM ([url]http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSxQ26RxedI3xSi8KBPAin3q0KGRfysVn8mM3SLiLE7VUqIfWZ8[/url]) จากบ้านทุ่ง ไร่,นา มานานเนิ่น จนห่างเหิน ขนบ อันอบอุ่น กรำอยู่แดน ศรีวิไล เมืองนายทุน ชุลมุน วุ่นวาย นับหลายปี แทบลืมเลือน อดีต จารีตเก่า ภูมิลำเนา เคยอุ้ม คุ้มเกศี สบโอกาส กลับเคหา มาอีกที พบวิถี ดั้งเดิม ให้เคลิ้มใจ สายลำธาร ห้วย,หนอง คลองยังอยู่ ต้นประดู่ นกยูง ยิ่งสูงใหญ่ บ้านฉันสิ คร่ำคร่า เก่ากว่าใคร เหมือนมิได้ แตกต่าง จากปางบรรพ์ สังคม ธารณะ ชนบท ดำรงกฎ เผื่อแผ่ มิแปรผัน การร่วมจิต ร่วมแรง ร่วมแบ่งปัน สานสัมพันธ์ สืบทอด ตลอดมา นั่น“ละไม” ใส่งอบ หอบผักบุ้ง ทักทายลุง“สมชาย” กับ“ยายสา” หนึ่งให้ผัก อีกฝ่าย ก็ให้ปลา ยิ้มเฮฮา เหลียวแล มีแก่ใจ ตา“ทองดี” ปวดน่อง เดินย่องแย่ง กล่าวขอแรง “เจ้านวย” ช่วยถางไร่ ส่วน“เฉลา” เยาวพา ชวนน้าไพ ขึ้นรถไป เยี่ยมหลาน ป้ากานดา ความเป็นอยู่ เรียบง่าย ในหลักแหล่ง ไร้ขันแข่ง แบ่งแยก แตกปัญหา มิต้องสวม หน้ากาก มากมารยา ดูสุขกว่า เมืองกรุง ที่รุ่งเรือง สุนทรวิทย์ (http://board.postjung.com/data/534/534315-topic-ix-1.jpg) ให้ลูกสาวเก็บดอกแคมาแกงส้ม ลูกชายงมท่าน้ำย้ำตัวเขื่อง พ่อตัดก้นหอยอยู่เหมือนดูเคือง ไม่สิ้นเปลืองค่ากับข้าว..ต้องท้าวความ เสาร์อาทิตย์สามพ่อลูก..ไปผูกแย้ แม่ชะแง้ตั้งท่า...ไม่น่าถาม โขลกเครื่องแกงรอไว้ตั้งสองชาม ผัดให้จามทั้งตำบลต้องทนดม บ้านใกล้เคียงถือถ้วย..ยกอวยต้ม มาผสมล้อมวง..ส่งเสียงขรม ต่างแบ่งปันกันทาน..สำราญนิยม ภาพกลืนกลมสามัคคี..มีประจำ เป็นวิมาน.บ้านทุ่ง..ไม่ปรุงแต่ง จะนอนฟูก.นอนแหย่ง.นอนขนำ พูดสิ่งใด?.ไม่ขัดขืน.หรือคืนคำ ต้องกระทำ.ตามกัน.ไร้สัญญา ไม่นิยมมนต์มารยา..ค้ามนุษย์ อยู่อย่างพุทธรักชาติศาสนา มีพระเจ้าแผ่นดินเป็นบิดา ทั้งพารา..คือพี่น้อง..ท้องเดียวกัน emo_126 หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 16 เมษายน 2012, 06:48:PM (http://1.3qdc.com/sakid/2007/10/12/dik_13.gif) สาวบ้านทุ่ง มุ่งเน้น เป็นงานบ้าน สุขสราญ บ้านทุ่ง ไม่มุ่งฝัน ปากไม่แดง แก้มไม่ผ่อง หมองผิวพรรณ แต่สุขสันต์ ด้วยไออุ่น เคยคุ้นมา เคล้าละมุน หวานละไม ในใจจิต เพียงเพ่งพิศ ชิดใกล้ ได้อิจฉา เสนาะหู หวานล้ำ ฉ่ำวาจา เฮ้ย!เอ็ง,ข้า, ตา,ยัย,อ้าย,กู,แก emo_12 (http://1.3qdc.com/sakid/2007/10/12/dik_13.gif) หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 เมษายน 2012, 08:19:PM (http://board.postjung.com/data/534/534315-topic-ix-1.jpg) ให้ลูกสาวเก็บดอกแคมาแกงส้ม ลูกชายงมท่าน้ำย้ำตัวเขื่อง พ่อตัดก้นหอยอยู่เหมือนดูเคือง ไม่สิ้นเปลืองค่ากับข้าว..ต้องท้าวความ เสาร์อาทิตย์สามพ่อลูก..ไปผูกแย้ แม่ชะแง้ตั้งท่า...ไม่น่าถาม โขลกเครื่องแกงรอไว้ตั้งสองชาม ผัดให้จามทั้งตำบลต้องทนดม บ้านใกล้เคียงถือถ้วย..ยกอวยต้ม มาผสมล้อมวง..ส่งเสียงขรม ต่างแบ่งปันกันทาน..สำราญนิยม ภาพกลืนกลมสามัคคี..มีประจำ เป็นวิมาน.บ้านทุ่ง..ไม่ปรุงแต่ง จะนอนฟูก.นอนแหย่ง.นอนขนำ พูดสิ่งใด?.ไม่ขัดขืน.หรือคืนคำ ต้องกระทำ.ตามกัน.ไร้สัญญา ไม่นิยมมนต์มารยา..ค้ามนุษย์ อยู่อย่างพุทธรักชาติศาสนา มีพระเจ้าแผ่นดินเป็นบิดา ทั้งพารา..คิอพี่น้อง..ท้องเดียวกัน emo_126 [/quote] กลางดงดึก พฤกษชาติ งามดาษดื่น ความชุ่มชื่น ห่อหุ้ม คลุมไพรสัณฑ์ ในห้วยหนอง บัวงาม เห็นครามครัน หลากเถาวัลย์ พรรณไม้ ล้วนให้คุณ คนพึ่งป่า ป่าพึ่งคน บนความชอบ เป็นระบอบ จุนเจือ ผลัดเกื้อหนุน ชาวบ้านนอก คอกนา จิตการุณ มีต้นทุน คือธรรม และน้ำใจ สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: ปู่ริน ที่ 16 เมษายน 2012, 08:21:PM (http://board.postjung.com/data/534/534315-topic-ix-1.jpg) [/quote]ให้ลูกสาวเก็บดอกแคมาแกงส้ม ลูกชายงมท่าน้ำย้ำตัวเขื่อง พ่อตัดก้นหอยอยู่เหมือนดูเคือง ไม่สิ้นเปลืองค่ากับข้าว..ต้องท้าวความ เสาร์อาทิตย์สามพ่อลูก..ไปผูกแย้ แม่ชะแง้ตั้งท่า...ไม่น่าถาม โขลกเครื่องแกงรอไว้ตั้งสองชาม ผัดให้จามทั้งตำบลต้องทนดม บ้านใกล้เคียงถือถ้วย..ยกอวยต้ม มาผสมล้อมวง..ส่งเสียงขรม ต่างแบ่งปันกันทาน..สำราญนิยม ภาพกลืนกลมสามัคคี..มีประจำ เป็นวิมาน.บ้านทุ่ง..ไม่ปรุงแต่ง จะนอนฟูก.นอนแหย่ง.นอนขนำ พูดสิ่งใด?.ไม่ขัดขืน.หรือคืนคำ ต้องกระทำ.ตามกัน.ไร้สัญญา ไม่นิยมมนต์มารยา..ค้ามนุษย์ อยู่อย่างพุทธรักชาติศาสนา มีพระเจ้าแผ่นดินเป็นบิดา ทั้งพารา..คิอพี่น้อง..ท้องเดียวกัน emo_126 http://www.youtube.com/watch?v=3GCKR2CWdlY#noexternalembed&feature=related (http://www.youtube.com/watch?v=3GCKR2CWdlY#noexternalembed&feature=related) แหย่ไข่มดแดง ผ้าขาวม้า คาดพุง ลงทุ่งท้อง โดดลงคลอง เก็บดอกบัว แสนสุขสันต์ ขี่หลังควาย ว่ายน้ำเล่น เย็นฉ่ำกัน เปรียบสวรรค์ บ้านนา ตอนหน้าแล้ง เที่ยวเก็บผัก หักฟืน กองเป็นมัด แล้วมาจัด เรียงราย ไว้ให้แห้ง ยามสายใช้ ตะกร้าแหย่ ไข่มดแดง นำมาแกง ต้มยำทำ แกงหมกไฟ นำใบตอง มาห่อ แต่พอดี สูตรอาหาร อีสานนี้ น้ำลายไหล แล้วอาบน้ำ แต่งตัว เสร็จทันใด ใต้ร่มไม้ คือวิมาน บ้านนาเรา ริน ดอนบูรพา ๑๖ เม.ย. ๕๕ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 16 เมษายน 2012, 08:42:PM คนพึ่งป่า ป่าพึ่งคน บนความชอบ เป็นระบอบ จุนเจือ ผลัดเกื้อหนุน ชาวบ้านนอก คอกนา จิตการุณ มีต้นทุน จากธรรม และน้ำใจ สุนทรวิทย์... ความเจริญ คืบคลาน สู่บ้านช่อง ทั้งห้วยหนอง คลองคู ไปอยู่ไหน สังคมเมือง เข้ามา สู่ป่าไพร ทั้งน้ำไฟ โทรศัพท์ รับสัญญาณ ยามลมทุ่ง พัดมา ในหน้าแล้ง ฝุ่นสีแดง ฟุ้งไปหมด เมื่อรถผ่าน เปลี่ยนเป็นทาง ราดยางใหม่ เมื่อไม่นาน รัฐบาล เขาจัดงบครบทุกคน .......ยากูซ่า........ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 เมษายน 2012, 08:42:PM ([url]http://1.3qdc.com/sakid/2007/10/12/dik_13.gif[/url]) สาวบ้านทุ่ง มุ่งเน้น เป็นงานบ้าน สุขสราญ บ้านทุ่ง ไม่มุ่งฝัน ปากไม่แดง แก้มไม่ผ่อง หมองผิวพรรณ แต่สุขสันต์ ด้วยไออุ่น เคยคุ้นมา เคล้าละมุน หวานละไม ในใจจิต เพียงเพ่งพิศ ชิดใกล้ ได้อิจฉา เสนาะหู หวานล้ำ ฉ่ำวาจา เฮ้ย!เอ็ง,ข้า, ตา,ยัย,อ้าย,กู,แก emo_12 ([url]http://1.3qdc.com/sakid/2007/10/12/dik_13.gif[/url]) มิประแป้ง แต่งหน้า ข้าก็รัก มิรู้จัก ป้อยอ ก็แยแส มิเลิศหรู ครบครัน ฉันก็แล ไร้ข้อแม้ ยืดยาว เหมือนชาวกรุง ขอเพียงเอ็ง รักข้า ดังข้าบ้าง อย่าปล่อยวาง ข้าวปลา ช่วยข้าหุง ยามข้าเดิน ควรจะ ช่วยพยุง เลิกเรียกลุง เปลี่ยนเรียกพี่ เท่านี้พอ emo_26 emo_45 emo_20 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 16 เมษายน 2012, 09:00:PM ก็บังเอิญ เดินผ่าน พานพบหน้า ไปไหนมา เล่านี่ พี่ของพ่อ เคยเรียกลุง ประจำ ทำหน้างอ พอเรียกพี่ ละก็ หัวร่อครืน .....ยากูซ่า..... หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 เมษายน 2012, 09:01:PM คนพึ่งป่า ป่าพึ่งคน บนความชอบ เป็นระบอบ จุนเจือ ผลัดเกื้อหนุน ชาวบ้านนอก คอกนา จิตการุณ มีต้นทุน จากธรรม และน้ำใจ สุนทรวิทย์... ความเจริญ คืบคลาน สู่บ้านช่อง ทั้งห้วยหนอง คลองคู ไปอยู่ไหน สังคมเมือง เข้ามา สู่ป่าไพร ทั้งน้ำไฟ โทรสัพท์ รับสัญญาณ ยามลมทุ่ง พัดมา ในหน้าแล้ง ฝุ่นสีแดง ฟุ้งไปหมด เมื่อรถผ่าน เปลี่ยนเป็นทาง ราดยางใหม่ เมื่อไม่นาน รััฐบาล เขาจัดงบครบทุกคน .......ยากูซ่า........ คอมมิสชั่น เกลื่อนกลาด ระบาดถึง ปัญหาจึง สำแดง ทุกแห่งหน มลภาวะ ช่างหัว กูกลัวจน ขอฉ้อฉล อย่างเดียว มิเหลียวใคร อยากรื้อ,สร้าง สิ่งใด ตามใจท่าน รับประทาน ทั่วกัน มิหวั่นไหว จ่ายเงินมา งานเดิน เพลินสมใจ เรื่องอื่นใด ไม่รู้ กูหูตึง สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 16 เมษายน 2012, 09:03:PM สาวบ้านทุ่ง มุ่งเน้น เป็นงานบ้าน สุขสราญ บ้านทุ่ง ไม่มุ่งฝัน ปากไม่แดง แก้มไม่ผ่อง หมองผิวพรรณ แต่สุขสันต์ ด้วยไออุ่น เคยคุ้นมา เคล้าละมุน หวานละไม ในใจจิต เพียงเพ่งพิศ ชิดใกล้ ได้อิจฉา เสนาะหู หวานล้ำ ฉ่ำวาจา เฮ้ย!เอ็ง,ข้า, ตา,ยัย,อ้าย,กู,แก sasi (http://www.qzub.com/bar_078.gif) ท้องทุ่งนาที่บ้านนั้นมีมาก คุณแม่ฝากปลูกดำนำเผื่อแผ่ ให้ลุงป้าน้าปู่คอยดูแล ครบปีแค่รอรับข้าวกลับคืน บางครั้งไปวิ่งเล่นเพ่นพ่านบ้าง อยู่นอนค้างกลางทุ่งค่อนรุ่งตื่น มะหน่อชวนออกไปไล่เก็บฟืน ลุกมายืนงัวเงียเขี่ยขี้ตา ขะเลน้อยคอยท่าพาเดินทุ่ง เสียงคุยฟุ้งชักนำคำพม่า ภาษาไบ้ใช้มือแทนวาจา สรุปว่าตะละแม่แย่แทบตาย ..กุสุมา.. มะหน่อ..สาวรับใช้หญิงสาวพม่า ขะเล..เด็กชาวพม่า ..ที่นาให้ผู้ใหญ่บ้านดูแลทำนาให้..สิ้นปีผู้ใหญ่บ้าน จะแบ่งข้าวมาให้กึ่งหนึ่งเจ้าค่ะ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 เมษายน 2012, 09:11:PM ก็บังเอิญ เดินผ่าน พานพบหน้า ไปไหนมา เล่านี่ พี่ของพ่อ เคยเรียกลุง ประจำ ทำหน้างอ พอเรียกพี่ ละก็ หัวร่อครืน .....ยากูซ่า..... เล่นจับจุด รู้ทาง ช่างฉอเลาะ กล่าวปะเหลาะ เรียกพ่อ ขอขัดขืน เรียกอย่างนี้ หนี้ทั้งปวง ขอทวงคืน แกล้งฝืนฝืน เรียกพี่ ยกหนี้พลัน emo_26 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 เมษายน 2012, 09:36:PM ท้องทุ่งนาที่บ้านนั้นมีมาก
คุณแม่ฝากปลูกดำนำเผื่อแผ่ ให้ลุงป้าน้าปู่คอยดูแล ครบปีแค่รอรับข้าวกลับคืน บางครั้งไปวิ่งเล่นเพ่นพ่านบ้าง อยู่นอนค้างกลางทุ่งค่อนรุ่งตื่น มะหน่อชวนออกไปไล่เก็บฟืน ลุกมายืนงัวเงียเขี่ยขี้ตา ขะเลน้อยคอยท่าพาเดินทุ่ง เสียงคุยฟุ้งชักนำคำพม่า ภาษาไบ้ใช้มือแทนวาจา สรุปว่าตะละแม่แย่แทบตาย ..กุสุมา.. มะหน่อ..สาวรับใช้หญิงสาวพม่า ขะเล..เด็กชาวพม่า ..ที่นาให้ผู้ใหญ่บ้านดูแลทำนาให้..สิ้นปีผู้ใหญ่บ้าน จะแบ่งข้าวมาให้กึ่งหนึ่งเจ้าค่ะ [/quote] การทำนา ตรากตรำ แสนลำบาก ทั้งยุ่งยาก เหนื่อยล้า กว่าได้ขาย คนกลางสิ เอมอิ่ม ยิ้มสบาย คิดแล้วหน่าย ใจฝ่อ ท้อระอา อยากขายควาย ขายนา ลาบ้านทุ่ง ไปอยู่กรุง ขันแข่ง แสวงหา หากโชคดี มีบุญ ช่วยหนุนพา คงมีเงิน กลับมา แต่งอาซ้อ emo_46 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 16 เมษายน 2012, 10:44:PM ทั้งท้องทุ่งคือทรัพย์สินแผ่นดินแก้ว
พร่างเพริศแพร้วเปรียบประดุจสุดสวรรค์ พ่อแม่ลูกนั่งปรึกษาหารือกัน หลังจากวันสงกรานต์ผ่านเลยไป บิดาชวนบุญปลูกเจ้าลูกรัก เราไปเดินเก็บผักกันดีไหม ก่อนวันตรุษพ่อหยุดดูอยู่ไม่ไกล ข้างป่าไผ่ปลายนาช่างน่ากิน มีผักบุ้งทอดยอดกอดกระเฉด ชาวเกษตรมานำร่องให้ท้องถิ่น กรมประมงลงแรงเลี้ยงปลานิล ฝนรวยรินดินก็ฟื้นให้ชื่นตา สองคนไม่สนใจกับไรริ้น พอแสงสิ้นหน้าระรื่นคืนเคหา ผัดกระเฉดแกล้มแกงส้มสมอุรา พ่อนั่งขับเสภากล่อมลูกนอน แม่ผัดหน้าแป้งร่ำประจำที่ ข้างเจ้าพี่ซบแนบกายใกล้เจ้าหล่อน เพลงเสภาว่าขุนแผนเจ้าแสนงอน วันทองอ้อนกอดแขนขุนแผนหลับ แสนสุขีจะมีไหนที่ใดเปรียบ ดึกเย็นเยียบแม้คืนแรมแซมเดือนดับ องค์เทวีเทวามาประทับ กล่อมให้หลับสำราญ ณ ลานทุ่ง เนิน จำราย หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 17 เมษายน 2012, 05:48:AM หลังสงกรานต์ งานหยุด ขุดจิ๊กกุ่ง(จิ้งหรีด) หิ้วกระบุง ช้อนผำ(สาหร่ายเขียว)ในลำเหมือง เด็ดยอดอ่อน มะขาม งามเรื่อเรือง เก็บมะเฟือง ร่วงหล่น เกลื่อนโคนดิน งมควานข้าง คันนา หาปูหอย สาวไม้สอย มือหัก ผักกระถิน จับปีกแม่ แมงมัน(มด)ทันก่อนบิน ต้นมะปิน(มะตูม)ปีนไต่ ไข่มดแดง ที่ราบลุ่ม หลุมไม้ปัก ดักเขียดกบ ใต้ผักตบ คลำหา ปลาแขยง ห้อยรั้วร้าน ยานยวบ บวบฟักแฟง จับเหล็กแทง ปลาไหล ซ่อนในตม หยิบไม้ขว้าง แมงนูน เกาะคูนใหญ่ เด็ดผักไห่ มะระ สะเดาขม ขอนพังผุ เปลือกปอก ออกเห็ดลม เอาไฟรม รวงผึ้ง ตรึงต้นตาล เสียมเขี่ยขุด แทงงัด ตัดหน่อไผ่ ร่องรอยไหม้ ดำมอด ยอดผักหวาน ใต้หินหลืบ เขียดหลบ อึ่งกบดาน ข้างลำธาร ลูกอ๊อด(ฮวก)จอดเป็นแพ ธรรมชาติ ทุ่งนา สวนป่าเขา ทำให้เรา สนุก พบสุขแท้ อยู่อย่างเงียบ เรียบง่าย กายดวงแด ยังดีกว่า ถูกรังแก ในเมืองกรุง รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 17 เมษายน 2012, 08:31:AM แสนสุขสราญบ้านทุ่ง รังรอง ยามรุ่งอรุณแสงทอง กระจ่างฟ้า วิถีถิ่นชาวคลอง เรียบง่าย เสียงไก่ขันปลุกข้า เมื่อเช้ามาเยือน มิแชเชือนลุกขึ้น เร็วพลัน รีบเร่งมาแปรงฟัน อาบน้ำ ประมาณยี่สิบขัน ฉันนับ ถูสบู่กลัวผิวช้ำ แค่ครั้งเดียวพอ รอสำรับกับข้าว จัดมา น้ำพริกเผา,แกงปลา ผักต้ม เคียงชะอมทอดหมายตา หอมนัก มีดอกแคแกงส้ม ตักข้าวสองจาน สงกรานต์เยือนถิ่นบ้าน หลายวัน ญาติพี่น้องพบกัน ชิดใกล้ วิมานที่ชวนฝัน นาทุ่ง ขอเก็บทรงจำไว้ สุขล้นดวงแด ---สะเลเต--- หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 17 เมษายน 2012, 10:04:AM ทั้งท้องทุ่งคือทรัพย์สินแผ่นดินแก้ว พร่างเพริศแพร้วเปรียบประดุจสุดสวรรค์ พ่อแม่ลูกนั่งปรึกษาหารือกัน หลังจากวันสงกรานต์ผ่านเลยไป บิดาชวนบุญปลูกเจ้าลูกรัก เราไปเดินเก็บผักกันดีไหม ก่อนวันตรุษพ่อหยุดดูอยู่ไม่ไกล ข้างป่าไผ่ปลายนาช่างน่ากิน มีผักบุ้งทอดยอดกอดกระเฉด ชาวเกษตรมานำร่องให้ท้องถิ่น กรมประมงลงแรงเลี้ยงปลานิล ฝนรวยรินดินก็ฟื้นให้ชื่นตา สองคนไม่สนใจกับไรริ้น พอแสงสิ้นหน้าระรื่นคืนเคหา ผัดกระเฉดแกล้มแกงส้มสมอุรา พ่อนั่งขับเสภากล่อมลูกนอน แม่ผัดหน้าแป้งร่ำประจำที่ ข้างเจ้าพี่ซบแนบกายใกล้เจ้าหล่อน เพลงเสภาว่าขุนแผนเจ้าแสนงอน วันทองอ้อนกอดแขนขุนแผนหลับ แสนสุขีจะมีไหนที่ใดเปรียบ ดึกเย็นเยียบแม้คืนแรมแซมเดือนดับ องค์เทวีเทวามาประทับ กล่อมให้หลับสำราญ ณ ลานทุ่ง เนิน จำราย ค่ำลงแต่ง กายโก้ เตร่โชว์สาว เสื้อลายพราว ใครเห็น เป็นสะดุ้ง ผ้าขะม้า ผืนใหม่ ไว้เคียนพุง ร้องลูกทุ่ง สุดเท่ เก๋เกินใคร สาวเอียงอาย ไว้ตัว กลัวผิดผี ประเพณี มีปราม ห้ามไถล ผิดสาวกรุง ชั่วแล่น แสนไวไฟ คุยถูกใจ เดี๋ยวเดียว ควงเที่ยวเลย สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 17 เมษายน 2012, 11:04:AM (http://mypaper.pchome.com.tw/show/article/fly53770/A1311645927) น้องนั่งอยู่หัวกะไดที่ชายน้ำ พี่ลอยลำเรือเที่ยวมาเกี้ยวเอ่ย เป็นกลอนกานท์บ้านทุ่งมุ่งชิดเชย ขอเป็นเขยบ้านนอก...บอกว่ารักจริง (http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif) น้องเตรียมตัวอาบน้ำเมื่อยามพลบ ต้องคอยหลบสายตา..ท่าอ้อยอิ่ง หนุ่มท้ายคุ้งแอบมองน้องหลบพิง- ข้างตลิ่งกอกกเกือบตกกะได (http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif) กระโจมอกเกาะเนิน..เขินนะพี่ จะหลบหนีก็ไม่รู้..จะไปอยู่ไหน คนในเรือทายทัก..กระอักกระอ่วนใจ แกล้งไถลตกน้ำ..ดำหนีเธอ (http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif) แซมค่ะ (http://sl.glitter-graphics.net/pub/1478/1478221jo9ag42tys.gif) หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 17 เมษายน 2012, 11:07:AM หลังสงกรานต์ งานหยุด ขุดจิ๊กกุ่ง(จิ้งหรีด) หิ้วกระบุง ช้อนผำ(สาหร่ายเขียว)ในลำเหมือง เด็ดยอดอ่อน มะขาม งามเรื่อเรือง เก็บมะเฟือง ร่วงหล่น เกลื่อนโคนดิน งมควานข้าง คันนา หาปูหอย สาวไม้สอย มือหัก ผักกระถิน จับปีกแม่ แมงมัน(มด)ทันก่อนบิน ต้นมะปิน(มะตูม)ปีนไต่ ไข่มดแดง ที่ราบลุ่ม หลุมไม้ปัก ดักเขียดกบ ใต้ผักตบ คลำหา ปลาแขยง ห้อยรั้วร้าน ยานยวบ บวบฟักแฟง จับเหล็กแทง ปลาไหล ซ่อนในตม หยิบไม้ขว้าง แมงนูน เกาะคูนใหญ่ เด็ดผักไห่ มะระ สะเดาขม ขอนพังผุ เปลือกปอก ออกเห็ดลม เอาไฟรม รวงผึ้ง ตรึงต้นตาล เสียมเขี่ยขุด แทงงัด ตัดหน่อไผ่ ร่องรอยไหม้ ดำมอด ยอดผักหวาน ใต้หินหลืบ เขียดหลบ อึ่งกบดาน ข้างลำธาร ลูกอ๊อด(ฮวก)จอดเป็นแพ ธรรมชาติ ทุ่งนา สวนป่าเขา ทำให้เรา สนุก พบสุขแท้ อยู่อย่างเงียบ เรียบง่าย กายดวงแด ยังดีกว่า ถูกรังแก ในเมืองกรุง รพีกาญจน์ 59 หลังสงกรานต์ เจ็บคอ ส่อไข้หวัด จามอึดอัด ซ้อนซ้ำ แต่ย่ำรุ่ง เพราะเล่นน้ำ กรำแดด แรดทั่วกรุง มันเลยยุ่ง ชะมัด ถูกหวัดกิน สังขารคน ในเมือง แสนเรื่องมาก โรคหลายหลาก ประกบ มิจบสิ้น อยู่ห้องแอร์ นิ่งเฉย จนเคยชิน พอเหยียบดิน เข้าหน่อย สำออยพลัน ความแตกต่าง อุบัติ เห็นชัดแจ้ง เกิดเส้นแบ่ง เมืองใหญ่ กับไพรสัณฑ์ หนึ่งเรียบง่าย สุขใจ ไปวันวัน หนึ่งครบครัน อาภรณ์ แต่อ่อนแอ สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 17 เมษายน 2012, 11:42:AM แสนสุขสราญบ้านทุ่ง รังรอง ยามรุ่งอรุณแสงทอง กระจ่างฟ้า วิถีถิ่นชาวคลอง เรียบง่าย เสียงไก่ขันปลุกข้า เมื่อเช้ามาเยือน มิแชเชือนลุกขึ้น เร็วพลัน รีบเร่งมาแปรงฟัน อาบน้ำ ประมาณยี่สิบขัน ฉันนับ ถูสบู่กลัวผิวช้ำ แค่ครั้งเดียวพอ รอสำรับกับข้าว จัดมา น้ำพริกเผา,แกงปลา ผักต้ม เคียงชะอมทอดหมายตา หอมนัก มีดอกแคแกงส้ม ตักข้าวสองจาน สงกรานต์เยือนถิ่นบ้าน หลายวัน ญาติพี่น้องพบกัน ชิดใกล้ วิมานที่ชวนฝัน นาทุ่ง ขอเก็บทรงจำไว้ สุขล้นดวงแด ---สะเลเต--- อาบน้ำที ยี่สิบขัน ถึงคันบ่อย เกาจน"หงอย" สะอื้น เกิดผื่นแผล ผมก็เป็น สังกะตัง บวกรังแค ดูย่ำแย่ ครบถ้วน ทุกส่วนเลย ซ้ำไม่ใช้ สบู่ เข้าถูขัด จะประหยัด เกินไป ไหมแกงเอ๋ย กลิ่นกายเหมือน ไข่ต้ม ผสมเนย มิอยากเผย แต่จำเป็น เหม็นสุดทน emo_26 emo_45 emo_20 (ไม่สันทัดโคลงครับน้องแกง เลยไม่กล้าต่อเป็นโคลงครับ) สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 17 เมษายน 2012, 12:12:PM ([url]http://mypaper.pchome.com.tw/show/article/fly53770/A1311645927[/url]) น้องนั่งอยู่หัวกะไดที่ชายน้ำ พี่ลอยลำเรือเที่ยวมาเกี้ยวเอ่ย เป็นกลอนกานท์บ้านทุ่งมุ่งชิดเชย ขอเป็นเขยบ้านนอก...บอกว่ารักจริง ([url]http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif[/url]) น้องเตรียมตัวอาบน้ำเมื่อยามพลบ ต้องคอยหลบสายตา..ท่าอ้อยอิ่ง หนุ่มท้ายคุ้งแอบมองน้องหลบพิง- ข้างตลิ่งกอกกเกือบตกกะได ([url]http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif[/url]) กระโจมอกเกาะเนิน..เขินนะพี่ จะหลบหนีก็ไม่รู้..จะไปอยู่ไหน คนในเรือทายทัก..กระอักกระอ่วนใจ แกล้งไถลตกน้ำ..ดำหนีเธอ ([url]http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif[/url]) แซมค่ะ ([url]http://sl.glitter-graphics.net/pub/1478/1478221jo9ag42tys.gif[/url]) เห็นผ้าถุง หลุดลุ่ย ตอนพุ้ยน้ำ พี่รีบดำ จดจ้อง ตอนน้องเผลอ มองจนปวด ลูกตา หาไม่เจอ นี่คงเธอ วิตก เลิกพกพา เก็บไว้บ้าน แน่แท้ แม่คุณเอ๋ย หวงจริงเลย ขยัน หมั่นรักษา ขอสักครั้ง อยากเห็น เป็นบุญตา อาบครั้งหน้า นำมาด้วย อย่าขวยเลย emo_26 emo_10 emo_45 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 17 เมษายน 2012, 12:13:PM ลงเรือน้อยลอยใกล้มาชายฝั่ง
นัดร้อยชั่งเวลาพลบพบเสมอ ถึงจุดนัดไม่พบนวลที่ควรเจอ อยู่ใหนเธอ เอ๊ะนั่น..เจ้าขวัญตา หล่นลงน้ำเห็นผ้าที่ท่าอาบ ใจหายวาบรีบวาดเรือเข้าไปหา โอบประคองขึ้นเรือแล้วพายพา จูบกานดาปลอบขวัญน้องสั่นคราง ต่อไปนี้จะคอยปองประคองเจ้า ทุกค่ำเช้าพัดวีไม่มีห่าง มองหน้ามนแก้มสะพรั่งทั้งสองปราง จึงส่งนางขึ้นท่าแล้วลาก่อน พรุ่งนี้นัดพบหน้าที่ท่าเดิม อย่าลืมเริ่มหัดว่ายน้ำนะสมร เจ้าตกน้ำใจพี่สั่นให้บั่นทอน ส่งบังอรแล้วพายทวนครวญถึงเธอ เนิน จำราย หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 17 เมษายน 2012, 12:27:PM แสนสุขสราญบ้านทุ่ง รังรอง ยามรุ่งอรุณแสงทอง กระจ่างฟ้า วิถีถิ่นชาวคลอง เรียบง่าย เสียงไก่ขันปลุกข้า เมื่อเช้ามาเยือน มิแชเชือนลุกขึ้น เร็วพลัน รีบเร่งมาแปรงฟัน อาบน้ำ ประมาณยี่สิบขัน ฉันนับ ถูสบู่กลัวผิวช้ำ แค่ครั้งเดียวพอ รอสำรับกับข้าว จัดมา น้ำพริกเผา,แกงปลา ผักต้ม เคียงชะอมทอดหมายตา หอมนัก มีดอกแคแกงส้ม ตักข้าวสองจาน สงกรานต์เยือนถิ่นบ้าน หลายวัน ญาติพี่น้องพบกัน ชิดใกล้ วิมานที่ชวนฝัน นาทุ่ง ขอเก็บทรงจำไว้ สุขล้นดวงแด ---สะเลเต--- ลับแลมาลิบหล้า. ลาเรือน ใจประหวัดติดเตือน. ค่ำเช้า จากแม่พ่อนับเดือน. เหินห่าง บ้านนา เคยอยู่สนิทเฝ้า. แต่นี้. ห่างไกล ไกวเอยแม่กล่อมเจ้า. นอนเปล มานี่แม่จะเห่. ขับให้ ลูกเอยอย่าเสเพล. สอนสั่ง. ออมอดทดเงินใช้. เร่งรู้. รักเรียน เพียรพากบากบั่นสู้. เพื่อใคร? หยาดเหงื่ออาบคราบไหล รดหน้า กลับบ้านเกิดพักใจ. เหน็ดเหนื่อย หากไม่สิ้นตะวันจ้า. อย่าได้ สิ้นหวังฯ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 17 เมษายน 2012, 12:35:PM ([url]http://mypaper.pchome.com.tw/show/article/fly53770/A1311645927[/url]) น้องนั่งอยู่หัวกะไดที่ชายน้ำ พี่ลอยลำเรือเที่ยวมาเกี้ยวเอ่ย เป็นกลอนกานท์บ้านทุ่งมุ่งชิดเชย ขอเป็นเขยบ้านนอก...บอกว่ารักจริง ([url]http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif[/url]) น้องเตรียมตัวอาบน้ำเมื่อยามพลบ ต้องคอยหลบสายตา..ท่าอ้อยอิ่ง หนุ่มท้ายคุ้งแอบมองน้องหลบพิง- ข้างตลิ่งกอกกเกือบตกกะได ([url]http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif[/url]) กระโจมอกเกาะเนิน..เขินนะพี่ จะหลบหนีก็ไม่รู้..จะไปอยู่ไหน คนในเรือทายทัก..กระอักกระอ่วนใจ แกล้งไถลตกน้ำ..ดำหนีเธอ ([url]http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif[/url]) แซมค่ะ ([url]http://sl.glitter-graphics.net/pub/1478/1478221jo9ag42tys.gif[/url]) เห็นผ้าถุง หลุดลุ่ย ตอนพุ้ยน้ำ พี่รีบดำ จดจ้อง ตอนน้องเผลอ มองจนปวด ลูกตา หาไม่เจอ นี่คงเธอ วิตก เลิกพกพา เก็บไว้บ้าน แน่แท้ แม่คุณเอ๋ย หวงจริงเลย ขยัน หมั่นรักษา ขอสักครั้ง อยากเห็น เป็นบุญตา กรุณา นำมาด้วย อย่าขวยเลย emo_26 emo_10 emo_45 สุนทรวิทย์ เห็นตุ๊บป่อง สองลูก ผูกลอยน้ำ รีบพายจ้ำ ออกไป อะไรเอ่ย ลองจับดู หยุ่นหยุ่น ของคุ้นเคย แม่เจ้าเว้ย ฟองน้ำ ใครทำนม emo_100 รพีกาญจน์ พายผ่านมาพอดี หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 17 เมษายน 2012, 12:57:PM ความลับแตก จนได้ ไม่น่าเชื่อ ดูคลุมเครือ มาก่อน ตอนเรือล่ม มันแปลกแปลก เสมือน มีเงื่อนปม ที่แท้นม ฟองน้ำ กรรมจริงจริง emo_45 emo_119 emo_26 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 19 เมษายน 2012, 11:10:AM มิใช่ของแซมสองฟองน้ำนั้น รับประกันมีของแท้ของแม่หญิง ส่วนฟองน้ำนั้นก็ขออ้างอิง ใครเขาทิ้งลอยมาอย่าเดากัน ดาว อาชาไนย หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 เมษายน 2012, 11:30:AM จะให้ดี แซมจ๋า มาพิสูจน์ แค่คำพูด คลุมเครือ มิเชื่อมั่น เปิดจะจะ เน้นเน้น ให้เห็นกัน เพื่อยืนยัน แผ่นฟอง หรือของจริง emo_24 emo_46 emo_40 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: ลมหนาว ที่ 19 เมษายน 2012, 11:36:AM เป็นวิถีชีวิตดังมิตรญาติ ธรรมชาติบ้านทุ่งอันฟุ้งเฟื่อง มีน้ำใจให้กันนั้นลือเลื่อง ประสาเมืองแดนดินถิ่นบ้านนา รุ่งอรุณเบิกฟ้าเวลาเช้า พี่น้องเราสนุกสุขหรรษา ขี่เจ้าทุยลุยไปไกลสุดตา เก็บผักหอยปูปลาเป็นอาจิณ เป็นภาพเก่าเล่าย้อนแต่ก่อนหลัง สมัยครั้งโบรานกาลถวิล ถึงยุคนี้สิคนไม่ยลยิน ทั่วแคว้นถิ่นลางเลือนมิเหมือนเดิม ธรรมดาสามัญนั้นของโลก ย่อมวิโยคเก่าหายใหม่กลายเสริม ความเจริญเดินหน้ามาต่อเติม ภาพเก่าเริ่มเจือจางพลางหายไป หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 19 เมษายน 2012, 11:46:AM ...... ที่แท้นม ฟองน้ำ กรรมจริงจริง ...... emo_45 emo_119 emo_26 "สุนทรวิทย์" (http://images.tribe.net/tribe/upload/photo/9e7/a59/9e7a592e-417d-43c0-ac4c-46cc4c491e13) มะพร้าวทุยสองลูกผูกเป็นคู่ เกาะเกี่ยวอยู่...กันจมน้ำ..เกรงดำดิ่ง มันไม่ใช่ฟองน้ำตามอ้างอิง น้องเป็นหญิงทั้งตัวทั้งหัวใจ emo_29 emo_29 emo_29 ไม่จำเป็นต้องเติมต้องเสริมแต่ง หาใครแข่งยังไม่เจอ...เธอรู้ไหม หน้าประถม....... เอ่อ..ขนมน่ะ..มหาลัย เชิญหลังไมค์เลยนะถ้าอยากดู.. emo_26 emo_107 แซมค่ะ (ขออภัยนะคะ..กลอนพาไปจริงๆเลยค่ะ) emo_55 ♥ ขอบคุณลุงดาว ที่เข้าใจแซม ♥ พ่อเล่าให้แซมฟังว่า สมัยพ่อเด็กๆ หัดว่ายน้ำโดยใช้มะพร้าวทุยสองลูกมาผูกกันเป็นคู่ แล้วใช้พยุงตัวถีบน้ำ เป็นการหัดว่ายน้ำค่ะ มะพร้าวทุย คือ ผลมะพร้าวที่เจริญเติบโตตามปกติจนเปลือกแห้ง รูปรีๆ กะลาลีบ น้ำหนักเบา เพราะไม่มีเนื้อและน้ำ ขออภัยค่ะ...ต่อไปจะเขียนดีๆ แล้วค่ะ.. ค่ำนี้ไข้ขึ้น เพ้อเจ้อไปหน่อย... emo_55 หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 19 เมษายน 2012, 11:49:AM มิใช่ของแซมสองฟองน้ำนั้น รับประกันมีของแท้ของแม่หญิง ส่วนฟองน้ำนั้นก็ขออ้างอิง ใครเขาทิ้งลอยมาอย่าเดากัน ดาว อาชาไนย นั่งพายเรือลอยลำสายน้ำใต้ สาเหตุใดปลาโผล่โชว์ตัวนั่น คงเมาน้ำเป็นแน่ไม่แปรผัน รีบจับมันขึ้นมาอาหารเย็น นั่นอะไรลอยมาปลาหนีวุ่น แมงกะพรุนไหมนี่ที่มองเห็น เหมือนขยับตัวว่ายอยู่ดูยังเป็น สวิงเอ็นมาช้อนก่อนหนีไป ยกขึ้นดูตั้งนานมันนิ่งเฉย เหมือนฟองน้ำจังเลยเอ่ยผิดไหม อีกหนึ่งอันลอยห่างทางทิศใด แล้วของใครกันนี่ที่หลุดมา. นพ 19 เม.ย.55 หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 19 เมษายน 2012, 12:01:PM มิใช่ของแซมสองฟองน้ำนั้น รับประกันมีของแท้ของแม่หญิง ส่วนฟองน้ำนั้นก็ขออ้างอิง ใครเขาทิ้งลอยมาอย่าเดากัน ดาว อาชาไนย ฟังดาวเอ่ย เรื่องจริง เนินนิ่งฟัง ใคร่สาบาน สักครั้ง ด้วยปากฉัน อุ้มอนงค์ ขึ้นจากน้ำ ในวันนั้น ขอยืนยัน เห็นกับตา ว่าของจริง หนึ่งชั่วโมง ก่อนหน้า จะลาจาก ได้บอกฝาก ล่ำลา ประสาหญิง พี่เนินจ๋า ทั้งอกใจ ไม่ประวิง มอบเป็นมิ่ง ขวัญตา ก่อนลากัน เนิน จำราย ขายน้อง..เล่นน๊ะจ๊ะแซม หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 เมษายน 2012, 12:09:PM เป็นวิถีชีวิตดังมิตรญาติ ธรรมชาติบ้านทุ่งอันฟุ้งเฟื่อง มีน้ำใจให้กันนั้นลือเลื่อง ประสาเมืองแดนดินถิ่นบ้านนา รุ่งอรุณเบิกฟ้าเวลาเช้า พี่น้องเราสนุกสุขหรรษา ขี่เจ้าทุยลุยไปไกลสุดตา เก็บผักหอยปูปลาเป็นอาจิณ เป็นภาพเก่าเล่าย้อนแต่ก่อนหลัง สมัยครั้งโบรานกาลถวิล ถึงยุคนี้สิคนไม่ยลยิน ทั่วแคว้นถิ่นลางเลือนมิเหมือนเดิม ธรรมดาสามัญนั้นของโลก ย่อมวิโยคเก่าหายใหม่กลายเสริม ความเจริญเดินหน้ามาต่อเติม ภาพเก่าเริ่มเจือจางพลางหายไป กาลแปรเปลี่ยน วิถี ชีวิตเปลี่ยน เก่าเกษียณ หันอิง หาสิ่งใหม่ แดนสงบ ป่าเขา ลำเนาไพร เกิดตึกใหญ่ ทะมึน ขึ้นทดแทน ขนบ-ประเพณี เริ่มหนีหาย ความกระหาย ครอบงำ ล้ำแบบแผน น้ำใจคน ย่อหย่อน เกิดคลอนแคลน หนุ่มสาวแล่น เข้าเมือง หมายเฟื่องฟู emo_73 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 เมษายน 2012, 12:38:PM ...... ที่แท้นม ฟองน้ำ กรรมจริงจริง ...... emo_45 emo_119 emo_26 "สุนทรวิทย์" ([url]http://images.tribe.net/tribe/upload/photo/9e7/a59/9e7a592e-417d-43c0-ac4c-46cc4c491e13[/url]) มะพร้าวทุยสองลูกผูกเป็นคู่ เกาะเกี่ยวอยู่...กันจมน้ำ..เกรงดำดิ่ง มันไม่ใช่ฟองน้ำตามอ้างอิง น้องเป็นหญิงทั้งตัวทั้งหัวใจ emo_29 emo_29 emo_29 ไม่จำเป็นต้องเติมต้องเสริมแต่ง หาใครแข่งยังไม่เจอ...เธอรู้ไหม หน้าประถม....... เอ่อ..ขนมน่ะ..มหาลัย เชิญหลังไมค์เลยนะถ้าอยากดู.. emo_26 emo_107 แซมค่ะ (ขออภัยนะคะ..กลอนพาไปจริงๆเลยค่ะ) emo_55 ♥ ขอบคุณลุงดาว ที่เข้าใจแซม ♥ พ่อเล่าให้แซมฟังว่า สมัยพ่อเด็กๆ หัดว่ายน้ำโดยใช้มะพร้าวทุยสองลูกมาผูกกันเป็นคู่ แล้วใช้พยุงตัวถีบน้ำ เป็นการหัดว่ายน้ำค่ะ มะพร้าวทุย คือ ผลมะพร้าวที่เจริญเติบโตตามปกติจนเปลือกแห้ง รูปรีๆ กะลาลีบ น้ำหนักเบา เพราะไม่มีเนื้อและน้ำ ขออภัยค่ะ...ต่อไปจะเขียนดีๆ แล้วค่ะ.. ค่ำนี้ไข้ขึ้น เพ้อเจ้อไปหน่อย... emo_55 มานั่งคอย หลังไมค์ ใจคึกคัก จะเท่าฟัก หรือราว ไข่ดาวคู่ ลุ้นหน้าดำ คร่ำเคร่ง เตรียมเล็งดู หงุดหงิดอยู่ ครึ่งวัน มิทันใจ เบี้ยวซะแล้ว เงียบหาย ไม่มาอวด เราเลยชวด สงกา ว่าเล็ก,ใหญ่ โม้จริงหนอ หน้าประถม ขนมมหาลัย ผมว่าไข่ จิ้งจก นกกระทา emo_26 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: แป้งน้ำ ที่ 19 เมษายน 2012, 12:52:PM ...... ที่แท้นม ฟองน้ำ กรรมจริงจริง ...... emo_45 emo_119 emo_26 "สุนทรวิทย์" มะพร้าวทุยสองลูกผูกเป็นคู่ เกาะเกี่ยวอยู่...กันจมน้ำ..เกรงดำดิ่ง มันไม่ใช่ฟองน้ำตามอ้างอิง น้องเป็นหญิงทั้งตัวทั้งหัวใจ emo_29 emo_29 emo_29 ไม่จำเป็นต้องเติมต้องเสริมแต่ง หาใครแข่งยังไม่เจอ...เธอรู้ไหม หน้าประถม....... เอ่อ..ขนมน่ะ..มหาลัย เชิญหลังไมค์เลยนะถ้าอยากดู.. emo_26 emo_107 แซมค่ะ (ขออภัยนะคะ..กลอนพาไปจริงๆเลยค่ะ) emo_55 มานั่งคอย หลังไมค์ ใจคึกคัก จะเท่าฟัก หรือราว ไข่ดาวคู่ ลุ้นหน้าดำ คร่ำเคร่ง เตรียมเล็งดู หงุดหงิดอยู่ ครึ่งวัน มิทันใจ เบี้ยวซะแล้ว เงียบหาย ไม่มาอวด เราเลยชวด สงกา ว่าเล็ก,ใหญ่ โม้จริงหนอ หน้าประถม ขนมมหาลัย ผมว่าไข่ จิ้งจก นกกระทา emo_26 สุนทรวิทย์ เอ๊ะ!! . .. เสียงใครโดดน้ำกันตูม ~ ตูม (http://www.yenta4.com/cutie/upload/785/1785/4d7094dd301ef.gif) เหน็บลูกมะพร้าวขาว ~ ขาว ดูม ~ ดูม ไม่นุ่งผ้า โอ๊ะ!! . .. ผ้าขาวม้าใครหลุดลอยน้ำมาหว่า ป๋องแป้งนั่งจ้องถ่างตา . . สงสัยไข่นกกระทาที่ว่า . . จะเป็นของป๋าสุนทร~* (http://www.yenta4.com/cutie/upload/857/1857/4ebcaa158149b.gif) . .. มาช่วยพี่แซมอ่าค่า . . แป้งไม่เกี่ยวน้าคร๊าา . .. หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 เมษายน 2012, 12:56:PM นั่งพายเรือลอยลำสายน้ำใต้ [/quote]สาเหตุใดปลาโผล่โชว์ตัวนั่น คงเมาน้ำเป็นแน่ไม่แปรผัน รีบจับมันขึ้นมาอาหารเย็น นั่นอะไรลอยมาปลาหนีวุ่น แมงกะพรุนไหมนี่ที่มองเห็น เหมือนขยับตัวว่ายอยู่ดูยังเป็น สวิงเอ็นมาช้อนก่อนหนีไป ยกขึ้นดูตั้งนานมันนิ่งเฉย เหมือนฟองน้ำจังเลยเอ่ยผิดไหม อีกหนึ่งอันลอยห่างทางทิศใด แล้วของใครกันนี่ที่หลุดมา. นพ 19 เม.ย.55 เจ้าของฟอง-น้ำคู่ อยู่เมืองนอก ไม่อยากบอก เดี๋ยวหา ว่ามุสา เพียงบอกใบ้ เล็กน้อย ห้ามปล่อยฮา เธอชื่อว่า ซอโซ่ พักตร์โสภี แอบปลื้มเธอ เสน่หา มานานนัก เธอไม่รัก ชื่นชม ผมเลยนี่ เก็บความโกรธ ซ่อนไว้ อยู่หลายปี พอได้ที มีจังหวะ ประกาศตูม emo_32 emo_45 emo_26 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 19 เมษายน 2012, 01:09:PM มานั่งคอย หลังไมค์ ใจคึกคัก จะเท่าฟัก หรือราว ไข่ดาวคู่ ลุ้นหน้าดำ คร่ำเคร่ง เตรียมเล็งดู หงุดหงิดอยู่ ครึ่งวัน มิทันใจ เบี้ยวซะแล้ว เงียบหาย ไม่มาอวด เราเลยชวด สงกา ว่าเล็ก,ใหญ่ โม้จริงหนอ หน้าประถม ขนมมหาลัย ผมว่าไข่ จิ้งจก นกกระทา emo_101 สุนทรวิทย์ แซมยอมแพ้แล้วค่ะ...อย่าว่าน้อง แม้นว่าของจะดีมีคุณค่า ควรเก็บออมถนอมไว้...ได้ราคา โผล่ในสภา...คงจะเพลีย..เสียต้นทุน emo_107 แซมค่ะ emo_116 (ขอบคุณน้องป๋องแป้ง emo_56) ♥ ภาพที่โผล่ในสภานั่น..ไม่ใช่แซมนะคะ นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น.. ♥ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 เมษายน 2012, 01:25:PM ฟังดาวเอ่ย เรื่องจริง เนินนิ่งฟัง
ใคร่สาบาน สักครั้ง ด้วยปากฉัน อุ้มอนงค์ ขึ้นจากน้ำ ในวันนั้น ขอยืนยัน เห็นกับตา ว่าของจริง หนึ่งชั่วโมง ก่อนหน้า จะลาจาก ได้บอกฝาก ล่ำลา ประสาหญิง พี่เนินจ๋า ทั้งอกใจ ไม่ประวิง มอบเป็นมิ่ง ขวัญตา ก่อนลากัน เนิน จำราย ขายน้อง..เล่นน๊ะจ๊ะแซม [/quote] อ๋อเหตุการณ์ ครั้งนั้น ฉันจำได้ เห็นไวไว ใครหน้าตื่น ยืนขาสั่น นึกว่ามี เรื่องใหญ่ อะไรกัน ที่แท้หวั่น ไข่จิ้งจก ตกตะลึง emo_26 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 เมษายน 2012, 01:45:PM เอ๊ะ!! . .. เสียงใครโดดน้ำกันตูม ~ ตูม (http://www.yenta4.com/cutie/upload/785/1785/4d7094dd301ef.gif) [/quote]เหน็บลูกมะพร้าวขาว ~ ขาว ดูม ~ ดูม ไม่นุ่งผ้า โอ๊ะ!! . .. ผ้าขาวม้าใครหลุดลอยน้ำมาหว่า ป๋องแป้งนั่งจ้องถ่างตา . . สงสัยไข่นกกระทาที่ว่า . . จะเป็นของป๋าสุนทร~* (http://www.yenta4.com/cutie/upload/857/1857/4ebcaa158149b.gif) . .. มาช่วยพี่แซมอ่าค่า . . แป้งไม่เกี่ยวน้าคร๊าา . .. ไข่กระทา ที่ไหน ใครคงหลอก ป๋าจะบอก ไม่อำ แป้งน้ำจ๋า ของสุนทร นั้นไข่ ไอยรา รู้แล้วอย่า บอกใคร ป๋าอายครับ emo_45 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 เมษายน 2012, 01:57:PM แซมยอมแพ้แล้วค่ะ...อย่าว่าน้อง แม้นว่าของจะดีมีคุณค่า ควรเก็บออมถนอมไว้...ได้ราคา โผล่ในสภา...คงจะเพลีย..เสียต้นทุน emo_107 แซมค่ะ emo_116 (ขอบคุณน้องป๋องแป้ง emo_56) ♥ ภาพที่โผล่ในสภานั่น..ไม่ใช่แซมนะคะ นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น.. ♥ [/quote] จำคลับคล้าย คลับคลา ว่าไม่ต่าง ผิดกันบ้าง มิพร่อง เกินสองหุน ถึงอย่างไร ได้เห็น ถือเป็นบุญ อาจจะคุ้น ตาบ้าง ช่างปะไร emo_24 emo_26 emo_45 สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: วิมานบ้านทุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 19 เมษายน 2012, 07:18:PM ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ เป็นเอกราชเอกลักษณ์เอกศักดิ์ศรี เป็นคันฉ่องส่องงามส่องความดี เป็นโคมฉายช่วยชี้วิถีชน เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ |