พิมพ์หน้านี้ - เป็นนักกลอนซะเมื่อไร

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนกวนๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: hort39 ที่ 14 มกราคม 2012, 09:12:PM



หัวข้อ: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 14 มกราคม 2012, 09:12:PM
ไม่ได้เรียนเขียนกลอนแต่อ้อนออก
จำเขาบอกลอกเขาเอามาเขียน
สัมผัสนอกสัมผัสในไม่เคยเรียน
แต่พากเพียรเขียนกลอนตอนเมาเมา

ไม่เมาเหล้าก็เมารักสักอย่างหนึ่ง
นั่งรำพึงบทกลอนผ่อนคลายเหงา
ดีดกีตาร์บรรเลงเพลงเบาเบา
รักกับเหล้าเมากลิ้งดริ๊งกันเพลิน



หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: พิมพ์วาส ที่ 14 มกราคม 2012, 09:30:PM
ครามืดค่ำทำท่าพายิ้มแย้ม
กลิ่นคลุ้งแต้งแกมยิ้มปริ่มเขินเขิน
มืดจนรุ่งปรุงเหล้าเฝ้าแต่เดิน
เสียจนเพลินเมินค่ำที่ทำลวง

คราใกล้รุ่งปรุงแต้มแย้มแสงสี
ดวงสุรีย์พลีส่องต้องสรวง
แสงจากฟ้าหล้าสว่างกลางบำบวง
เหมือนจะหน่วงถ่วงรักจักตามบุญ

ดื่มเมรัยนัยน์ตาเริ่มพร่านัก
เรื่องรักรักหักไปแต่วันรุ่น
อ้อนเป็นกานท์จารณ์รสพจน์การุณ
นะพ่อคุณบุญใดแต่ในปาง



หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 14 มกราคม 2012, 10:12:PM

ชอบแสดง ละคร เมื่อตอนเล็ก
โตเป็นเด็ก ร้องเฮ ลิเก.บ้าง
แบกกลองยาว สาวรำวง หลงรูปนาง
ออกรับจ้าง ซอ.จ้อย ปอย(งาน)นานา

เคยอยู่วัด คัดคำ ท่องธัมมะ
จบ ม.จะ เรียนครู รู้ภาษา
สอนคล้องจอง สองคำ จำเรื่อยมา
แกล้งใบ้บ้า มารัก เป็น.นักกลอน

 emo_100

รพีกาญจน์ 59


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 15 มกราคม 2012, 02:15:AM
(http://img1.imagehousing.com/1/5b3731a41a353474806d2c115391f889.jpg) (http://www.imagehousing.com/image/368513)

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/00024619_93413.gif)

เพียงนั่งคิดยามว่างอย่างเงียบเงียบ
เรียงร้อยเรียบภาษาหน้าสลอน
เลยจับวางอย่างเห็นเป็นบทตอน
ตามแบบสอนตอนเรียนเปลี่ยนอารมณ์

ไม่เคยคิดเขียนกลอนตอนสนุก
แต่ยามขลุกอยู่เดียวเปลี่ยวสุดข่ม
ได้ภาษาจากกลอนค่อยถอนปม
ยามตรอมตรมบ่มฟักสลักคำ

จนบัดนี้ไม่เคยมาเอ่ยบอก
ไม่ลวงหลอกบอกใครให้ได้ขำ
ว่าตนคือนักกลอนวอนใครจำ
แต่ตนคือคนทำพร่ำสำเนียง

เป็นทางหนึ่งซึ่งคล้ายช่วยคลายเหงา
อ่านกลอนเขาเฝ้าซึ้งรำพึงเสียง
กลอนเราบ้างวางลงตรงข้างเคียง
คล้ายอายเอียงยามเพี้ยน..คอยเปลี่ยนคำ.  emo_26

"บ้านริมโขง"

(http://i161.photobucket.com/albums/t221/PLAZE_bucket/kapook_31732-1.gif)


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: ลมหนาว ที่ 15 มกราคม 2012, 05:18:AM

อันตัวเราเขารู้คงดูออก
ไม่เก่งหรอกกานท์กลอนอ่อนภาษา
แค่แวะเวียนเขียนเล่นเป็นบางครา
เพื่อผ่อนคลายอุราคราเหงาใจ

เพิ่งฝึกเรียนเขียนกลอนตอนสมัคร
มิใช่นักกลอนเก่งเจ๋งจากไหน
อาจผิดเพี้ยนเขียนอ่านบานตะไท
เพราะยังไกลห่างชั้นขั้นกวี

ด้วยรู้ตัวดีหนอขอบอกกล่าว
มิใช่ดาวเรืองรองผุดผ่องศรี
เป็นแค่นักรักกานท์ลานวจี
แต่งตะบี้ตะบันมันเรื่อยไป

emo_85


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 15 มกราคม 2012, 07:57:AM










ได้ร่วมเรียง เคียงกัน เยี่ยงขวัญจิตต์
ได้ร่วมคิด สนิทซึ้ง ถึงไหนไหน
ได้ร่วมรัก สมัครมอบ ตอบดวงใจ
ยากมีใคร ไหนกัน แยกบั่นเรา

ทั้งรักเหล้า เมาฤทธิ์ มากพิษสง
ทั้งอนงค์ หลงสุรา พาแผดเผา
หากเสพมาก ยากปลง หลงมึนเมา
สุดท้ายเศร้า เขลาขาน ประจานตน.../



 emo_126


บูรพาท่าพระจันทร์


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 15 มกราคม 2012, 08:30:AM
(http://www.qzub.com/bar_015.gif) (http://www.qzub.com)
เริ่มเขียนกลอน กาลก่อน เพราะชอบอ่าน
จิตนาการ ตามกลอน สุขเหลือล้น
เลยขีดเขียน เวียนไป ให้วกวน
จิตสับสน เหมือนบ่น อยู่คนเดียว

จึงสืบค้น จากแหล่ง ที่เขาสอน
เข้าบ้านกลอน มาได้ ใจเด็ดเดี่ยว
เขียนผิดผิด ถูกถูก ยุ่งยากเชียว
มีคนเกี้ยว คนแก้ ให้แก่เรา

ไม่นานนัก ก็ชัก เริ่มเข้าที่
ขอบพระคุณ รุ่นพี่ มีใจเจ้า
แต่ตอนนี้ ดีขึ้น เพราะขัดเกลา
แต่งแต่เช้า ยันเย็น เป็นเช่นนี้
พันทอง
(http://www.qzub.com/bar_015.gif) (http://www.qzub.com)


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: unclekaew ที่ 15 มกราคม 2012, 09:06:AM
ยกมือไหว้สวัสดีครับพี่น้อง
ค่อยค่อยย่องเดินมาหาน้องพี่
หิ้วมาด้วยยาดองล้วนของดี
ติดดีกรีโอทอปดูชอบกล

เพิ่งมาใหม่แปลกหน้าไม่กล้าเขียน
จึงวนเวียนอ่านดูอยู่หลายหน
ยอดฝีมือขจรขจายอยู่หลายคน
ล้วนฝึกฝนฝีมือกลอนเมื่อตอนเมา

เพราะเมารักเมาเหล้าทุกเช้าค่ำ
จึงต้องช้ำใจกายไม่คลายเหงา
ระบายความในใจให้บรรเทา
เขียนความเศร้าให้ทราบเป็นกาพย์กลอน

ก็ฉันเป็นนักกลอนซะเมื่อไหร่
ได้แต่ใช้ลักจำคำครูสอน
บันทึกทุกวันคืนนั่งยืนนอน
ยามพักผ่อนเข้าห้องน้ำกลอนตามมา

เขาว่าเป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
จึงเขียนเล่าความบ้างอย่างหรรษา
ขออภัยพาไขว้เขวเสียเวลา
จิบน้ำชาเสียก่อนเพื่อถอนเมา

  emo_85 emo_100



หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: ส.เชื้อจันทร์ ที่ 15 มกราคม 2012, 10:08:AM




เราเองก็ไม่ใช่นักกลอน
แต่อักษรร้อยกรองน่าลองยิ่ง
มีสัมผัสมีจังหวะดีจริงจริง
สะกดใจให้หยุดนิ่ง...ฟังทุกครา

เมื่อวัยเยาว์กลอนไหนชอบก็ลอบท่อง
อ่านให้คล่องจนใจภักดิ์รักภาษา
ลองหัดคิดหัดเขียนเพียรเรื่อยมา
กลายเป็นว่า...รักอักษรกาพย์กลอนไป...


...ส.เชื้อจันทร์...

๑๕ ม.ค. ๕๕





หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 15 มกราคม 2012, 02:49:PM
เป็นนักกลอนตอนเมาเอามาอวด
เมาเป็นขวด(โซดา)เป็นลังก็ยังไหว
ไม่เมาเหล้าก็เมารักมันหนักใจ
เมาที่ไรได้กลอนสดหลายบทเลย

มาบ้านกลอนตอนแรกก็แปลกหน้า
ต้องเร่งหาเพื่อนพ้องลองเือื้อนเอ่ย
ประชันกลอนประลองกันหมั่นเปรียบเปรย
คนคุ้นเคยทั้งนั้นในวันวาน

แต่วันนี้ห่างหายไม่ค่อยเห็น
ฉันกลายเป็นคนเหงาเฝ้าสุสาน
เห็นอยู่แต่คนเก่งที่เบ่งบาน
สร้างผลงานพุ่้งพรวดกวดแซงไป

(http://www.qzub.com/fell_011.gif)


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 15 มกราคม 2012, 05:51:PM
(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR8Mce13jUDKtyZdwufCvlN6C0Uj9J7qvDfCGbQxmFTP1gVPcdB)
เขาเขียนกลอนอ่อนหวานอ่านแล้วซึ้ง
กลอนคิดถึงพาเหงาเศร้ารู้ไหม
กลอนอกหักรักไม่เป็นเช่นฉันไง
ปวดหัวใจเพ้อพร่ำเป็นคำกลอน

ถึงมีปีกหลีกหนีมีความฝัน
กลอนของฉันยากจะจบลบอักษร
รักทุกครั้งพังภินท์จินต์สังวร
มาเพื่ออ้อนขอความรักอีกสักที


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 17 มกราคม 2012, 11:09:AM
แม้นไม่ใช่กวีขั้นซีไรท์
ก็พอใจในเกียรติคอยเสียดสี
แมันไม่ได้เทียบขั้นท่านกวี
ก็ยินดีเขียนบทประชดประชัน

แม้นมิได้เป็นกลอนอักษรเลิศ
ก็ขอเปิดประเด็นเป็นสีสรร
แม้นไม่มีใครนิยมชมชอบกัน
ก็ยืนยันแบบนี้นี่ตัวเรา

 emo_126



หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 17 มกราคม 2012, 11:29:AM
...มิใช่นักกลอนแต่คือนักกล้า
ใช้ภาษาสื่อชัดขจัดเขลา
ไหลเรื่อยผ่านกาลอีกนานเนาว์
จะเรียกเราว่าอะไรนั้นไม่แคร์

ยอดหญ้าไหวเอนระเนนระนาด
แลระดาษพลิ้วว่อนทั้งอ่อนแก่
ก่อนถมทับโคนต้นไร้คนแล
เพียงอยากแพร่พันธ์ชะอุ่มเพื่อคลุมดิน...

.................//ทอฝัน


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนซะเมื่อไร
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 17 มกราคม 2012, 02:23:PM








มีความรู้ อยู่เพียง ใช้เลี้ยงชีพ
ยามคนงีบ รีบขยับ ลักทรัพย์สิน
ประพฤติตัว ชั่วช้า เป็นอาจิณ
เลื่องระบิล ยินรู้ ในหมู่โจร

อันเรื่องกลอน วอนเว้า ให้เจ้ารู้
เราคือผู้ สู้งาน ชาญผาดโผน
กลอนใครดี มีให้เห็น เป็นต้องโดน
พุ่งกระโจน โหนสะเดาะ เจาะประตู

หากผู้ใด ใครเบ่ง เก่งกลอนนัก
ใคร่รู้จัก ชื่อชั้น อันเลิศหรู
มาแข่งขัน สะบั้นกลอน อ้อนคนดู
เพื่อสดับ รับรู้ ใครครูกลอน.../


 emo_126


บูรพาท่าพระจันทร์