พิมพ์หน้านี้ - เหงาใจยามไร้คู่

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนเหงา => ข้อความที่เริ่มโดย: sunthornvit ที่ 11 มกราคม 2012, 03:33:PM



หัวข้อ: เหงาใจยามไร้คู่
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 11 มกราคม 2012, 03:33:PM




ตรากตรำ  ร่ำเร่รัก      
ตะลอนปัก  เล็งหลักหมาย
หาหมุด  จุดหย่อนกาย         
แหล่งสืบสาย  ในปลายทาง

บ่มเพาะ  เสาะดำเนิน      
เป้าเผชิญ  อันเหินห่าง
เที่ยวเฟ้น  ไม่เว้นวาง         
ด้วยอ้างว้าง  ร้างคู่อิง

ยากนัก  หนอรักแท้      
จิตแน่วแน่  แค่หนึ่งหญิง
มิจำ  ล้ำเพริศพริ้ง         
เพียงรักจริง  ยิ่งผู้ใด

เมื่อหนุ่ม  สาวรุมล้อม      
ทำเนื้อหอม  มิยอมใกล้
ล่วงกาล  ผ่านพ้นวัย         
มิเหลือใคร  ใคร่ชื่นชม

โศกา  คราโดดเดี่ยว      
ตัวคนเดียว  เปลี่ยวขื่นขม
สำแดง  แสร้งรื่นรมย์         
ซ่อนระทม  ข่มอยู่ใน

ทุกข์ใด  ไม่ท่วมท้น      
เท่าผจญ  โรคหม่นไหม้
ขาดชู้  เพื่อนคู่ใจ         
ตรมฤทัย  ไหนจะปาน

    สุนทรวิทย์
   


หัวข้อ: Re: เหงาใจยามไร้คู่
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 11 มกราคม 2012, 04:12:PM




......ขอจงใช้...ธรรมบารมี.....เป็นที่พึ่ง

...ลด..ละ..ซึ่ง.....สิ่งเย้ายั่ว..ตัวปัญหา

...มีสติ....อยู่แบบเท่ห์....แม้เอกา

...เลี้ยงน้องหมา.....ยังรื่นเริง...บันเทิงกว่า...เย้อออออออออะเรยยยย



.................จริง..จริง...นะ....................





หัวข้อ: Re: เหงาใจยามไร้คู่
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 11 มกราคม 2012, 04:29:PM





ตรากตรำ  ร่ำเร่รัก      
ตะลอนปัก  เล็งหลักหมาย
หาหมุด  จุดหย่อนกาย         
แหล่งสืบสาย  ในปลายทาง

บ่มเพาะ  เสาะดำเนิน      
เป้าเผชิญ  อันเหินห่าง
เที่ยวเฟ้น  ไม่เว้นวาง         
ด้วยอ้างว้าง  ร้างคู่อิง

ยากนัก  หนอรักแท้      
จิตแน่วแน่  แค่หนึ่งหญิง
มิจำ  ล้ำเพริศพริ้ง         
เพียงรักจริง  ยิ่งผู้ใด

เมื่อหนุ่ม  สาวรุมล้อม      
ทำเนื้อหอม  มิยอมใกล้
ล่วงกาล  ผ่านพ้นวัย         
มิเหลือใคร  ใคร่ชื่นชม

โศกา  คราโดดเดี่ยว      
ตัวคนเดียว  เปลี่ยวขื่นขม
สำแดง  แสร้งรื่นรมย์         
ซ่อนระทม  ข่มอยู่ใน

ทุกข์ใด  ไม่ท่วมท้น      
เท่าผจญ  โรคหม่นไหม้
ขาดชู้  เพื่อนคู่ใจ         
ตรมฤทัย  ไหนจะปาน

    สุนทรวิทย์
   

บอกใคร ว่าไร้คู่
ใครไม่รู้ ซ่อนอยู่บ้าน
เห็นอยู่ ปู่เชียวชาญ
ชำนาญการ ด้านนารี

บ่นบอกออกจากปาก
คิดจะฝาก รักใครนี่
ผ่นกาลนานหลายปี
หรือคิดที่ จะมีใคร

แอบซ้อน นอนเคียงหมอน
แล้วคนก่อน จะทำไง
ดูชิพูดอะไร
ไม่ห่วงใจ กันบ้างเลย

อยู่เดียว เปลี่ยวใจเหรอ
คงละเมอเพ้อเอื้อนเอ่ย
คูแท้ แน่เคียงเชย
กลับทำเฉยไม่ดูดี

บอกแต่ปวดร้าวใจ
ก็แล้วใคร อยู่ตรงนี้
คงหน่าย ในท่าที
จึงคิดมี ใหม่มาครอง

ปั้นหน้า เหมือนว่าเศร้า
ทิ้งคนเก่าเฝ้าหม่นหมอง
สัญญา จะเกี่ยวดอง
กลับกลายต้อง ห่างห้องใจ...

"สุนันยา"


หัวข้อ: Re: เหงาใจยามไร้คู่
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 11 มกราคม 2012, 06:35:PM




......ขอจงใช้...ธรรมบารมี.....เป็นที่พึ่ง

...ลด..ละ..ซึ่ง.....สิ่งเย้ายั่ว..ตัวปัญหา

...มีสติ....อยู่แบบเท่ห์....แม้เอกา

...เลี้ยงน้องหมา.....ยังรื่นเริง...บันเทิงกว่า...เย้อออออออออะเรยยยย



.................จริง..จริง...นะ....................

             
  ไร้ธรรม  บารมี  ชี้สะกด
ใจพยศ  หดหู่  อยู่เสมอ
กิเลสหนา  จดจ่อ  รอแต่เธอ
เจียนป้ำเป๋อ  เพ้อคลั่ง  นั่งฟั่นเฟือน

           สุนทรวิทย์


หัวข้อ: Re: เหงาใจยามไร้คู่
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 11 มกราคม 2012, 07:15:PM
บอกใคร ว่าไร้คู่
ใครไม่รู้ ซ่อนอยู่บ้าน
เห็นอยู่ ปู่เชียวชาญ
ชำนาญการ ด้านนารี

บ่นบอกออกจากปาก
คิดจะฝาก รักใครนี่
ผ่นกาลนานหลายปี
หรือคิดที่ จะมีใคร

แอบซ้อน นอนเคียงหมอน
แล้วคนก่อน จะทำไง
ดูชิพูดอะไร
ไม่ห่วงใจ กันบ้างเลย

อยู่เดียว เปลี่ยวใจเหรอ
คงละเมอเพ้อเอื้อนเอ่ย
คูแท้ แน่เคียงเชย
กลับทำเฉยไม่ดูดี

บอกแต่ปวดร้าวใจ
ก็แล้วใคร อยู่ตรงนี้
คงหน่าย ในท่าที
จึงคิดมี ใหม่มาครอง

ปั้นหน้า เหมือนว่าเศร้า
ทิ้งคนเก่าเฝ้าหม่นหมอง
สัญญา จะเกี่ยวดอง
กลับกลายต้อง ห่างห้องใจ...

"สุนันยา"
[/quote]

เสียงใคร  ร่ำไรอยู่
กล่าวโทษปู่  ดูเฉไฉ
บ้านปู่  มีผู้ใด
มาแกล้งไก๋  เติมไฟฟืน

มีแต่  แม่ชรา
อีกป้าอา  น้าดาษดื่น
ใส่ความ  ตามข่มกลืน
หลอกผู้อื่น  สร้างคลื่นลวง

พูดให้  เข้าใจผิด
เที่ยวสะกิด  ประดิษฐ์บ่วง
ย่าหมาย  ทำร้ายทรวง
เข้าจิ้มจ้วง  ทะลวงใจ

เห็นข่าว  สาวคงหลบ
บอกเลิกคบ  แถมตบใส่
แต่นี้  จะมีใคร
มีเยื่อใย  เหลือไมตรี

สุนทรวิทย์




หัวข้อ: Re: เหงาใจยามไร้คู่
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 11 มกราคม 2012, 08:23:PM

ตรากตรำ  ร่ำเร่รัก      
ตะลอนปัก  เล็งหลักหมาย
หาหมุด  จุดหย่อนกาย         
แหล่งสืบสาย  ในปลายทาง

บ่มเพาะ  เสาะดำเนิน      
เป้าเผชิญ  อันเหินห่าง
เที่ยวเฟ้น  ไม่เว้นวาง         
ด้วยอ้างว้าง  ร้างคู่อิง

ยากนัก  หนอรักแท้      
จิตแน่วแน่  แค่หนึ่งหญิง
มิจำ  ล้ำเพริศพริ้ง         
เพียงรักจริง  ยิ่งผู้ใด

เมื่อหนุ่ม  สาวรุมล้อม      
ทำเนื้อหอม  มิยอมใกล้
ล่วงกาล  ผ่านพ้นวัย         
มิเหลือใคร  ใคร่ชื่นชม

โศกา  คราโดดเดี่ยว      
ตัวคนเดียว  เปลี่ยวขื่นขม
สำแดง  แสร้งรื่นรมย์         
ซ่อนระทม  ข่มอยู่ใน

ทุกข์ใด  ไม่ท่วมท้น      
เท่าผจญ  โรคหม่นไหม้
ขาดชู้  เพื่อนคู่ใจ         
ตรมฤทัย  ไหนจะปาน

    สุนทรวิทย์
   


(http://www.qzub.com/bar_140.gif) (http://www.qzub.com)
ครวญคร่ำ ร่ำพิไร          เหตุไฉน ไยฟุ้งซ่าน
ก็ที่ เห็นเมื่อวาน            ที่หน้าบ้าน นั้นคือใคร

ใครหนอ บอกมาหน่อย     อย่าให้คอย ระห้อยไห้
อยากรู้ แน่แก่ใจ             เฉลยไป ให้รู้ที

ทีนี้ ถ้าไม่บอก              ต้องช้ำชอก ทุกข์เหลือที่
แม้นพี่ ไม่ปรานี             ตัวน้องนี้ ขอลาไกล

ไกลจาก คนลวงล่อ       น้ำตาคลอ ท้อไม่ไหว
สาปแล้ว ไม่รักใคร          กลัวช้ำใน ใจเดียวดาย
พันทอง
(http://www.qzub.com/bar_140.gif) (http://www.qzub.com)





หัวข้อ: Re: เหงาใจยามไร้คู่
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 13 มกราคม 2012, 03:00:PM
   
[/color][/size][/font][/center]
[/quote]

(http://www.qzub.com/bar_140.gif) (http://www.qzub.com)
ครวญคร่ำ ร่ำพิไร          เหตุไฉน ไยฟุ้งซ่าน
ก็ที่ เห็นเมื่อวาน            ที่หน้าบ้าน นั้นคือใคร

ใครหนอ บอกมาหน่อย     อย่าให้คอย ระห้อยไห้
อยากรู้ แน่แก่ใจ             เฉลยไป ให้รู้ที

ทีนี้ ถ้าไม่บอก              ต้องช้ำชอก ทุกข์เหลือที่
แม้นพี่ ไม่ปรานี             ตัวน้องนี้ ขอลาไกล

ไกลจาก คนลวงล่อ       น้ำตาคลอ ท้อไม่ไหว
สาปแล้ว ไม่รักใคร          กลัวช้ำใน ใจเดียวดาย
พันทอง
(http://www.qzub.com/bar_140.gif) (http://www.qzub.com)

[/quote]

พูดไป  น้องไม่เชื่อ           โทษคลุมเครือ  เบื่อเหลือหลาย
ที่เห็น  เป็นหลานยาย        เธอเป็นหม้าย  อยู่ท้ายซอย

ส่วนพี่  นี้ครองโสด           ตัวเดี่ยวโดด  โปรดเชื่อหน่อย
เรื่องรัก  ยังหลักลอย          หน้าละห้อย  คอยแต่เธอ

หมายปอง  เพียงน้องพัน     วันทั้งวัน  ฝันจนเหม่อ
คลุ้มคลั่ง  หวังเจอะเจอ        ป่วยป้ำเป๋อ  เอ๋อรับทาน

สุนทรวิทย์


หัวข้อ: Re: เหงาใจยามไร้คู่
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 13 มกราคม 2012, 06:34:PM


พูดไป  น้องไม่เชื่อ           โทษคลุมเครือ  เบื่อเหลือหลาย
ที่เห็น  เป็นหลานยาย        เธอเป็นหม้าย  อยู่ท้ายซอย

ส่วนพี่  นี้ครองโสด           ตัวเดี่ยวโดด  โปรดเชื่อหน่อย
เรื่องรัก  ยังหลักลอย          หน้าละห้อย  คอยแต่เธอ

หมายปอง  เพียงน้องพัน     วันทั้งวัน  ฝันจนเหม่อ
คลุ้มคลั่ง  หวังเจอะเจอ        ป่วยป้ำเป๋อ  เอ๋อรับทาน

สุนทรวิทย์
[/quote]
(http://www.qzub.com/bar_003.gif) (http://www.qzub.com)

คอยฉัน อย่าหวั่นไหว            แม้นมีใจ ไยฟุ้งซ่าน
วนเวียน หมุนเปลี่ยนกาล       ไม่ช้านาน พานพบเจอ

เจอดี นี้แน่แท้                 ขอเพียงแต่ อย่าเพ้อเจ้อ
คอยวัน ฉันและเธอ            สุขล้นเอ่อ เผลอคิดไป

ไปตาม ถามข่าวคราว        ทุกเรื่องราว ที่รู้ได้
เจ็บป่วย เป็นเช่นไร          ทุกข์ฤทัย ให้บอกมา

มาพาไป ปลอบปลุก         ให้สนุก สุขเลยหนา
ชุ่มชื่น รื่นชีวา                ที่รักจ๋า เธออย่าครวญ
พันทอง
(http://www.qzub.com/bar_003.gif) (http://www.qzub.com)



หัวข้อ: Re: เหงาใจยามไร้คู่
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 13 มกราคม 2012, 07:38:PM
(http://www.qzub.com/bar_003.gif) (http://www.qzub.com)

คอยฉัน อย่าหวั่นไหว            แม้นมีใจ ไยฟุ้งซ่าน
วนเวียน หมุนเปลี่ยนกาล       ไม่ช้านาน พานพบเจอ

เจอดี นี้แน่แท้                 ขอเพียงแต่ อย่าเพ้อเจ้อ
คอยวัน ฉันและเธอ            สุขล้นเอ่อ เผลอคิดไป

ไปตาม ถามข่าวคราว        ทุกเรื่องราว ที่รู้ได้
เจ็บป่วย เป็นเช่นไร          ทุกข์ฤทัย ให้บอกมา

มาพาไป ปลอบปลุก         ให้สนุก สุขเลยหนา
ชุ่มชื่น รื่นชีวา                ที่รักจ๋า เธออย่าครวญ
พันทอง
(http://www.qzub.com/bar_003.gif) (http://www.qzub.com)

[/quote]

มามะ  มาปลอบปลุก              คงสนุก  สุขเสสรวล
ทุกข์คลาย  หายเซซวน          เห็นสมควร  ด่วนกระทำ

จงเร่ง  บรรเลงช่วย               เอื้ออำนวย  ฉวยขยำ
ปัดเป่า  เศร้าระกำ                กลับชุ่มฉ่ำ  ด้วยน้ำมือ

เคล้นคลึง  ให้ถึงที่               กี่วิธี  พี่ไม่ถือ
ขยัน  หมั่นปรนปรือ              แล้วจะซื้อ  บ้านให้พัน

สุนทรวิทย์