พิมพ์หน้านี้ - น้ำน้อยแพ้ไฟ

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: hort39 ที่ 08 สิงหาคม 2011, 10:31:PM



หัวข้อ: น้ำน้อยแพ้ไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 08 สิงหาคม 2011, 10:31:PM
น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟใครก็รู้
เหมือนยืนอยู่เดียวดายคล้ายสิ้นหวัง
แม้นจิตใจไฝ่รู้สู้จริงจัง
แต่ก็ยังยากเย็นไม่เห็นทาง

คนหมู่มากพร้อมใจไร้สำนึก
ไม่รู้สึกสนใจในแบบอย่าง
ความใส่ใจดูเหมือนจะเลือนลาง
ต่างคนต่างมักง่ายไร้หลักการ

ผลสุดท้ายตายหมู่อยู่อย่างแย่
ต่างท้อแท้แพ้ชะตาน่าสงสาร
มีแต่เรื่องเคืองจิตคิดทรมาน
คงไม่นานถูกไฟเผาเป็นเถ้าธุลี

emo_108


หัวข้อ: Re: น้ำน้อยแพ้ไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 08 สิงหาคม 2011, 10:44:PM


ใครที่ไหนเล่าป๋าว่าไปนั่น
ถ้าบ้านกลอนก็ไหวหวั่นคิดหลบหนี
เพราะเกรงกลัวเภทภัยไฟอัคคี
ถ้าขืนอยู่นั้นเห็นทีชีวาวาย



 emo_19 emo_26


หัวข้อ: Re: น้ำน้อยแพ้ไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 09 สิงหาคม 2011, 12:15:AM
หากไฟมากไฟสุมกลุ่มร้อนเหลือ
ดั่งขังเสือเสือเดือดเลือดกระหาย
ปล่อยไฟสุมรุมอกตกอบาย
หากกระหายในผิดคิดจุดไฟ

เป็นน้ำน้อยมากรวมก็ท่วมท้น
เพียงรอคนร่วมทางบ้างมีไหม
อย่าถือตัวมั่วตนพ่นสาดไป
อาจโหมให้ฟอนฟุ้งมุ่งทำลาย

 emo_21


หัวข้อ: Re: น้ำน้อยแพ้ไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 09 สิงหาคม 2011, 12:45:AM



เมื่อน้ำน้อยใจยังแอบหวังว่า
เทวดาพาฝนมาหล่นให้
ช่วยดับร้อนผ่อนผันกับควันไฟ
ดับร้อนอกร้อนใจไฟไหม้ฟาง

เห็นน้ำน้อยใจบ่นคนมักง่าย
เอาแต่ได้แต่ดีไร้ที่ขวาง
เพราะพวกมากลากเข็นไม่เป็นกลาง
อยากเลิกร้างอำลาหลบหน้าแล้ว

เมื่อน้ำน้อยใจนั้นเฝ้าหวั่นคิด
เห็นความผิดถูกต้องไม่ผ่องแผ้ว
สุดเยียวยาว่ากล่าวให้ขาวแวว
ขอเปลี่ยนแนวยอมพ่ายหน่าย..อำลา..

คิดแล้วก็ให้น้อยใจ









หัวข้อ: Re: น้ำน้อยแพ้ไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 09 สิงหาคม 2011, 03:30:AM
(http://www.ohzeed.com/cartoon_032.gif) (http://www.ohzeed.com)

คือพังเพยเผยเน้นเป็นสัจจธรรม
หลากคนนำกล่าวเช่นเป็นสักขี
สิ่งใดน้อยแพ้มากทุกกรณี
ต้องเริ่มมีสำนึกได้ตรึกตรอง

หากยังฝืนแหกหลักที่ปักไว้
ใครที่ไหนจะรับปรับสนอง
คนหมู่น้อยสอยหมู่มากอยากประลอง
ต้องร่ำร้องไม่เจียมเสงี่ยมตน

กติกาสากลคนทั้งโลก
อุปโลกน์นานนับไม่สับสน
ถือเสียงมากฝากเช่นชนะชน
เสริมตัวบนประชาธิปไตย

สัจธรรมเช่นนี้ที่โดดเด่น
เสริมส่งเป็นแนววางสร้างสุกใส
เดินมุ่งหน้าฝ่าฟันร่วมกันไป
สังคมใหญ่ยืนยงส่งเจริญ

"บ้านริมโขง"

emo_89


หัวข้อ: Re: น้ำน้อยแพ้ไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 09 สิงหาคม 2011, 10:18:PM


ใครที่ไหนเล่าป๋าว่าไปนั่น
ถ้าบ้านกลอนก็ไหวหวั่นคิดหลบหนี
เพราะเกรงกลัวเภทภัยไฟอัคคี
ถ้าขืนอยู่นั้นเห็นทีชีวาวาย



 emo_19 emo_26

น้ำน้อยแพ้ไฟ ไม่ใช่ที่นี่
ต้องขอโทษที ที่ทำใจหาย
แค่บ่นเบื่องาน หงุดหงิดมากมาย
ผู้คนมักง่าย ระบายแก้เซ็ง

(ไม่ได้เกี่ยวกับบ้านกลอนไทยนะครับ  emo_85)


หัวข้อ: Re: น้ำน้อยแพ้ไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 09 สิงหาคม 2011, 10:31:PM


ใครที่ไหนเล่าป๋าว่าไปนั่น
ถ้าบ้านกลอนก็ไหวหวั่นคิดหลบหนี
เพราะเกรงกลัวเภทภัยไฟอัคคี
ถ้าขืนอยู่นั้นเห็นทีชีวาวาย



 emo_19 emo_26

น้ำน้อยแพ้ไฟ ไม่ใช่ที่นี่
ต้องขอโทษที ที่ทำใจหาย
แค่บ่นเบื่องาน หงุดหงิดมากมาย
ผู้คนมักง่าย ระบายแก้เซ็ง

(ไม่ได้เกี่ยวกับบ้านกลอนไทยนะครับ  emo_85)





สงสัยป๋าอยู่ดับเพลิงเมื่อเพลิงไหม้
ครั้นจะไปดับไฟตอนรีบเร่ง
น้ำเหลืออยู่สักกะแป๋งเท่านั้นเอง
แกจึงเกรงหลีกตัวเพราะกลัวไฟ



 emo_26

ปล:ชวนขำ


หัวข้อ: Re: น้ำน้อยแพ้ไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: บอม ซอง ดุ๊ก ที่ 09 สิงหาคม 2011, 11:39:PM

(http://www.ohzeed.com/bar_131.gif) (http://www.ohzeed.com)

~สู้จน..เหลือน้ำหยดสุดท้าย~



เข้าเมืองหลิ่ว ต้องหลิ่วตา ภาษิตสอน
จึงสะท้อน สังคม ผสมสี
คนใดเหนือ เกื้อได้ ใคร่ภักดี
คนไม่มี ตีดับ จับนั่งยาง

อันน้ำน้อย ร่อยหรอ ไม่พอรด
มิอาจบด ไฟแรง แสงสะพร่าง
ใครเลื่อมศรี มีหลัก ชักไว้กลาง
ใครยากเข็ญ เป็นหาง เอาร่างรอง

หนึ่งชีวิต เท่ากัน ครั้นประหลาด
เพียงเชื้อชาติ บาทใหญ่ ไร้สมอง
ยกหลักการ ผลาญแผก แลกสมปอง
แม้นพี่น้อง เลือดเนื้อ..ยังเถือแทง

ทางคนดี มืดมิด ไม่คิดร่วม
จึงขอรวม ร่วมบาป ที่ฉาบแสง
ขอกุมเกี่ยว เคี้ยวคด บทแสดง
ขอเสแสร้ง แกล้งยอ..ขอส่วนบุญ

หากคนดี ขยับ สับให้แหลก
ผู้ต่างแตก แหกรั่ว ต้องหัวหมุน
ใครล้วงตับ สับทิ้ง ยิงให้พรุน
ใครสนับ รับสนุน..คุณเพื่อนเรา

โลกกว้างใหญ่ ไร้ที่ยืน ไร้พื้นที่
พ่อคนดี ถูกแร้น อย่างแสนเศร้า
แม่คนดี ถูกไล่ ไร้แม้เงา
แล้วจะเอา อะไร??..ในภาพลวง!!

กำแพงกั้น สูงใหญ่ แต่ไร้ฐาน
เพียงไม่นาน ลมบาป จะสาปร่วง
เพียงไม่นาน รอยกรรม จะย้ำทวง
อย่าคิดถ่วง บ่วงไฟ ในใจตน

จงยืดหยัด ความดี ที่เนื้อแท้
ต่อให้แม้ เพลิงไฟ ก็ไร้ผล
แม้นร่างไร้ ใจเหลือ เอื้อมวลชน
เพื่ออีกคน ผู้ทนสู้ อยู่ด้วยใจ

หยดน้ำหนึ่ง ถึงปลายทาง อย่างองอาจ
ด้วยอำนาจ ความดี ที่ไสว
หนึ่งหยดเหงื่อ อ่อนเพลีย ที่เสียไป
มิสิ้นไร้ ดอกสู...สู้ต่อไป




ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆความดี ที่กำลังต่อสู้อยู่ในโลกนี้ครับ    emo_54


 
 

บอม ซอง ดุ๊ก

(http://www.ohzeed.com/bar_131.gif) (http://www.ohzeed.com)


หัวข้อ: Re: น้ำน้อยแพ้ไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenMonkey ที่ 10 สิงหาคม 2011, 01:07:AM
ไฟที่ลาม แรงร้อน สะท้อนโศก
ความวิโยค ย่อยยับ ยากดับได้
เพลิงราคะ อวิชชา คร่าหัวใจ
ก็โหมไหม้ ชีวี ทีละนิด

เติมกิเลส เพียงน้อย แต่ร้อยเล่ห์
ยิ่งเหมือนเท น้ำมันหยด รดดวงจิต
เพียงธุลี ที่ระเริง เร่งเพลิงพิศ
ให้หลงติด มวลร้อน กลางฟอนฟืน

แม้น้ำหนึ่ง ใสสะอาด มาหยาดหยด
ก็เพียงรด แล้วหาย มิวายสะอื้น
ใช้หยาดธรรม นำทาง อย่างยั่งยืน
เพื่อทวงคืน ชีวัน อันงดงาม

ปาดน้ำตา ปาดเหงื่อ ที่เจือผิว
แล้วแลลิ่ว หนทาง ที่ย่างข้าม
เติมน้ำน้อย ที่ละนิด คิดทวนความ
จนล้นหลาม ธารน้ำใจ ดับไฟร้าย

.. GreenMonkey ..