...ตะวันรอน...
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
10 พฤษภาคม 2024, 10:41:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ...ตะวันรอน...  (อ่าน 8341 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
01 กันยายน 2010, 04:38:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« เมื่อ: 01 กันยายน 2010, 04:38:PM »
ชุมชนชุมชน

๐  ตะวันรอน  ๐

     ๐  ตะวันลับเมฆหมอกหยอกขอบฟ้า
เหลี่ยมกายาพาลับพับจางหาย
เมื่อทิวาลาล่วงล้ำยวงกาย
เข้าทักทายพอชื่นก็ยื่นตรม
 
      ๐  ตะวันลับเหลี่ยมขอบมอบความซ้ำ
ทักระกำนำติดชิดขื่นข่ม
เมื่อความรักสลักปักระบม
ใจซาซมเหลือแต่ซากย้ำฝากใจ
 
      ๐ ตะวันเอ๋ยน้อยค่าราคาด้อย
คนต่ำต้อยน้อยค่าจะหาไหน
มีความรักปักแทงทำแกงไป
ขอลาไกลในน้ำคำที่นำเชย
 
        ๐  จึงชินชาอาสัญในวันรัก
คนอกหักไร้จิตไม่คิดเผย
หัวใจด้านกร้านชาลารักเลย
น้ำตาเอ๋ยเลยล่วงเข้าบ่วงใจ

       ๐  เมื่อต้นรักเหี่ยวเฉาไร้เจ้าหนุน
ขาดเจือจุนอุ่นเนื้อเพื่อคนไกล
เมื่อเขามีคนรักเข้าพักใน
เหตุไฉน...ใจเล่า...เราไม่ลืม....

*******************************

...ท้อจนแท้แพ้พลัดลัดทางคด
โศกกำสรดกับเรื่องราวแต่คราวหลัง
ใช่อยากครวญร่ำไรให้ใครฟัง
เจ็บที่ฝังยังย้ำเหมือนซ้ำเติม..

...เมื่อรักจางทางเศร้าเข้ารานรุก
ใจเคยสุขมีเศร้ามาเนาเสริม
บนเส้นทางที่ห่างไกลใจเดิมเดิม
ใครจะเติมเต็มฝัน...บอกฉันที


ปล....ใจไม่เคยลืมวันเขาจาก
        จึงเป็นซากฝากให้ในวิถี
        ใช้เวลาลบล้างจางชีวี
        แต่ฤดีก็ยังจำ...นำฝังใจ...

ปล2....จึงอำลาด้วยกลอนเศร้า
          เมื่อบางเบาจะเข้าจารบนลานกลอน...
ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
01 กันยายน 2010, 05:36:PM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #1 เมื่อ: 01 กันยายน 2010, 05:36:PM »
ชุมชนชุมชน






Oo..วอนตะวัน..oO

ตะวันรอนรอน ใจฉันก็อ่อน ไปตามตะวัน
ไม่อยากหลับฝัน ไปในราตรี  ที่ไร้เงาเธอ
ต้องข่มตาหลับ อยู่กับฝันร้าย เรื่อยมาเสมอ
ฉันจึงต้องเพ้อ บอกกับตะวัน...อย่าจากกันไป

อยากหยุดเวลา อยู่เพียงแค่นี้ ไม่มีค่ำคืน
ฉันต้องทนฝืน อยู่กับความทุกข์ อีกนานแค่ใหน
ขอเถิดตะวัน ช่วยหยุดความฝัน ลบมันจากใจ
อย่าหนีกันไป เพราะในหัวใจ ฉันมันมืดตาม 

บอม ซอง ดุ๊ก



ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
01 กันยายน 2010, 09:10:PM
ไม่รู้ใจ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 568
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 593


« ตอบ #2 เมื่อ: 01 กันยายน 2010, 09:10:PM »
ชุมชนชุมชน


ตะวันเอย ใยรีบ จากท้องฟ้า
ดวงดารา ขึ้นทอแสง แข่งราศี
แต่ยังไง ก็ต้องพึ่ง เจ้าอยู่ดี
ขวัญชีวี จงอยู่ร่วม เคียงคู่จันทร์

บางครั้งสี ตะวัน ให้หม่นหมอง
ยามเฝ้ามอง จ้องแล้ว มิสุขสันต์
แต่เมื่อถึง เวลา ฉายแสงพลัน
ทุกอย่างมัน กระจ่างแจ้ง แห่งความนัย


ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 กันยายน 2010, 11:46:PM
ปรางทิพย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 355
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 429



« ตอบ #3 เมื่อ: 01 กันยายน 2010, 11:46:PM »
ชุมชนชุมชน



ตะวันรอนอ่อนแสงสีแดงฉาน
ส่องแทรกผ่านม่านฟ้าน่าฉงน
ดั่งน้อยเนื้อเบื่อเศร้าเหงากมล
ทั่วเวหนหม่นหมองร่ำร้องไป

ตะวันรอนอ่อนล้าพาเงียบเหงา
ตัดเมฆเทาเศร้าหม่นสุดทนไหว
เหมือนจะบอกยอกยับสุดคับใจ
ก่อนลาไกลใกล้พลบแล้วลบเลือน


ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 กันยายน 2010, 06:35:PM
กุลมาตา(singlemom99)
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,710



« ตอบ #4 เมื่อ: 02 กันยายน 2010, 06:35:PM »
ชุมชนชุมชน



..ตะวันรอนๆ..แสงอ่อนคลาย..
..ลมอุ่นๆ โบกมือทักทาย..ให้คลายร้อนรุ่ม..
..จันทร์ดวงกลมโต..โผล่มาให้เห็น เป็นเงาตะคุ่ม..
..อีกไม่ช้า..แสงนวลนุ่ม..จะเริ่มฉาย..ในยามค่ำคืน..
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 กันยายน 2010, 09:54:PM
ดาวระดา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 369
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 595



« ตอบ #5 เมื่อ: 02 กันยายน 2010, 09:54:PM »
ชุมชนชุมชน

ตะวันสาดส่องสายพรายพราววับ
ระยิบยับกับแสงสีแดงส้ม
เวิ้งว้างใจให้ฝันตะวันจม
น่าชูชมลมโชยโรย.....ระบำ

งามตาตะวันรอนดอนหอยหลอด
ความมืดบอดลอดไต่บอกใกล้ค่ำ
หมู่นางนวลยวนยั่วทั่วพื้นน้ำ
ในยามย่ำค่ำย่างบางจะเกร็ง

ปล.ที่เที่ยวที่ใกล้บ้านที่สุด
ปล2.เก่งจังน้องชายผมต่อไปได้เยี่ยมครับ
 
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 กันยายน 2010, 10:38:PM
บ้านกลอนไทย
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 533
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 962


จิ๊กโก๋...กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ฮ่าๆ


« ตอบ #6 เมื่อ: 02 กันยายน 2010, 10:38:PM »
ชุมชนชุมชน



o นางนวลเอ๋ย เคยรัด ก่อนยัดปาก
อร่อยมาก ซากเจ้า เรามะเส็ง
อาศัยอยู่ คู่ดอนฯ ต้อนกินเอ็ง
ยิ่งวันเพ็ง เล็งเหยื่อ หาเนื้อทาน




แบบว่า.....ซ่อนไว้ดีกว่าเนาะ แอบกินนกท่านพี่ ฮ่าๆ

   ขำแบบกระแดะหน่อยๆ
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

05 กันยายน 2010, 08:42:PM
มหาซัง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 302
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 398


โลกคือโรงละครโรงใหญ่ เราคือผู้เขียนบทและแสดง


« ตอบ #7 เมื่อ: 05 กันยายน 2010, 08:42:PM »
ชุมชนชุมชน


ตะวันรอน อ่อนแสง สีแดงก่ำ   
ฟ้ามืดดำ ค่ำแล้ว ไม่แคล้วเหงา     
เริ่มวังเวง เคว้งคว้าง รอบข้างเรา   
ภาพวันเก่า เคล้าคลอ พะนอใจ 

ตอนที่เธอ ทิ้งฉัน เมื่อวันก่อน 
เฝ้าวิงวอน งอนง้อ ขอเริ่มใหม่     
สิ่งตอบแทน แฟนเรา เขาทำไว้ 
เดินจากไป ไกลห่าง ระหว่างตา

หัวใจแตก แหลกเหลว ตกเหวเศร้า 
ทิ้งรักเรา เก่าไป จนไร้ค่า   
สิ้นสุดกัน วันหวาน ที่ผ่านมา     
ย้อนเวลา อย่าหวัง อย่างตั้งใจ

มหาซัง น้อยใจแล้วด้วย น้อยใจแล้วด้วย น้อยใจแล้วด้วย
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 กันยายน 2010, 03:29:PM
พิมพิลาไลย
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 168
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,011



« ตอบ #8 เมื่อ: 07 กันยายน 2010, 03:29:PM »
ชุมชนชุมชน



ตะวันรอน อ่อนลง โค้งขอบฟ้า
สุดสายตา พาใจ เริ่มไหวหวั่น
อยู่กับเหงา เศร้าซม ตรมทุกวัน
เพ้อรำพัน ฝันหา เธอมาครอง

อยู่แห่งไหน ใยหลบ เหมือนพลบค่ำ
ฟ้ามืดดำ ย่ำราตรี ที่มัวหมอง
เฝ้ารอรัก หนักอุรา น้ำตานอง
ได้แต่มอง จ้องขอบฟ้า เพื่อหาเธอ



พิมพิลาไลย


ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 กันยายน 2010, 04:07:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« ตอบ #9 เมื่อ: 07 กันยายน 2010, 04:07:PM »
ชุมชนชุมชน



ตะวันรอน อ่อนลง โค้งขอบฟ้า
สุดสายตา พาใจ เริ่มไหวหวั่น
อยู่กับเหงา เศร้าซม ตรมทุกวัน
เพ้อรำพัน ฝันหา เธอมาครอง

อยู่แห่งไหน ใยหลบ เหมือนพลบค่ำ
ฟ้ามืดดำ ย่ำราตรี ที่มัวหมอง
เฝ้ารอรัก หนักอุรา น้ำตานอง
ได้แต่มอง จ้องขอบฟ้า เพื่อหาเธอ



พิมพิลาไลย


...ทอประกายสาดแสงส่งแรงฝัน
ปลุกคืนวันที่มีเราเฝ้าเสนอ
ตะวันคล้อยลาไกลขอใจเจอ
เพียงละเมอได้แต่เงาเจ้าหรือไร

...แม้อ่อนแรงแสงอยู่เพื่อคู่เจ้า
แม้จะเศร้าเมฆปนจนหวั่นไหว
คงแวะมาถ้าเธอรอท้อเมื่อใด
ตะวันใจ...จะทอแสง...แฝงเมฆา...มาสู่เธอ...
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
09 กันยายน 2010, 08:05:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #10 เมื่อ: 09 กันยายน 2010, 08:05:PM »
ชุมชนชุมชน



.........ตะวันเอ๋ย..ตะวันฉาย
ในความหมาย ว่าแสงส่องให้มองเห็น
จากมืดมัวสลัวซ้ำให้ลำเค็ญ
ก็กลับเป็น เห็นสว่าง ฉายทางเดิน

....แต่ยังมีมุมลับ..ที่อับแสง
ที่ฉายแทง ส่องไป  ได้ขัดเขิน
มองไม่เห็น สิ่งเลวร้าย ไม่ได้เชิญ
ก็บังเอิญ เผชิญหน้า ผู้มาเยือน

.....จะเป็นความผิดหวัง หรือพลั้งพลาด
จะเป็นความประมาท ที่อาจเฉือน
จะเป็นเพราะไม่จำ คำพร่ำเตือน
ทำเสมือน....ไม่เป็นไร..แต่ใจตรม

.....แต่สุดท้าย ไม่อาจฝืน ยืนขึ้นบอก
ว่าถูกหลอก ถูกลวง ดวงใจขม
ว่าที่ผ่าน รักหวาน ทำให้ตรม
ว่าตัวเอง เจ็บระบม....ต้องซมซาน

.....ต้องปลอบใจ ว่าใคร ก็เคยช้ำ
ถูกกระทำ คำลวงบอก หลอกคำหวาน
ต้องใช้ยา..”เวลา” รักษานาน
ปิดประตู ลงดาน..บานใจเอย
นางเอกร้อยไห้
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 กันยายน 2010, 12:39:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« ตอบ #11 เมื่อ: 10 กันยายน 2010, 12:39:PM »
ชุมชนชุมชน



.........ตะวันเอ๋ย..ตะวันฉาย
ในความหมาย ว่าแสงส่องให้มองเห็น
จากมืดมัวสลัวซ้ำให้ลำเค็ญ
ก็กลับเป็น เห็นสว่าง ฉายทางเดิน

....แต่ยังมีมุมลับ..ที่อับแสง
ที่ฉายแทง ส่องไป  ได้ขัดเขิน
มองไม่เห็น สิ่งเลวร้าย ไม่ได้เชิญ
ก็บังเอิญ เผชิญหน้า ผู้มาเยือน

.....จะเป็นความผิดหวัง หรือพลั้งพลาด
จะเป็นความประมาท ที่อาจเฉือน
จะเป็นเพราะไม่จำ คำพร่ำเตือน
ทำเสมือน....ไม่เป็นไร..แต่ใจตรม

.....แต่สุดท้าย ไม่อาจฝืน ยืนขึ้นบอก
ว่าถูกหลอก ถูกลวง ดวงใจขม
ว่าที่ผ่าน รักหวาน ทำให้ตรม
ว่าตัวเอง เจ็บระบม....ต้องซมซาน

.....ต้องปลอบใจ ว่าใคร ก็เคยช้ำ
ถูกกระทำ คำลวงบอก หลอกคำหวาน
ต้องใช้ยา..”เวลา” รักษานาน
ปิดประตู ลงดาน..บานใจเอย
นางเอกร้อยไห้



...มีเพียงแสงที่ส่องฉายประกายผ่อง
ส่งเทียวล่องให้เห็นเป็นเช่นเผย
แต่ข้างในใครเล่าจะเข้าเชย
จะรู้เลยเคยเจ็บเก็บน้ำตา

...ใช้ "เวลา" รักษายังว่ายาก
ทุกบทจากยังจำติดสถิตหา
เฝ้าทบทวนครวญพร่ำพรรณา
สุดท้ายมาก็มิอาจตัดขาดใจ

...หวังปิดตายทุกรอยที่คอยเฝ้า
ลืมรักเขาในแก่นสารอย่าพานไหว
ลบอดีตที่กรีดฝังครั้งเป็นไป
สู่วันใหม่สว่างรอทอตะวัน...
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s