พิมพ์หน้านี้ - กลอนซ่อนโคลง : โฉมเจ้า : หทัยข้า

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนแอบรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: พิมพ์วาส ที่ 06 ตุลาคม 2012, 04:05:PM



หัวข้อ: กลอนซ่อนโคลง : โฉมเจ้า : หทัยข้า
เริ่มหัวข้อโดย: พิมพ์วาส ที่ 06 ตุลาคม 2012, 04:05:PM
นัยน์เนตรพิศฉาบล้ำนิลดำหวาน         นัยน์เนตรพิศฉาบล้ำ        นิลดำ
กรอบหน้าจารขำผ่องพริ้งระหง            หวานกรอบหน้าจารขำ    ผ่องพริ้ง
ร่างทองคำเยื้องย่างหยาดแลคง-         ระหงร่างทองคำ              เยื้องย่าง หยาดแล 
ประจักษ์หลงทิ้งอกซึ้งวางวาย             คงประจักษ์หลงทิ้ง-       อกซึ้งวางวาย

แพรผมหลุดขอบหน้าปรกลาแก้ม       แพรผมหลุดขอบหน้า        ปรกลา 
ปริ่มหน้าแย้มคราสะเทิ้นไม่หาย         แก้มปริ่มหน้าแย้มครา        สะเทิ้น
หวั่นอกพาข้าแอบ...รักฤากลาย        ไม่หายหวั่นอกพา               ข้าแอบ รักฤา
ห่วงแหนคล้ายเอิ้นอกให้รักจริง          กลายห่วงแหนคล้ายเอิ้น    อกให้รักจริง

ยิ่งพิศรูปเพ่งแล้วหมายใจสั่น                 ยิ่งพิศรูปเพ่งแล้ว            หมายใจ                     
สะท้านหวั่นไหวจิตต้องโฉมหญิง       สั่นสะท้านหวั่นไหว        จิตต้อง
ผุดยองใย.... ไร้ที่ติฤาติง                  โฉมหญิงผุดยองใย          ไร้ที่ ติฤา
กักไว้สิ่งพ้องแซ่ซ้องในทรวง                  ติงกักไว้สิ่งพ้อง              แซ่ซ้องในทรวง

วจีหวามหยาดถ้อย.... ถักทอไว้         วจีหวามหยาดถ้อย          ถักทอ
เปิดความนัยขอโจ่งแจ้งคำหวง          ไว้เปิดความนัยขอ           โจ่งแจ้ง
โปรดสานกอรักเถิดแม่ราดวง             คำหวงโปรดสานกอ-      รักเถิด แม่รา
หทัยลวงแกล้งร่ำย้ำอย่าเลย...           ดวงหทัยลวงแกล้ง          ร่ำย้ำอย่าเลย...

(http://www.qzub.com/bar_208.gif) (http://www.qzub.com)


หัวข้อ: Re: กลอนซ่อนโคลง : โฉมเจ้า : หทัยข้า
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 06 ตุลาคม 2012, 11:12:PM
สุริยันส่องแสงฉาบท้องฟ้า.....สุริยาท่องฟ้า        แสงฉาย
สีทองเหลื่อมฟ้าพรรณราย.....สีส่งสลับลาย        ส่องหล้า
หมู่เมฆลอยบดบังกลบหาย.....เมฆาก่อเรียงราย   เกินกว่า
เป็นเงามืดปกคลุมกระจายมา...แสงส่องเคยเจิดจ้า ผ่านพ้นหนใด

นพ
6ต.ค.55


หัวข้อ: Re: กลอนซ่อนโคลง : โฉมเจ้า : หทัยข้า
เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 07 ตุลาคม 2012, 12:17:AM




ใช่จะคุยข่มเจ้าเราผยอง             ใช่จะคุยข่มเจ้า      เราผยอง
มีท่าทางจองหองเช่นนั้นได้        มีท่าทางจองหอง    เช่นนั้น
แต่ค่อยค่อยมองมองสรูปไป      ได้แต่ค่อยค่อยมอง    มองสรูป
ที่ท่านใช้ชั้นเช่นเน้นกวี             ไปที่ท่านใช้ชั้น      เช่นเน้นกวี


ยากแฮะ  แต่งโคลงเป็นโคลง  แต่งกลอนเป็นกลอนดีกว่ามั้ง


                               emo_68




หัวข้อ: Re: กลอนซ่อนโคลง : โฉมเจ้า : หทัยข้า
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 07 ตุลาคม 2012, 11:02:AM
เป็นไอเดียที่ไม่เลว ขอแจมบ้างครับ

(โคลงกลอน)

        เป็นรอยจารผ่านแจ้ง       แจงคำ
ร้อยพจน์พร่างพร้อยนำ            จิตรู้
คิดฝันสิ่งควรทำ                     ฉ่ำชื่น  คืนแล
วันสุขควรปันผู้                       อื่นแม้นชื่นชนม์ ฯ

        ดลใจตื่นชื่นหล้า           พาโลก
เปลี่ยนสุขทุกข์เวียนโศก         หว่างเศร้า
บางหนอาจชื่นโชค                โบกทัก   รักฤๅ
กลจิตกุศลเฝ้า                      ฝึกรู้ตรึกธรรม ฯ



(ถอดแล้ว)

        เป็นรอยจารผ่านแจ้งแจงคำร้อย
พจน์พร่างพร้อยนำจิตรู้คิดฝัน
สิ่งควรทำฉ่ำชื่นคืนแลวัน
สุขควรปันผู้อื่นแม้นชื่นชนม์ ฯ

        ดลใจตื่นชื่นหล้าพาโลกเปลี่ยน
สุขทุกข์เวียนโศกหว่างเศร้าบางหน
อาจชื่นโชคโบกทักรักฤๅกล
จิตกุศลเฝ้าฝึกรู้ตรึกธรรม ฯ


กามนิต, 7 ต.ค. 55


หัวข้อ: Re: กลอนซ่อนโคลง : โฉมเจ้า : หทัยข้า
เริ่มหัวข้อโดย: ค.คนธรรพ์ ที่ 08 ตุลาคม 2012, 10:42:AM
คุ้นๆว่า เคยเห็นในหนังสือเรื่องกวีนิพนธ์ไทยแต่งโดยอาจารย์สุภาพร มากแจ้ง 
เปิดดูก็พบจริงๆ เป็นตัวอย่างประดิษฐ์การทางฉันทลักษณ์ที่กวีเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์นำเสนอไว้ในงานกวีนิพนธ์เรื่อง “ชักม้าชมเมือง”       
รูปแบบร้อยกรองอันแปลกใหม่นี้ กำหนดให้อ่านรวมเป็นกลอนและอ่านแยกเป็นโคลงได้โดยตั้งชื่อไว้ว่า “โคลงกลอน” และ “กลอนโคลง”


                               โคลงกลอน

  พิเศษสารเสกสร้าง                 รังสรรค์
สารประจงจารฉันท –               ภาคพริ้ง
พรายฉายเฉกเพชรพรรณ          เพราเฉิด เลิศแล
ลายระยับสายสะอิ้ง                   ส่องสร้อยกรองทรวง

  ดวงดอกไม้มิ่งแก้ว                 โกมุท
มาศเอี่ยมสะอาดพิสุทธิ์           ฉ่ำซึ้ง
คำหลวงโรจน์รุ่งดุจ                  ดาวฤกษ์ เบิกรา
ดวงประดับรวงผึ้ง                    ร่ำน้ำคำกวี

  ชีวิตนิดหนึ่งน้อย                 นี้หนัก
นักปราชญ์ประจักษ์หลัก     แน่ล้วน
หน่ายหนีทุกข์สุขศักดิ์          สรรพทั่ว ชั่วแล
ดีใช่ดีถี่ถ้วน                            เท็จล้วนเลศนัย

  ใช้ชีพนี้ชี้เช่น                       เป็นแบบ
บทประจงจดแนบ                เนื่องร้อย
เรื่องไขหลากข้อแยบ          ยลคิด จิตฤๅ
ใจจักสอดใส่สร้อย              สว่างไว้ทางกวี

                                                 กลอนโคลง

  พิเศษสารเสกสร้างรังสรรค์สาร              ประจงจารฉันทภาคพริ้งพรายฉาย
เฉกเพชรพรรณเพราเฉิดเลิศแลลาย         ระยับสายสะอิ้งส่องสร้อยกรองทรวง

  ดวงดอกไม้มิ่งแก้วโกมุทมาศ                  เอี่ยมสะอาดพิสุทธิ์ฉ่ำซึ้งคำหลวง
โรจน์รุ่งดุจดาวฤกษ์เบิกราดวง                 ประดับรวงผึ้งร่ำน้ำคำกวี

  ชีวิตนิดหนึ่งน้อยนี้หนักนัก                     ปราชญ์ประจักษ์หลักแน่ล้วนหน่ายหนี
ทุกข์สุขศักดิ์สรรพทั่วชั่วแลดี                   ใช่ดีถี่ถ้วนเท็จล้วนเลศนัย

  ใช้ชีพนี้ชี้เช่นเป็นแบบบท                        ประจงจดแนบเนื่องร้อยเรื่องไข
หลากข้อแยบยลคิดจิตฤๅใจ                       จักสอดใส่สร้อยสว่างไว้ทางกวี

สำหรับหนังสือที่ผมกล่าวถึง ฉบับสมบูรณ์มีสองเล่มด้วยกัน 
เป็นตำรับร่วมสมัยที่ยอมรับนับถือกันในวงวิชาการภาษาไทยว่า
รวบรวมฉันทลักษณ์ของกวีนิพนธ์ไทยไว้มากที่สุด   
อาจารย์ภาควิชาภาษาไทยบางท่านในระดับอุดมศึกษา
ใช้เป็นตำราเล่มหลักในวิชาการประพันธ์กวีนิพนธ์ไทย       
เพื่อนนักกวีผู้ใฝ่ใจเอาจริงเอาจังในเรื่องรูปแบบร้อยกรองไทย   
ควรมีติดมือไว้ จะช่วยขยายความรอบรู้ฉันทลักษณ์ร้อยกรองไทยได้อย่างกว้างขวาง
 
กวีนิพนธ์ไทย แต่งโดยสุภาพร มากแจ้ง
พิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๓๕   สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์
(แม้นพิมพ์เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว  แต่ปัจจุบันอาจพอหาได้ โทรถามสำนักพิมพ์ หรือหาตามร้านหนังสือเก่า)




หัวข้อ: Re: กลอนซ่อนโคลง : โฉมเจ้า : หทัยข้า
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 17 กันยายน 2013, 02:05:PM
....อย่ามัวก่นร่ำถ้อย.........ชื่นชม
ควรมุ่งลับเหลี่ยมคม..........เฉียบกล้า
ลำบากส่งสุขสม..............สำเร็จ
ริเริ่มอย่าชักช้า................จักได้ดั่งหวัง

ก่น ก. ตั้งหน้า, มุ่ง
ร่ำ ก. พูดซํ้า ๆ
เฉียบ ว. ยิ่งนัก, จัด
ริเริ่ม ก. เริ่มคิดเริ่มทําเป็นคนแรก (มักใช้ในทางดี)