:+: เหนือน้ำค้าง :+:
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
12 พฤษภาคม 2024, 05:00:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: :+: เหนือน้ำค้าง :+:  (อ่าน 8540 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
10 มีนาคม 2012, 03:36:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« เมื่อ: 10 มีนาคม 2012, 03:36:PM »
ชุมชนชุมชน



ขอบคุณภาพจาก DesktopNexus  ครับ

:+:    เหนือน้ำค้าง    :+:



แม้จะระบายฝันตะวันรุ่ง
ขอบโค้งคุ้งม่านฟ้าทาบทาสี
เป็นแนวขาวอุษาสุดธาตรี
ของระวีเจือจางอันว่างเวิ้ง

แซมส้มเทาเงาเมฆวิเวกว้า
แสงศรัทธาบางบางจึงค้างเติ่ง
ขวัญที่เคยแกร่งกล้าก็กระเจิง
หลงระเริงภาพฝันตะวันรอน

ที่งดงามแรมเดือนก่อนเลือนลบ
ตะวันพลบสนธยาของวันก่อน
ซ่อนสีเทาบังสิ้นทินกร
เจิดกำจรวาดกวีด้วยสีน้ำ

บนภาพเขียนสุดท้ายระบายฝัน
ของพู่กันปลายนุ่มชุ่มชื่นฉ่ำ
จากหลอดหมึกหยอดสีจุ่มสีดำ
เป็นเงาคล้ำทารอบที่ขอบฟ้า

ผสมสีน้ำค้างให้จางจาง
วาดทุ่งว้างทางหม่นปนหมอกหนา
ส่งตะวันพักผ่อนก่อนเวลา
ให้รู้ว่าศรัทธาหรือมีจริง

แต่..น้ำค้างซาบซับแล้ววับหาย
ปริ่มสุดท้ายเลือนลางกับบางสิ่ง
ซ่านซึมลึกคลอนัยน์ไม่เคยนิ่ง
ไม่รู้สิงสู่หน้าของตาใคร..?



รการตติ


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, ไพร พนาวัลย์, ปาระ, เมฆา..., บูรพาท่าพระจันทร์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, สุนันยา, baimai@sailom, สุวรรณ, พิมพ์วาส, สะเลเต, Music, ภู กวินท์, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, Prapacarn ❀, เนิน จำราย, MASAPAER, ♥หทัยกาญจน์♥, panthong.kh, amika29, กาญจนธโร, ...สียะตรา.., พี.พูนสุข, plang, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 26 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
10 มีนาคม 2012, 07:41:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #1 เมื่อ: 10 มีนาคม 2012, 07:41:PM »
ชุมชนชุมชน




หยดน้ำค้าง พร่างพรม คราลมหนาว
ดูแวววาว  เกาะกอด ยอดไม้ไหว
แต่น้ำตา หลั่งนอง  ณ ห้องใจ
ยังค้างใน หนักหน่วง อยู่ห้วงจินต์

ในคืนหนาว ร้าวรอน ใจอ่อนล้า
ปาดน้ำตา ไห้หวน ครวญถวิล
ไร้แสงสาด วาดวาง ยามหลั่งริน
ให้เหือดแห้ง หมดสิ้น มลทินเลือน

อรุณรุ่ง แสทอง ทาบท้องฟ้า
น้ำค้างลา แห้งหาย ไร้รอยเกลื่อน
ด้วยระวี ที่วาง แสงจางเยือน
ลบรอยเปื้อน เลื่อนไกล จากใบบัง

คงมีแต่ คนเหงา เจ้าน้ำตา
ที่ปวดปร่า ล้าจินต์ สิ้นความหวัง
ความทรงจำ เวียนว่าย ใจภินท์พัง
กับความหลัง ครั้งก่อน ที่ย้อนทวน....

“สุนันยา” 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Music, ภู กวินท์, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, Thammada, รการตติ, Prapacarn ❀, ยามพระอาทิตย์อัสดง, เนิน จำราย, สะเลเต, บูรพาท่าพระจันทร์, MASAPAER, ♥หทัยกาญจน์♥, amika29, กาญจนธโร, พี.พูนสุข, plang, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
12 มีนาคม 2012, 01:01:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #2 เมื่อ: 12 มีนาคม 2012, 01:01:PM »
ชุมชนชุมชน







เก็บภาพฝันเอาไว้อย่าให้หาย
เมื่อเธอหน่ายวันใดใส่ใจหวน
ไม่อยากให้ร้างไปไกลเกินควร
น้ำตานวลหลั่งนองอย่าครองนาน

หากน้ำค้างปรางชิดในจิตหมอง
จะประคองปองพิศจิตประสาน
บรรจงเพียรซับน้ำตาอย่าเกินกาล
ให้ผันผ่านวันนี้ที่รอคอย

คลื่นน้ำค้างทางรักจะหนักแน่น
แม้จะแสนคนึงหาพาเศร้าสร้อย
ตระหนักถึงที่หมายเหมือนใจลอย
คงอีกหน่อยลบรอยเปื้อนที่เยือนใจ

เก็บทรงจำย้ำเยือนเตือนความหลัง
ให้หยุดยั้งวันเศร้าคราวหวั่นไหว
จะซับเคียงน้ำตาด้วยมาลัย
เป็นน้ำใจอ้อมฝันฉันคนนี้

แม้ยามใดห่างไปใช่เพียงผ่าน
ถึงจะนานยังศรัทธามาที่นี่
น้ำค้างจางอย่าค้างใจสานไมตรี
ให้คนดีรับรู้ไว้ว่าใจรัก

ซับน้ำตาแทนใจด้วยไออุ่น
อย่าข้องขุ่นละมุนขวัญฉันประจักษ์
ยามใดที่อ่อนล้าเหว่ว้านัก
ส่งใจภักดิ์รักเจือ..เหนือน้ำค้าง..



รการตติ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, สะเลเต, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, Thammada, MASAPAER, ♥หทัยกาญจน์♥, panthong.kh, amika29, กาญจนธโร, ...สียะตรา.., Music, พี.พูนสุข, ไม่รู้ใจ, plang, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
12 มีนาคม 2012, 08:57:PM
ยามพระอาทิตย์อัสดง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 691
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,437


~ ทุกถิ่นแถนแดนอักษร ~


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 12 มีนาคม 2012, 08:57:PM »
ชุมชนชุมชน



ยะย้อยหยาดร่วงรด-จรดพื้น
แผ่วลมรื่นชื่นปรุงยามรุ่งสาง
อุษาอุ่นกรุ่นหวนอาบอวลทาง
คละน้ำค้างพร่างพริบระยิบพราย

รังสิมันต์สาดแสงแจ้งทั่วหล้า
แหล่งธาราวาววับรับเฉิดฉาย
บุปผชาติเฟื่องจรุงฟุ้งกระจาย
หวามมิวายหมายครองคล้องนภา

หยาดหนึ่งหยดพิรุณละมุนเอื้อ
จารจุนเจือเผื่อแผ่แด่-วหา
จึงหลั่งไหลสู่ดินถิ่นพนา
มวลมัจฉาเริงร่ายรำบายจินต์


~ พระอาทิตย์อัสดง ~


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, สะเลเต, panthong.kh, รพีกาญจน์, สุนันยา, amika29, Thammada, กาญจนธโร, สิงขร, ...สียะตรา.., บูรพาท่าพระจันทร์, Music, รการตติ, พี.พูนสุข, ไม่รู้ใจ, plang

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อัสดง..ขอขอบคุณภาพสวยๆจากอินเตอร์เนต..
http://noisunset.blogspot.com/
Thinking about you makes me smile...
13 มีนาคม 2012, 04:14:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #4 เมื่อ: 13 มีนาคม 2012, 04:14:PM »
ชุมชนชุมชน







เก็บภาพฝันเอาไว้อย่าให้หาย
เมื่อเธอหน่ายวันใดใส่ใจหวน
ไม่อยากให้ร้างไปไกลเกินควร
น้ำตานวลหลั่งนองอย่าครองนาน

หากน้ำค้างปรางชิดในจิตหมอง
จะประคองปองพิศจิตประสาน
บรรจงเพียรซับน้ำตาอย่าเกินกาล
ให้ผันผ่านวันนี้ที่รอคอย

คลื่นน้ำค้างทางรักจะหนักแน่น
แม้จะแสนคนึงหาพาเศร้าสร้อย
ตระหนักถึงที่หมายเหมือนใจลอย
คงอีกหน่อยลบรอยเปื้อนที่เยือนใจ

เก็บทรงจำย้ำเยือนเตือนความหลัง
ให้หยุดยั้งวันเศร้าคราวหวั่นไหว
จะซับเคียงน้ำตาด้วยมาลัย
เป็นน้ำใจอ้อมฝันฉันคนนี้

แม้ยามใดห่างไปใช่เพียงผ่าน
ถึงจะนานยังศรัทธามาที่นี่
น้ำค้างจางอย่าค้างใจสานไมตรี
ให้คนดีรับรู้ไว้ว่าใจรัก

ซับน้ำตาแทนใจด้วยไออุ่น
อย่าข้องขุ่นละมุนขวัญฉันประจักษ์
ยามใดที่อ่อนล้าเหว่ว้านัก
ส่งใจภักดิ์รักเจือ..เหนือน้ำค้าง..



รการตติ



พจน์ลำนำ ฉ่ำชื่น ที่ยื่นปลอบ
ดุจดั่งมอบ น้ำใจ ไม่เมินหมาง
จากห้วงใน ไหลริน ไม่สิ้นจาง
พี่หยิบวาง ข้างจินต์ อย่างยินดี

ฤทัยนี้ ยอมพ่าย ในค่ารัก
ที่ตระหนัก พักเคียง ไว้เพียงพี่
ซับน้ำตา แห้งหาย ด้วยไมตรี
ขอบคุณที่ อารี มีเมตตา

หยดน้ำค้าง วางยอดใบ ว่าใสสด
เปรียบไม่หมด ใจพี่ นี้ใสกว่า
ทั้งโอบเอื้อ เจือรัก ภักดิ์กานดา
มากคุณค่า กว่าเพชร เก็จละออง

ขอฝากรัก เคียงใจ ไว้แนบข้าง
ดุจน้ำค้าง ใจพี่ ไม่มีหมอง
เป็นคู่ขวัญ เคียงหมาย ในกานท์กรอง
อยู่ชิดครอง พ้องจิต สนิทนาน....

 เคารพรัก
"สุนันยา"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รการตติ, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, baimai@sailom, ไม่รู้ใจ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, สะเลเต, กาญจนธโร, ♥หทัยกาญจน์♥, plang

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
13 มีนาคม 2012, 05:35:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #5 เมื่อ: 13 มีนาคม 2012, 05:35:PM »
ชุมชนชุมชน



ยะย้อยหยาดร่วงรด-จรดพื้น
ระรมย์รื่นหอมฟุ้งยามรุ่งสาง
อุษาอุ่นกรุ่นหวนอาบอวลทาง
คละน้ำค้างพร่างพริบระยิบพราย

รังสิมันต์สาดแสงแจ้งทั่วหล้า
แหล่งธาราวาววับรับเฉิดฉาย
บุปผชาติเฟื่องจรุงคลุ้งกระจาย
หวามมิวายหมายครองคล้องนภา

หยาดหนึ่งหยดพิรุณละมุนเอื้อ
จารจุนเจือเผื่อแผ่แด่-วหา
จึงหลั่งไหลสู่ดินถิ่นพนา
มวลมัจฉาเริงร่ายรำบายจินต์


~ พระอาทิตย์อัสดง ~






ขอบคุณภาพจาก Google ครับ



ยะเยือกเย็นเวลา กับอากาศ
หยาดน้ำค้างเพียงวาดไม่ขาดวิ่น
ชโลมแต่ระอุ มธุริน
ที่โผผินรองรับกับผีเสื้อ

เมื่อนิ่งเกาะเซาะซับทับใบหญ้า
ที่เคยมาข้องแวะเคยแตะเพื่อ
ละมุนชลเปื้อนปรางน้ำค้างเจือ
อันฝันผ่องผุดเกื้อ พิสุทธิ์ชม

จนเงินยวงห้วงฟ้าตะวันออก
ระบายฝันเป็นละลอกสีเหลือง ส้ม
ขณะงวงพายุโบกกระโชกลม
เมื่อผัดเปลี่ยนอารมณ์ข่มเวลา

ลมแดดเริ่มจานเจือเหนือ น้ำค้าง
นาฏดุริยางค์ กลางแดดจ้า
ไหวผสมพรมระบำพรำระย้า
พลันใบหญ้าก็ระริ้ว ปลิวไสว

ฤดูกาล ขยับ ขนาบเยื้อง
ดั่งปลดเปลื้องระบายผ้าให้ฟ้าใส
พู่กันจุ่มสีฉ่ำอันรำไร
แต้มใบไม้ให้ระยิบระยับย่อง

อีกขณะอารมณ์อันพรมพลิ้ว
ใบไม้ปลิวเฟื่องฟุ้งจรุงผ่อง
บอกผีเสื้อหยาดน้ำละอองฟอง
จะลอยล่องวัสสา มาเยือนแล้ว



รการตติ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, บูรพาท่าพระจันทร์, baimai@sailom, ไม่รู้ใจ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, สะเลเต, รพีกาญจน์, Thammada, กาญจนธโร, ♥หทัยกาญจน์♥, plang

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
14 มีนาคม 2012, 09:54:PM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 14 มีนาคม 2012, 09:54:PM »
ชุมชนชุมชน



แต่ละเกร็ดเม็ดหยดพจน์น้ำค้าง
เปรียบดังนักเดินทางสร้างสีสัน
แต้มภาพเขียนเวียนขีดอดีตรำพัน
รำพึงฝันฝากไว้ให้ควรมอง

ยามอ่านกานท์นานช้าว่าไพเราะ
ถ้อยเสนาะสำเนียงเสียงแสงส่อง
ดั่งน้ำค้างหว่างยอดหญ้าค่าเรืองรอง
พิสุทธิ์ผ่องผุดผงาดวาดหยดน้ำ-

ค้างเกาะพราวดาวพร่างทางเส้นนี้
ร้อยวจีวาจาพางามขำ
ขอชื่นชมคมกลอนอักษรคำ
เรียงร่ายล้ำเลอเลิศเกินจิตนา

♥♥♥♥♥

“น้ำค้าง”พร่างพรมพื้นไพรพฤกษ์
เม็ดใสผลึกเลี้ยวเกาะหา
ยอดข้าวดาวรวงพ่วงข้าวมา
แวววับจับตาคราอรุณ


หทัยกาญจน์ ฤทัยกานท์
๑๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๕

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, plang, รพีกาญจน์, Thammada, รัตนาวดี, panthong.kh, บูรพาท่าพระจันทร์, รการตติ, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
19 มีนาคม 2012, 01:27:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #7 เมื่อ: 19 มีนาคม 2012, 01:27:PM »
ชุมชนชุมชน



ขอบคุณภาพจาก Google ครับ



ภาพวิมุติ ดุจหยาดวาดน้ำค้าง
ให้ใสอย่างแก้วได้ไม่ ว้าวุ่น
น้ำค้างจางหยดรับซับวรุณ
ฟ้าเทาขุ่นกำจายก็หายแล้ว

ปลายยอดหญ้าเคยหยาด วาดยอดภู
กับหยดน้ำ อณู ดูใสแจ๋ว
แม้หมอกทึบทับทาบฉาบเม็ดแก้ว
แต่ว่าแนวขอบฟ้ายังฝ้าขาว

ขณะหนึ่งคลื่นเร้นเส้นศูนย์สูตร
ละติจูดที่แฝงเส้นแวงหนาว
ภาพแผ่นดินไหวหวาดวาดเรื่องราว
น้ำค้างพราวปริ่มรดจรดนัยน์ตา

แม้จะระบายฝันตะวันรุ่ง
หวังวันพรุ่ง น้ำใสบนใบหน้า
จะหยดหยาดเปี่ยมรักอีกสักครา
ให้ท้องฟ้าหยาดกวีเป็นสีคราม



แต่..หยาดน้ำ เวลา กับอากาศ
ไม่สามารถซับซาบให้วาบหวาม
น้ำค้างเจือเหนือใจหญ้าไหวตาม
อยากจะถามน้ำค้างที่กลางใจ

ว่าที่วาบแล้วหายยามสายนั้น
ดวงตะวันสาดแสงแข่งแขไข
น้ำค้างจึงเจือจางระหว่างใบ
ปล่อยฝันให้เหลือแต่...แม่คะนิ้ง?



รการตติ
เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, Thammada, ยามพระอาทิตย์อัสดง, panthong.kh, อริญชย์, รพีกาญจน์, สุนันยา, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s