นิราศวัดป่าสุขใจห้วยหอม
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
16 พฤษภาคม 2024, 11:36:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: นิราศวัดป่าสุขใจห้วยหอม  (อ่าน 2886 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
22 ธันวาคม 2012, 12:12:PM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« เมื่อ: 22 ธันวาคม 2012, 12:12:PM »
ชุมชนชุมชน





กระผมได้มีโอกาสไปร่วมงานบุญหลวงพ่อสงบในเช้าตรู่วันนี้  จึงแต่งนิราศฉบับฝึกหัดบนรถตู้มาให้มวลมิตรได้อ่านสนุกๆนะครับ
แต่จะสนุกหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนะครับ. แหะๆๆๆๆ
ปล.คนก้มกราบคือกระผมเองครับ
เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, พี.พูนสุข, กัลมลี*, รพีกาญจน์, อริญชย์, D, ชลนา ทิชากร, Thammada, จารุทัส

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
22 ธันวาคม 2012, 12:14:PM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #1 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2012, 12:14:PM »
ชุมชนชุมชน


(จากอุดรถึงวัดสุขใจห้วยหอม ใกล้กับคุนหมิงเมืองไทย ต.ปวนพุ อ.หนองหิน จ.เลย)

๐                                                     นิราศไปไหว้พระอธิษฐาน
ณ คุนหมิงเมืองไทยในดงดาน                    บรรพตชาลชดช้อยหินย้อยยวน

๐เป็นวันเกิดพระสงฆ์องค์เคารพ                นามสงบสง่าศรีกิจถี่ถ้วน
กรรมฐานทางตรงธุดงค์ควร                     ผู้เลิศล้วนถักทอลออธรรม

๐วัดสุขใจห้วยหอมพนอมโอบ                   เหมือนป้องโลภโกรธหลงชงถลำ
วิเวกเว้นวงจรกัดกร่อนธรรม                   ช่วยเหนี่ยวนำจิตให้พิไลเรือง

๐จากอุดรแดนดินถิ่นหมี่ขิด                   มาพิชิตภูผานามกระเดื่อง
คือคุนหมิงเปล่งปลั่งมลังเมลือง              เมฆลอยเนืองแนบหน้าให้คว้าครอง

๐สองฟากฝั่งถนนต้นมะขาม                  ลูกพองามเกาะกิ่งเป็นกลุ่มก่อง
พวงระย้าน่าชิมน่าลิ้มลอง                     ยามเมียงมองน้ำลายจะไหลเชียว

๐พลขับเร่งเครื่องเสียงดังลั่น                  ก่อนตะวันตกดินจินต์เฉลียว
ด้วยต้องหาที่พักสักคืนเดียว                   รถจึงเลี้ยวรีสอร์ตบนยอดภู

๐ห่างอารามสามกิโลพอโพล้เพล้             จัดเก็บเป้สัมภาระ ณ บ้านหรู
เป็นรีสอร์ตยอดนิยมสีชมพู                    จะพักอยู่คืนเดียวอย่างเปลี่ยวใจ

๐อาหารเย็นเน้นง่ายตาลายแล้ว              น้ำพริกแจ่วปลากระป๋องอิ่มท้องได้
มะขามหวานเสิร์ฟเสริมจนเคลิ้มใจ           ปอกเปลือกไว้วางจานแบ่งกันชิม

๐หลังลิ้มรสโอชากระยาหาร                  ก็ถึงกาลพักผ่อนนอนเตียงนิ่ม
จะตื่นเช้าตักบาตรโอภาสพิมพ์               เพื่อจะอิ่มบุญดังที่หวังพร

๐ดวงสุรีย์คลี่คลายประกายฟ้า             สกุณาโผผินบินสลอน
พฤกษาพลิ้วเพลินริ้วทินกร                  ค่อยตื่นนอนเตรียมคว้าประดาบุญ

๐หินลูกรังขรุขระกระแทกรถ               ประหนึ่งบถเบื้องสวรรค์บันดาลหนุน
เพื่อทดสอบพลังใจในใบบุญ               ให้เห็นคุณคงทนเพริศผลธรรม

๐หน้าวัดจัดที่ฐานเป็นลานกว้าง          เสื่อผืนบางนั่งประนมก้มกายต่ำ
ภิกษุผ่องครองบาตรยุรยาตรนำ          พุทธธรรมมาเมตตาประชาชน

๐ล้วนอาหารประณีตประณตน้อม        หยิบใส่พร้อมพนมมือสื่อกุศล
ต่างยิ้มแย้มแจ่มใสในบุญตน             ภาพที่ยลย่อมพาอุรารอง

๐หลังใส่บาตรญาติธรรมประจำที่        พระท่านมีบทสวดเป็นหมวดสอง
ยะถาฯนำตามสัพพีฯนี้บทรอง            แผ่พงศ์พ้องรับรู้สาธุการ

๐แล้วรวมกลุ่มกินข้าวมื้อเช้านี้           พร้อมกันที่ศาลาใหญ่อันไพศาล
เชิญชวนชาวศักดิ์สง่ารับประทาน         กระยาหารอร่ามศรีมีบุญปน

๐หลังท้องอิ่มพริ้มพราวทั้งคาวหวาน      สู่สถานเทศน์ธรรมล้ำกุศล
พระอาจารย์สงบจะทบมนตร์            ให้ผองชนชื่นจิตด้วยฤทธิ์ธรรม

๐วันนี้ท่านเทศน์เน้นเห็นตัณหา          สิ่งที่พาทุกข์ร้ายใครถลำ
จะเจริญจรูญจิตพิชิตธรรม                จงน้อมนำวิปัสสนามาใคร่ครวญ

๐ว่าอิ่มท้องร้องระเริงบรรเทิงแล้ว       แต่อิ่มแก้วแก่นธรรม์นั้นหอมหวล
เป็นดังบุญบารมีปรีดิ์ประมวล           จึงอบอวลไอพระพุทธพิสุทธิ์พรม

๐ถึงเวลาศิษย์ลาอาจารย์สงบ         จึงประกบมือสองประคองก้ม
กราบเบญจางคประดิษฐ์จิตภิรมย์     พวกกระผมลาท่านอาจารย์ไกล

๐พร้อมอัญเชิญบารมีนี้ปกเกล้า       กลับถึงเหย้าชายคาที่อาศัย
โดยเดินทางราบรื่นด้วยชื่นใจ         ปลอดเภทภัยด้วยคาถาท่านอาจารย์

๐จงสำเร็จดังหวังกันทั้งหมด        พุทธพจน์ปกเกล้าเหล่าลูกหลาน
บุญครั้งนี้ทวีผลดลบันดาล          ยศการงานการเรือนตามเงื่อนบุญ

๐หลังรับพรฉ่ำชื่นหวนคืนกลับ        พลขับเคลื่อนรถบดทางขุ่น
ต่างยิ้มแย้มแววตาหน้าละมุน          เพราะอิ่มบุญอิ่มธรรมอิ่มกรรมดี

๐ผ่านทิวเขาขัณฑ์เขตเกินเนตรคาด    ที่กางพาดผืนผไทหลากหลายสี
เงาเมฆบังตะวันส่องท้องคีรี             คล้ายกับมีเงาทะมึนยืนส่งเรา

๐สามชั่วโมงหมายดังตั้งใจไว้         ถึงบันไดสีเหลืองที่เรือนเก่า
นบธรรมะจากวัดช่วยขัดเกลา        ความมัวเมาให้ลดน้อยร้อยดีเอยฯ

จบนิราศแรกด้วยบทห้วนๆ เนื่องจากหมดแรงแล้ว
(จาก๒๑ธค๕๕ - ๒๒ ธค ๕๕)


เชิงอรรถ
บรรพตชาล=พนอม=คีรี=ภูเขา
ก่อง=สวยงาม,เรียบร้อย
สุรีย์=ทินกร=ดวงอาทิตย์


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, panthong.kh, พี.พูนสุข, กัลมลี*, รพีกาญจน์, อริญชย์, D, ชลนา ทิชากร, Thammada, จารุทัส

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
23 ธันวาคม 2012, 08:52:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #2 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2012, 08:52:AM »
ชุมชนชุมชน

ฉลองกัน เคารพรัก
เขียนนิราศ ได้เพราะ เสนาะยิ่ง
เป็นเรื่องจริง นะนั่น พันเฉลย
อ่านแล้วซึ้ง งดงาม ตามคำเปรย
ทุกถ้อยเอ่ย ลื่นไหล ในอักษรา

จากเริ่มต้น ด้นดั้น มิหวั่นท้อ
สุขเกิดก่อ ที่จิต ลิขิตหนา
บรรยายตาม แนวทาง เยื้องย่างมา
สองฝั่งซ้าย แลขวา หนอชวนมอง

ทั้งโขดหิน ดินทราย พระพายพัด
คงหนาวจัด ยามเย็น เป็นช่วงของ-
ฤดูหนาว เสียด้วย สวยดั่งทอง
ภูเขาช่อง ขาดปรุ ทะลุไป

อนุโม- ทนาบุญ อุ่นโอบเอื้อ
สุขใจเหลือ เมื่ออ่าน ม่านตาไหล
หมดโอกาส ครั้งนี้ มิเป็นไร
ครั้งต่อไป อาจมี ที่ร่วมบุญ
พันทอง
 ฉลองกัน เคารพรัก เคารพรัก เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, D, ชลนา ทิชากร, Thammada, จารุทัส

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
24 ธันวาคม 2012, 11:54:AM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #3 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2012, 11:54:AM »
ชุมชนชุมชน

-ดูในIPad ภาพก็ปกติ แต่ดูในDesktopไหงภาพกลับหัวซะงั้น แก้ไขแล้วครับ

-ขอบคุณน้องดินครับ ที่PMมาบอกว่าหัวกลับ ยิ้มหน้าใส ตบมือให้
เอ้อ..จริงว่ะ

(ตอบคุณพันทอง)

๐ผมก็หวัง วันหนึ่ง ซึ่งผองเพื่อน          ได้ขับเคลื่อน ขบวนบุญ เป็นทุนหนุน

ร่วมกฐิน ร่วมป้าผ่า สง่าคุณ               ร่วมอบอุ่น กระเอิบอิ่ม ลิ้มรสธรรม

๐ให้ท่านลุง รพี เป็นพี่ใหญ่              นำกราบไหว้ สวดมนตรา เมื่อคราค่ำ

พร้อมลุงไพร พากวาด ลานวัดซ้ำ        คุณพันจัก ตักน้ำ ดื่มฉ่ำใจ

๐ต่างนุ่งขาว ห่มขาว สกาวฟ้า            สักสัปดาห์  ร่วมผนึก ฝึกจิตใส

เคยล้างหน้า ล้างเนื้อ คราบเหงื่อไคล    มาล้างใจ สักหน เพริศผลเทอญฯ




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, ชลนา ทิชากร, Thammada, รพีกาญจน์, จารุทัส

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s