พิมพ์หน้านี้ - นั่งแต่งสักวาแก้เหงา

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: ฉันมันก็แค่นี้ ที่ 23 พฤศจิกายน 2010, 08:30:PM



หัวข้อ: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ฉันมันก็แค่นี้ ที่ 23 พฤศจิกายน 2010, 08:30:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_154.gif)

สักวาพาใจให้ไหวหวั่น
เพราะรักนั้นสั่นคลอนเริ่มร้อนหนาว
จากเคยสุขทุกข์สุมรุมให้ร้าว
เริ่มสั่นหนาวคราวนี้ที่ดวงมาน
 
หวังเพียงฟ้าปรานีหากดีอยู่
ขอครองคู่กู่ก้องร้องขับขาน
ทั้งเบื้องบนเบื้องใต้ในบาดาล
ขอบนบานศาลกล่าวหายร้าวเอย

 

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_154.gif)


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 23 พฤศจิกายน 2010, 08:45:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_211.gif)


สักวาคราใจเมื่่อไหวหวั่น
นั่งหน้าจอเพียรสรรหลากคำหวาน
หวังสาวหนุ่มใครเล่าที่ร้าวราน
มาพบอ่านคำตรึงซึ้งสุดใจ

อยู่มองโลกโชคดีสติตั้ง
อย่างตรงตั้งไม่ย่นย่อเลิกท้อถอย
ฝ่าฝืนกล้ากหวังไกลไม่เลื่อนลอย
อยู่รอคอยวาสนา..ใช่ดีเอย  
emo_54




(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_211.gif)



หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ชนบท ที่ 23 พฤศจิกายน 2010, 09:54:PM
สักวาหาคู่ใจชั่งไหวหวั่น
มีใครกันเหมือนฉันบ้างทางเสนอ
หลายปีฝนทนจาบรรณ์ไม่ฝันเจอ
เราเสนอคนสนองไม่มองมา

หรือองค์พรหมท่านลิขิตมาผิดที่
คู่เรามีอยู่สวรรค์ชั้นเวหา
แต่เราหลงลงมาสู่โลกมายา
วอนท่านมาแก้ให้ทีวันนี้เอย




หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 23 พฤศจิกายน 2010, 10:02:PM
สักวาว้าเหว่เร่หารัก
ไม่ประจักษ์สักทีชีวิตคู่
เห็นหนุ่มสาวรักกันมันส์น่าดู
เรายังอยู่ผู้เดียวเปล่าเปลี่ยวใจ

ใครต่อใครต่อกลอนอ้อนคำหวาน
คงชื่นบานขานขับรับคู่ใหม่
แล้วเรานี้จะอยู่คู่กับใคร
มองมองไปได้กินแห้วอีกแล้วเอย

 emo_115



หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: บอม ซอง ดุ๊ก ที่ 23 พฤศจิกายน 2010, 10:41:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)

สักวา นิทานพื้นบ้านอิสาน

สักวา ตาบอด เพื่อนตาเหล่
ชวนกันเร่ เห่ใจ ไปดูหนัง
ตาบอดเล่า ลำโพงดี มีพลัง
เสียดายจัง ไม่มีภาพ มาให้ดู

ตาเหล่ขำ ก๊ากก๊าก ปากพูดข่ม
ถางคารม เสียงดี!  ภาพนี้หรู!
ทุกอย่างนั้น  มันดี  นะซี้ตรู 
น่าอดสู  ตั้งจอเอียง ไปหน่อยเอย

OOOOOOOO

สักวา สามเกลอ เพ้อเรื่องเล่า
ตาบอดเว้า พบสาว งามหนักหนา
แขนขาดขำ ทำกร่าง อ้างออกมา
ว่าตัวข้า ได้กอด พรอดกับนาง

คอยถมทับ สับถ้อย ร้อยปราโมทย์
ขาขาดโกรธ หงุดหงิด คิดสะสาง
บ๊ะ บ๊ะ บ๊ะ  พวกขี้โม้  โอ้อวดวาง
อย่ามาอ้าง เดี๋ยวเตะกลิ้ง ทั้งสองเอย

O

บอม ซอง ดุ๊ก


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 12:16:AM
สักวาว้าเหว่เร่หารัก
ไม่ประจักษ์สักทีชีวิตคู่
เห็นหนุ่มสาวรักกันมันส์น่าดู
เรายังอยู่ผู้เดียวเปล่าเปลี่ยวใจ

ใครต่อใครต่อกลอนอ้อนคำหวาน
คงชื่นบานขานขับรับคู่ใหม่
แล้วเรานี้จะอยู่คู่กับใคร
มองมองไปได้กินแห้วอีกแล้วเอย

 emo_115

สักวาผีแดงช่างแรงฤทธิ์
ตามบี้ติดเชลซีไม่หนีห่าง
อาทิตย์หน้าครานี้คงมีทาง
โจนสู่หัวตารางอย่างแน่นอน

แต้มเท่ากันดันแพ้แค่ผลต่าง
ไม่เลือนลางทางฝันของวันก่อน
นัดต่อไปใครขวางบนทางจร
บอกไว้ก่อนซวยแท้พรุนแน่เอย.

มาเชียร์ผีเป็นเพื่อนป้าฮอทหน่อย...อิอิ



หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ฉันมันก็แค่นี้ ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 02:00:AM

สักวาหน้าหนาวสาวอยู่ไหน
รู้บ้างไหมใครห่วงแม่ดวงจ๋า
ด้วยความห่างทางไกลเกินจะคว้า
เอื้อมมือมามอบอุ่นหนุนฤดี

วอนดาราเรียงร้อยถ้อยคำฉัน
รวมตัวกันพันเกี่ยวเป็นเรียวสี
วาดคิดถึงห่วงใยให้คนดี
วานนทีเถิดหนาฟ้าเจ้าเอย








หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 11:58:AM
สักวา เขียนมา จะแก้เหงา
แต่โง่เขลา จึงได้ หมายสอบถาม
ต้นสักวา เห็นอยู่ พอรู้ความ
ท้ายมีตาม ท่อนจบ ครบคำเอย

มีกำหนด หรือไม่ ใช้กี่บท
หรือเพิ่มลด ยาวได้ ให้เฉลย
จะหัดเขียน ดูบ้าง ยังไม่เคย
จึงได้เอ่ย ขอความรู้ ครูบ้านกลอน

อย่าเพียงอ่าน ผ่านไป แต่ไม่สน
ยังวกวน อยู่นา หาครูสอน
อยากจะรู้ จริงนี่ ที่วิงวอน
ว่าบทตอน กำหนด กฏไงเอย.


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: บอม ซอง ดุ๊ก ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 12:59:PM
ยืมเค้ามาอีกที emo_19

กลอนสักวา 
แบบแผนเหมือนกลอนสุภาพ  ขึ้นต้นด้วย สักวา  และบทสุดท้าย จบด้วย เอย

สักวา ๐๐    ๐๐ก.............๐๐ก  ๐๐ ๐๐ข

๐๐๐ ๐๐ 
๐๐ข..............๐๐ข  ๐๐ ๐๐ค

๐๐๐ ๐๐    ๐๐ง..............๐๐ง   ๐๐
๐๐ค

๐๐๐  ๐๐   ๐๐ค..............๐๐ค   ๐๐ ๐๐เอย


ที่เขียนเป็นตัวอักษร คือการสัมผัสคำค่ะ  อักษรเดียวกันคือคำที่สัมผัส
สระหรือเสียงเดียวกัน

คำในแต่ละบาท(หมายถึงวรรค) อาจเป็น ๘
หรือ ๙ ก็ได้

และการสัมผัส อาจสัมผัสคำที่ ๓ หรือ ๕ (หรือ๖)
ในบาทต่อไปก็ได้

ที่คนแต่งมือใหม่มองข้ามกันมาก
คือไม่มีสัมผัสระหว่างบท

ทั้งที่กลอนชนิดไหนก็ตาม ไม่ว่ากลอนเสภา
กลอนบทละคร กลอนสักวา ดอกสร้อย  ทุกชนิดจะต้องมีการสัมผัสระหว่างบท 
ตรงตัวอักษร " ค" น่ะค่ะ

ไม่ใช่ว่าจบบทแล้วขึ้นบทใหม่
ก็จะไปใช้คำใหม่ไม่สัมผัสกับบทเก่าอีก มันจะสะดุด
ไม่คล้องจองขาดความรื่นหูระหว่างบทต่อบทค่ะ

สักวาที่นิยมกันมี ๒ บทจบ แต่เดี๋ยวนี้บางคนก็อาจจะยืดเป็น ๓ -๔ บทก็ได้ 
เล่นกันสนุกๆ

ขออนุญาตคุณสร้อยจันทร์ แห่งถนนนักเขียน
ยกสักวาของคุณมาเป็นตัวอย่างนะคะ

สักวาบานบุรี

สักวาบานบุรีเรืองเหลืองเด่น

สายลมเย็นโบกผ่านสะท้าน ไหว

ไม่รู้หรือลมล้อไม่จริงใจ

ดูซิไปไหวหวั่นพรั่นฤดี


ยามฤดูผ่านกาลมาถึงหนาว

อกเจ้าร้าวแรงรอนอ่อนเหลือที่

ดอกปลิวร่วงพริ้วหายสายนที

บานบุรีเหลืองเด่นไม่เห็น เอย.



จากคุณ :
สร้อยจันทน์ - [1 พ.ย. 11:32:34]


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 01:02:PM
๐ สักวา... ว่าความไปตามบท.................ท่านกำหนดให้ยลกลอักษร
หนึ่งบทนั้นนั่นมีสี่คำกลอน.....................แปดวรรคตอนตามนับตำหรับกานท์
เริ่มต้นวรรค "สักวา" ว่าไว้ก่อน.................แล้วเริงร่อนเล่นคำทำสนาน
ก่อนลง "เอย" เอ่ยเอาอย่างเบาราณ...........คงตอบท่าน "นพ" เป็นเช่นนี้เอย ฯ


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 01:08:PM
กลอนสักวา

คำว่า สักวา เขียนเป็น สักรวา ก็มี คำว่า สักวา นี้ย่อมาจาก สักวาทะ หรือ สักวาที ซึ่งเป็นคำตรงกันข้ามกับคำปรวาทะ หรือปรวาทีเพราะในการเล่นสักวานั้นมีการโต้ตอบกันเป็นบทกลอน การเล่นสักวาเป็นการเล่นอย่างหนึ่งของชาวไทย มีมาแต่สมัยอยุธยาเมื่อถึงฤดูน้ำมากในเทศกาลทอดกฐิน   ทอดผ้าป่าและเที่ยวทุ่ง  ในสมัยนั้นผู้มีบรรดาศักดิ์ ตั้งแต่เจ้านายลงมาจะพาบริวารซึ่งเป็นนักร้องทั้งต้นบทและลูกคู่ มีโทน ทับ กรับ ฉิ่ง  ลงเรือไปเที่ยว บางลำก็เป็นเรือชาย บางลำก็เป็นเรือหญิง เมื่อไปพบปะ ประชุมกันในท้องทุ่งต่างฝ่ายก็คิดบทสักวาร้องโต้ตอบกัน สักวานั้นต้องคิดเป็นกลอนสดโต้ให้ทันกัน ผู้ชำนาญการประพันธ์เท่านั้นจึงจะบอกบทสักวาได้ สักวานิยมเล่นกันมาจนถึงรัชกาลที่ ๕ กรุงรัตนโกสินทร์

กฎ

๑. กลอนสักวาบทหนึ่งมี ๘ วรรค    หรือ ๒ คำกลอน วรรคหนึ่งใช้คำตั้งแต่ ๖-๙ คำ ถ้าจะแต่งบทต่อไป ต้องขึ้นบทใหม่ ไม่ต้องมีสัมผัสเกี่ยวข้องกับบทต้น
๒. กลอนสักวาต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า สักวาและลงท้ายด้วยคำว่าเอย
๓.สัมผัสและความงามไพเราะอื่นๆเหมือนกับกลอนสุภาพ
๔.วิธีเล่นสักวาในปัจจุบันผิดแผกไปจากเดิมเล็กน้อย  คือ ร้องบทไหว้ครูด้วยเพลงพระทอง แบบโบราณ ให้เป็นตัวอย่างเพียงบทเดียวบทต่อๆไปทั้ง บทเชิญชวนและบทเรื่องร้องเพลง ๒ ชั้นธรรมดาทั้งนี้เพื่อรักษาเวลาที่มีเพียงประมาณ ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น และเพิ่มรส ในการฟังเพลงโดยเพิ่มวงปี่พาทย์ไม้นวมสำหรับคลอเสียงด้วย การเล่นก็แสดงกันบนเวที มีกระดานดำ ๕ แผ่นเรียงกันด้านหลัง มีคนเขียนกลอนสักวาตามคำบอกแผ่นละคน ผู้บอกสักวานั่งประจำโต๊ะ คนละโต๊ะ อยู่หน้าเวทีใกล้กับคนร้องของตน แทนการนั่งในเรือคนละลำอย่างโบราณ


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ฉันมันก็แค่นี้ ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 01:18:PM
สักวาฟ้าเอ๋ยฝากเผยบอก
ถึงแม่ดอกดาวเรืองอย่าเคืองฉัน
หากผิดพลาดพลั้งไปอภัยกัน
ก็ฉันมันแค่นี้ชอบจี้ใจ

อันถ้อยคำรำพันที่ปั้นแต่ง
อาจทิ่มแทงทรวงเธอจนเพ้อไหว
อย่าถือสาบ้าตามจากความนัย
หวังฤทัยใคร่ครวญทวนคำเอย




หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 07:38:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_159.gif)

สักวาความไม่รู้จึงดูมั่ว
เทียวเร่รัวต่อกลอนออดอ้อนสาว
เพราะใจรรักหนักหนาคนหน้าลาว
ไม่เคยสาวสืบหลักประจักษ์กานท์

ขอบคุณครูขอบคุณหมอที่ต่อแต่ง
ในความแคลงขัดข้องรองเป็นฐาน
ขอบพระคุณบุญญาทุกอาจารย์
ส่งประสานถึงศิษย์ผู้มิรู้เอย




(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_160.gif)


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 08:40:PM

...สักวาหน้าจอไฟใส่สักบท
หวังเหงาลดแบ่งเบาเราอีกหน
ร่ายพจน์นำคำกล่าวส่งข่าวปน
หนุ่มหน้ามนพอมีไหมขอใฝ่กลอน

...มาพัดวีเคียยงข้างอย่างคนรัก
มานั่งพักลงกานท์ลานอักษร
เห็นเราแก่หรือเยี่ยงไรไกลอาทร
ลาจากจรทิ้งทวนให้รวนเร

...ฤาหน้าจอมีเพียงเราที่เหงาอยู่
เหลียวหาคู่ก็มิเห็น...เป็นหักเห
หรือกลอนด้านผ่านตามาปนเป
เรือตังเกเขาไม่มองปองอ่านฟัง

...จึงร่ายคำนำกล่าวคราวเหงาหงอย
สักเพียงน้อยได้ไหมขอข้ามฝั่ง
อยากจะไล่ปัดเงาเหงาจริงจัง
เก็บใส่ลังลอยล่องท่องราตรี...หนีสักคืน...



หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ฉันมันก็แค่นี้ ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 09:08:PM

สักวาปลอบใจให้คนเหงา
อย่าพึ่งเศร้าโศกศัลย์ขวัญผวา
ยังมีคนห่วงใยในพี่ยา
หันมองมาเห็นไหมชายคนนี้

ฉันก็เหงาเข้าใจในดวงจิต
ขอสักนิดนั่งด้วยได้ไหมพี่
ขอปรับทุกข์คลายใจสานไมตรี
หวังฤดีที่เหงาทุเลาเอย







หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 10:27:PM
(http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-C/d45.gif)

สักวามาตอบปลอบพี่ชาย
ให้พี่หายคลายเหงาเศร้าโศกศัลย์
น้องคนนี้มีดีที่ห่วงกัน
ด้วยใจนั้นพลันบอกออกฤดี

แม้นเหงาใจให้คิดจิตมิห่าง
ยังคงว่างทางไกลไม่หริบหรี่
ให้คลายทุกข์สุขใจขอให้มี
จงสุขีพี่หายคลายทุกข์ใจ

พระอาทิตย์อัสดง

(http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-C/d45.gif)


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าพเจ้า ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 10:41:PM
สักวาว่าไว้ใจผู้หญิง
ยากจะจริงอย่างปากหลากเสนอ
บ้างทำเหมือน...เอื้อนเอ่ยฉันเคยเจอ
ความจริงเพ้อพิษครวญรัญจวนใจ

บางคนนั้นหวานนักที่รักจ๋า
ดูตีหน้าว่าเศร้าเหงาหวั่นไหว
ที่จริงแท้แน่นอนทำอ้อนไป
โถ...นวลไยไหงอำพี่ช้ำเอย emo_20

...บ่ได้ตั้งใจว่าไผเด้อคับ... emo_54 emo_105 emo_83 emo_91


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: คนเผาถ่าน ที่ 24 พฤศจิกายน 2010, 11:07:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_163.gif)
สักวา..ว่ากลอน อักษรรัก
ทุกท่านถัก ร้อยเรียง เพียงอักษร
ใครจะรู้ นี่หรือ คือละคร
หรือคำอ้อน จากใจ ใครสักคน

ด้วยคำรัก สลักสวย รวยคำหวาน
ซึ้งดวงมาน หวานหยด มดยังสน
แต่ไม่รู้ ดอกหนา ว่าตัวตน
ต่อให้ค้น เท่าไร ไม่เจอ เอย
คนเผาถ่าน

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_163.gif)


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 25 พฤศจิกายน 2010, 07:24:AM
สักวา มาเวียน เขียนอีกหน
หายสับสน แล้วนี่ มีครูสอน
ขอขอบคุณ ทุกท่าน ผ่านคำกลอน
แต่ละตอน อ้างเด่น เช่นโบราณ

ซึ่งส่วนใหญ่ นิยมแน่ แค่สองบท
คำกำหนด สัมผัส บรรทัดฐาน
เป็นการโต้ ตอบกัน งานเทศกาล
แต่นมนาน เล่นอยู่ เพิ่งรู้เอย.


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 25 พฤศจิกายน 2010, 12:21:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_212.gif)
...สักวาฮาเฮเถลไถล
มาด้วยใจคิดถึงคะนึงหา
เรือน้อยล่องท่องน้ำลำนาวา
ได้พบพามิตรดีสุขขีใจ

...พวงมาลัยร้อยมาประสาซื่อ
บรรจงถือหวังโอนแอบโยนให้
ผู้ถึงพร้อมถ้อยคำฉ่ำหัวใจ
จงรับไว้มาลัยนี้ขอพลีเอย...
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_212.gif)
......................//ทอฝัน


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าพเจ้า ที่ 25 พฤศจิกายน 2010, 08:24:PM

สักวาสุนทรบทกลอนเพราะ
แสนเสนาะเน้นทำเล่นคำหวาน
ใช้จังหวะชโลมประโคมกานท์
คนใคร่อ่านเอื้อนร้องทำนองดี

แต่ก่อนนั้นบรรเลงเป็นเพลงเกี้ยว
เอาไว้เที่ยวท่องปลิดใจอิตถี
สองบทกลอนทอนลัดมัดสตรี
ยามพาทีทวนร่ายจำง่ายเอย
emo_109

ก้านกล้วย  ๒๕/๑๑/๕๓
ป.ล.พึ่งมีสาระกับเขาก็วันนี้แหละครับ....แฮะๆ emo_98
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_107.gif)


หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ฉันมันก็แค่นี้ ที่ 26 พฤศจิกายน 2010, 12:02:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_172.gif)


สักวาพากลอนอักษรศิลป์
กางปีกบินโบกฟ้านภาสวย
ร่างมนต์คำพร่ำใจให้ระทวย
ถึงแม้นม้วยมลายมิคลายนาง

แม้ต้อยต่ำย้ำหนักรักศักดิ์ศรี
แม้นทำดีเพียงใดก็ไล่ห่าง
แม้คนเขาขวางกั้นกีดกันทาง
แม้สิ้นรางร้างรักยังภักดิ์เอย

ฉันมันก็แค่นี้คนดีเอ๋ย

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_172.gif)







หัวข้อ: Re: นั่งแต่งสักวาแก้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ฉันมันก็แค่นี้ ที่ 27 พฤศจิกายน 2010, 01:40:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_129.gif)

สักวาว่าเหงาเศร้าจริงหว่า
มีไหมหนาน้องหมวยช่วยคลายเหงา
มาปลอบจิตดวงใจให้ทุเลา
เล่นหยอกเย้าเป่าหม่นพ้นหัวใจ

มิขอสวยรวยฟ้านภาสูง
หรือนกยูงฝูงหงส์ ณ ดงไหน
ขอเพียงรักภักดีมิหนีไกล
สานหัวใจไว้อยู่คู่ฟ้าเอย

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_129.gif)