พิมพ์หน้านี้ - “วิมานดิน”

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนเหงา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุนันยา ที่ 17 พฤศจิกายน 2011, 10:01:PM



หัวข้อ: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 17 พฤศจิกายน 2011, 10:01:PM

http://www.youtube.com/watch?v=_ZUCuv1NP2E#noexternalembed# (http://www.youtube.com/watch?v=_ZUCuv1NP2E#noexternalembed#)(http://yamiejung18.webs.com/photos/Lai2/104.gif)
“วิมานดิน”

ในห้วงแห่ง อารมณ์ ที่ตรมเหงา
ระคนเคล้า ชีวิต ความผิดหวัง
เป็นผลพวง จากจิต คอยปิดบัง
ทั้งความหลัง –อนาคต ...กำหนดเรา

เมื่อชะตา ฟ้าให้ เป็นเช่นนี้
ดวงฤดี จึงเจ็บ เก็บความเหงา
ไร้สิทธิ์จะ เรียกร้อง ต้องซึมเซา
ความหม่นเศร้า (คือ)หมายเหตุ เจตนา

หรือเขาเห็น เราเป็น เพียงสิ่งของ
จะจับต้อง อย่างไร ไม่รู้ค่า
เจ็บแค่ไหน ทนท้อ ทรมา
รินน้ำตา อาบนอง ทั้งสองปราง

คิดถึงดิน กลิ่นฟาง กลางท้องทุ่ง
รวงข้าวเหลือง คละคลุ้ง ตอนรุ่งสาง
อุ่นไอแสง สุรีย์ ที่ ปลายทาง
ใสกระจ่าง ด้วยจิต มิตรบ้านไพร

อยากหวนกลับ ซับหม่น ที่ทนฝืน
สู่แผ่นพื้น ดินแม่ ช่วยแก้ไข
โอบประคอง ลูกนี้ ที่จากไกล
ซับน้ำใส ข้างแก้ม ที่แต้มรอย

คงไม่มี ที่ใด ไหนอบอุ่น
อวนไอกรุ่น เกินราว จะกล่าวถ้อย
วิมานดิน ..สถาน นั้นคงคอย
ใจดวงน้อย คืนกลับ...ซับน้ำตา....

“สุนันยา”
(http://board.goosiam.com/imgupload/q103357.jpg)
(http://yamiejung18.webs.com/photos/Lai2/104.gif)


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: พิมพ์วาส ที่ 17 พฤศจิกายน 2011, 10:26:PM
เจ้านวลนางงดงามทรามเชยหวง
โอ้เจ้าพวงมาลาน่าเชยหนา
เจ้าเคียงคู่เฝ้าเรือนอยู่พนา
บุษบาใกล้เรือนเชือนรันจวญ

แม้ตินดินปฐพีที่บนโลก
มอเคยโศกร้องร่ำพร่ำเชยหวน
อยู่กับเจ้าบนวิมานม่านแขควน
มหดครางครวญอาลัยใคร่ชิดเชย


 emo_82

http://www.youtube.com/watch?v=gNqucevGEgE


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 17 พฤศจิกายน 2011, 10:47:PM


เธอมาเป็นดาวใจในความฝัน
มาสร้างสรรปันใจใฝ่ถวิล
ดั่งน้ำทิพย์หยิบหามาหลั่งริน
เพื่อโลมจินต์ให้เย็นเป็นจิตงาม

ขอดาวใจในฝันอย่าหันหนี
ขอคนดีเดินไปในสนาม-
แห่งความรักจักได้ใจติดตาม
เพื่อให้ความรักเราไม่เบาแรง

ใต้นภาฟ้าใสในกลางหาว
มีหมู่ดาวพราวพริบระยิบแสง
ใต้เงาจันทร์นั้นเราเข้าจัดแจง
หาที่แหล่งบรรจบนัดพบกัน

หอมราตรีมีมาจากนาไร่
หิ่งห้อยได้ส่องแสงช่วยแรงฝัน
จิ่งหรีดเสริมเติมเสียงสำเนียงมัน
กบเขียดนั้นอึงออเสียงคลอไป

เราต่างเห็นเป็นสักขีที่น่ารัก
แสนสุขนักสวรรค์พลันอยู่ใกล้
ลมเวียนวนบนดินหอมกลิ่นไอ
เราสองได้ด่ำดื่มสุดปลื้มจินต์

ต่างสุขสันต์ฝันงามไปตามฝัน
เราร่วมกันกรอปสุขสุดถวิล
สุขอันใดไหนปานวิมานดิน
เราดื่มกินสุขนั้นกันสองคน....

สล่าผิน

ขอเอาผลงานเก่ามาแจมด้วยคนครับน้องสุ


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 18 พฤศจิกายน 2011, 11:23:AM
เจ้านวลนางงดงามทรามเชยหวง
โอ้เจ้าพวงมาลาน่าเชยหนา
เจ้าเคียงคู่เฝ้าเรือนอยู่พนา
บุษบาใกล้เรือนเชือนรันจวญ

แม้ตินดินปฐพีที่บนโลก
มอเคยโศกร้องร่ำพร่ำเชยหวน
อยู่กับเจ้าบนวิมานม่านแขควน
มหดครางครวญอาลัยใคร่ชิดเชย


 emo_82
http://www.youtube.com/watch?v=gNqucevGEgE
เพราะแผ่นดินถิ่นเกิดยังเพริศแพร้ว
ยินเสียงแสว คำรัก มิพักเชย
สายลมผ่าน เย็ยรับ มิลับเลย
แนบเขนย อิงซบ พบอุ่นไอ

ดอกไม้ป่า ริมทาง ยังหอมหวล
กรุ่นกลิ่นอวน ยวยเย้าพราวไสว
เห็นวิหค บินอยู่ เป็นคู่ไพร
เริงรื่นใน วินมาน ม่านบนดิ...

"สุนันยา"


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 21 พฤศจิกายน 2011, 04:35:PM


เธอมาเป็นดาวใจในความฝัน
มาสร้างสรรปันใจใฝ่ถวิล
ดั่งน้ำทิพย์หยิบหามาหลั่งริน
เพื่อโลมจินต์ให้เย็นเป็นจิตงาม

ขอดาวใจในฝันอย่าหันหนี
ขอคนดีเดินไปในสนาม-
แห่งความรักจักได้ใจติดตาม
เพื่อให้ความรักเราไม่เบาแรง

ใต้นภาฟ้าใสในกลางหาว
มีหมู่ดาวพราวพริบระยิบแสง
ใต้เงาจันทร์นั้นเราเข้าจัดแจง
หาที่แหล่งบรรจบนัดพบกัน

หอมราตรีมีมาจากนาไร่
หิ่งห้อยได้ส่องแสงช่วยแรงฝัน
จิ่งหรีดเสริมเติมเสียงสำเนียงมัน
กบเขียดนั้นอึงออเสียงคลอไป

เราต่างเห็นเป็นสักขีที่น่ารัก
แสนสุขนักสวรรค์พลันอยู่ใกล้
ลมเวียนวนบนดินหอมกลิ่นไอ
เราสองได้ด่ำดื่มสุดปลื้มจินต์

ต่างสุขสันต์ฝันงามไปตามฝัน
เราร่วมกันกรอปสุขสุดถวิล
สุขอันใดไหนปานวิมานดิน
เราดื่มกินสุขนั้นกันสองคน....

สล่าผิน

ขอเอาผลงานเก่ามาแจมด้วยคนครับน้องสุ



(http://dl3.glitter-graphics.net/pub/813/813763sh1rsn6rnp.gif)

เมื่อหม่นหมอง ครองช้ำ น้ำตาหลั่ง
กลับคืนรัง ซบซ้อน อ้อนอีกหน
ให้ช่วยซับ คราคราว ร้าวเหลือทน
คลายหมองหม่น ใจขม ที่ตรมตรอม

ไออุ่นเอื้อ เจอรัก จากท้องทุ่ง
ลืมกลิ่นกรุง แต่งแต้ม แซมน้ำหอม
แฝงด้วยเล่ห์ ลมปาก ฝากดมดอม
กลีบพยอม จึงร่วง ทรวงร้าวราน

หอมไอดิน กลิ่นร่ำ ฉ่ำสายฝน
พากมล หม่นไหม้ ได้ชื่นหวาน
อ้อมแขนโอบ ละไม อุ่นใจจาร
กลับสถาน ดินรับ ซับจาบัลย์

ร้าวฤดี จากแดนแสนกว้างใหญ่
ที่แห้งแล้ง น้ำใจ ห้โศกศัลย์
ขอลากลับ ซับทรวง สิ้นบ่วงพัน
มาชมจันทร์ จูบดิน  ที่ถิ่นเดิม

"สุนันยา"

(http://www.bloggang.com/data/sunanya/picture/1220002072.jpg)
(http://dl3.glitter-graphics.net/pub/813/813763sh1rsn6rnp.gif)


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: ♥หทัยกาญจน์♥ ที่ 22 ธันวาคม 2011, 07:45:PM
http://www.youtube.com/watch?v=M-qKp7QZpEk

"ฝากรักเอาไว้ ฝากไปในแสงดวงดาว ที่ส่องประกายวับวาวอยู่บนฟากฟ้า...."

(http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/hh36.gif)
วิมานดิน

วิมานดินถวิลฟ้าเวหาหาว
ฝากรักบอกหยอกดาวพราวแดนสรวง
ส่องประกายเกร็ดแก้วดั่งแพรวพ่วง
จง “ระย้าย้อยร่วงสู่ห้วงดิน”

“เธอ” อยู่สูงจรูงใจใฝ่ฝันหา
แสงเหลืองนวลชวน “ข้า” ว่าสุขศิลป์
ระยิบระยับวับวามอร่ามจินต์
ธรณินทร์นี้ปองครอบครองใจ

ฝากถึงดาวพราวแสงแจ้งตระหง่าน
อันตระการกลาดเกลื่อนเคลื่อนสดใส
ที่สุกเปล่งป่านผ่องเรืองรองไกล
ขอดาวหล่นจนใกล้ในวิมาน.....
(http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/hh36.gif)
หทัยกาญจน์
๒๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
 emo_126


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 23 ธันวาคม 2011, 07:42:AM

(http://sl.glitter-graphics.net/pub/1942/1942521ymwdenpb39.gif)
ห้วงผืนภพ มิเลือน ตามเตือนจิต
ดั่งนิมิต พิศชม สมสถาน
สุขไหนเล่า เท่าดิน ถิ่นสำราญ
ที่กำเนิด วงศ์วาน ของบ้านเรา

แม้อยู่ดง พงไพร เพียงชายทุ่ง
กลิ่นคละคลุ้ง ละออง ท้องป่าเขา
อุ่นละมัย ไอรัก จากลำเนา
เสียงหยอกเย้า เรไร ในพนา

มิมีหรอก สิ่งนี้ ที่เมืองใหญ่
เมืองวิไล  น้ำใจ ยากใฝ่หา
มีแต่รัก มอบให้ ใส่มารยา
ล้วนแต่ภาพ ลวงตา ดูน่าชัง!!!!!! emo_101


"สุนันยา"


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 23 ธันวาคม 2011, 12:00:PM

([url]http://sl.glitter-graphics.net/pub/1942/1942521ymwdenpb39.gif[/url])
ห้วงผืนภพ มิเลือน ตามเตือนจิต
ดั่งนิมิต พิศชม สมสถาน
สุขไหนเล่า เท่าดิน ถิ่นสำราญ
ที่กำเหนิด วงศ์วาน ของบ้านเรา

แม้อยู่ดง พงไพร เพียงชายทุ่ง
กลิ่นคละคลุ้ง ละออง ท้องป่าเขา
อุ่นละมัย ไอรัก จากลำเนา
เสียงหยอกเย้า เรไร ในพนา

มิมีหรอก สิ่งนี้ ที่เมืองใหญ่
เมืองวิไล  น้ำใจ ยากใฝ่หา
มีแต่รัก มอบให้ ใส่มารยา
ล้วนแต่ภาพ ลวงตา ดูน่าชัง!!!!!! emo_101


"สุนันยา"


                              ปฐพี  นี้ให้  กายสังขาร
         ก่อลมปราณ  เลือดเนื้อ  เอื้อความหวัง
         ให้รู้รัก  รู้ละเมียด  รู้เกลียดชัง
         และพร้อมพรั่ง  ด้วยความอยาก  อันมากมี

              คือกิเลส  สามัญ  อันโลกให้
         ยัดเยียดใส่  ทั้งทุกข์  และสุขศรี
         บ้างพานพบ  วิปโยค  บ้างโชคดี
         ตามวิถี  ครรลอง  ของมนุษย์


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 23 ธันวาคม 2011, 02:57:PM


(http://www.bloggang.com/data/sunanya/picture/1220002072.jpg)
 
ขอบคุณภาพจากคุณสุนันยา นะครับ

วิมานดินถิ่นนาไร่ท่ามไพรสนธ์
วิญญ์ลอยวนบนฝันอันพิสุทธิ์
รุ่งอรุณกรุ่นฝันพลันเร่งรุด
แบกจอบขุดผืนดินถิ่นอุดม

อยู่กับธรรมชาติอากาศใส
งามวิไลปลายนาพาสุขสม
ทั้งห้วยหนองคลองน้ำท่ามสายลม
น่าชื่นชมสัมพันธ์วันมีงาน

ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน การบวชพระ
ไม่เคยละทิ้งซองจองกล่าวขาน
ร่วมร่าเริงยินดีที่พบพาน
ทุกบุญทานสานต่อก่อไมตรี

แสนคิดถึงบ้านนาถิ่นป่าเขา
ยามรุ่นเยาว์เข้าถึงหนึ่งวิถี
ฝากเสียงเพลงชื่นชอบปลอบชีวี
ถึงคนดีที่รัก จากชาวดิน

 emo_55
"ปรางค์  สามยอด"


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: อัศจรรย์จิต ที่ 23 ธันวาคม 2011, 04:02:PM
แดดสายส่องลำแสงทแยงเฉียง
มะพร้าวเอียงเรียงรายแสงฉายฉาน
ยืนหนาวน้ำค้างพราวมายาวนาน
ค่อนคืนผ่านนานพอหนอมะพร้าว

บัวสายชูดอกซ้อนมาอ้อนแสง
หลังหุบแกล้งแมลงเกาะดังเคยกล่าว
หยดน้ำค้างสร้างชื้นให้คืนพราว
สีบัวขาวคับคลองน่ามองนัก


แค่นี้ก่อนนะทานยาลดไข้ขอหลับครับผม


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 23 ธันวาคม 2011, 04:53:PM






แดดสายส่องลำแสงทแยงเฉียง
มะพร้าวเอียงเรียงรายแสงฉายฉาน
ยืนหนาวน้ำค้างพราวมายาวนาน
ค่อนคืนผ่านนานพอหนอมะพร้าว

บัวสายชูดอกซ้อนมาอ้อนแสง
หลังหุบแกล้งแมลงเกาะดังเคยกล่าว
หยดน้ำค้างสร้างชื้นให้คืนพราว
สีบัวขาวคับคลองน่ามองนัก

อัศจรรย์จิต


แมลงปอ ล้อลม ชมบัวขาว
เช่นหนุ่มสาว เย้าหยอก พร่ำบอกรัก
อยู่เคียงกัน นั้นเต่า เฝ้ากินผัก
เสียงอึกอัก ดีดดิ้น งูกินกบ

ข้างเคียงบึง มิไกล นั้นไผ่เขียว
ดอกสวยเทียว เกี่ยวอยู่ คู่คาคบ
กล้วยไม้หอม รวยริน กลิ่นอวลอบ
ฟุ้งตลบ ทั่วสถาน วิมานดิน.../

บูรพาท่าพระจันทร์

ขออนุญาตคุณอัศจรรย์จิตต่อหน่อยครับ.




หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 23 ธันวาคม 2011, 06:53:PM


ห้วงผืนภพ มิเลือน ตามเตือนจิต
ดั่งนิมิต พิศชม สมสถาน
สุขไหนเล่า เท่าดิน ถิ่นสำราญ
ที่กำเนิด วงศ์วาน ของบ้านเรา

......

สุนันยา




เสียงขลุ่ยพลิ้ว พลอดพร่ำ  สำเนียงแผ่ว
วิเวกแว่ว วังเวง เป็นเพลงเหงา
สุริยา ลาเร้น มิเห็นเงา
ชวนแนบเนา เฝ้าเยือน แสงเดือนผ่อง

กระไอหมอก หยอกเย้า ลมเป่าปัด
กระเซ็นซัด ดาวเดือน จนเลือนหมอง
น้ำค้างพร่าง พรมชื้น รื่นละออง
รอแสงทอง ครองเช้า รุ่งเพรางาย

ร่ำระฆัง  กังสดาล ขานหง่างเหง่ง
ปลุกเป็นเพลง บรรเลงว่า อย่าตื่นสาย
สีเหลืองทอ ลออตา มาเยี่ยมกราย
เดินเรียงราย รอกับ สำรับบุญ

ฝูงวัวควาย ไก่กา คืนนาทุ่ง
เป็นหมู่มุ่ง แม่นมั่น มิหันหุน
ข้าวออกรวง พวงลำยอง ทองละมุน
หอมกลิ่นกรุ่น คัดเค้า เสาวคนธ์

ความหลายหลาก มากรส เกินพจน์เผย
ยากเปรียบเปรย ทุ่งนา ป่าสถล
วิมานใด ไหนชื่น ระรื่นชนม์
คงไม่พ้น วิมานดิน เหนือถิ่นใด.../

บูรพาท่าพระจันทร์



หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 24 ธันวาคม 2011, 06:50:AM
                              ปฐพี  นี้ให้  กายสังขาร
         ก่อลมปราณ  เลือดเนื้อ  เอื้อความหวัง
         ให้รู้รัก  รู้ละเมียด  รู้เกลียดชัง
         และพร้อมพรั่ง  ด้วยความอยาก  อันมากมี

              คือกิเลส  สามัญ  อันโลกให้
         ยัดเยียดใส่  ทั้งทุกข์  และสุขศรี
         บ้างพานพบ  วิปโยค  บ้างโชคดี
         ตามวิถี  ครรลอง  ของมนุษย์

"คุณปู่"


หากแม้มีดวงจิตพินิจใส
มองแก่นใน ให้เห็น เป็นที่สุด
มีเมตตามอบไว้ให้นงนุช
เป็นประดุจ ธารใจ ที่ใสงาม

คือสิ่งควรมวลเหตในเจตุสร้าง
คือทุกอย่าง วางหมายมิใช่หยาม
เป็นเนื้อแท้ ดวงจิต พินิจตาม
คุณค่าความ ดั่งทองผ่องอำไพ..

"สุนันยา"


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 24 ธันวาคม 2011, 07:01:AM


([url]http://www.bloggang.com/data/sunanya/picture/1220002072.jpg[/url])
 
ขอบคุณภาพจากคุณสุนันยา นะครับ

วิมานดินถิ่นนาไร่ท่ามไพรสนธ์
วิญญ์ลอยวนบนฝันอันพิสุทธิ์
รุ่งอรุณกรุ่นฝันพลันเร่งรุด
แบกจอบขุดผืนดินถิ่นอุดม

อยู่กับธรรมชาติอากาศใส
งามวิไลปลายนาพาสุขสม
ทั้งห้วยหนองคลองน้ำท่ามสายลม
น่าชื่นชมสัมพันธ์วันมีงาน

ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน การบวชพระ
ไม่เคยละทิ้งซองจองกล่าวขาน
ร่วมร่าเริงยินดีที่พบพาน
ทุกบุญทานสานต่อก่อไมตรี

แสนคิดถึงบ้านนาถิ่นป่าเขา
ยามรุ่นเยาว์เข้าถึงหนึ่งวิถี
ฝากเสียงเพลงชื่นชอบปลอบชีวี
ถึงคนดีที่รัก จากชาวดิน

 emo_55
"ปรางค์  สามยอด"


เสียงเพลงหวาน ขับขาน ซ่านดวงจิต
พิณแคนคิด ถึงคนไป ที่ไกลถิ่น
เจ็บปวดแปล็บ แสนหนาว ให้ร้าวจินต์
ห่วงถวิล ตัวเขา เราเฝ้าคอย

พ่อโฉมงาม ทรามวัย ใจจดจ่อ
ไฉนหนอ ปล่อยคนใกล้ ให้เศร้าสร้อย
นอนกอดหมอน ซบหน้า น้ำตาปรอย
ทุกคืนค่ำ นั่งพลอย คอยมองทาง

วันนี้ที่ ปลายนา เวลาบ่าย
เสียงเพลง ฟังดั่งคล้าย ชายเหินห่าง
นั่งเงียบเหงา ไอหมอก ลงเบาบาง
อาทิตย์ต่าง จะลา ขอบฟ้าไป

ใจคนคอย เหม่อลอย เศร้าสร้อยหนัก
เถียงนารัก ที่เก่า เราเคยได้
จับมือกัน จุมพิต ยังตรึงใจ
แต่วันนี้ เดียวดาย ชายไม่คืน
พันทอง


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 24 ธันวาคม 2011, 11:42:AM



เสียงขลุ่ยพลิ้ว พลอดพร่ำ  สำเนียงแผ่ว
วิเวกแว่ว วังเวง เป็นเพลงเหงา
สุริยา ลาเร้น มิเห็นเงา
ชวนแนบเนา เฝ้าเยือน แสงเดือนผ่อง

กระไอหมอก หยอกเย้า ลมเป่าปัด
กระเซ็นซัด ดาวเดือน จนเลือนหมอง
น้ำค้างพร่าง พรมชื้น รื่นละออง
รอแสงทอง ครองเช้า รุ่งเพรางาย

ร่ำระฆัง  กังสดาล ขานหง่างเหง่ง
ปลุกเป็นเพลง บรรเลงว่า อย่าตื่นสาย
สีเหลืองทอ ลออตา มาเยี่ยมกราย
เดินเรียงราย รอกับ สำรับบุญ

ฝูงวัวควาย ไก่กา คืนนาทุ่ง
เป็นหมู่มุ่ง แม่นมั่น มิหันหุน
ข้าวออกรวง พวงลำยอง ทองละมุน
หอมกลิ่นกรุ่น คัดเค้า เสาวคนธ์

ความหลายหลาก มากรส เกินพจน์เผย
ยากเปรียบเปรย ทุ่งนา ป่าสถล
วิมานใด ไหนชื่น ระรื่นชนม์
คงไม่พ้น วิมานดิน เหนือถิ่นใด.../

บูรพาท่าพระจันทร์
http://www.youtube.com/watch?v=bD701tiudj4&feature=youtu.be

ฝากบทเพลง ขับขาน แทนกานท์ตอบ
จึงขอมอบ สำเนียง ด้วยเสียงใส
บรรยายความ ตามวิมาน คนบ้านไพร
แม้ภาพไม่ สอดคล้อง ให้ต้องมนตร์

เป็นบทเพลงจากใจ ให้ผองเพื่อน
ขอขอบคุณ ที่เยือน เหมือนหยาดฝน
ชะโลมขวัญ วันเหงา เศร้าเต็มทน
กลับได้ ยลกวี ที่งดงาม...


"สุนันยา"
 emo_126
 


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้า ชาลี ที่ 24 ธันวาคม 2011, 11:58:AM


ต่างสุขสันต์ฝันงามไปตามฝัน
เราร่วมกันกรอปสุขสุดถวิล
สุขอันใดไหนปานวิมานดิน
เราดื่มกินสุขนั้นกันสองคน....

สล่าผิน


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/480/14480/images/apic29.jpg)



ในความฝัน สวรรค์สร้าง ทางรักสุข
แอบซ่อนซุก เธอไว้ ไร้เหตุผล
เก็บเธอไว้ ใต้ทรวง ดวงกมล
เธอได้ปล้น ใจฉัน นั้นไปครอง

ยามยินยล คนไกล ใยชื่นจิต
เหมือนลิขิต ขีดไว้ ให้เราสอง
เป็นรักแท้ แพ้ใจ ใฝ่เฝ้าปอง
ทั้งสี่ห้อง ป้องใจ ไร้รักลวง

นางฟ้า  ชาลี

(http://i726.photobucket.com/albums/ww263/mailom1_mie/Day1/bb13.gif)







หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24 ธันวาคม 2011, 02:29:PM


[url]http://www.youtube.com/watch?v=bD701tiudj4&feature=youtu.be[/url]

ฝากบทเพลง ขับขาน แทนกานท์ตอบ
จึงขอมอบ สำเนียง ด้วยเสียงใส
บรรยายความ ตามวิมาน คนบ้านไพร
แม้ภาพไม่ สอดคล้อง ให้ต้องมนตร์

เป็นบทเพลงจากใจ ให้ผองเพื่อน
ขอขอบคุณ ที่เยือน เหมือนหยาดฝน
ชะโลมขวัญ วันเหงา เศร้าเต็มทน
กลับได้ ยลกวี ที่งดงาม...

"สุนันยา"
 emo_126
 



หอมไอดิน กลิ่นหญ้า คราลมหวน
ระรื่นชวน รวนรัก สุดหักห้าม
เที่ยงอาทิตย์ สถิตจ้า ฟ้าสีคราม
หวิวหวาบหวาม ตามเพลง บรรเลงกานท์

จมภวังค์ ฝังกาย จนบ่ายคล้อย
ละลิ่วลอย คอยเคียง สำเนียงหวาน
ยังซาบซึ้ง ถึงห้วง สุดดวงมาน
เดียวกลางดาน ลานเก่า เหงาเหลือเกิน

รพีกาญจน์ 59


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 24 ธันวาคม 2011, 06:44:PM



เสียงขลุ่ยพลิ้ว พลอดพร่ำ  สำเนียงแผ่ว
วิเวกแว่ว วังเวง เป็นเพลงเหงา
สุริยา ลาเร้น มิเห็นเงา
ชวนแนบเนา เฝ้าเยือน แสงเดือนผ่อง

กระไอหมอก หยอกเย้า ลมเป่าปัด
กระเซ็นซัด ดาวเดือน จนเลือนหมอง
น้ำค้างพร่าง พรมชื้น รื่นละออง
รอแสงทอง ครองเช้า รุ่งเพรางาย

ร่ำระฆัง  กังสดาล ขานหง่างเหง่ง
ปลุกเป็นเพลง บรรเลงว่า อย่าตื่นสาย
สีเหลืองทอ ลออตา มาเยี่ยมกราย
เดินเรียงราย รอกับ สำรับบุญ

ฝูงวัวควาย ไก่กา คืนนาทุ่ง
เป็นหมู่มุ่ง แม่นมั่น มิหันหุน
ข้าวออกรวง พวงลำยอง ทองละมุน
หอมกลิ่นกรุ่น คัดเค้า เสาวคนธ์

ความหลายหลาก มากรส เกินพจน์เผย
ยากเปรียบเปรย ทุ่งนา ป่าสถล
วิมานใด ไหนชื่น ระรื่นชนม์
คงไม่พ้น วิมานดิน เหนือถิ่นใด.../

บูรพาท่าพระจันทร์
[url]http://www.youtube.com/watch?v=bD701tiudj4&feature=youtu.be[/url]

ฝากบทเพลง ขับขาน แทนกานท์ตอบ
จึงขอมอบ สำเนียง ด้วยเสียงใส
บรรยายความ ตามวิมาน คนบ้านไพร
แม้ภาพไม่ สอดคล้อง ให้ต้องมนตร์

เป็นบทเพลงจากใจ ให้ผองเพื่อน
ขอขอบคุณ ที่เยือน เหมือนหยาดฝน
ชะโลมขวัญ วันเหงา เศร้าเต็มทน
กลับได้ ยลกวี ที่งดงาม...


"สุนันยา"
 emo_126
 




บรรยายความ ตามอักษร เป็นกลอนกล่าว
ร้อยเรื่องราว ผืนแผ่น แดนสยาม
เล่าตำนาน การเกษตร ทั่วเขตคาม
ตั้งนิยาม ความหมาย ท้องไร่นา

พร้อมสดับ รับบรรเลง เป็นเพลงเสริม
ช่วยพูนเพิ่ม ร่วมเสียง เคียงภาษา
ประกอบทั้ง ฟังหู ดูจากตา
เติมคุณค่า กลอนกานท์ "  วิมานดิน " .../

บูรพาท่าพระจันทร์




หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 25 ธันวาคม 2011, 07:57:AM


([url]http://www.bloggang.com/data/sunanya/picture/1220002072.jpg[/url])
 
ขอบคุณภาพจากคุณสุนันยา นะครับ

วิมานดินถิ่นนาไร่ท่ามไพรสนธ์
วิญญ์ลอยวนบนฝันอันพิสุทธิ์
รุ่งอรุณกรุ่นฝันพลันเร่งรุด
แบกจอบขุดผืนดินถิ่นอุดม

อยู่กับธรรมชาติอากาศใส
งามวิไลปลายนาพาสุขสม
ทั้งห้วยหนองคลองน้ำท่ามสายลม
น่าชื่นชมสัมพันธ์วันมีงาน

ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน การบวชพระ
ไม่เคยละทิ้งซองจองกล่าวขาน
ร่วมร่าเริงยินดีที่พบพาน
ทุกบุญทานสานต่อก่อไมตรี

แสนคิดถึงบ้านนาถิ่นป่าเขา
ยามรุ่นเยาว์เข้าถึงหนึ่งวิถี
ฝากเสียงเพลงชื่นชอบปลอบชีวี
ถึงคนดีที่รัก จากชาวดิน

 emo_55
"ปรางค์  สามยอด"


เสียงเพลงหวาน ขับขาน ซ่านดวงจิต
พิณแคนคิด ถึงคนไป ที่ไกลถิ่น
เจ็บปวดแปล็บ แสนหนาว ให้ร้าวจินต์
ห่วงถวิล ตัวเขา เราเฝ้าคอย

พ่อโฉมงาม ทรามวัย ใจจดจ่อ
ไฉนหนอ ปล่อยคนใกล้ ให้เศร้าสร้อย
นอนกอดหมอน ซบหน้า น้ำตาปรอย
ทุกคืนค่ำ นั่งพลอย คอยมองทาง

วันนี้ที่ ปลายนา เวลาบ่าย
เสียงเพลง ฟังดั่งคล้าย ชายเหินห่าง
นั่งเงียบเหงา ไอหมอก ลงเบาบาง
อาทิตย์ต่าง จะลา ขอบฟ้าไป

ใจคนคอย เหม่อลอย เศร้าสร้อยหนัก
เถียงนารัก ที่เก่า เราเคยได้
จับมือกัน จุมพิต ยังตรึงใจ
แต่วันนี้ เดียวดาย ชายไม่คืน
พันทอง

ผืนดินใดไหนเล่าเท่าดินแม่
ที่เผื่อแผ่พิงพักมีรักชื่น
ยามทุกท้อระทมตรมกล้ำกลืน
ซับสะอื้น โอบเอื้อเมื่อร้าวรอน

สายน้ำเย็น หลั่งไหล มีฝายกั้น
สารพัน พฤกษา ป่าสิงขร
กุ้งปูปลา อาหาร ทุกภาคตอน
เสียงออดอ้อน ไผ่สี มีให้ฟัง

แม้กลางไพร ไม้ใหญ่ ให้ดอกผล
สร้างสุขล้นเพิ่มทวี มีความหวัง
ผู้คนมี น้ำใจ ไม่น่าชัง
เพิ่มพลังยามเหงา เฝ้าเมตตา

คิดถึงจังบ้านเราเมื่อคราวจาก
จำใจพราก เพราะจนทนบากหน้า
สักวันคงสุขชื่น คืนบ้านนา
รับอุ่นไอ พารา พาชื่นจินต์..

"สุนันยา" emo_126
ลุงปรางค์สบายดีนะคะฝากความคิดถึง
ไปกับสายลม แสงแดด นะคะ
ขอบคุณมากค่ะ


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 25 ธันวาคม 2011, 08:39:AM

หอมไอดิน กลิ่นหญ้า คราลมหวน
ระรื่นชวน รวนรัก สุดหักห้าม
เที่ยงอาทิตย์ สถิตจ้า ฟ้าสีคราม
หวิวหวาบหวาม ตามเพลง บรรเลงกานท์

จมภวังค์ ฝังกาย จนบ่ายคล้อย
ละลิ่วลอย คอยเคียง สำเนียงหวาน
ยังซาบซึ้ง ถึงห้วง สุดดวงมาน
เดียวกลางดาน ลานเก่า เหงาเหลือเกิน

รพีกาญจน์ 59

สาส์นอักษร กลอนพี่ รพีฯฝาก
คารมจาก วจี แอบมีเขิน
คนบ้านนา ค่าด้อย ก็พลอยเพลิน
ชื่นคำเยิน-ยอเย้า ขับเศร้าคลาย

เพราะถูกหยาม ด้วยถ้อย คนคอยเหยียด
เข้ามาเบียด อารมณ์ ตรมสลาย
รู้ค่าตน ทนช้ำ ช้ำเดียวดาย
ขอขอบคุณ พี่ชาย ...ด้วยใจจริง..
 emo_126

"สุนันยา"


หัวข้อ: Re: “วิมานดิน”
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 25 ธันวาคม 2011, 09:09:PM



เสียงขลุ่ยพลิ้ว พลอดพร่ำ  สำเนียงแผ่ว
วิเวกแว่ว วังเวง เป็นเพลงเหงา
สุริยา ลาเร้น มิเห็นเงา
ชวนแนบเนา เฝ้าเยือน แสงเดือนผ่อง

กระไอหมอก หยอกเย้า ลมเป่าปัด
กระเซ็นซัด ดาวเดือน จนเลือนหมอง
น้ำค้างพร่าง พรมชื้น รื่นละออง
รอแสงทอง ครองเช้า รุ่งเพรางาย

ร่ำระฆัง  กังสดาล ขานหง่างเหง่ง
ปลุกเป็นเพลง บรรเลงว่า อย่าตื่นสาย
สีเหลืองทอ ลออตา มาเยี่ยมกราย
เดินเรียงราย รอกับ สำรับบุญ

ฝูงวัวควาย ไก่กา คืนนาทุ่ง
เป็นหมู่มุ่ง แม่นมั่น มิหันหุน
ข้าวออกรวง พวงลำยอง ทองละมุน
หอมกลิ่นกรุ่น คัดเค้า เสาวคนธ์

ความหลายหลาก มากรส เกินพจน์เผย
ยากเปรียบเปรย ทุ่งนา ป่าสถล
วิมานใด ไหนชื่น ระรื่นชนม์
คงไม่พ้น วิมานดิน เหนือถิ่นใด.../

บูรพาท่าพระจันทร์
[url]http://www.youtube.com/watch?v=bD701tiudj4&feature=youtu.be[/url]

ฝากบทเพลง ขับขาน แทนกานท์ตอบ
จึงขอมอบ สำเนียง ด้วยเสียงใส
บรรยายความ ตามวิมาน คนบ้านไพร
แม้ภาพไม่ สอดคล้อง ให้ต้องมนตร์

เป็นบทเพลงจากใจ ให้ผองเพื่อน
ขอขอบคุณ ที่เยือน เหมือนหยาดฝน
ชะโลมขวัญ วันเหงา เศร้าเต็มทน
กลับได้ ยลกวี ที่งดงาม...


"สุนันยา"
 emo_126
 





บรรยายความ ตามอักษร เป็นกลอนกล่าว
ร้อยเรื่องราว ผืนแผ่น แดนสยาม
เล่าตำนาน การเกษตร ทั่วเขตคาม
ตั้งนิยาม ความหมาย ท้องไร่นา

พร้อมสดับ รับบรรเลง เป็นเพลงเสริม
ช่วยพูนเพิ่ม ร่วมเสียง เคียงภาษา
ประกอบทั้ง ฟังหู ดูจากตา
เติมคุณค่า กลอนกานท์ "  วิมานดิน " .../

บูรพาท่าพระจันทร์

ขอขอบคุณ ถ้อยเคียง เรียงอักษร
พจน์สุนทร กลอนกานท์ ในงานศิลป์
ให้รู้ค่า มากมี ที่ทำกิน
เลื่องระบิล ถิ่นทอง ของทุ่งนา

ชนบท งดงาม ท่ามป่าเขา
ภูมิลำเนา เล่าขาน ผ่านภาษา
ให้รับรู้ คู่กาล เนิ่นนานมา
เป็นตำรา บอกกล่าว ผองเหล่าชน...

 emo_126

"สุนันยา"