.~** ปลอบขวัญคนดี **~.
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
11 พฤศจิกายน 2024, 02:16:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: .~** ปลอบขวัญคนดี **~.  (อ่าน 5539 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
06 ธันวาคม 2010, 08:13:PM
♥ กานต์ฑิตา ♥
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 500
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,078



« เมื่อ: 06 ธันวาคม 2010, 08:13:PM »
ชุมชนชุมชน



คิดถึงพี่คนดีที่ห่วงหา
อยากพูดจาทักทายให้คลายเหงา
ความกังวลทั้งหลายคลายบรรเทา
หม่นหมองเศร้าได้มีชีวิตชีวา
อุปสรรคหลายอย่างทางชีวิต
หากครุ่นคิดเดียวดายไม่คลายหนา
มีอะไรบอกมาเถิดเปิดวาจา
พร้อมช่วยหาทางแก้แม้ห่างไกล

อยากช่วยซับเหงื่อหยดปรากฏเห็น
ด้วยผ้าเย็นกลิ่นหอมพร้อมทำให้
พี่เหว่ว้าว่างเปล่าเหงาทรวงใน
น้องอุ่นไอคอยส่งจงหายตรม

เข้มแข็งไว้คนดีพี่จงสู้
น้องจะอยู่เคียงข้างคอยกางร่ม
จะให้หนุนตักนอนวอนเว้าชม
ดอมแก้มดมชิดใกล้ได้กอดนอน

ชีวิตคนเรานั้นมันไม่แน่
วันนี้แพ้เป็นโจทย์โปรดคิดก่อน
วันหน้ากลับตอบได้อย่าใจร้อน
ไม่ม้วยมรณ์ชีวิตอยู่...สู้ต่อไป.


"Kanthita"
6 ธ.ค. 2553

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 ธันวาคม 2010, 04:16:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #1 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2010, 04:16:AM »
ชุมชนชุมชน



คิดถึงพี่คนดีที่ห่วงหา
อยากพูดจาทักทายให้คลายเหงา
ความกังวลทั้งหลายคลายบรรเทา
หม่นหมองเศร้าได้มีชีวิตชีวา
อุปสรรคหลายอย่างทางชีวิต
หากครุ่นคิดเดียวดายไม่คลายหนา
มีอะไรบอกมาเถิดเปิดวาจา
พร้อมช่วยหาทางแก้แม้ห่างไกล

อยากช่วยซับเหงื่อหยดปรากฏเห็น
ด้วยผ้าเย็นกลิ่นหอมพร้อมทำให้
พี่เหว่ว้าว่างเปล่าเหงาทรวงใน
น้องอุ่นไอคอยส่งจงหายตรม

เข้มแข็งไว้คนดีพี่จงสู้
น้องจะอยู่เคียงข้างคอยกางร่ม
จะให้หนุนตักนอนวอนเว้าชม
ดอมแก้มดมชิดใกล้ได้กอดนอน

ชีวิตคนเรานั้นมันไม่แน่
วันนี้แพ้เป็นโจทย์โปรดคิดก่อน
วันหน้ากลับตอบได้อย่าใจร้อน
ไม่ม้วยมรณ์ชีวิตอยู่...สู้ต่อไป.


"Kanthita"
6 ธ.ค. 2553


เหมือนปลุกปลอบตอบตนปลอบคนเศร้า
เหมือนปลอบเขาปลอบเราเฝ้าฝันใฝ่
เหมือนรำพันยังหวั่นพรั่นพรึงใจ
เหมือนห่างไกลใจห่างกลัวร้างเลือน

เมื่อใจนิ่งทุกสิ่งก็นิ่งด้วย
เมื่อคนสวยมุ่งมั่นไม่ปันเฉือน
รักเต็มรักลงดานทั้งบ้านเรือน
ก็เสมือนรักเร้าเราสองคน

ไม่ต้องหวั่นเกรงใดเมื่อใจรัก
สองสมัครรักหวานปานหยาดฝน
หยาดลงดินพันธุ์พืชยืดตัวตน
โอบกอดรัดหน้ามนบนวิมาน

รอถึงวันบ่มสุกปลุกและเปิด
สิ่งงามเลิศอิ่มรสสดและหวาน
แม้วันรอจะทนอดและทนทาน
เพียงไม่นานหวานรักบ่ม...สมอุรา

บ้านริมโขง

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 ธันวาคม 2010, 09:13:AM
ชนบท
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย.
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 26



« ตอบ #2 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2010, 09:13:AM »
ชุมชนชุมชน



คิดถึงพี่คนดีที่ห่วงหา
อยากพูดจาทักทายให้คลายเหงา
ความกังวลทั้งหลายคลายบรรเทา
หม่นหมองเศร้าได้มีชีวิตชีวา
อุปสรรคหลายอย่างทางชีวิต
หากครุ่นคิดเดียวดายไม่คลายหนา
มีอะไรบอกมาเถิดเปิดวาจา
พร้อมช่วยหาทางแก้แม้ห่างไกล

อยากช่วยซับเหงื่อหยดปรากฏเห็น
ด้วยผ้าเย็นกลิ่นหอมพร้อมทำให้
พี่เหว่ว้าว่างเปล่าเหงาทรวงใน
น้องอุ่นไอคอยส่งจงหายตรม

เข้มแข็งไว้คนดีพี่จงสู้
น้องจะอยู่เคียงข้างคอยกางร่ม
จะให้หนุนตักนอนวอนเว้าชม
ดอมแก้มดมชิดใกล้ได้กอดนอน

ชีวิตคนเรานั้นมันไม่แน่
วันนี้แพ้เป็นโจทย์โปรดคิดก่อน
วันหน้ากลับตอบได้อย่าใจร้อน
ไม่ม้วยมรณ์ชีวิตอยู่...สู้ต่อไป.


"Kanthita"
6 ธ.ค. 2553


โอ้ ..น้อ อ้ายเอ้ย
คึดฮอดเจ้า ยามเข้านอนข่มตาหลับ
อยากสิขับขานไข หว่างหัวใจให้หวนฮู้
พอได๋ซูพะนางน้อง ไกจากฮองความอุ่ก
เถือได๋เซาความทุกข์ที่กุมใจทางน้อง

อย่าให่คองคอยถ่า เลยเวลาสิดายเป่า
ไขวาจาปากเว่า มีหยังเติ้นกล่าวแถลง
เถื่อมีแฮงซ่อยยู้ซูค่ำนำความคึด
บ่ได๋อึดทางใจ สิส่งไปหาอ้าย

อยากสิเป็นผุเด่ให่ ผ้าแพรลายเซ็ดเฮือ
หลังเถือใจทะลายม้าง ทางน้องอ่อยนำ


น้องสิอยู่เคียงค้ำ กั้งฮ่มยามฝนริน
สิหายาส่งกิน หากบ่าวพี่ซายคีงฮ้อน

สิคอยซอนผ้าห่มตุ้ม ยามลมถั่งหนาวเย็น
สิถ่าเป็นคนดอม กล่อมพี่ซายเข้านอนซ้อน

มื้อได๋อ่อนแฮงสู้ สิคอยซูเทียมพี่
บ่ให่มีโกดฮ้าย ทางใจนั้นบ่ให่ฮ้น

สิถ่าเป็นคนเว่า คนจา คนกล่าว
สิเอาใจอีน้อง ซ้องซูอ้ายให่หยั่งยืน  แท้แหล้ว


ลองแปลงให้เป็น ผญา หากทำให้กลอนของคุณเสียหายโปรดอภัยด้วย
 emo_62นักกลอนอ่อนหัด น้อยใจแล้วด้วย








ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 ธันวาคม 2010, 11:43:AM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #3 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2010, 11:43:AM »
ชุมชนชุมชน


ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ..




‘ ช่อกฤษณา..ให้เธอ..วันเพ้อพร่ำ ’


..เห็นเธอเผย เอ่ยคำ ว่าพร่ำท้อ
น้ำเสียงคลอ พ้อเพ้อ ละเมอหา
ใครสักคน บนทาง ที่ร้างลา
ช่วยเยียวยา คราเหงา และเศร้าทรวง

...ไร้กำลัง วังชา จะคว้าไขว่
เหนื่อยกายใจ สับสน มิพ้นห่วง
เลยถลำ ร่ำริน ชีวินดวง
เหมือนตกบ่วง ความเหงา เกินเข้าใจ

...ทำได้เพียง มองรอบ ทั่วขอบทิศ
หลับตาปิด ปลดปลง ด้วยสงสัย
ว่าวันวาน จวบวันนี้ ที่เป็นไป
เพราะอะไร เล่าหนอ จึงท้อจัง

... จึงอยากฝาก คำพรม ตามลมพลิ้ว
พร้อมธงทิว แห่งชัย ที่ใฝ่หวัง
และช่อดอก บุปผชาติ วาดพลัง
ไปมอบยัง มือเธอ ให้เจอทาง

...กฤษณา ป่าหอม ยังหอมชื่น
ระรวยรื่น ชื่นกลิ่น มิสิ้นสาง
กลีบเจ้างาม ทรามวัย ไม่จืดจาง
แม้บอบบาง แต่แท้ แจ่มแก่ตน

...ให้เธอยล  ยินชม ประโลมช่อ
พวงดอกไม้ นั้นหนอ ต่อสักหน
แล้วหยุดนิ่ง อิงแอบ แหนบกมล
แทนใจคน ที่คิดถึง ส่งถึงเธอ......



***เมฆา...***



ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
08 ธันวาคม 2010, 01:56:PM
masapaer
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 599


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2010, 01:56:PM »
ชุมชนชุมชน


ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ..




‘ ช่อกฤษณา..ให้เธอ..วันเพ้อพร่ำ ’


..เห็นเธอเผย เอ่ยคำ ว่าพร่ำท้อ
น้ำเสียงคลอ พ้อเพ้อ ละเมอหา
ใครสักคน บนทาง ที่ร้างลา
ช่วยเยียวยา คราเหงา และเศร้าทรวง

...ไร้กำลัง วังชา จะคว้าไขว่
เหนื่อยกายใจ สับสน มิพ้นห่วง
เลยถลำ ร่ำริน ชีวินดวง
เหมือนตกบ่วง ความเหงา เกินเข้าใจ

...ทำได้เพียง มองรอบ ทั่วขอบทิศ
หลับตาปิด ปลดปลง ด้วยสงสัย
ว่าวันวาน จวบวันนี้ ที่เป็นไป
เพราะอะไร เล่าหนอ จึงท้อจัง

... จึงอยากฝาก คำพรม ตามลมพลิ้ว
พร้อมธงทิว แห่งชัย ที่ใฝ่หวัง
และช่อดอก บุปผชาติ วาดพลัง
ไปมอบยัง มือเธอ ให้เจอทาง

...กฤษณา ป่าหอม ยังหอมชื่น
ระรวยรื่น ชื่นกลิ่น มิสิ้นสาง
กลีบเจ้างาม ทรามวัย ไม่จืดจาง
แม้บอบบาง แต่แท้ แจ่มแก่ตน

...ให้เธอยล  ยินชม ประโลมช่อ
พวงดอกไม้ นั้นหนอ ต่อสักหน
แล้วหยุดนิ่ง อิงแอบ แหนบกมล
แทนใจคน ที่คิดถึง ส่งถึงเธอ......



***เมฆา...***







"ฤา คู่ควรบุปผา"


อยากจะเอื้อมมือรองต้องกฤษณา
จากมือหนึ่งส่งมาน้ำตาเอ่อ
ระคนเศร้ารำพันของการเจอ
กลับเสนอความช้ำที่ตามมา

กลิ่นจะเย้าเพียงใดไร้รู้สึก
ในห้วงตรึกตันตื้นสะอื้นหา
เส้นอดีตขีดไว้ใต้น้ำตา
ที่หลั่งปร่าทำนองล่องสายธาร

ใกล้แค่ชิดผิดแปลกเกินแยกหา
เหมือนไกลเอื้อมสุดหล้าบุปผาม่าน
พลางเมฆหมอกหลอกขังบังดวงมาน
ให้สะท้านเหน็บหนาวร้าวเหลือเกิน

จะกี่ดวงบุปผามาลัยคล้อง
มิอาจต้องสัมผัสอันผาดเผิน
รอยชะตากรอบย่างทางดำเนิน
ยังเผชิญทาสเหงาร้าวระบม

กฤษณาเจ้าเอยเลยรู้ว่า
กลิ่นบุปผาค่าล้นคนมิสม
หยุดแค่นั้นมื้อคว้า..มิกล้าชม
มานพลันล่มสลายคล้ายแหลกแล้ว

"ทีมะสะแปขอแซวท่านบ้างเน้อ.. ยิ้มกวนตีน "



ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s