~ ตะกรันมนุษย์ ~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 เมษายน 2024, 10:32:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~ ตะกรันมนุษย์ ~  (อ่าน 3396 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 พฤศจิกายน 2010, 05:00:PM
จ้อง เจรียงคำ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 405
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 636



« เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2010, 05:00:PM »
ชุมชนชุมชน






~ ตะกรันมนุษย์ ~


เสียงวุ่นวายหลายหลากจากรอบทิศ
เบียดประชิดโสตหูผู้โดยสาร
อึกทึกครึกโครมโหมยาวนาน
ตลอดชานชาลาสถานี

สังคมคนบนทางรถรางเหล็ก
สายแคบเล็กลากลู่สู่วิถี
บรรทุกบทบันทึกจารึกนี้
ผ่านโบกี้ที่ฝันใช้สัญจร

เมื่อจุดหมายปลายฝันถูกสรรค์สร้าง
เหมือนเหล็กรางวางไว้บนไม้หมอน
คือบันไดไต่สู้จากภูธร
สู่มหานคร…ในข้ามคืน

เสียงขยี้บี้กดเหล็กบดลู่
จนสางตรู่สู่ตาแสงฟ้าตื่น
ถึงปลายทางรางเทียบเท้าเหยียบพื้น
ย่างก้าวยืนยังจุดสิ้นสุดราง

แสงอร่ามยามอรุณอุ่นแดดสาย
เสียงวุ่นวายถ่ายมอบจากรอบข้าง
สถานีสุดท้ายที่ปลายทาง
เมื่อท้าวย่างวางย่ำ..หัวลำโพง

จุดเริ่มต้นคนยากผู้บากบั่น
เกิดตะกรันมนุษย์ต่างสุดโต่ง
ชนชั้นต่ำล้ำเหลื่อมถูกเชื่อมโยง
อยู่บนโครงสร้างเสื่อมที่เหลื่อมล้ำ!!

สัมภาระตะบันแบกดันบ่า
ล้วนข้าวปลาปล้ำขนกันจนหนำ
นั่นของฝากจากเขต..เกษตรกรรม
ผู้กักตุนทุนต่ำ..ขนลำเลียง

ขบวนแล้วขบวนเล่าเฝ้าขนย้าย
จึงโดยรอบมอบถ่ายวุ่นวายเสียง
แบกความหวังค้างคาจนบ่าเอียง
หวังนั้นเพียงเลี้ยงท้องพวกผองตน

คือชั้นชนคนแกร่งคือแรงงาน
ผู้สร้างบ้านตึกห้างสร้างถนน
ขับเคลื่อนกรุงรุ่งเรืองเทียบเบื้องบน
โดยแรงคนค่าต่ำ ‘กรรมกร’

คือฟันเฟืองเครื่องยนต์คือกลไก
ขับความศิวิไลซ์ไม่ย่อหย่อน
แต่ใจต้องสะท้านการสะท้อน
ที่ลิดรอนทอนค่า..คำว่าคน

ดอกผลของงานหนักคือ ‘ทักษะ’
แต่ภาวะ ‘มนุษย์’ ถูกฉุดปล้น
หัวใจเมื่อมีไว้..เพื่อใช้ ทน!!
สิทธิ์มนุษยชน!..อยู่หนใด?



ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 พฤศจิกายน 2010, 10:48:AM
MASAPAER
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 456
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 586


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2010, 10:48:AM »
ชุมชนชุมชน



"ตะกรันเกียรติ"

เขามุ่งมั่นทันการณ์งานธุระ
มุมานะสร้างสรรค์งานยุคใหม่
โครงการหลักยักย้ายถ่ายโอนไป
ปรับเปลี่ยนไวทันยุคทุกนาที

เขาเสนอ..คนสนอง..คล้องประสงค์
นโยบายพุ่งตรงคงความถี่
ศึกษารากฐานแกนแผนงานดี
กับภาษีตีตราราคาคน

เขาล้ำยุคปลุกปั่นกับงานโก้
ฐานะโตโอ่รุ่งมุ่งสู่ผล
เป็นผลพวงปัญญามหาชน
ด้วยดั้นด้นใฝ่หาศึกษานาน

เขาประสบโอกาสฉลาดหา
เขามีค่าเริ่มต้นอยู่บนฐาน
ทุกวิถีเขารู้กู้เหตุการณ์
ตั้งมั่นมานใหญ่โตโก้,นิยม

ตะกรันคนระดับเหนือทัพฟ้า
ปริญญาสามารถผงาดสม
ชนชั้นสูงมุ่งทำนำสังคม
อวดระดมสมองของตัวเอง

ยื้อผยองรองฐานตระหง่านล้ำ
หวังก้าวนำสมัยของวัยเก่ง
สะสมเกียรติเบียดยศคดมิเกรง
จิตคร่ำเคร่งเร่งโกยดูโรยรา

เมื่อหนึ่งยุคปลุกสมัยคนใฝ่สูง
มีแววยูงหลักฐานการศึกษา
วัดระดับศักดิ์ศรีที่เงินตรา
แบ่งวรรณาชนชั้นอันมีกิน

สังคมกลายสวรรค์ชั้นสถาน
สิ้นแรงงานชั้นต่ำคนหยามหมิ่น
บัดเมื่อนั้นแรงงานชั้นฝุ่นดิน
คงค่าสินของตัวกลัวว่า “แพง”

กรรมกรชั้นรากจะยากหา
เพื่อนำมาสร้างงานปั่นแขนง
ปริญญาชนชั้นหันหาแรง
คงต้องแบ่งภาษีที่มีซื้อ.....แรงงาน


 งง....

" มะสะแปค่ะ"

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

13 พฤศจิกายน 2010, 04:11:PM
พระจันทร์สีน้ำเงิน
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 66



« ตอบ #2 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2010, 04:11:PM »
ชุมชนชุมชน




....หรือ?..เราเพียง สวะในสังคม.....

กรรมาชนขายแรงแข่งกับหนี้
เป็นกุลี ขี้ข้า ฟ้ากลั่นแกล้ง
ตั้งแต่เกิดจนตายขายแต่แรง
ไม่รู้จักหรอกแหล่งแห่งสุนทรี

อยู่วิมานสลัมอมตะ
ถูกภาวะกดดันขั้นไล่บี้
จากสังคมแสนยาบารมี
ที่มักชี้นิ้วสั่งได้ดั่งใจ

คิดว่าเราเหาเห็บมิเจ็บดอก
คนบ้านนอกกินดิน หิน ไศล
มันอดมั่งอิ่มมั่งช่างปะไร
มหานครแดนไท้..ใช่ของมัน

เอาเงินตรามาหลอกออกดอกผล
เรามันจนทนกู้สู้!!..ครับทั่น???
โฆษณากรอกหูอยู่ทุกวัน
เหยียบบ่าคนต่ำชั้นฟันกำไร

ดัชนีมีเพชรเม็ดเบ้อเริ่ม
เช้าประเดิมค้าหุ้นนายทุนใหญ่
คฤหาสน์นิวาสถานบานตะไท
นั่นเหงื่อไคล..รากหญ้า หน้าไม่อาย

ขูดเลือดปูถูกังตายหยั่งเขียด
แล้วหยามเหยียดซ้ำเล่าทั้งเช้า-สาย
ท่านกินนอน ห้องแอร์ แหม!!..สบาย
กลิ่นสาปควายเหม็นยี้ไม่ภิรมย์

ขณะที่ทวยเทพสโมสร
วณิพกพเนจรนอนขื่นขม
ท่านอาจเห็นเป็นแมงสาบอาบโคลนตม
จึง ถุย ถ่ม ข่มเหง เบ่งบุญญา

หากสังคมสังคังเช่นดังนี้
คงไม่เหลือพื้นที่ให้พวกข้าฯ
กระทั่งแม้แต่สวรรค์แห่งบ้านนา
ถูกอำนาจเงินตรามาซื้อไป

ณ.ที่หนึ่งสุดท้ายแทนไม้หมอน
เชิงตะกอน..ไงล่ะ!!จะบอกให้
แต่ต้องรอถึงจุดหยุดหายใจ
ผู้ดี-ไพร่นอนเคียงเพนียงเพลิง






พระจันทร์ฯน้องใหม่ขอร่วมฝากผลงานด้วยนะคะ ผิด-ถูก โปรดอภัย



ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 พฤศจิกายน 2010, 03:30:PM
จ้อง เจรียงคำ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 405
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 636



« ตอบ #3 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2010, 03:30:PM »
ชุมชนชุมชน



ผู้ดีท่านนอนตายสบายบรื๋อ
เอาเงินอื้อถลุง...งานยุ่งเหยิง
กระทั่งสิ้นชีพขัยยังไว้เชิง-
(ตะกอน)เหลิง ตระการ..หว่านเงินตรา

บรรจุหีบหรูหราอ่าโอ่โถง
แค่ตัวโลงหูฉี่..มีมูลค่า-
กว่าที่ซุกหัวงีบชีพกรรมา
นอนเบียดฝาไม้หรู..ป้ายผู้แทน

(ขอบพระคุณ พณ ท่าน ที่ผันงบ
ผู้ทรงเกียรติที่เคารพ..ครบทุกแผ่น
มีค่ารถแล้วจะไปให้คะแนน
ป้ายพรรคท่านหนาแน่น..แสนถูกใจ

นโยบายขายฝัน..นั้นไพเราะ
อ่านเสนาะ..เคลิ้มขำ-น้ำตาไหล
ประชาทุกข์-ถ้าประชาธิปไตย
คือละครเวทีใหญ่ในสภา)


วกเข้าเรื่อง..ก่อนโดนแบน

ขณะที่เป็นศพคงอบอุ่น
ในโลงที่ต้นทุน..รุ่นเงินหนา
กรรมกรนอนตายวายชีวา
หมดปัญญาค่าหมอ..ขอลาตาย

ค่าชีวิตคิดว่า..เท่า หมา,มด
ความรันทดที่ว่ามาทั้งหลาย
ข้าเย็นข้าเหงาเปลี่ยว..ข้าเดียวดาย
ข้าทุรนทุราย..ทั้งชีวิต

นี่คงเป็นวันที่..ดีที่สุด
ในโลกามนุษย์..อำมหิต
เส้นเอ็นข้าถอยถด..มันหมดฤทธิ์
ตาข้าปิดเตรียมจะ...ปลดระวาง

ขณะที่ตัวข้า..ลาสังขาร
ผู้ดีท่าน..หลายผู้..อยู่คาอ่าง
ขณะลมออกเข้า..เริ่มเบาบาง
กี่คนค้างคาทุกข์.คุกสังคม?
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s