~"กล่อมนางใจ..ในแสงไต้?"~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 มีนาคม 2024, 05:43:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~"กล่อมนางใจ..ในแสงไต้?"~  (อ่าน 10061 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
29 มิถุนายน 2010, 09:53:AM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« เมื่อ: 29 มิถุนายน 2010, 09:53:AM »
ชุมชนชุมชน




~"กล่อมนางใจ..ในแสงไต้?"~



๐ ธาตุต่างสิ่งไหวคู่อยู่เบื้องหน้า
หนึ่งน้ำตารินไหล-สองไต้เต้น
กระชากใจชายหนึ่งถึงทรุดเอน
ลอบปาดเร้นหยาดชื้น..เฝ้าฝืนมัน

๐ แสงวับไหวไฟโชนอาบบนหน้า
ฉาบอนงค์ดารา..ตาสวรรค์
ในยามนี้นัยน์ชุ่มสุมชีวัน
กุมสไบผืนฝันอันคุ้นเคย

๐ ดอกน้ำตาคอยหน่วงสู่ห้วงช้ำ
พี่ถลำชิดนางอย่างเปิดเผย
กุมมือน้องที่รัก!แสนอยากเปรย
ประคองเจ้าทรามเชย..เผยทาสรัก

๐ ปล่อยพี่เช็ดน้ำตา!เถอะอย่าขืน
เชิญสะอื้นปล่อยมา..ตรงหน้าตัก
เปิดหัวใจออกมาอย่าหยุดพัก
ยึดเอาหลักอกพี่นี้ระบาย

๐ พี่จะกล่อมจอมใจท่ามแสงไต้
มือจะไล่..ริ้นยุงที่มุ่งหมาย
จะเช็ดปรางพรางไล้ด้วยใจชาย
โอบกอดกายด้วยร่างอย่างป้องนวล

๐ ขอสิทธิ์รักดูแล..แม้เพียงนิด
อาจจะผิดสุดรักหนักกำสรวล
หลับเถอะนะคืนนี้..พี่เพื่อนครวญ
หลั่งนัยน์อวลปนบ้าง..อย่างน้อยใจ..

ระนาดเอก
สวิสเซอร์แลนด์
๒๙ มิ.ย.๒๕๕๓

ยิ้มแก้มแดง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : MASAPAER

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

29 มิถุนายน 2010, 02:36:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #1 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2010, 02:36:PM »
ชุมชนชุมชน

                                      ๐๐ กล่อมนาง ๐๐

                        ๐  ดึกดื่น..คืนนี้..         พี่เหม่อ..มองฟ้า..
                       คิดถึง..กานดา              แก้วตา..ขวัญใจ..
                       อยากอ้อน..วอนดาว      พร่างพราว..แสงใส..
                       ช่วยบอก..ทรามวัย..      ถึงใจ..พี่ยา..
                        ๐ รอยยิ้ม..จากเจ้า..    ยวนเย้า..เอกา..
                       ก่อนหลับ..นิทรา..          หลับตา..ฝันดี..
                       โอ้ ดาว..เดือนหนอ..      ขอเพียง..เท่านี้..
                       หิ่งห้อย..ราตรี..             ช่วยชี้..นำทาง..
                        ๐ หากนวล..น้องเจ้า..  เกิดเหงา..ยามห่าง..
                       โปรดจ้อง..มองทาง..     หน้าต่าง..ห้องใจ..
                       จะเห็น..ความรัก..         ปักกลาง..เดือนไกล..
                       ทอแสง..แฝงนัยย์..       แห่งใจ..พี่ยา..
                        ๐ จะกล่อม..นวลน้อง..  ผ่านท้อง..นภา..
                       ผ่านแสง..จันทรา..        ผ่านฟ้า..ราตรี..
                       ฝันดี..นะเจ้า..              อย่าเศร้า..ขวัญหนี..
                       วอนดอก..จำปี..            ชี้กลิ่น..นำใจ..
                        ๐  เทพไท้..รักษา..      เทวา..คุ้มภัย..
                       ผีเหย้า..เรือนใหญ่..      จงได้..คุ้มครอง..
                       หากแม้น..ลมหนาว..     เข้าเยือน..ถึงห้อง..
                       ขอไอ..อุ่นของ..             รองแสง..จันทรา..
                        ๐  มาห่ม..ให้นวล..      อบอวล..อุรา..
                        แทนใจ..ห่วงหา..         แทนผ้า..ห่มใจ..
                       ไออุ่น..แห่งรัก..           จะปัก..ตรึงไว้..
                        แม้เรา..ห่างไกล..         แต่ใจ..ชิดกัน.......

                                              ***เมฆา...***

   
   

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : MASAPAER

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
02 กรกฎาคม 2010, 11:50:PM
MASAPAER
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 456
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 586


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2010, 11:50:PM »
ชุมชนชุมชน





"กล่อมนางใจ..ในแสงไต้?"



๐ ธาตุต่างสิ่งไหวคู่อยู่เบื้องหน้า
หนึ่งน้ำตารินไหล-สองไต้เต้น
กระชากใจชายหนึ่งถึงทรุดเอน
ลอบปาดเร้นหยาดชื้น..เฝ้าฝืนมัน

๐ แสงวับไหวไฟโชนอาบบนหน้า
ฉาบอนงค์ดารา..ตาสวรรค์
ในยามนี้นัยน์ชุ่มสุมชีวัน
กุมสไบผืนฝันอันคุ้นเคย

๐ ดอกน้ำตาคอยหน่วงสู่ห้วงช้ำ
พี่ถลำชิดนางอย่างเปิดเผย
กุมมือน้องที่รัก!แสนอยากเปรย
ประคองเจ้าทรามเชย..เผยทาสรัก

๐ ปล่อยพี่เช็ดน้ำตา!เถอะอย่าขืน
เชิญสะอื้นปล่อยมา..ตรงหน้าตัก
เปิดหัวใจออกมาอย่าหยุดพัก
ยึดเอาหลักอกพี่นี้ระบาย

๐ พี่จะกล่อมจอมใจท่ามแสงไต้
มือจะไล่..ริ้นยุงที่มุ่งหมาย
จะเช็ดปรางพรางไล้ด้วยใจชาย
โอบกอดกายด้วยร่างอย่างป้องนวล

๐ ขอสิทธิ์รักดูแล..แม้เพียงนิด
อาจจะผิดสุดรักหนักกำสรวล
หลับเถอะนะคืนนี้..พี่เพื่อนครวญ
หลั่งนัยน์อวลปนบ้าง..อย่างน้อยใจ..

ระนาดเอก
สวิสเซอร์แลนด์
๒๙ มิ.ย.๒๕๕๓

ยิ้มแก้มแดง





@  เสียงครวญ..นางใจในแสงไต้ @

กุมสไบสะอื้นฝืนเจ็บปวด
ความร้าวรวดปวดข่มตรมสั่นไหว
น้ำแห่งเนตรเพชรงามท่ามแสงไฟ
หลั่งลึกในท่วมท้นปนอาวรณ์

ไล้สองแก้มแต้มพักตร์ประจักษ์ทุกข์
เข้าโรมบุกหัวใจให้โหยอ่อน
สะอื้นครวญร่ำไห้ใจขาดรอน
ให้ทุกข์ร้อนย้อนขยี้พลีแหลกลาญ

สองมือพี่กอดน้องประครองปลอบ
สัมผัสตอบมอบใจกายไหวซ่าน
รู้บ้างไหมใจท้อทรมาน
เหมือนวิญญาณสิ้นแล้วพี่แก้วเอย

ไม่อยากคิดสิทธิ์เหลือเมื่อพรุ่งนี้
เมื่อไร้แขนของพี่พลีเขนย
คืนต่อไปใครปลอบมอบเหมือนเคย
สุดยากเปรยเอ่ยคำรำพันครวญ

พิศมองหน้าพี่เจ้าเศร้าอ่อนล้า
บรรจงเช็ดน้ำตาครากรรมหวน
รู้สึกเก่าเร้าร้อนซ่อนรัญจวน
ด้วยนุ่มนวลตราตรึงซึ้งอาลัย

กอดน้องไว้ให้แน่นในแขนพี่
ก่อนคืนนี้ลับไปในแสงไต้
ขอซบแนบแทบตักพักหัวใจ
ก่อนแสงไฟสีนวลด่วนมอดลง

เคลื่อนกายเข้าเคล้าแนบแอบกายพี่
ก่อนพรุ่งนี้มาเยือนเหมือนฟ้าส่ง
สิ้นแสงไต้หลั่งโศกวิโยคปลง
อธิษฐาน..มั่นคงรัก..ภักดิ์นิรันดร์


  สาวน้อยหัวเราะ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

03 กรกฎาคม 2010, 04:28:AM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #3 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2010, 04:28:AM »
ชุมชนชุมชน



ก่อนจากลา น้ำตานอง ลงสองแก้ม
กลางแสงแจ่ม แห่งไต้ ในคืนหวั่น
สองคลุกเคล้า เคลียคลอ พ้อรำพัน
สุดตื้นตัน วันจาก พรากเนื้อนวล

เฝ้าจุมพิต ชิดชม ดมกลิ่นหอม
ดอกพยอม ยามค่ำ เฝ้ากำสรวล
สั่นสะทก อกสะท้าน สราญรวน
เสียงคร่ำครวญ หวนไห้ ดั่งไต้ปลิว

ไต้ไหม้ลาม ตามกาล มานานเนิ่น
สองเพลิดเพลิน ปลดปล่อย ลอยละลิ่ว
เมฆตั้งเค้า เงาสลัว ทั่วเป็นทิว
ฟ้าเริ่มกริ้ว แปลบปลาบ อาบลมบน

เจ้าหนาวสั่น พลันกอด ทั้งออดอ้อน
เบียดกายร้อน ซุกไซ้ พาใจหล่น
สไบบาง ผืนน้อย จึ่งลอยวน
ดั่งต้องมนต์ กฤษณา มาดลใจ

เสียงหรีดหริ่ง เรไร ระงมร้อง
ฟ้าคะนอง ฝนปรอย ลบรอยไถ
ปฐพี เลื่อนลั่น สนั่นไพร
พิรุณไล่ ช้างป่า มากลางดอน

เจ้ากรีดร้อง กลัวฟ้า นิจจาเอ๋ย
ดั่งมิเคย ตากฝน จนตกหมอน
พี่กอดน้อง เนื้อนวล ชวนอาวรณ์
ฝนเปียกปอน ไต้ดับ ไปกับลม

ซับน้ำตา นางใจ ไต้มอดแล้ว
โอ้ นางแก้ว แสนงาม ยามสู่สม
ขอสั่งลา ฟ้าสาง น้ำค้างพรม
ขอเชยชม นางใจ จุดไต้รอ

 ขอจีบ...ได้ป่ะ

“ปรางค์  สามยอด”


ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

03 กรกฎาคม 2010, 04:28:PM
ปรางทิพย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 355
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 429



« ตอบ #4 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2010, 04:28:PM »
ชุมชนชุมชน

เสียงสะอื้นคืนจากกระชากขวัญ
ร่ำลากันสัญญาหน้าห้องหอ
ห่างเพียงกายสายใยใกล้เคียงคลอ
ยังพะนอขอเจ้าจงเข้าใจ

กอดกระชับกับทรวงให้ห่วงหา
เสมือนว่าล้าแล้วแก้วหวั่นไหว
กว่าจะพบสบยากมาพรากไกล
เหตุไฉนไยรักจักต้องตรม

แสนสงสารกานต์ใจในวันนี้
โดนขยี้บี้บดกดสาสม
ฤาสวรรค์กลั่นแกล้งดุจแสร้งพรหม
ทุกข์ระทมขมขื่นสุดฝืนปอง

จำต้องเลือกเกลือกกลั้วแม้กลัวนัก
จำต้องหักพักจิตคิดสนอง
จำต้องเก็บเจ็บไว้เพื่อไตร่ตรอง
แม้กลัดหนองหมองหม่นสู้ทนคอย

มองแสงไต้ใจหายมิวายเหงา
ลมโชยเบาเคล้าโศกดังโลกหงอย
กลิ่นราตรีคลี่หวานกาลเลื่อนลอย
น้ำตาพลอยย้อยไหลไล้สองปราง

ปวดแสนปวด...รวดร้าวหนาวสะท้าน
คงอีกนานผ่านไปใช่ขัดขวาง
จึงหลบหลีกปลีกตัวมืดมัวพราง
ดูเคว้งคว้างอย่างเห็นเช่นบทกลอน

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 กรกฎาคม 2010, 05:51:PM
chaipan1999
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 93
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 365


กวีจรนอนตลาด-กวีปราชญ์นอนวัง


« ตอบ #5 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2010, 05:51:PM »
ชุมชนชุมชน

โอ๋..โอ๋..โอ๋..โถถนอมกล่อมขวัญแก้ว
จำเรียงแจ้วแว่วครวญยอดนวลขวัญ
หลายบาทบทสะกดใจในคืนวัน
ร่ำรำพันพรอดพร่ำล้ำจินตนา

หนุ่มปลอบสาวสาวครวญหวนสะอื้น
รักมิชื่นดังคาดปารถนา
ต้องหักร้างห่างไกลในคำลา
มิอาจมาหวนอยู่ร่วมคู่เคียง

เห็นหนุ่มหนุ่มเขาครวญปวดใจนัก
สาวครวญทักพรอดพร่ำย้ำสรรพเสียง
ครวญในคำร่ำถ้อยร้อยสำเนียง
ขอคนเคียงครวญบ้างอย่างเข้าใจ

กะเทยหนุ่มรักคุดใจทรุดหนัก
ใครช่วยพักมอบไหล่ครวญหวนไห้
น้ำตาสาวชัยพันธุ์ท่วมทรวงใน
หนุ่มคนไหนช่วยปลอบมอบขวัญที...


 ซึ้งจัง ซึ้งจัง
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 กรกฎาคม 2010, 06:56:PM
ทอฝัน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 455
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,502

...ทอฝัน ขะรับ...ทอฝัน...!!!


« ตอบ #6 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2010, 06:56:PM »
ชุมชนชุมชน

...อยากต่อกลอนน้องเทยกลัวเลยเถิด
กลัวรักเกิดจริงจังหวังขยี้
หนู"ชัยพันธ์"วันแรกแจกไมตรี
พี่"ทอฝัน"นั้นรี่พลีใจมา

...เป็นหนุ่มใหม่ไฟอ่อนริอ้อนรัก
เริ่มทายทักทาบทามมาตามหา
หากหัวใจเว้นว่างบางเวลา
คงไม่ว่าถ้าคนเซ่อเสนอตัว

...อยากเขียนกลอนซึ้งซึ้งถึงใครบ้าง
ช่างเคว้งคว้างแปรปรวนชวนเวียนหัว
พบสาวงามยามงงเลยลงตัว
เนื้อคู่ชัวร์"ชัยพันธ์"...ฉันรักเธอ...
กรี๊ดดๆ
................................/ทอฝัน...คือว่าขำ ขำ อ่ะค่ะพี่ชาย...!!!
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หัวโขมย...เรียงร้อยจากห้วงใจ มิตรภาพยิ่งใหญ่ ไร้กาลเวลา
03 กรกฎาคม 2010, 10:02:PM
chaipan1999
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 93
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 365


กวีจรนอนตลาด-กวีปราชญ์นอนวัง


« ตอบ #7 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2010, 10:02:PM »
ชุมชนชุมชน

แหม....พี่ทอฝันพลันเอ่ยเฉลยรัก
หนุ่มกะเทยอึกอักกลัวรักเก้อ
จู่จู่มารุกใจให้ละเมอ
ทำเอาเซ่อเด๋อด๋าตั้งตารอ

มาบอกรัก วันนี้ วจีเพราะ
ฟังเสนาะเพราะพริ้งจริงจริงหนอ
พรุ่งนี้อาจทำเราหน้าเง้างอ
กะเทยหล่อชัยพันธุ์ชักหวั่นใจ

เป็นสาวงามกล้ามใหญ่ใจยังแกว่ง
กลัวลงแดงพี่ทอฝันให้หวั่นไหว
หนุ่มรูปสวยรักจริงยิ่งกว่าใคร
หากอยู่ใกล้คงผวาไม่กล้ามอง


 โอว์...มายก็อด โอว์...มายก็อด โอว์...มายก็อด

ขำขำนะครับ
[/color][/size]
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 กรกฎาคม 2010, 09:10:PM
MASAPAER
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 456
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 586


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2010, 09:10:PM »
ชุมชนชุมชน



"กล่อมนางใจ..ในแสงไต้?"



๐ ธาตุต่างสิ่งไหวคู่อยู่เบื้องหน้า
หนึ่งน้ำตารินไหล-สองไต้เต้น
กระชากใจชายหนึ่งถึงทรุดเอน
ลอบปาดเร้นหยาดชื้น..เฝ้าฝืนมัน

๐ แสงวับไหวไฟโชนอาบบนหน้า
ฉาบอนงค์ดารา..ตาสวรรค์
ในยามนี้นัยน์ชุ่มสุมชีวัน
กุมสไบผืนฝันอันคุ้นเคย

๐ ดอกน้ำตาคอยหน่วงสู่ห้วงช้ำ
พี่ถลำชิดนางอย่างเปิดเผย
กุมมือน้องที่รัก!แสนอยากเปรย
ประคองเจ้าทรามเชย..เผยทาสรัก

๐ ปล่อยพี่เช็ดน้ำตา!เถอะอย่าขืน
เชิญสะอื้นปล่อยมา..ตรงหน้าตัก
เปิดหัวใจออกมาอย่าหยุดพัก
ยึดเอาหลักอกพี่นี้ระบาย

๐ พี่จะกล่อมจอมใจท่ามแสงไต้
มือจะไล่..ริ้นยุงที่มุ่งหมาย
จะเช็ดปรางพรางไล้ด้วยใจชาย
โอบกอดกายด้วยร่างอย่างป้องนวล

๐ ขอสิทธิ์รักดูแล..แม้เพียงนิด
อาจจะผิดสุดรักหนักกำสรวล
หลับเถอะนะคืนนี้..พี่เพื่อนครวญ
หลั่งนัยน์อวลปนบ้าง..อย่างน้อยใจ..

  (พี่ระนาดเอกค่ะ)
 

@  เสียงครวญ..นางใจในแสงไต้ @

กุมสไบสะอื้นฝืนเจ็บปวด
ความร้าวรวดปวดข่มตรมสั่นไหว
น้ำแห่งเนตรเพชรงามท่ามแสงไฟ
หลั่งลึกในท่วมท้นปนอาวรณ์

ไล้สองแก้มแต้มพักตร์ประจักษ์ทุกข์
เข้าโรมบุกหัวใจให้โหยอ่อน
สะอื้นครวญร่ำไห้ใจขาดรอน
ให้ทุกข์ร้อนย้อนขยี้พลีแหลกลาญ

สองมือพี่กอดน้องประครองปลอบ
สัมผัสตอบมอบใจกายไหวซ่าน
รู้บ้างไหมใจท้อทรมาน
เหมือนวิญญาณสิ้นแล้วพี่แก้วเอย

ไม่อยากคิดสิทธิ์เหลือเมื่อพรุ่งนี้
เมื่อไร้แขนของพี่พลีเขนย
คืนต่อไปใครปลอบมอบเหมือนเคย
สุดยากเปรยเอ่ยคำรำพันครวญ

พิศมองหน้าพี่เจ้าเศร้าอ่อนล้า
บรรจงเช็ดน้ำตาครากรรมหวน
รู้สึกเก่าเร้าร้อนซ่อนรัญจวน
ด้วยนุ่มนวลตราตรึงซึ้งอาลัย

กอดน้องไว้ให้แน่นในแขนพี่
ก่อนคืนนี้ลับไปในแสงไต้
ขอซบแนบแทบตักพักหัวใจ
ก่อนแสงไฟสีนวลด่วนมอดลง

เคลื่อนกายเข้าเคล้าแนบแอบกายพี่
ก่อนพรุ่งนี้มาเยือนเหมือนฟ้าส่ง
สิ้นแสงไต้หลั่งโศกวิโยคปลง
อธิษฐาน..มั่นคงรัก..ภักดิ์นิรันดร์ 

 ( มะสะแปค่ะ)


 

ก่อนจากลา น้ำตานอง ลงสองแก้ม
กลางแสงแจ่ม แห่งไต้ ในคืนหวั่น
สองคลุกเคล้า เคลียคลอ พ้อรำพัน
สุดตื้นตัน วันจาก พรากเนื้อนวล

เฝ้าจุมพิต ชิดชม ดมกลิ่นหอม
ดอกพยอม ยามค่ำ เฝ้ากำสรวล
สั่นสะทก อกสะท้าน สราญรวน
เสียงคร่ำครวญ หวนไห้ ดั่งไต้ปลิว

ไต้ไหม้ลาม ตามกาล มานานเนิ่น
สองเพลิดเพลิน ปลดปล่อย ลอยละลิ่ว
เมฆตั้งเค้า เงาสลัว ทั่วเป็นทิว
ฟ้าเริ่มกริ้ว แปลบปลาบ อาบลมบน

เจ้าหนาวสั่น พลันกอด ทั้งออดอ้อน
เบียดกายร้อน ซุกไซ้ พาใจหล่น
สไบบาง ผืนน้อย จึ่งลอยวน
ดั่งต้องมนต์ กฤษณา มาดลใจ

เสียงหรีดหริ่ง เรไร ระงมร้อง
ฟ้าคะนอง ฝนปรอย ลบรอยไถ
ปฐพี เลื่อนลั่น สนั่นไพร
พิรุณไล่ ช้างป่า มากลางดอน

เจ้ากรีดร้อง กลัวฟ้า นิจจาเอ๋ย
ดั่งมิเคย ตากฝน จนตกหมอน
พี่กอดน้อง เนื้อนวล ชวนอาวรณ์
ฝนเปียกปอน ไต้ดับ ไปกับลม

ซับน้ำตา นางใจ ไต้มอดแล้ว
โอ้ นางแก้ว แสนงาม ยามสู่สม
ขอสั่งลา ฟ้าสาง น้ำค้างพรม
ขอเชยชม นางใจ จุดไต้รอ

  ( ลุง “ปรางค์  สามยอด”  ค่ะ )



@ ให้แสงไต้นำทางพี่ยา @

แสงไอศูรย์กรุ่นรับดับแสงไต้
ประหวั่นใจในกาลอันสั้นหนอ
เหมือนชีวินสิ้นหายในแสงทอ
ชะตากรรมค้ำคอท้อระทม

หยิบสไบคลุมกายไล้ร่างนวล
สะอื้นครวญหวนไห้ใจขื่นขม
มองพี่ยาปร่าปวดรวดร้าวตรม
ดั่งทุกข์ถมจมถึงบึ้งวิญญาณ์

พี่ประครองป้องนวลกำสรวลสั่น
สะอื้นกลั้นวันจากพรากดวงหน้า
อีกไม่นานกาลนี้พี่จะลา
น้องโหยหาคร่ำคราญป่วนดวงมาน

สุริยากล้าครอบรอบแผ่นดิน
เวลาสิ้นถดถอยคอยส่งสาส์น
บอกถึงคราวคราพรากจากสิ้นกาล
มิอาจทานวิโยคโศกใดแล้ว

หยิบเรือนผมก้มไล้ให้เรือนบาท
นบพิลาสวาดลงตรงองค์แก้ว
กายาสั่นเคว้งคว้างอย่างรู้แวว
ประทับแน่วไล้กอดพลอดเรือนกาย

จะจุดไต้รอวันพี่หันกลับ
ร่างที่ลับล่วงผ่านวิญญาณหมาย
เดินตามทางแสงไต้ในทางราย
ให้ถึงปลายแห่งหอหนอพี่เอย

อธิษฐานขอบุญเคยหนุนสร้าง
โปรดไขทางเจ้าข้าอย่านิ่งเฉย
ส่งแสงไต้ให้ทางพี่อย่างเคย
นางใจเอ่ยเปรยธิษฐาน   ณ  กาลนี้

  ( มะสะแปค่ะ )
 
 นางเอกร้อยไห้ นางเอกร้อยไห้               ... ทำตา ปิ๊งๆ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

29 กรกฎาคม 2010, 01:28:AM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #9 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2010, 01:28:AM »
ชุมชนชุมชน


สิ้นแสงไต้

เห็นแสงไต้เรืองรองหน้าห้องเจ้า
ดั่งหนึ่งเฝ้าคอยพี่สู่ที่หมาย
รอร่วมเรียงเคียงหมอนพักผ่อนกาย
อยู่เดียวดายสายัณห์จะมาเยือน

ต้องจำพรากจากเจ้าก่อนเช้าตรู่
ขวัญพธูดวงใจใฝ่คอยท่า
ต้องเร่งรุดทำงานหว่านถั่วงา
กลับคืนมาสู่ห้องท่องฉิมพลี

เงาวูบวาบแสงไต้ผู้ใดหนอ?
พะเน้าพะนอคลอคู่เข้าจู๋จี๋
ฤาเจ้ามีใครมายามราตรี
ปวดฤดีเจียนบ้า..! ฆ่าเลือดเย็น..!

โอ้ แสงไต้คืนนี้มีอาถรรพ์
เจ้าแบ่งปันรักใหม่ให้มองเห็น
ไยต้องมีแสงไต้ให้ลำเค็ญ
รักกระเด็นร่วงผล็อยถูกลอยแพ

ต่อแต่นี้ไม่มีแสงไต้แล้ว
เจ้าดวงแก้วอำพรางหมดทางแก้
กลางแสงจันทร์พันดาวสกาวแด
เหลือเพียงแต่เสาไต้ให้ตำตา

 ขอจีบ...ได้ป่ะ

“ปรางค์  สามยอด”
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

03 กันยายน 2010, 03:18:PM
MASAPAER
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 456
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 586


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 03 กันยายน 2010, 03:18:PM »
ชุมชนชุมชน



"นางใจครวญ"

ลมกรรโชกโยกเรือนเหมือนพายุ
แรงปะทุกระท่อมล้อมทุกท่า
หยิบสไบห่มร่างพลางกายา
รีบตั้งตาปิดเรือนเลื่อนลงกลอน

นั่งมองแสงแห่งไต้ไล้ลมต้อง
ฟ้าคะนองไต้เต้นเป็นเปลวว่อน
ท้าสายลมขรมฟ้ามิรารอน
ฤาจะพับหลับนอนได้ตอนใด

เสียงกรีดร้องของฟ้าดังว่าปวด
ฟังร้าวรวดปวดลึกรู้สึกได้
กรีดทะลวงแทบขาดบาดทรวงใน
ปานจะป่นหัวใจให้ทรมาน

ยกมือสองป้องโสตมิลดหวั่น
ตระหนกสั่นกำสรวลหวนคืนหวาน
ครั้งเมื่อพี่อยู่องค์คงเมื่อวาน
บัดนี้เหลือเพียงกาลอันทารุณ

เสียงกรีดร้องของนางดังแข่งฟ้า
ก้องคำรามเมฆาพายุหมุน
อกโหยหวนป่วนเศร้าราวแหลกจุล
เมื้อสิ้นบุญคนเคียงเพียงชั่วยาม

สิ้นแล้วมือคอยซับดับความทุกข์
กรรมโหมบุกรุกเร้าเคล้าเคราะห์หาม
พิศแสงไต้ต่อรองประครองตาม
โปรดอย่าดับแสงงามในยามนี้

คอยพี่กลับเรือนเราอย่างเหงานัก
แสงแห่งไต้ไฟรักจักอยู่นี่
คอยนำทางให้แล้วแก้วชีวี
โปรดกลับมาหาที..นางใจรอ


 สาวน้อยหัวเราะ


ปล.ลุงปรางค์ตาฝาดไปแล้วคร๊าบ....นางใจรักมั่นมิคลาย  ....     ซึ้งจัง
 ซุบซิบนินทา ตกลงเรื่องอะไรเนี่ยคะลุง....อิอิ  ตอนแรกนึกว่าพันท้ายนรสิงห์มาลาภริยา..ไม่ใช่หรอกรึ   ซุบซิบนินทา                     เรื่องไรอ่า...หรือถามเจ้าของเรื่อง?       งง....      เอ้อ..จริงว่ะ   
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

27 กันยายน 2010, 05:10:PM
MASAPAER
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 456
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 586


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 27 กันยายน 2010, 05:10:PM »
ชุมชนชุมชน



"เราจะข้ามเวลามาพบกัน"



เมฆเคลื่อนคล้อยลอยต่ำพรำหลั่งสาย
พิรุณรายใต้กาลผันเกิดก่อ
เสียงฟ้าหวนครวญคร่ำน้ำตาคลอ
 ตั้งจิตขอเทวานำพานาง

เมื่อสิ้นแล้วแก้วจงลงกำเนิด
ภพหน้าเถิดเห็นพี่ที่สว่าง
ขอสัญญานแห่งไต้ได้นำทาง
ประจักษ์กลางภพใหม่ไท้เทวา

ดลดวงมานนิรมิตประสิทธิ์พบ
อธิฐานบรรจบพบโลกหน้า
เดชะบุญหนุนเกื้อเอื้อนำพา
ดวงวิญญาณ์ผ่าภพประสบองค์

...............................................

กรีดนิ้วกรายจีบวาดพิลาสลักษณ์
ร่ายรำกวักลีลาคราคีตส่ง
ชำเลืองเนตรกรีดกรายย้ายอนงค์
ทิพย์ระนาดวาดทรงองค์ดนตรี

ยุรยาตรอย่างหงส์บรรจงฟ้อน
องค์เอวอ่อนย้อนกลับรับเสียงปี่
สีนวลอ่อนฟ้อนหวานผ่านเวที
เหมือนดั่งมีมนตร์ใดในภวังค์

เทพใดมองจ้องลึกรู้สึกหวั่น
พิศประจัญดวงหน้าแววตาขลัง
แรงดึงดูดภูตใดใช้กำลัง
เข้าเหนี่ยวรั้งรู้สึกนึกหวามใจ

หยิบพานแก้วแล้วโปรยโรยบุปผา
ปลิวระย้าหน้านางอย่างหวามไหว
มองลอดผ่านม่านบุปผาคราร่วงไป
แววเนตรนี้..คือผู้ใด..คลับคล้ายตา


 สาวน้อยหัวเราะ

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s