“ ลมหายใจในซากศพ “
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 มีนาคม 2024, 03:58:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “ ลมหายใจในซากศพ “  (อ่าน 5103 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
08 มิถุนายน 2010, 11:54:PM
MASAPAER
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 456
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 586


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« เมื่อ: 08 มิถุนายน 2010, 11:54:PM »
ชุมชนชุมชน



“ ลมหายใจในซากศพ “

มองเธอเดินลากลับลับหายจาก
พร้อมกระชากลากใจให้เคว้งคว้าง
ประหนึ่งเหมือนเฉือนใจให้หลุดราง
หล่นจากร่างลับหายสลายใจ

จับเนื้อตัวยังอุ่นด้วยขุ่นเลือด
บัดคอเหือดแห้งฝืนกลืนไม่ไหว
จับหน้าอกใจเต้นอย่างเป็นไป
มองร่างกายเคลื่อนได้แต่ใจตรม

ยังหายใจได้ดีมีชีวิต
ในจริตจิตเสียเพลียความขม
คำเสียดแทงแหยงด่าว่าโง่งม
ใจนอนซมล้มป่วยด้วยรักลา

นึกภาพเธอยิ่งเพ้อเซ่อถลำ
เธอสาดพร่ำคำเล่ห์เซถลา
แต่มืดมิดจิตบอดตลอดมา
ทำหูชาพร่าเลือนเหมือนไม่ยิน

เธอทำเบือนเลือนหายคล้ายประหาร
ขยี้ใจไฟผลาญระรานสิ้น
จำฝืนทนปนสู้อยู่อย่างชิน
รู้ไหมเหมือนชีวินสิ้นไปนาน

เพียงหายใจเข้าออกหลอกเรือนร่าง
แต่กายร้างว่างจิตชิดสถาน
ลมหายใจในซากกากวิญญาณ
ร้อนรุกรานผลาญใจใครลืมลง

ภาพเธอเดินลาเย้ยเผยอีกครั้ง
 ขยี้พังพลีใจให้เป็นผง
เหมือนตายแล้วทั้งเป็นเว้นรอปลง
สิ่งเหลือคงคือซาก,หากหายใจ


ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 มิถุนายน 2010, 02:37:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #1 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2010, 02:37:PM »
ชุมชนชุมชน

         
      ...ซาก..หัวใจ....

        ๐อสุภะ ละปลง ลงนอนราบ
  ร่างขนาบ ทาบดิน สิ้นความหวัง
  จิตขยับ จับร่าง อย่างเซซัง
  เข้าภวังค์ นั่งเงียบ เกินเปรียบเปรย
       ๐ลมหายใจ ไออุ่น ยังกรุ่นร้อน
  ความอาวรณ์ หลอนยิ่ง เกินนิ่งเฉย
  พร่ำอาลัย ในทรวง ห่วงทรามเชย
  เหมือนดังเคย เอ่ยคำ ย้ำดวงใจ
       ๐ต่อแต่นี้ ที่รัก ประจักษ์จิต
  อย่าได้คิด ติดตรึง ถึงร่ำไห้
  จงวิวาห์ กับเขา อย่างเข้าใจ
  จะขอไป ตามทาง อย่างวานวัน
      ๐หยาดน้ำสังข์ หลั่งริน เจือกลิ่นแป้ง
  ด้ายสีแดง ผูกแขน แทนเรียกขวัญ
  ให้น้องนี้ มีสุข ทุกคืนวัน
  ลืมเสียเถิด คำมั่น เคยสัญญา....
      ๐หยาดน้ำตา ลารด หยดน้ำสังข์
  ภาพความหลัง ลางเลือน เสมือนว่า
  ต้องลาแล้ว แก้วนวล ป่วนอุรา
  จบชีวา ด้วยฤทธิ์ พิษฝังใน
      ๐พิษอื่นใด ไหนเล่า เท่าพิษรัก
  ทำลายหลัก ปักมั่น ให้หวั่นไหว
  แม้เพียงนิด พิษแล่น เข้าแก่นใจ
  ร้าวฤทัย ไหม้หม่น จนสิ้นลม
      ๐เหลือเพียงร่าง วางไว้ กลายเป็นซาก
  วิญญาณจาก พรากหลุด สุดขื่นขม
  เป็นดั่งศพ ไร้รัก หมักตรอมตรม
   ทวยระทม ลมจาก ซากหัวใจ.....

            ***เมฆา...***
       
   
   
   
 
 
[/color]
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
09 มิถุนายน 2010, 06:17:PM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #2 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2010, 06:17:PM »
ชุมชนชุมชน



ต่างโลงใครโลงมันนั้นเรียงราย
ส่องไฟฉายงัดพรวดเข้าโลงหนึ่ง
ร่ายคาถาสะกดไว้คล้ายผูกตรึง
ก่อนเทียนลนที่ซึ่งอันหมายปอง

ตรงได้คางยางพรายลงหยาดเยิ้ม
ลงขันเพิ่มพอใจได้ดังหมาย
เสร็จธุระปิดโลงอยู่วุ่นวาย
ฝ่าเดือนหงายโดดเดี่ยวเลี้ยวเลาะมา

หลงรักสาวนางหนึ่งสบึมนัก
สุดจะหักห้ามในเสน่หา
ทั้งเล่ห์กลมนตร์ขลังเพียงหวังว่า
ปราถนาสมหมายคนใจเดียว..(เพี้ยง)

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 มิถุนายน 2010, 10:01:PM
พิกุลแก้ว
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 96
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 298



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2010, 10:01:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ ลมหายใจทอดถอนสะท้อนหนาว
ด้วยถึงคราวต้องอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยว
รักสะดุดจุดจบจิตปีนเกลียว
ความโศกเศร้าแน่นเหนียวเกี่ยวใจตน

๐ ลมสะท้านร่างกายไหวยะเยือก
เขาไม่เลือกเราหนอ..ท้อ-สับสน
เวลาผ่านหมุนเวียนเปลี่ยนคำคน
ถ้อยสัญญาปี้ป่นก่นทำลาย

๐ อยากขอให้ใช้สิทธิ์รับผิดชอบ
ด้วยการปลอบประโลมอย่าลี้หาย
ได้โปรดเถิดรับรู้อย่าดูดาย
หรือรีบคลายอ้อมกอดมอดไมตรี

๐ หากขาดเธอเช่นนี้ไร้ที่รัก
ผู้พิทักษ์หทัยไร้สุขี
ครั้งเธอพรากจากไปมิไยดี
เหมือนตอกย้ำย่ำยีวิญญาณ์พัง

๐ แค่อาศัยร่างกายไร้ที่อยู่
หมดทางสู้อารมณ์ข่มความหวัง
เสียงชีพเต้นเร็วถี่มิจีรัง
รอจังหวะกระทั่งได้สั่งลา....


ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 มิถุนายน 2010, 12:32:AM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 มิถุนายน 2010, 12:32:AM »
ชุมชนชุมชน


อันชีวิตคนเราเคล้าสุขทุกข์
มีทั้งลุกทั้งล้มจมถลา
จำต้องทนสู้ไปในมรรคา
ทั้งรู้ว่าเรี่ยวแรงเริ่มราโรย

ก็มันตายไม่ได้ในวันนี้
มันยังมีหวงห่วงแม้ร่วงโหย
ต้องฟันฝ่าอุปสรรคจักโบกโบย
มันร้องโอยไม่ออกเชิญตอกมา

ถ้าไม่สู้วันนี้วิ่งหนีหรือ?
มันเสียชื่อสร้างไว้ใครเสียหน้า
ความอดทนขมขื่นดั่งขื่อคา
คงสักวันหรอกหนาข้าหมดกรรม

ดั่งซากศพเคลื่อนที่มีชีวิต
ใครลิขิตก็ชั่งดั่งถูกย่ำ
มองดูคนรอบข้างยิ่งด่างดำ
หรือเราทำด้วยขี้ผึ้งไยจึงกลัว?

ชีวิตนี้เคยลำบากมามากแล้ว
มิใช่แก้วเปราะบางจะอ้างมั่ว
โดนกระทบนิดหน่อยจะลอยตัว
ต้องเนียนัวก้าวนำอย่าสำออย

 ขอจีบ...ได้ป่ะ

“ปรางค์  สามยอด”

ปลุกใจตัวเอง จ้า ขอจุ๊บ..หน่อย
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

12 มิถุนายน 2010, 06:54:PM
ปรางทิพย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 355
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 429



« ตอบ #5 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2010, 06:54:PM »
ชุมชนชุมชน

เหลือไว้เพียงเคียงร่างมิต่างซาก
ยามลาจากฝากทิ้งแม้สิ่งหวัง
ปล่อยผู้แพ้แช่จมถมประดัง
ลืมความหลังครั้งเก่าแสนเศร้าใจ

ฤาจะเป็นเช่นกรรมกระหน่ำเสริม
รอยร้าวเริ่มเพิ่มหม่นสุดทนไหว
แม้ยังรักหักจิตดั่งพิษไฟ
เพลิงเผาไหม้ใกล้มอดเมื่อวอดวาย

จึงปลอบตัวหัวใจยามไร้เขา
เหงาแสนเหงา...เงารักนั้นหักหาย
ยิ่งไขว่คว้าล้าแรงแสลงกราย
ดุจทำลายสายใยใกล้ขาดลง

จำต้องสู้รู้ยากซากความหลัง
เงาบดบังฝังติดด้วยพิษหลง
ถ้อยวจีที่หมายอาจคล้ายปลง
สุดท้ายคงสงสารกานต์ใจตัว
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 มิถุนายน 2010, 11:39:PM
MASAPAER
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 456
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 586


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2010, 11:39:PM »
ชุมชนชุมชน



เหมือนพายุปะทุกายใกล้ระเบิด
ใจเตลิดเชิดหายใต้ฟ้าหลัว
ชีวินกร่อนร้อนเร่าเคล้าความกลัว
ตามืดมัวกลั้วเขลาร้าวฝังนาน

อยู่กับกายไร้ลมเข้าห่มร่าง
รักเบาบางห่างไกลไร้สถาน
ตายทั้งที่มีลมใจในวิญญาณ
ยังคงพล่านผ่านกายไร้พลัง

ยอมตายแล้วทั้งเป็นเซ่นความรัก
หัวใจหักรักล้าลาความหวัง
ลมหายใจในกายใคร่เพพัง
เหมือนตายทั้งยังเป็นเพื่อเซ่นเธอ


ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

13 มิถุนายน 2010, 10:58:AM
พิกุลแก้ว
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 96
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 298



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2010, 10:58:AM »
ชุมชนชุมชน

๐ แล้วเขาเล่าเห็นไหม..ในซากศพ
เมื่อมันจบลงแล้วอย่าแคล้วเผลอ
เขามิสนใจจำหรือบำเรอ
หรือเสนอความรัก..ที่มากมาย

๐ ฉุดอารมณ์เหี่ยวเฉา..มาเคล้ากอด
แล้วพร่ำพลอดคำนึงถึงจุดหมาย
จิตเสื่อมโทรมโหมรุกบุกแรงกาย
เขาดูดายไม่สน...คนอย่างเรา

๐ เรียกสติปัญญากลับมาเถิด
อย่าปล่อยให้เตลิดเกิดความเหงา
ซากชีพชนม์ไร้ค่าราคาเบา
รอวันไฟแผดเผาเท่านั้นฤๅ.
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 มิถุนายน 2010, 04:06:PM
nasmok
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 83


จะติดตามทรามสงวนนวลละอองเป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2010, 04:06:PM »
ชุมชนชุมชน

มันสิ้นไร้กำลังล้มทั้งยืน     มันสุดฝืนหายใจต่อเริ่มท้อถอย
นอนพังพาบราบกับพื้นที่ยืนคอย     ลมหายใจเริ่มน้อยค่อยๆจาง

มันสุดแสนอ่อนล้าจะฝ่าฝืน     จะหยัดยืนขื้นหยั่งยังติดค้าง
เมื่อความรักห่างไปไกลสุดทาง     จะคืนแรงก้าวย่างได้อย่างไร

จะหายใจเข้าออกยิ่งชอกช้ำ     ด้วยน้ำคำกลับกลอกเธอบอกไว้
ต้องกล้ำกลืนขื่นขมลมหายใจ     เข้าออกให้ซากศพทั้งที่ยังเป็น
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คืนวันผันผ่านนานเกินนับ   คืนกลับสู่ใจให้ใฝ่ฝัน
เก็บความรักจริงแท้ให้แก่กัน   จากคืนฝันสู่วันนิรันดร
ได้พบสบตาเพียงครั้งหนึ่ง   ตราตรึงแววตาอนุสรณ์
ด้วยรักคงมั่นอันถาวร   นันทนาภรณ์ นามนี้ไม่มีลืม
18 มิถุนายน 2010, 01:16:PM
nasmok
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 83


จะติดตามทรามสงวนนวลละอองเป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2010, 01:16:PM »
ชุมชนชุมชน

มันสิ้นไร้กำลังล้มทั้งยืน     มันสุดฝืนหายใจต่อเริ่มท้อถอย
นอนพังพาบราบกับพื้นที่ยืนคอย     ลมหายใจเริ่มน้อยค่อยๆจาง

มันสุดแสนอ่อนล้าจะฝ่าฝืน     จะหยัดยืนขื้นหยั่งยังติดค้าง
เมื่อความรักห่างไปไกลสุดทาง     จะคืนแรงก้าวย่างได้อย่างไร

จะหายใจเข้าออกยิ่งชอกช้ำ     ด้วยน้ำคำกลับกลอกเธอบอกไว้
ต้องกล้ำกลืนขื่นขมลมหายใจ     เข้าออกให้ซากศพทั้งที่ยังเป็น

เมื่อสิ้นไร้คุณค่าเธอลาจาก     ทิ้งเศษซากหัวใจไว้ให้เห็น
แม้จะเหลือค่าแม้แค่เศษเดน     ยังขอเป็นเศษซากใจไม่นำพา

หากเธอผ่านย้อนมาหางตาเห็น     มองซากเดนหัวใจที่ไร้ค่า
อยากจะเหยียบย่ำซ้ำย้ำวาจา     เชิญเถิดหนาใจด้านชาไม่ว่ากัน
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คืนวันผันผ่านนานเกินนับ   คืนกลับสู่ใจให้ใฝ่ฝัน
เก็บความรักจริงแท้ให้แก่กัน   จากคืนฝันสู่วันนิรันดร
ได้พบสบตาเพียงครั้งหนึ่ง   ตราตรึงแววตาอนุสรณ์
ด้วยรักคงมั่นอันถาวร   นันทนาภรณ์ นามนี้ไม่มีลืม
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s