หน้าต่างที่เปิดออก ภาค 1
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
19 เมษายน 2024, 08:27:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หน้าต่างที่เปิดออก ภาค 1  (อ่าน 2643 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
08 มกราคม 2009, 04:12:PM
กวีบ่องตื่น
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 45


........โดนแบนเรียบร้อยแล้ว.........


« เมื่อ: 08 มกราคม 2009, 04:12:PM »
ชุมชนชุมชน

อันตราย...กรุณาอย่ายื่นขืนแขนขาออกนอกหน้าต่าง

ฉันจำได้ว่าเคยขบขันความทำนองนี้ ที่ติดไว้ในรถไฟชั้น ๓ แต่ฉันก็ไม่เคยพยายามที่จะนั่งให้ขาออกนอกหน้าต่างรถ ไม่ใช่กลัวอันตรายแต่ไม่รู้ว่าจะนั่งเอาขาออกไปจากหน้าต่างรถทำไม

ฉันไม่รู้จักรถไฟชั้นอื่นนอกจากชั้น ๓ รถไฟเป็นความหลังที่สนุกสนานในวัยเยาว์ พ่อแม่มารับส่งลูกที่สถานีรถไฟ ไม่ใช่เพียงพ่อแม่ของฉันเท่านั้นพ่อของใครๆ ก็เหมือนกัน

เปิดเทอมรถไฟจะนำลูกไปสู่เมืองหลวง เวลาแห่งการจากพรากเริ่มขึ้น ก่อนรถจะเคลื่อนตัวออก พ่อแม่ยืนเงยหน้ามองลูกที่ยืนเบียดกันอยู่ที่หน้าต่างรถไฟ ต่างคนต่างกล่าวลาลูกของตัวเอง สั่งสอนตักเตือนจนวินาทีสุดท้ายก่อนที่รถเคลื่อนตัวออก ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ผ่านพ้นเลี้ยวโค้งแรกลูกๆ ก็สนุกสนานทิ้งพ่อแม่ไว้เบื้องหลัง

พ่อฉันจะเป็นห่วงเรื่องอาหารการกินมากกว่าอื่นใด ฉันจะมีอาหารมากกว่าใคร ตั้งแต่เหนียวห่อกล้วยหรือข้าวต้มมัดนั่นแหละ หมี่ผัด หมูเค็มกับข้าวสวย ผลไม้เท่าที่หาได้อีก ๑ ถุง ที่ขาดไม่ได้คือส้มเขียวหวาน กินส้มเขียวหวานชื่นใจไม่ต้องดื่มน้ำอัดลม ทั้งนี้เพราะดื่มน้ำอัดลมไม่เป็น เมื่อครั้งมีงานผ้าขึ้นธาตุ เป็นงานใหญ่ประจำจังหวัด ฉันเคยดื่มน้ำอัดลมสีดำครั้งแรก มันบาดคอฉันแทบจะป้วนทิ้ง แต่ต้องทนกลืนลงไปกลัวพี่ชายจะเสียหน้าและเขาจะไม่ยอมให้ไปไหนด้วย

นอกจากของกินระหว่างทางแล้ว เรายังมีของกินที่เตรียมไปเพื่อจะได้เก็บไว้กินที่เมืองหลวง มีตั้งแต่กุ้งต้มน้ำตาล ปลาเค็ม ปลาย่าง น้ำพริกมะขาม และยังมีของฝาก พวกที่กลับบ้านไม่ได้ หอบกันเต็มมือ มีสะตอ ลูกเนียง มังคุด ลังสาด รวมไปถึงผักแกงเลียงพื้นบ้าน ขบวนสายได้อัดแน่นไปด้วยของกิน-บ้านเรา

เรื่องราวบนรถไฟมีมากมาย พวกผู้ชายมักชอบทำตัวอวดสาวในรถไฟ ครั้งหนึ่งสาวอยากกินมะขามคลุกน้ำตาล พี่ชายของฉันลงไปซื้อให้เธอในขณะที่รถไฟจอดสถานีเล็กๆ ช่วงสั้นๆ เพียงห้านาที ไม่มีใครเขาอยากลงไป แต่เขาลงเพื่อเอาใจสาว รถไฟเคลื่อนออกเขาต้องโหนประตูขึ้นมาแบบพระเอกหนังไทยปรากฏว่าเส้นรองเท้าหลุดไปข้างหนึ่ง ช่วงนั้นพวกหนุ่มๆ สวมรองเท้าส้นตึก โชคดีที่ส้นรองเท้าหลุดง่าย ไม่เช่นนั้นขาอาจจะหลุดไปด้วย ฉันได้รับค่าจ้าง ๑๐๐ บาท ในการปิดปากให้สนิท

?อย่าให้พ่อรู้ พ่อจะโกรธ และพี่ก็เสียฟอร์มด้วย ห้ามเล่าใครทั้งนั้น?


ฉันไม่ได้นั่งรถไฟนานแล้ว นับตั้งแต่พ่อตายจากไป ฉันทนไม่ได้ที่จะเห็นพ่อคนอื่นมารับลูกแต่ไม่มีพ่อของฉัน รถไฟสำหรับฉันมันเป็นเรื่องเศร้า

ในปีที่ ๒๐ ฉันคิดว่าฉันเดินทางกลับบ้านโดยรถไฟได้แล้ว ฉันมีเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไปด้วยกันและฉันหวังว่าเราจะเดินทางไปด้วยกันตลอดไป หรือถ้าฉันต้องเดินทางคนเดียวก็จะมีคนรอรับเมื่อกลับมา ตรงชานชลาที่สถานีปลายทางจะไม่ว่างเปล่า

ครั้งนี้ฉันเลือกรถนอนชั้น ๒ ชั้นนี้ไม่มีตัวอักษร เขียนว่าอย่ายื่นแขนขาออกนอกหน้าต่าง

ขบวนนี้เป็นรถเร็ว เชียงใหม่-กรุงเทพฯ เราต้องไปต่อรถไฟอีกครั้ง ขบวนกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช ปลายทางอยู่ที่นั้น

เป็นการเดินทางเที่ยวพิเศษจริงเพราะฉันนำเพื่อนร่วมทางเดินทางไปสู่ครอบครัวเดิมในฐานะสมาชิกใหม่ และเป็นการเดินทางไกลครั้งแรกของเขา ในระหว่างทางฉันเล่าให้เขาฟัง เรื่องรถไฟและพ่อ-


ที่นั่งด้านซ้ายมีฝรั่งสูงวัยกว่า ๖๐ ปี มากับสาว ผิวดำ ตาโต วัยไม่เกิน ๓๐ ปี พวกเขาหัวเราะเสียงดัง ดูเหมือนจะสื่อสารกันด้วยเสียงหัวเราะและท่าทางมากกว่าคำพูด

หล่อนและเขาช่วยกันทำที่นอนทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาและไม่สนใจข้อความที่เขียนติดเอาไว้ว่าต้องการปรับที่นอนโปรดเรียกพนักงาน

หล่อนมีความชำนาญในการปรับที่นั่งให้เป็นที่นอนได้อย่างรวดเร็ว โดยดึงที่นั่งทั้งสองด้านให้ติดกัน หล่อนพยายามเปิดหน้าต่างให้กว้างขึ้น

หล่อนหัวเราะเสียงดังเมื่อเขาโอบตัวหล่อนไว้ในขณะที่พยายามเปิดหน้าต่างให้กว้างขึ้น กูด กูด ยุกุดกูด ยูเก่ง ยูโอเพ็นเดอะดอร์ โอ...โนโนวินโด้

หล่อนและเขานอนกอดก่ายกันอยู่บนที่นอนเล็กๆ สำหรับคนเดียว เตียงนอนบนรถไฟชั้นล่าง ๑ คน ชั้นบนอีก ๑ คน แต่หล่อนและเขาใช้แต่เตียงล่างและไม่ได้เอาผ้ามาปิดกั้น เสียงพูดคุยสลับกันสองภาษาพร้อมกับเสียงหัวเราะ ฉันรู้สึกรำคาญเสียงหัวเราะของหล่อนและรู้สึกอับอาบ แต่ทันทีที่ฉันหันไปสบตาหล่อน สาวผิวดำก็ยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร

ถึงสถานีเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีพระขึ้นมาหนึ่งรูป ที่นั่งของท่านอยู่ตรงข้ามกับหล่อนและเขา

เขาถามพระว่าท่านอยู่วัดไหน

พระยังไม่ทันตอบ แม่สาวก็ส่งเสียงดังว่า กูดไนท์ กุฏไหน และอธิบายกับฝรั่งว่า ยูเซกูดไนท์ บ่ายๆ มิคไนท์ ไอน็อทเซย์กูดไนท์ ไอเซย์กูฎไหน โอเค ไอโทนยู มองกี้ไทย โอโนโน มองค์ไทยโนมองค์กี้ โอเค...มองค์ไทยแอนด์มองค์ฝรั่ง มองค์ไทยทางใต้-นครศรีธรรมราช มองค์ฝรั่งเซย์กูดไนท์ มองค์ไทยเซย์กุฎโน้น

แม้จะรู้สึกรำคาญแต่อดยิ้มขำไม่ได้ หล่อนช่างไม่รู้อะไรควรไม่ควรเลย หล่อนยังอธิบายต่ออีกว่า กุฏิคือบ้านของพระ คนใต้เรียกสั้นๆ ว่ากุฎ คล้ายกับฝรั่งว่ากูด และไนท์ กลางคืนก็มาคล้ายกับคำว่าไหน พระฝรั่งกูดไนท์ สวัสดีราตรีสวัสดิ์ แต่พระไทยภาคใต้ได้ยินว่า กุฎไหน เข้าใจว่าเขาถามว่าอยู่กูฎิไหนจึงตอบว่ากุฏโน้น

ฉันก้มหน้าหัวเราะไม่อยากให้เห็นแต่หล่อนก็เห็นจนได้ หล่อนถามฉันว่า ?คนใต้ใช้หม้าย?

ฉันพยักหน้ารับ

?ว่าแล้วหน้าตาคล้ายๆ คนบ้านเรา? ฉันยิ้มให้เธอ

?แล้วมาทำไหรไกลลิบ? หล่อนถามต่อ

?ใช่...ไกล? ฉันตอบใช่ ฉันมาอยู่ไกล แต่ไม่ได้ตอบว่ามาทำอะไร เพื่อให้หล่อนหยุดพูดฉันจึงหันไปสนใจพระกับฝรั่งที่คุยกันเรื่องวัดวาอารามที่เมืองเหนือ เขาสนใจเรื่องพุทธศาสนา

พระถามถึงเส้นทางที่เขาเดินทางมาและกำลังจะไป เขาตอบๆ ว่า แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ชุมพร

หล่อนและเขากำลังเดินทางไปทางภาคใต้เช่นเดียวกับฉัน

ถ้าด้านขวาเป็นตัวแทนของความดี ความงามและความบริสุทธิ์ ด้านซ้ายเป็นในสิ่งที่ต่างกัน ฉันพยายามที่ไม่มองทั้งซ้ายและขวา แต่ทำไม่ได้เพราะทั้งซ้ายและขวาน่าสนใจ

?ชอบ...ชอบเชียงใหม่เพราะอาหารถูก...แฟนเขาก็ชอบเหมือนกัน? ได้ยินเสียงหล่อนคุยกับพระ ?จะไปเกาะเต่า พี่เขยกับพี่สาวอยู่ที่นั่น?

เพื่อนร่วมทางของฉันยังคงนั่งอ่านหนังสืออย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง จนฉันทนไม่ได้จึงสะกิดให้ดู เขาหันไปมองพระพร้อมกับยกมือไหว้ ถามท่านเป็นภาษาถิ่นว่า ท่านจะไปไหน ท่านตอบว่าไป สุราษฎร์ธานี สวมโมกข์

?ช่วยถามให้หน่อยว่าทำไมเขาถึงอัดรูปนี้มาเยอะ เพราะอะไร? หล่อนเอาภาพถ่ายมากมายให้พระดู

พระหันไปถามฝรั่งตามที่หญิงสาวต้องการ และหันมาบอกว่า ?เขาว่าเขาชอบ?

หล่อนหัวเราะชอบใจ เมื่อได้คำตอบ ความอยากรู้อยากเห็นทำให้ฉันลุกขึ้นเดินทำทีไปเข้าห้องน้ำ เพื่อจะได้ก้มตัวขอโทษและแอบมองรูปภาพใบนั้น

มันเป็นรูปผู้หญิง ดูไม่ชัดแต่คิดว่าเป็นรูปของเธอ เสียงหัวเราะแห่งความยินดี ไม่ใช่เรื่องแปลก ใครก็อยากถูกรักถูกชอบ ฉันล้างมือที่อ่างหน้าห้องน้ำแล้วเดินกลับ

?ช่วยถามให้หน่อย เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไร?

คราวนี้พระเงียบ ฉันไม่แน่ใจว่า พระไม่อยากแปล เป็นถ้อยคำที่ไม่ควร หรือว่าท่านฟังไม่ออกแปลไม่ได้

ฝรั่งคงเมื่อยเขาจึงนั่งเอนตัวลงเอาเท้าพาดกับขอบหน้าต่าง ยื่นขาออกไปนอกหน้าต่าง ฉันคิดถึงข้อความ ?อย่ายื่นเขนขาออกนอกหน้าต่าง?

เออ...ฝรั่งคนนี้ทำได้...ยื่นขาออกนอกหน้าต่างได้

เขาลุกขึ้นนั่งส่งกล้องถ่ายรูปให้พระ พร้อมกับบอกท่านว่า ช่วยถ่ายรูปให้หน่อย และล้มตัวลงไปนอนคราวนี้หันหัวไปทางหน้าต่างแต่ไม่ยื่นหัวออกไปนอกหน้าต่าง หญิงสาวยังหัวเราะเมื่อเขาเอื้อมมือมากอดหล่อนจนล้มลง ในขณะที่หล่อนอธิบายให้พระฟังว่า กล้องถ่ายรูปใช้อย่างไร

ฉันกำลังดูว่าพระจะทำอย่างไร จะยอมถ่ายรูปให้หรือไม่ จะพูดอย่างไร

ฉันคิดว่าท่านกำลังหาคำพูดที่เหมาะสมเพื่อให้ฝรั่งนักท่องเที่ยวรู้ว่าอะไรควรไม่ควร แม้เราจะยินดีที่นักท่องเที่ยวเข้ามา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำทุกอย่างได้ มาบ้านเราก็ต้องเกรงใจเราเคารพเจ้าของบ้าน ทั้งนี้เพื่อเขาจะได้เที่ยวเมืองไทยอย่างมีความสุข

พระยกกล้องถ่ายรูปขึ้นถ่ายรูปให้ และส่งกล้องถ่ายรูปคืน ท่านทำแค่นั้นและท่านยังต้องฟังแม่สาวพูดเล่าถึงเรื่องราวของตัวเอง หล่อนบอกพระว่าฝรั่งคนนี้เป็นแฟนของหล่อนพบทกันที่เกาะแต่และพาเขามาเที่ยวเมืองเหนือ ตอนนี้กำลังจะกลับเกาะเต่า

เจ้าหน้าที่รถไฟที่เดินตรวจความเรียบร้อย หยุดมองผู้ชายต่างชาติกับสาวไทยนอนกอดก่ายกันชั่วครู่ หญิงสาวยิ้มหัวเริงร่า เจ้าหน้าที่ดึงที่นอนข้างบนลงมา เอาหมอนกับผ้าห่มส่งให้พวกเขา ๑ ชุด พร้อมกับถามว่าเตียงบนไม่ใช้ใช่ไหม หญิงสาวตอบว่า จ๊ะ เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนถามอีกครั้งแน่ใจนะ

เขาดึงม่านลงมาเปิดเตียงนอนให้ พร้อมกับเดินจากไป ฉันคิดว่าเจ้าหน้าที่คงอยากจะขายที่นอนเตียงบนให้คนอื่นที่อยากเดินทางจึงถามให้แน่ใจ และเขาก็ยอมแม้หล่อนจะทำผิดกฎไปบ้าง

หญิงสาวโผล่หน้าออกมาหล่อนหัวเราะเสียงดัง ก่อนเปิดม่านออกทั้งหมด ยามเย็นยังมีแสงแดดส่องผ่านเข้ามา ใครจะอยู่ในม่านนั้นได้ แม้จะมีพัดลมก็เถอะ

?ร้อนจะตาย? หล่อนว่าและหัวเราะเมื่อเขาตบก้นแรงๆ สองครั้ง

?เขาคงซื้อเวลามา เขาจึงไม่ให้เกียรติเธอ ปฏิบัติต่อเธอแบบนั้น? ฉันพูดกับเพื่อนร่วมทางที่ยังคงอ่านหนังสืออยู่เช่นเดิม ?ทำไมเธอไม่อายเลยนะ ใครๆ ก็มอง?
?เธออายนะ? เขาพูดขึ้น

?เหรอ?

?ใช่เธอ อายเธอเลยหัวเราะไง อายแต่ต้องทำ? เขาว่าพลางลุกขึ้นยืนบอกว่าจะออกไปสูบบุหรี่ ถ้าใครจะสูบบุหรี่ต้องไปสูบที่ประตูเป็นช่วงต่อระหว่างตู้รถไฟ

ฉันไม่ไปกับเขา เลือกที่จะนั่งดูดวงอาทิตย์ใกล้จะลับฟ้า ฉันมองผ่านหน้าต่างที่เปิดไว้เพียงนิดเดียว

?เปิดหน้าต่างให้เอาไหม? หล่อนมายืนอยู่ใกล้ที่ฉันนั่ง

?ไม่เป็นไร ขอบคุณ แค่นี้ก็มองเห็นแล้ว?

?หลบออกมา จะเปิดหน้าต่างให้ ไม่ต้องไปเชื่อมันหรอก ไอ้พวกรถไฟ ให้ปิดหน้าต่างร้อนตาย กลางคืนก็เปิดหน้าต่างไปเลย เปิดหน้าต่างนอนสบายจะตาย เออถ้าตู้แอร์ก็อีกอย่าง ? ฉันลุกออกมาจากที่นั่นหลีกทางให้หล่อนเข้าไปเปิดหน้าต่าง มือแข็งแรงของหล่อนกดขอบหน้าต่างลงก่อนจะดันขึ้น ขยับขึ้นลงหลายครั้งในที่สุดก็เปิดออก มองเห็นทุ่งนาร้างและฟ้ากว้าง
บันทึกการเข้า

........โดนแบนเรียบร้อยแล้ว.........
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s