มหาภรตะนิทาน เรื่องพระนลคำกลอน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
17 เมษายน 2024, 02:32:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 ... 11
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มหาภรตะนิทาน เรื่องพระนลคำกลอน  (อ่าน 62940 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
10 กันยายน 2018, 12:14:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #80 เมื่อ: 10 กันยายน 2018, 12:14:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                            หน้า  ๗๗

    ๏ กลุ่มพ่อค้าทั้งหลายได้อาบน้ำ
เขาชื่นฉ่ำคลอเคลียคู่เมียผัว
ดูเริงรื่นชื่นฤดีมิหมองมัว
อกระรัวตัวเราคว้างคู่ร้างรา
     ๏ ริมสระน้ำงามล้วนมวลดอกไม้
อยู่วังในได้เชยชมดมบุปผา
พี่ชี้ชวนชมสวนขวัญตระการตา
ยามนี้มาไกลห้องหมองกมล
     ๏ มวลผลไม้สุกงอมน้อมกิ่งห้อย
บ้างร่วงลอยลงพื้นดื่นเกลื่อนกล่น
ลิ้มชิมหวานมิซ่านจิตคิดกังวล
พระทรงพลแลป่านนี้มิมีกิน
     ๏ อยู่วังทองน้องจัดคัดสรรให้
ผลไม้สลักประจักษ์ศิลป์
น้องคอยป้อนอ้อนเล่นเป็นอาจิณ
โอ้ภูมินทร์มาอ้างว้างกลางอรัญ
     ๏ หลังอาบน้ำเสร็จสรรพขยับย้าย
มิห่างหลายเส้นนักจากบึงนั่น
ด้วยมาถึงซึ่งเวลาย่ำสายัณห์
สั่งตั้งหลักพักค้างกันอีกหนึ่งคืน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, @free

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 กันยายน 2018, 12:16:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #81 เมื่อ: 10 กันยายน 2018, 12:16:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                             หน้า  ๗๘
              
    ๏ อูฐ ช้าง ม้าพาผูกไว้ได้ที่แล้ว
ขึงฉากนั้นกันแนวเนินร่มรื่น
กางกระโจม มุ้ง สาดปูลาดพื้น
แลกลมกลืนผวยผ้าน่าพักนอน
     ๏ ทมยันตีเดินรี่มองจองที่หมาย
เพื่อซุกกายเป็นเรือนเหมือนคืนก่อน
คนตกยากฝากชีวาพนาดร
โอบสองกรคุดคู้อยู่โคนไทร
     ๏ แล้วมาเกิดเหตุร้ายในกลางดึก
ถ้วนทุกผู้มิรู้สึกนอนหลับใหล
ด้วยเหนื่อยเกินเดินทางมากลางไพร
มิมีเวรระวังภัยที่คืบคลาน
     ๏ โขลงช้างป่ามากินน้ำประจำอยู่
กลุ่มตัวผู้ตกมันพลันฮึกหาญ
ได้กลิ่นช้างที่มาคาราวาน
เกิดอาการคลั่งเตลิดกระเจิดกระเจิง
     ๏ นำโขลงวิ่งดิ่งไพรตรงไปหา
โถมถลาตามกันถลันเหลิง
กองค้านั้นพลันระเบิดแตกเปิดเปิง
เร็วกว่าเพลิงเผาผลาญแหลกลาญลง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, @free

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 กันยายน 2018, 12:17:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #82 เมื่อ: 10 กันยายน 2018, 12:17:PM »
ชุมชนชุมชน




                                                             หน้า  ๗๙

    ๏ ที่เจ็บหนักแขนขาหักน่าหดหู่
บ้างเดินดูทรัพย์แหลกแตกเป็นผง
บ้างครวญคร่ำกำสรดแทบปลดปลง
เพราะสูญพงศ์บุตร บิดา เมีย สามี
     ๏ ยังวุ่นวายสับสนจนฟ้าสาง
คนเดินทางมากมายกลายเป็นผี
ยากคิดอ่านการใดต่อไปดี
ทมยันตีรู้ข่าวใจร้าวราน
     ๏ แม้อยากจะเอื้ออวยช่วยเหลือบ้าง
แต่ตัวนางไร้พลังของสังขาร
สุดวิโยคโศกซึ้งถึงดวงมาน
มิเคยพานเหตุร้ายใหญ่ก่อนมา
      ๏ คาราวานนั้นมลายหลายสถาน
อัประมาณย่อยยับเกินนับค่า
ญาติมิตรดับสูญทรัพย์สินสิ้นเงินตรา
โถมิน่ามาเป็นเช่นนี้เลย
     ๏ หลายคนพร่ำวาจาว่า “เทวะ
โอ้องค์พระที่บูชาแห่งข้าเอ๋ย
เมื่อจะมาข้าบวงสรวงแล้วเอย
ก่อนมิเคยวิบัติถนัดใจ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, @free

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 กันยายน 2018, 11:51:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #83 เมื่อ: 12 กันยายน 2018, 11:51:AM »
ชุมชนชุมชน



                                                                    หน้า  ๘๐


     ๏ หรือเพราะตัวกาลีนางผีร้าย
อันฝากกายตามมาแต่ป่าใหญ่
เป็นเสนียดน่าเดียดฉันท์ตัวจัญไร
จึงเกิดเหตุเภทภัยไม่เหลือดี”
     ๏ ทมยันตีเห็นท่าว่าจะแย่
เกิดตั้งแง่มาใส่ร้ายป้ายสี
จึงถอยห่างย่างไกลพากายลี้
กรูไล่กันทันทีกลุ่มพ่อค้า
     ๏ ทมยันตีหนีไปบังหลังพุ่มไม้
พ่อค้าคลั่งยังรุกไล่บุกไปหา
ดุ้นฟืนหินริมทางหยิบขว้างปา
มิมีจิตคิดเมตตาว่าเป็นคน
    ๏ ทมยันตีนิ่งมิติงไหว
ของเล็กใหญ่ลอยมาเหมือนห่าฝน
สักครู่หนึ่งจึงพ่อค้าทุรชน
ค่อยค่อยขนสินค้าลาลับไป
   ๏ โอ้ว่าทมยันตีขวัญหนีสิ้น
คลำกายินปูดโปนโดนตรงไหน
บุญปกกายมิให้ต้องสิ่งของใด
ถอนฤทัยปลงจิตอนิจจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : @free, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 กันยายน 2018, 11:53:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #84 เมื่อ: 12 กันยายน 2018, 11:53:AM »
ชุมชนชุมชน





                                                             หน้า  ๘๑

    ๏ เหล่าเทวัญนั้นคงลงมาคุ้ม
ผู้ที่รุมทำร้ายไม่สมหวัง
กุศลมีแต่ที่ช้ำเพราะกรรมบัง
โศกจึงฝังกลางใจไม่สร่างซา
     ๏ ยามรุ่งเรืองเฟื่องสุขทุกสถาน
มากคนปองต้องการปรารถนา
ยามตกต่ำย่ำย่างกลางพนา
เขาก็หาว่าชั่วตัวอัปรีย์
     ๏ เป็นเสนียดจัญไรไม่อยากเห็น
นำโชคร้ายคล้ายเป็นเช่นภูตผี
คิดแล้วทุกข์ทับถมตรมทวี
ทมยันตีร่ำไห้ไปตามทาง
     ๏ เดินเดินอยู่หมู่พราหมณ์ตามมาพบ
หลังนอบนบอำนวยช่วยทุกอย่าง
ด้วยประพฤติพรหมจรรย์มั่นมิวาง
หมายสรรค์สร้างความดีมีเมตตา
     ๏ เมื่อจุดหมายปลายทางนั้นไปกันได้
ตกลงให้คณะพราหมณ์ออกนำหน้า
รู้ฐานะระยะห่างตามหลังมา
ท่องมรรคาสู่เจทีบุรีธรรม

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : @free, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 กันยายน 2018, 11:54:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #85 เมื่อ: 12 กันยายน 2018, 11:54:AM »
ชุมชนชุมชน




                                                             หน้า  ๘๒
  
 
    ๏ ครบเจ็ดวันอันพ่อค้าเคยว่าไว้
ถึงเมืองใหญ่ที่หมายไม่ทันค่ำ
เชิงเทินล้อมป้อมปราการโอฬารล้ำ
เคียงคูน้ำเรียงรายชายกำแพง
   ๏ ปากทางเข้าเหล่าทหารตรวจการณ์อยู่
ทุกประตูพร้อมทั้งงามความแข็งแกร่ง
เหมือนคนดงหลงมาท่าระแวง
กระย่องกระแย่งสาวเท้าเข้าเมืองไป
   ๏ เมื่อผ่านหมู่ผู้คนล้วนสนเท่ห์
ยังร่อนเร่จุดหมายใดไม่รู้ได้
จะเอ่ยจำนรรจาเขาลาไกล
มิมีใครหันมายลสนทนา
    ๏ เดินเงอะงะกระเซอะกระเซิงเซ
ทั้งตุปัดตุเป๋ลื่นถลา
ชาวเมือง วังทั้งสิ้นกล่าวนินทา
ล้วนคิดเห็นเป็นคนบ้าพากันเมิน
     ๏ หลายคนมีที่หัวเราะเยาะเย้ยหยัน
เพราะมองกันก็แต่แค่ผิวเผิน
เด็กเด็กเล่นเป็นหมู่กรูกันเดิน
สนุกเกินแหย่กันรำคาญใจ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : @free, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 กันยายน 2018, 08:57:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #86 เมื่อ: 14 กันยายน 2018, 08:57:AM »
ชุมชนชุมชน



                                                             หน้า  ๘๓

     ๏ ได้แต่เบี่ยงเลี่ยงหนีมิโต้ตอบ
มาถึงขอบกำแพงแห่งวังใหญ่
ตรงบัญชรพระมารดาแห่งราชัย
น้ำพระทัยมีจิตคิดเมตตา
     ๏ ชี้ชวนพลางนางในให้เพ่งพิศ
แม่มิ่งมิตรคงทุกข์หนักอนาถา
สงสารนางสั่งให้ไปชวนมา
โชคนำพาบรรเทาเศร้าฤดี
     ๏ บุญกุศลดลธิดาเข้าปราสาท
แห่งพระราชมารดากษัตริย์ศรี
อภิวาทกราบพระบาทองค์เทวี
ถ้อยวาทีถามพลันหลังวันทา
   ๏ “โอแม่พิมพ์ประไพวิไลรัตน์
เพชรจรัสติดตมธุลีหนา
ดังจันทรซ่อนยังหลังเมฆา
แม้กายาเปื้อนมลทินมิสิ้นงาม
    ๏ ช่วยแถลงให้แจ้งใจได้ไหมเจ้า
กระไรเล่าความเป็นมาข้าขอถาม
ด้วยฉงนจนงงแล้วนงราม
เฉลยความเป็นมานั้นมีฉันใด”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, @free

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 กันยายน 2018, 08:59:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #87 เมื่อ: 14 กันยายน 2018, 08:59:AM »
ชุมชนชุมชน

 

                                                             หน้า  ๘๔

    ๏ จึงอนงค์องค์ทมยันตี
วิสัชนาพระชนนีที่สงสัย
ตรงตามความเป็นจริงทุกสิ่งไป
แต่ละไว้เค้าเรื่องเมืองวิทรรภ์
     ๏ ด้วยยังมิจำนงจงใจย้อน
คืนนครในวาระกะทันหัน
กล่าวโดยชอบนอบน้อม “หม่อมฉันนั้น
คือผู้ที่โศกศัลย์เหลือคณา
     ๏ ทุกสาหัสพลัดพระสวามี
หวาดฤดีเคว้งคว้างอยู่กลางป่า
เรื่องทุกเศร้าร้าวรานที่ผ่านมา
จะกล่าวความตามสัจจาจากดวงใจ
     ๏ หม่อมฉันคือราชินีของพระนล
พระทรงพลครองรัฐนิษัธสมัย
สิบสองปีวิวาห์องค์พระทรงชัย
สุขฤทัยเรื่อยมาจวบครานี้
     ๏ เมื่อพระองค์ทรงสกาพาวิบัติ
ศักดิ์กษัตริย์สูญค่าสิ้นราศี
การพนันผลาญทรัพย์สินสิ้นธานี
เลยต้องลี้แรมร้างกลางพนา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, @free

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 กันยายน 2018, 09:00:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #88 เมื่อ: 14 กันยายน 2018, 09:00:AM »
ชุมชนชุมชน

 

                                                             หน้า  ๘๕

    ๏ หม่อมฉันรักภักดีมิเสื่อมสิ้น
ตามภูมินทร์เผชิญภัยในราวป่า
ลูกบาศก์ร้ายทำลายล้างมิร้างรา
จนเราสองต้องใช้ผ้าผืนเดียวกัน
     ๏ พระองค์รู้สึกผิดจิตวิตก
ดุจนรกหมกใจให้ไหวหวั่น
อยากรับกรรมที่ทำไว้ทั้งหลายนั้น
ให้ลงทัณฑ์ดั่งจำนงพระองค์เดียว
     ๏ มิอยากให้หม่อมฉันนั้นลำบาก
ยอมรับกรรมจำพรากไปโดดเดี่ยว
หวังดีแน่แต่ใจร้ายจริงเจียว
ทิ้งเมียเปลี่ยวเดียวดายเดินร่ายไพร
     ๏ เชื่อพระองค์คงมีภูตผีร้าย
เข้าสิงกายงำจิตผิดเพี้ยนใหญ่
มิเป็นตัวของตัวเองแต่อย่างใด
หม่อมฉันนั้นมั่นฤทัยในความรัก”
     ๏ นางเล่าความยามยากวิบากยิ่ง
ทั้งเดินวิ่งลุกล้มลงจมปลัก
มากภัยหมายทำลายชีพบีบคั้นนัก
บุญพิทักษ์จึงรอดปลอดภัยมา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, @free

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กันยายน 2018, 01:18:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #89 เมื่อ: 17 กันยายน 2018, 01:18:PM »
ชุมชนชุมชน




                                                            หน้า  ๘๖

    ๏ ย้ำความโศกยิ่งสุดฝืนสะอื้นไห้
ชลนัยน์ไหลรินต้องผินหน้า
จึงครานั้นวรราชมารดา
พระทรงจำนรรจาปลอบยาใจ
     ๏ “แม่จงวางเรื่องเศร้าชั่วคราวก่อน
ชำระองค์เปลี่ยนอาภรณ์ให้สดใส
แล้วพักผ่อนหลับนอนยั้งวังเวียงชัย
การณ์ต่อไปจักตามหาสวามี
     ๏ มิต้องคิดให้หนักเราจักช่วย
คอยอำนวยให้นางอย่างเต็มที่
ทวยทหารชาญชัยในเจที
อีกเสนาบดีผู้ปรีชา
     ๏ กระจายออกสืบค้นทุกชนบท
และกำหนดเป้าหมายเข้าในป่า
แคว้นมณฑลทุกหนทางต่างพารา
จนพบหน้าพระนลภูวนัย”
     ๏ “โอ้พระราชมารดาปรานีนัก
ชวนอยู่พักทั้งจักหาสามีให้
ฉันยังมีเรื่องมิควรกวนพระทัย
ขอประทานอภัยใคร่ครวญดู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, @free

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กันยายน 2018, 01:19:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #90 เมื่อ: 17 กันยายน 2018, 01:19:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                             หน้า  ๘๗

    ๏ ข้อกำหนดให้ละและปฏิบัติ
เป็นคำสัจสืบมารักษาอยู่
กราบทูลไว้ให้แค่พระแม่รู้
จะเชิดชูหรือชังโปรดสั่งมา
     ๏ แม้นพระราชมารดาอนุมัติ
จะมิขัดความปรานีที่ปรารถนา
คือการปฏิบัติวัตรกิจจา
มิกินอาหารเป็นเดนของใคร
   ๏ มิล้างเท้าผู้ใดให้เสียศรี
สวามีพระบิดา มารดาได้
หม่อมฉันมิวิสาสะกะชายใด
ที่เป็นไปในด้านการเกี้ยวพา
     ๏ หากผู้นั้นล่วงล้ำเมื่อห้ามแล้ว
ยังมิแคล้วยับยั้งเหมือนดังว่า
ขอพระองค์ลงโทษผู้โฉดช้า
ป้องเกียรติภัสดาบูชาภักดิ์”
     ๏ พระมารดาชอบใจจึงได้ตรัส
ว่า “กษัตริย์เจทีก็มีหลัก
เหมือนร่วมวงศ์วานมาน่าชื่นนัก
จะพิทักษ์เป็นคำมั่นและสัญญา”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, @free

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กันยายน 2018, 01:20:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #91 เมื่อ: 17 กันยายน 2018, 01:20:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                             หน้า  ๘๘

    ๏ แล้วจึงสั่งนางในไปทูลเชิญ
พระธิดาดำเนินเข้ามาหา
กุมารีมีพระนาม “สุนันทา”
เฝ้าฟังคำบัญชาพระมารดร
     ๏ “นางนี้มีเชื้อกษัตริย์ขัตติยชาติ
ที่นิราศหลักแหล่งแห่งสมร
เจ้าเป็นน้องวัยมิห่างอย่างแน่นอน
จงอาทรเอื้อจิตมิตรไมตรี
     ๏ ครานั้นองค์สุนันทาธิดาเจ้า
พาทมยันตีเข้าปราสาทศรี
พักกายาสมฐานะพระเทวี
ทุกข์ใดที่ช่วยได้หมายผ่อนปรน
    ๏ ฝ่ายเสนาบดีเจทีสั่ง
ตรงไปยังพลกายหลายแห่งหน
สืบถามไปในอาณาหาพระนล
ต่างเมืองบ้านย่านตำบลจนอรัญ
     ๏ มารายงานการหาไปแดนใดบ้าง
แล้วเดินทางกลับหลังยังไพรสัณฑ์
ย้อนแกะรอยถอยหลังครั้งราชัน
เดินทางกันจากนิษัธซัดเซมา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, @free

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 กันยายน 2018, 05:10:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #92 เมื่อ: 19 กันยายน 2018, 05:10:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                             หน้า  ๘๙
        
 
    ๏ หมู่ชาวเมืองโจษจันกันสะพัด
สองกษัตริย์จรในไพรพฤกษา
เหมือนไปดับลับหายมลายลา
มิพบหน้ายินข่าวคราวนานครัน
     ๏ ชาวนิษัธธานีมีความรัก
ดวงใจภักดิ์ล้นพ้นนลรังสรรค์
ต่างห่วงหาอาลัยไหว้เทวัญ
เชิญราชันคืนหลังยังเวียงชัย
     ๏ ทมยันตีเมื่อมีข่าวชาวนิษัธ
อยากให้คืนครองสมบัตินิรัติศัย
สุดจะพร่ำรำพันตื้นตันใจ
ต่อเมื่อไรพระนลพ้นเคราะห์กรรม
     ๏ แม้อุราระทมทุกข์ตรมหนัก
มั่นคงรักษ์กำลังใจไม่ตกต่ำ
เชื่อมั่นในความดีและมีธรรม
จักน้อมนำสมรักได้สักวัน
     ๏ ทั้งซึ้งว่าเหล่าข้าไทไม่หน่ายหนี
ทั้งเจทีทุ่มเทให้ใจมุ่งมั่น
เมื่อคืบหน้ามาเล่าข่าวคราวนั้น
จึงนับวันที่หวังตั้งตารอ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 กันยายน 2018, 05:12:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #93 เมื่อ: 19 กันยายน 2018, 05:12:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                           หน้า  ๙๐

 
    ๏ ย้อนถึงฝ่ายพระนลราชผู้พลาดผิด
คล้ายจริตวิปลาสอนาถหนอ
เดินกู่ก้องร้องร่ำน้ำตาคลอ
แล้วหัวร่อเย้ยโลกโชคชะตา
      ๏ โอ้ทมยันตีของพี่เอ๋ย
กระไรเลยทิ้งนางเสียกลางป่า
ยอดรักหวงดวงฤดีของพี่ยา
คงโศกาหวั่นหวาดแทบขาดใจ
     ๏ รำพึงพลางย่างไพรไม่หยุดหย่อน
ข้ามเขาขอนโขดเขินเนินไศล
มิคำนึงถึงปลายทางแต่อย่างใด
อยู่ที่ไหนก็อกหมกโลกันตร์
     ๏ แว่วเสียงร้องก้องป่ามาโหยหวน
อันมิควรมีได้กลางไพรสัณฑ์
“ช่วยด้วยนะพระองค์วงศ์เทวัญ
ตัวข้านั้นทรมานนานเต็มที”
     ๏ พญานาคไฉนโดนไฟเผา
 ดิ้นเร่าเร่าแต่ไยไม่คิดหนี
ไฟเป็นวงเจาะจงเผาเจ้านาคี
มิได้มีเผาผลาญพันธุ์พฤกษ์ไพร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 กันยายน 2018, 05:13:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #94 เมื่อ: 19 กันยายน 2018, 05:13:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                           หน้า  ๙๑

 
    ๏ พระนลเพ่งพินิจคิดฉงน
นาคพูดภาษาคนพ้นสงสัย
“ข้าทรมานนานช้าแล้วราชัย
ความเป็นไปทั้งหลายใคร่ชี้แจง”
     ๏ “ที่ผ่านมาข้านั้นสำคัญผิด
ตนเลอฤทธิไกรเกินใครแข่ง
เหลิงทะนงหลงตนจนรุนแรง
ถึงสำแดงเดชท้ามหามุนี
     ๏ พระองค์ทรงกำราบสาปแช่งไว้
โดนเผาไฟมิอาจพากายาหนี
ให้รอท่านเหมือนรู้การณ์ล่วงหน้าดี
จนวันนี้พระนลดั้นด้นมา
     ๏ วอนพระองค์ทรงชัยใจกุศล
ช่วยข้าพ้นทุกข์นี้ที่หนักหนา
ช่วยด้วยเถิดพระนลท่านขอวันทา
โปรดนำพาพ้นคำสาปสิ้นบาปร้าย
     ๏ จักตอบแทนพระคุณการุญท่าน
กระทำการกอบกู้สู่เป้าหมาย
หวนคืนสู่ไอศวรรย์ ณ บั้นปลาย
มิกลับกลายกล่าวนั้นสัญญาแท้

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
22 กันยายน 2018, 04:32:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #95 เมื่อ: 22 กันยายน 2018, 04:32:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                              หน้า  ๙๒

 

    ๏ ข้าย่อกายให้เล็กเบาเท่าอังคุฐ
ท่านดึงฉุดไปได้ง่ายดายแน่”
เมื่อรับคำพระนลทำการดูแล
เพื่อช่วยแก้คำสาปปราบนาคี
     ๏ ลุยกองไฟไม่ร้อนเร่าแผดเผาร่าง
รู้ไฟสร้างด้วยกลมนต์ฤๅษี
จับพญานาคเบาราวสำลี
เมื่อนำวางกลางพงพีก็สิ้นกรรม
     ๏ นาคานบเศียรลงตรงพระบาท
แห่งพระนลภูวนาถพร้อมพูดพร่ำ
“ข้าเหมือนทาสแห่งองค์ผู้ทรงธรรม
หน้าที่นำทุกข์จากพระหทัย
     ๏ ขอขยับนับย่างไปข้างหน้า
กิจนี้ช่วยพระราชาอย่าสงสัย
สิบย่างก้าวเท้าพอดีที่เดินไป
แลทันใดนาคราชกัดพระนล
     ๏ พลันเรือนร่างสำอางองค์แห่งทรงศักดิ์
ก็กลายกลับอัปลักษณ์น่าฉงน
พระตะลึงจึงพิศพินิจตน
ในบัดดลนาคามาบรรยา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
22 กันยายน 2018, 04:34:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #96 เมื่อ: 22 กันยายน 2018, 04:34:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                             หน้า  ๙๓

  
  ๏ “กล่าวโดยสัจกัดราชา ณ ครานี้
เป็นกุศลผลดีที่มากหลาย
ข้อหนึ่งคือจำแลงเปลี่ยนแปลงกาย
เหมือนพระองค์สูญหายจากโลกา
     ๏ ข้อสองพิษไม่ติดสรีระท่าน
สิ่งชั่วร้ายในดวงมานซ่านพิษข้า
จักถึงกับรับทุกขเวทนา
ร้อนยิ่งกว่าโดนไฟประลัยกัลป์
      ๏ มิอาจดลผลร้ายให้ท่านเพิ่ม
พลังเสริมจิตภูมีทีละขั้น
ขอประทานนามใหม่ให้ท่านนั้น
“วาหุก” อันฉายาภายหน้าไป
     ๏ ต่อแต่นี้มีเป้าหมายให้เสด็จ
เลิกระเห็จระเหหนด้นแดนไหน
มุ่งสู่อโยธยารอราชัย
ถวายตัวแก่ท้าวไทฤตุบรรณ
     ๏ ต้องแสดงอัศวโกศล
ให้ท่านซึ้งถึงผลเลิศเฉิดฉัน
หัวใจแห่งสกาของราชัน
ผิแลกกันพลันได้สมฤดี

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
22 กันยายน 2018, 04:36:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #97 เมื่อ: 22 กันยายน 2018, 04:36:PM »
ชุมชนชุมชน

 
                                                           หน้า  ๙๔
  
    ๏ เมื่อท่านสบสุขสมอารมณ์หมาย
จักคืนกายเดิมอันวรรณฉวี
ขอให้ใช้ภูษาวิเศษนี้
อัญชลีนึกถึงข้าคลุมกายิน
     ๏ พระกลับร่างดังเดิมได้โดยแท้
มิเปลี่ยนแปรอันใดให้ถวิล”
จบวาจาถวายผ้าแล้วนาคินทร์
พลันดำดินหายวับกลับบาดาล
     ๏ พระนลคิดจิตหวนทบทวนย้ำ
ถึงน้ำคำนาคีที่กล่าวขาน
จักพาทมยันตีศรีนงคราญ
คืนสู่สุขสำราญมินานนัก
      ๏ มเหสีชีวีรอดปลอดภัยแน่
หากดวงแดยังวิโยคเศร้าโศกหนัก
รู้สึกผิดอย่างยิ่งทิ้งเมียรัก
เหมือนดังผลักเอกอนงค์ลงห้วงทุกข์
     ๏ เชื่อมั่นจริงยิ่งนักน้องรักพี่
ทมยันตีเมื่อผัวไกลไม่มีสุข
ต้องแดเดียวเดินดงดอนซอกซอนซุก
ถูกเร้ารุกจากภัยร้ายในอรัญ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : วลีลักษณา, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
24 กันยายน 2018, 04:28:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #98 เมื่อ: 24 กันยายน 2018, 04:28:PM »
ชุมชนชุมชน





                                                             หน้า  ๙๕

    ๏ จักลำบากยากเย็นเป็นไฉน
มิมีใครช่วยชีวาพ้นอาสัญ
พระหทัยทุกข์เกินเดินรำพัน
ครบสิบวันถึงอโยธยา
    ๏ ทำตัวเป็นเช่นชนคนตกยาก
แสนลำบากมิท้อคอยรอท่า
จวบจนได้เข้าเฝ้าเจ้าพารา
อันพระองค์ทรงโปรดม้ามโนมัย
     ๏ ครั้นราชามาทรงอัศวราช
จึงแสดงความสามารถถวายให้
เห็นเหนือกว่า “ชีวล” และวาร์ษไณย
ที่รับใช้พระภูมิธรอยู่ก่อนแล้ว
      ๏ ท้าวฤตุบรรณนั้นพอพระทัยยิ่ง
ห้าวหาญจริงใจคอก็แน่แน่ว
ฝีมือนั้นชั้นครูดูพราวแพรว
ตรงตามแนวมุ่งหมายในภูมี
     ๏ วาหุกได้ถวายตัวต่อท้าวท่าน
พร้อมรายงานแก่องค์พระทรงศรี
“ความช่ำชองของข้าพเจ้านี้
นอกวิชาพาชีมีอนันต์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
24 กันยายน 2018, 04:29:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #99 เมื่อ: 24 กันยายน 2018, 04:29:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                              หน้า  ๙๖
                
  ๏ การปรุงแต่งอาหารอันรสเลิศ
ซึ่งก่อเกิดจากภาวะพรสวรรค์
ธนูศาสตร์ปราดเปรื่องเรื่องโรมรัน
เชิญราชันเรียกใช้ตามใจจง”
    ๏ ฤตุบรรณฟังคำจึงย้ำว่า
“อยู่กับข้าเถิดนะจะเสริมส่ง
ทั้งเงินทองตำแหน่งแหล่งดำรง
ชนม์มั่นคงทำงานสืบสานไป”
     ๏ จึงวาหุกคลายทุกข์บ้างในบางครั้ง
แต่จิตยังคร่ำครวญคอยหวนไห้
อกหม่นหมองร้องร่ำหาด้วยอาลัย
แสนห่วงใยมิ่งขวัญทมยันตี
     ๏ ยามใดว่างนั่งคิดวุ่นจิตนัก
พระนลมักถอนฤทัยไร้สุขี
บางครั้งเผลอเพ้อพร่ำร่ำโศกี
จนเป็นที่สงกาของสองเกลอ
     ๏ ด้วยห่วงใยถามไถ่มาว่า “เพื่อนเอ๋ย
ไฉนเลยไร้สุขทุกข์เสมอ
สามเรามิตรชิดใกล้ใช่ไหมเออ
หากเสนออาจสนองจนต้องใจ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 ... 11
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s