เชื่อเรื่องทำเสน่ห์ทำคุณไสยไหม.....
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
20 เมษายน 2024, 02:21:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เชื่อเรื่องทำเสน่ห์ทำคุณไสยไหม.....  (อ่าน 20524 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
03 กุมภาพันธ์ 2014, 12:38:PM
เริงละลม ระเริงชล
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย.
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 30



« เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014, 12:38:PM »
ชุมชนชุมชน



 เชื่อเรื่องทำเสน่ห์ทำคุณไสยไหม....


มันเป็นเรื่องที่พูดยากว่าจริงหรือหลอก เวลาที่เราดูหนังหรือดูละครเกี่ยวกับ

เรื่องแบบนี้มันดูเชื่อยาก แต่สิ่งที่จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

ซึ่งตอนนี้ก็ขอพูดว่าจะเชื่อได้หรือไหมนั้นก็แล้วแต่วิจราณญาณก็แล้วกัน

เริ่มเลยแล้วกัน ......

ตั้งแต่ฉันจำความได้ที่บ้านมักจะมีคนแปลกหน้ามาที่บ้านบ่อยมากแต่ละคน

ที่มาก็จะมาขอพบคุณตาของฉัน ซึ่งตอนนั้นฉันยังเด็กแต่พอจำได้ถึงคนที่มา

หาคุณตาฉัน บ้างคนพอมาถึงคุณตาจะให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วให้ใส่ผ้าถุงถ้าเป็นหญิง

ส่วนผู้ชายจะใส่ผ้าขาวม้าแล้วมานั่งที่นอกชาน ซึ่งคุณตายืนอยู่ ในมือถือเทียนเล่มใหญ่

พร้อมทั้งทำปากบ่นพรึมพรำแล้วหยดน้ำตาเทียนลงในโอ่งที่ตั้งอยู่บนชานเรือน คุณตา

จะบอกฉันเสมอว่าแล้วที่ตาทำแบบนี้ไม่ให้ฉันออกไปหน้านอกชานฉันเลยได้แต่ดูอยู่ในบ้าน

คนที่มาหาคุณตาเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็มานั่งอยู่ข้างๆโอ่งแล้วคุณตาก็ตักน้ำในโอ่งที่มีน้ำตาเทียน

อยู่เต็มโอ่งราดบนตัวของคนที่มา สิ่งที่ฉันเห็นคือ อาการตัวสั่นเหมือนถูกน้ำเย็นจัดราด บ้างคนราดไม่ถึง

สามขันก็ร้องโหยหวนเหมือนเจ็บปวด และบนตัวของคนที่โดนน้ำราดก็มีบ้างอย่างเป็นลูกกลมๆวิ่งไปมา เดี๋ยวไปที่ขาแล้ว

ก็วิ่งไปที่แขน ฉันก็แปลกใจว่าทำไมในตัวของคนเหล่านั้นมีลูกกลมๆวิ่งไปมาด้วยฉันถามยาย ยายก็บอกว่าฉันยังเด็กอย่ารู้เลย

พอโตขึ้นฉันถึงรู้ว่าคนที่มาหาคุณตาฉันคือคนที่เขาเรียกว่า"คนโดนของหรือคนถูกคุณไสย" มาต่อกันเลยดีกว่า พอคุณตาราดน้ำ

น้ำเสร็จคุณตาก็เอามีดเล่มเล็กๆมาเคาะที่ปลายเท้าของคนที่คุณตาราดน้ำ เจ้าลูกกลมๆก็วิ่งไปมาแล้วมาหยุดตรงปลายเท้าที่คุณตาใช้

มีดเคาะอยู่ จู่จู่ก็หายไป คุณตาก็ให้คนที่มาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไปคุยกันในห้องเล็กๆหลังบ้าน ซึ่งในห้องนั้นเป็นห้องที่คุณตาใช้สำหรับรับ

แขกที่มาหาคุณตา คุณตาจะไม่ให้ฉันเข้าไปนอกจากคุณตาจะอนุญาติ ในห้องนั้นฉันเคยเข้าไปสิ่งที่ฉันเห็นนะหรือไว้จะค่อยบอกนะ

ยังมีเรื่องเกี่ยวคุณตาฉันอีกมาก และแต่ละคนที่มาหาคุณตาก็มีอะไรแปลกๆๆอีกเยอะ รวมทั้งบรรยากาศแปลกๆสิ่งประหลาดที่เกิด

ในบ้านและคนในครอบครัวฉัน และเรื่องเกี่ยวกับเสน่ห์ยาแฝดที่คนเขาเรียกกัน ไว้คราวหน้านะค่ะ (สิ่งได้อ่านเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสมัยที่ฉันยังเด็กแต่จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่

วิจราณญาณค่ะ)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, พยัญเสมอ, เนิน จำราย, ปู่ริน, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, D, ชลนา ทิชากร, james78

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 กุมภาพันธ์ 2014, 02:45:PM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #1 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014, 02:45:PM »
ชุมชนชุมชน


               ว่าอันที่จริงแล้วผมไม่เคยเห็นอะไรถึงขนาดนั้น   แต่โดยความเชื่อส่วนตัว....ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำกันได้จริงๆ(ในสมัยโบาณ
แต่ในสมัยนี้อาจจะยังมีคนทำกันได้อยู่...เพียงแต่เราจะรู้หรือไม่เท่านั้น)

            เรื่องคุณไสย อำนาจลึกลับ  เป็นเรื่องของอำนาจจิต+คาถาอาคม+การอาสัยอำนาจผี  เป็นศาสตร์มืดที่ทำกันได้จริงในสมัยโบราณ
แทบไม่ต่างกับ คนที่เรียนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์แล้วสร้างไวรัสมาปล่อยกันในยุคสมัยนี้
ผู้จะเล่นทางศาสตร์ลึกลับ จะต้องฝึกสมาธิจนได้อุปจารสมาธิเป็นขั้นต่ำ+การไปเรียนคาถาอาคมหรือไปครอบครูจากคนที่เชียวชาญกว่า+การพึ่ง
พาอำนาจของจิตวิญญาณของคนที่ตายไป  ก็อย่างที่เราเห็นเวลาเขามีพิธีทางไสยศาสตร์ทุกครั้งจะต้องมีเครื่องเซ่นไหว้นั่นแหละ   นั่นคือ
ส่วนหนึ่งเป็นค่าวิชาสำหรับวิญญาณครูอาจารย์เจ้าของคาถาอาคมผู้จะมาประสิทธิ์ประสาทฤทธิ์   อีกส่วนหนึ่งเป็นค่าเหนื่อยสำหรับพวกผี
ที่มาช่วยในงาน   ไม่งั้นลำพังแค่คนธรรมดาๆจะมีฤทธิ์ให้กิจนั้นๆสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างไร  ทุกอย่างจึงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากสิ่งลึกลับ
โดยมีเครื่องเซ่นไหวเป็นสิ่งตอบแทน
              ในยุคปัจจุบันนี้ สำหรับคนที่สนใจในเรื่องทำนองนี้สามารถเริ่มจากการฝึกสมาธิทุกวันได้  จะขาดก็แต่ในส่วนของพิธีกรรม
การครอบคาถาอาคมที่ถูกต้องตามตำรา ที่อาจจะหาคนรู้จริงยากมากๆ  จะไปเปิดหนังสือสวดมนตร์ก็คงไม่มี สำหรับคาถาพวกนี้(ที่ใช้ทำคน)
              ผมเชื่อว่าอำนาจลึกลับทางจิตนั้นในปัจจุบันยังมีคนทำได้จริง เพียงแต่มันไม่หวือหวาแบบในสมัยก่อน   เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนไป
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด  วิธีฝึกสมาธิฝึกอำนาจจิตทั่วๆไปนั้นยังคงมีอยู่ตามหลักพุทธศาสนา  แต่ทว่า พวกคาถาอาคมบทสวดต่างๆ
ที่ใช้ประกอบทางพิธีไสยศาสตร์ที่ถูกต้อง ดูเหมือนจะสูญหายไปหมด  เพราะขาดการสืบทอด  เรื่องเหล่านี้จึงค่อยๆกลายเป็นเรื่องเหลวไหล
ไร้สาระในสายตาของคนยุคใหม่ไปในที่สุด....


ปล.แม้แต่ในประวัติ บรมครูกลอนสุนทรภู่ ที่พิมพ์อยู่ในหนังสือพระอภัยมณี  ยังมีเขียนไว้ว่า  ครั้งหนึ่ง ท่านเดินทางไปแสวงหาเหล็กไหล  กับหายา
อายุวัฒนะต่างๆ   แสดงว่า บรมครูกลอนของเราท่านเชื่อเรื่องไสยศาสตร์เหมือนกัน....

 หัวเราะเยาะ







ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, ปู่ริน, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, ดาว อาชาไนย, D, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
03 กุมภาพันธ์ 2014, 04:27:PM
ป้าโย
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108



« ตอบ #2 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014, 04:27:PM »
ชุมชนชุมชน


ไม่ค่อยเชื่อค่ะ เพราะฉันอ่านพุทธวจน คนเราภพภูมิสูงกว่า
ปัญญาแปลว่า สว่าง ถ้าเราสว่างรู้ตามจริงเราก็จะไม่กลัว

เหมือนกับตรรกะที่ว่า เราต้องกลัวผี
จริง ๆ ถ้าเราสอนใหม่เหมือนต่างประเทศว่า ผีต้องกลัวเรา
เราก็จะไม่กลัวผี นี่มีรายการติรัจฉานวิชชาเยอะแยะ ช่องห้า คนอวดผีเอย อะไรเอย
มิติลี้ลับเอย ขายโฆษณา หาสาระไม่ได้ทั้งนั้น

นี่เหมือนกัน ฉ ๑๘+ ละครไม่สร้างสรรค์ กรีดร้อง ตบตี
พอละครพวกนี้เล่นปุ๊บ ฉันจะเปิดช่องปลูกปัญญา หรือสารคดี ให้หลานฉันดูทันที

ฉันไปมาก็หลายเมือง ที่เยรูซาเล็ม ก็ไม่มีผีตัวไหนพูดอังกฤษล่ะมั๊ง
ฉันพูดภาษาฮีบรูว์ได้บ้าง แต่ก็ไม่ค่อยคล่อง ตอนไปโรงแรมก็ไม่เห็นมีผีแขกมาหลอกนี่

ฉันไปจีน อันนี้ไปบ่อยมาก ทั้งเซินเจิ้น กวางโจว ชางไห่ เป่ยจิง
ไปอยู่ตั้งหลายปีก็ไม่เห็นจะมีผีจีนมาหลอกนะคะ ถึงมาหลอกฉันก็ด่าเป็นจีนกลางได้อยู่ดี

ส่วนเมียงดง นี่ไปนำเสนอผลงาน ไปสัมมนาบ้าง ไม่เห็นมีผีเกาหลีมาหลอก

ล่าสุดไป โยฮันเนสเบอร์ก น่าจะมีผีแอฟริกามาหลอก จะได้พูดไทยใส่ มันฟังไม่รู้เรื่องก็จะเลิกหลอกไปเอง

ฉันเป็นคนไม่เชื่อกระมังคะ พวกศาสตร์ทั้งหลายเนี่ยจึงไม่ค่อยมายุ่งเกี่ยวกับฉัน

จริง ๆ แล้ว ธรรมชาติวิทยา จักรวาลวิทยา อะไรพวกนี้เป็นอภิปรัชญานะคะ
ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยทฤษฎีบท ต้องใช้ทฤษฎีแกน

เรื่องของไสยศาสตร์เป็นเรื่องของธรรมชาติ ซึ่งจำแนกเป็น นามธรรม (Subjective believe) และ รูปธรรม (Objective believe)
พระพุทธศาสนา เป็นความเชื่อนามธรรม ส่วน พราหมณ์ เป็นความเชื่อรูปธรรม
สิ่งที่อยู่ตรงกลางเรียกว่า โหราศาสตร์ หรือ astrology

ถ้าอย่างนั้น ฤกษ์ยาม โชคชะตา ความฝัน จัดเป็น subjective หรือ objective เพราะมันอยู่ตรงกลางพอดี
ส่วนไสยะนั้นเป็น objective แน่นอน เพราะทำให้ปรากฏเห็นเป็นจริงได้

แต่อย่างไรก็ดี เรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติเหล่านี้ไม่ได้เป็นที่สุด ไม่ใช่ทาง ไม่ใช่ประโยชน์ ไม่สำคัญ
องค์ความรู้ที่จะสืบสานต่อไปต่างหาก ที่เราจะต้องศึกษา ว่ามีคุณค่ามีความสำคัญอย่างไร

แม้ว่าไสยศาสตร์จะเกิดปรากฏขึ้นให้เห็นเป็นจริง เป็น objective แต่ถ้าแพร่หลายจริงคงนำมาใช้ประโยชน์ในสังคมแล้ว
เหมือนกับเพื่อนฉันที่เซ็นเช็คสี่แสนถ้วนให้กับหมอผีคนหนึ่ง ให้ตู้ฟองน้ำเข้าไปในหน้าอกของหล่อน เพราะหล่อนไม่มีเวลา
จะไปทำนมด่วน เพราะจะประกวดในวันรุ่งขึ้น ไสยศาสตร์การตู้ของ (ฟองน้ำ) เข้าไปในหน้าอกของหล่อนทำไม่สำเร็จ

หล่อนชักดาบข้างฝาของหมอผีนั้นมาสับลงบนหัวกะโหลกและหม้อน้ำมนต์
คงไม่ต้องถามว่า หน้าของหมอผีทำไมเต็มไปด้วยรอยส้นสูงกะเทยสิบนาง

และเรื่องราวทั้งหมดจบลงที่สถานีตำรวจ ซึ่งเป็น subjective ทั้งสิ้น

ถ้าไม่มีเรื่องนี้มาเคาะกะลา กบอย่างฉันคงโดนครอบต่อไป
เพื่อนฉันแต่ละคนนางโฉบเฉี่ยวนักเรียนนอกทั้งนั้น ตอนนั้นฉันยังเรียนในประเทศอยู่
พอเพื่อนเปิดโลกให้ฉัน เหมือนกับเอากะลาครอบออก เห็นความจริงหลายอย่าง
รู้เลยว่าทำไม ไทยใหญ่จึงสิ้นชาติ ทำไมพุทธและพราหมณ์ยังอยู่พร้อม astrology

โลกที่สามก็คือโลกที่สามค่ะ รากหญ้าอย่างไรก็อย่างนั้น
โลกที่หนึ่งก็คือโลกที่หนึ่ง

ย่ำโลกให้ทั่วค่ะ อย่าไปแต่อเมริกา ยุโรป
คาซัคสถาน รัสเซีย แอฟริกา ตะวันออกกลาง ย่ำให้ครบ ไม่ใช่อยู่ที่เดิม
สิบปีมีอะไรเปลี่ยนบ้าง ฐานะ ระดับความคิด ทรัพย์ มิตร
มันต้องพัฒนาขึ้น เจริญขึ้น ไม่ใช่อยู่ที่เดิม

หวังว่าคงเข้าใจนะคะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, ดาว อาชาไนย, D, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

กะเทยไทยใจประเสริฐเลิศที่สุด
เป็นมนุษย์คิดแตกจากใช่ปากหมา
นำพาชาติมิ่งยิ่งใหญ่แต่ไรมา
มีค่ากว่าสัตว์ตัวผู้สมสู่กัน
03 กุมภาพันธ์ 2014, 10:41:PM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #3 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014, 10:41:PM »
ชุมชนชุมชน





รู้มากย่อมดีกว่ารู้น้อย  รู้รอบย่อมดีกว่ารู้เพียงด้านเดียว
วิถีชีวิตของคนไทยนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ล้วนแล้วแต่ผูกพันอยู่กับไสยศาสสตร์และโหราศาสตร์
มีนับถือทั้งพระทั้งผีปนๆกันไป
การรบทัพจับศึกในสมัยโบราณ แม่ทัพที่เก่งมักจะต้อง
มีความเชี่ยวชาญในหลักไสยศาสตร์ด้วย  โดยเฉพาะ
วิชาแต่งคน  ไสยศาสตร์ถือเป็นหนึ่งในพิชัยยุทธ

ถ้าเราอ่านจากประวัติบุคคลสำคัญของไทยคนหนึ่ง
นั่นคือ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
พระองค์ก็ทรงเป็นนักเรียนนอก  ที่สำคัญคือ ทรงเป็นพระราชโอรสในรัชกาลที่ ๕ ด้วย
พระองค์ก็ทรงสนพระทัยในไสยศาสตร์ ถึงกับเสด็จไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

ไสยศาสตร์จะเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงหรือไม่ผมไม่อาจทราบได้
แต่ถ้าลองว่าบุคคลระดับนี้ยังให้ความสนใจผมว่าไม่ใช่ธรรมดา
โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นถึงลูกของพระเจ้าแผ่นดิน ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราช
จะไม่มีทางเหมือนกับชาวบ้านทั่วไปแน่ๆ

ผมสมมุติตัวอย่างง่ายๆ   เช่นมีใครสักคนเอาของอะไรสักอย่างไปถวายพระองค์ท่าน
แล้วบอกว่าเป็นของดี   เพียงแค่พระองค์ตรัสสั่งให้ทหารเอาไปยิงพิสูจน์ แค่นี้ก้รู้แล้ว
ใครจะกล้าไปหลอกลวงพระองค์ท่านได้  เพราะโทษมันถึงชีวิต

อย่างไรก็ดี  การที่พระองค์ทรงให้ความสนพระทัยในเรื่องไสยศาสตร์ทั้งๆที่เป็นนักเรียนนอก
ก็พอจะเป็นแนวทางให้เราสันนิษฐานได้ว่า ไสยศาสตร์นั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง  ไม่ใช่แค่เรื่องหลอกลวงหรืองมงาย

อย่างที่คนสมัยใหม่หัวสูงบางคนเข้าใจ




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, ดาว อาชาไนย, D, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
03 กุมภาพันธ์ 2014, 11:49:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #4 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014, 11:49:PM »
ชุมชนชุมชน


ขอขอบใจคุณระเริงลม ระเริงชล ที่เปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา และขอเชิญเล่าเรื่องของคุณตาต่อไปอีกนะครับ เผลอๆการฟังด้วยหูสองหู อ่านด้วยตาสองตาอาจจะดีกว่าปากๆเดียว ที่พูดๆๆๆไร้สาระ เนาะ และผมเชื่อว่าชาวเรา ชาวบ้านกลอนคงจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์มาไม่มากก็น้อย ผมว่าเรามาเล่าสู่กันฟังดีไหม? ให้กระทู้นี้เป็นกระทู้แหวกแนวไปอีกสักกระทู้เถิด อาจจะเหลือเชื่อไปบ้าง? ถ้าเราไม่ปิดกั้นตัวเองจนเกินไป อาจจะได้ฟัง ได้รู้อะไรดีๆบ้างก็ได้ ขนาดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็ยังใช้ไสยศาสตร์ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มาช่วยในการทำสงครามกับข้าศึกจนได้รับชัยชนะมาแล้ว ลองๆเปิดใจฟังกันดูนะครับ

ลุงไพร

 เธอนั่นแหละจ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ดาว อาชาไนย, D, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

04 กุมภาพันธ์ 2014, 01:12:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #5 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014, 01:12:AM »
ชุมชนชุมชน


น่าเชื่อจังเลยนะคะ ซึ้งจัง  เคารพรัก





<a href="http://www.youtube.com/v/k_UGwkM5I00&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/k_UGwkM5I00&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, ดาว อาชาไนย, D, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, james78

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
04 กุมภาพันธ์ 2014, 01:45:AM
ป้าโย
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108



« ตอบ #6 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014, 01:45:AM »
ชุมชนชุมชน



ดีหรือชั่ว จริงหรือเท็จ รู้อยู่แก่ใจค่ะ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
กายย่อมเป็นภาพเงาสะท้อนของจิต
รวมถึงการกระทำและคำพูด ถ้อยแถลงการต่าง ๆ ด้วย
ฉันพิมพ์นี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นใครทั้งนั้น

ลองคิดสิคะ คนแบบไหนถึงเกี่ยวข้องกับมนต์ดำคุณไสยสเน่ห์ยาแฝด
คนแบบไหนถึงเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
คนแบบไหนถึงเกี่ยวข้องกับพระธรรมคำสั่งสอนของตถาคต

ศีล แปลว่า ปกติ ใช้เป็นเครื่องกั้นมิให้ความไม่ปกติล่วงเข้าในภูมิจิต

อวิชชา แปลว่า ความไม่รู้

คำไหน ประโยคไหนของฉัน ที่แถลงความ "ไม่รู้" บ้าง ให้ quote มาได้เลย

แต่มีหลายประโยคที่ฉันอ่านในบทความแล้วมันปิดกั้น ทำให้เกิดความไม่รู้
ความพิศวง จาระไนไม่ได้ เป็นความพิสดาร เป็นความมืดหม่น คลุมเครือ

เช่น

"มันเป็นเรื่องที่พูดยากว่าจริงหรือหลอก"
"เรื่องแบบนี้มันดูเชื่อยาก"
"ขอพูดว่าจะเชื่อได้หรือไหมนั้นก็แล้วแต่วิจราณญาณก็แล้วกัน"
"คุณตาจะไม่ให้ฉันเข้าไปนอกจากคุณตาจะอนุญาติ"
"แต่ละคนที่มาหาคุณตาก็มีอะไรแปลกๆๆอีกเยอะ รวมทั้งบรรยากาศแปลกๆสิ่งประหลาดที่เกิด"

ครั้นจะไปจาบจ้วงล่วงเกินเขา quote มาทีละบรรทัด ให้แถลงทิฐิ ก็จะไม่เป็นการดี
เพราะการที่เราจะเชื่อ โดยไม่ให้รู้ตามกันมา เชื่อตามตำรา เชื่อเพราะอาจารย์ เชื่อเพราะอะไร
ตถาคตย่อมกล่าวไว้ดีแล้วในธรรมโฆษ โมฆะบุรุษย่อมแถลงความเท็จอย่างพิสดาร
เจโตวิจารณญาณ ญาณรู้ที่เกิดเฉพาะตนเท่านั้นที่จะรับเชื่อเอาสิ่งไหนมาเป็นที่พึ่ง เป็นสรณะ


ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เป็นความปกติของชีวิตหรือเปล่า
บัญญัติไว้โดยตถาคตหรือเปล่า หรือสาวกบัญญัติเอง
เป็นสิ่งประเสริฐ ควรยิ่งในการรู้เพื่อพ้นทุกข์หรือเปล่า

ตถาคตว่า ตำหนิในสิ่งที่ควรตำหนิ ฉันทำหน้าที่ของฉันแล้ว
และฉันจะไม่ตำหนิท่านอีก

ขอท่านผู้รู้ ผู้มีใจเป็นธรรมจงเข้าใจทั้งฉันและเขาทั้งสองฝ่าย
หากจะเขียนเรื่องราวต่อฉันก็ยินดีอ่าน และจะไม่แถลงการอะไรมารบกวนท่านอีก
ขอให้ทุกท่านจงมีแต่ความสุขความเจริญ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, D, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, james78

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

กะเทยไทยใจประเสริฐเลิศที่สุด
เป็นมนุษย์คิดแตกจากใช่ปากหมา
นำพาชาติมิ่งยิ่งใหญ่แต่ไรมา
มีค่ากว่าสัตว์ตัวผู้สมสู่กัน
04 กุมภาพันธ์ 2014, 01:57:AM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #7 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014, 01:57:AM »
ชุมชนชุมชน



น่าเชื่อจังเลยนะคะ ซึ้งจัง  เคารพรัก








ดูแล้วหวาดเสียวมาก  แต่เชื่อเหอะลองให้ผมใช้คัทเตอร์กรีดสักครั้ง...รับรอง.......
(ดูจากรูปแล้ว มีดนี้ไม่มีความคม ยกเว้นตรงส่วนปลายแหลม  ถ้ายกมีดตั้งฉากให้ตรงกดหนักๆแล้วกรีดลากลงไปก็พอจะได้...สังเกตตอนตัดกระดาษไม่ค่อยจะเข้า
กระดาษขาดเพราะออกแรงเฉือน...ไม่ใช่ขาดเพราะความคมของมีดเหมือนที่เราใช้คัทเตอร์หรือกรรไกรตัดกระดาษ....เพราะงั้นการพิสูจน์รายนี้พอจะเชื่อได้ว่า...
....แหกต.......)


 หัวเราะเยาะ หัวเราะเยาะ หัวเราะเยาะ


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, D, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
04 กุมภาพันธ์ 2014, 11:21:AM
เริงละลม ระเริงชล
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย.
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 30



« ตอบ #8 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014, 11:21:AM »
ชุมชนชุมชน





  ตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกันที่จะลงเรื่องราวเกี่ยวกับคุณตาของฉันกับสิ่งที่ท่านทำและ

  สิ่งที่ฉันเห็นในสมัยเด็ก ฉันไม่ต้องการให้ทุกท่านเชื่อ แค่อยากเล่าประสบการณ์ที่ฉันได้เห็น

 และรับรู้ก็เท่านั้นเพราะสิ่งที่ฉันรับรู้เหล่านี้อยู่กับฉันจนถึงวาระสุดท้ายของคุณตาฉันและหายไป

พร้อมกับลมหายใจของคุณตาฉันเช่นกัน ฉันเลยอยากเอาประสบการณ์ที่ประสบโดยตรงมา

เล่าให้ฟัง ฉันอยากให้ทุกท่านที่อ่านเรื่องราวของฉัน อ่านแบบเข้าใจว่ามันเป็น

ความทรงจำของเด็กที่ได้เห็นและรับรู้เลยอยากเล่า เหมือนเวลาที่เราอ่าน"อยู่กับก๋ง"เราได้เห็นมุนมอง

ที่แตกต่าง ข้อคิดมากมาย และคนอีกหลายหลากแบบ ฉันอยากให้ทุกท่านที่อ่านได้เห็นอะไรที่แตกต่าง

ในความเป็นอยู่และความเชื่อของคน ที่ยังคงมีอยู่ ดำรงอยู่ ในอดีตและในสังคมปัจจุบัน ฉันหวังว่าเรื่องราว

ของคุณตาของฉันคงให้อะไรบ้างไม่มากก็น้อยนะค่ะ ความคิดที่แตกต่างไม่ทำให้คนแตกแยกกัน

จริงไหมค่ะ......

 เริงละลม ระเริงชล ขอขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาอ่านและให้ความคิดเห็นที่มีเป็นประโยนช์นะค่ะ

จากใจจริง 
เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, D, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
04 กุมภาพันธ์ 2014, 12:58:PM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #9 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014, 12:58:PM »
ชุมชนชุมชน


ก็อย่างที่บอกตั้งแต่แรกนั่นแหละครับ  ว่าผมไม่เคยเห็นอะไรที่หวือหวาแบบนั้น  รวมทั้งการทดลองเอามีดกรีดผิวหนัง แบบที่คุณรัตนาวดีนำมาให้ชมด้วย
แต่โดยส่วนตัวแล้วผมก็เชื่อว่าไสยศาสตร์หรือสิ่งลี้ลับมีจริง   นอกจากผมจะสนใจเรื่องกาพย์กลอนแล้ว  ผมยังชอบสะสมพวกพระเครื่องลางของขลัง
ต่างๆด้วย  การที่เรารู้เรื่องพวกนี้ ก็เพื่อให้รู้จักแยกแยะว่าอันไหนจริง อันไหนหลอก  อันไหนทำเพื่อเงินเพื่อการค้า  เราจะได้ไม่ถูกคนอื่นเขาจูงจมูก

ไม่ว่าจะเป็นไสยศาสตร์ หรือเรื่องราวใดๆในโลกก็แล้วแต่ ควรแบ่งเป็นสองกรณี คือสิ่งที่มีอยู่จริงโดยทั่วไปตามธรรมชาติของมัน  กับสิ่งที่ทำเพื่อเงิน
ทั้งสองนี้เหมือนน้ำกับน้ำมันครับ  แม้จะใส่อยู่ในแก้วใบเดียวกันแต่ก็ต้องแยกกันโดยเด็ดขาด และไม่ใช่สิ่งเดียวกันแน่นอน  น้ำก็คือน้ำ  น้ำมันคือน้ำมัน
แม้จะเป็นของเหลวเหมือนกัน และอยู่ในภาชนะเดียวกัน  แต่เราไม่ควรไปเหมาว่าน้ำคือน้ำมัน ฉันใด   เรื่องราวของไสยศาสตร์สิ่งลึกลับก็ไม่ต่างกัน
เราควรรู้ว่า ของจริงกับของที่ทำเพื่อเงินนั้นเป็นคนละอันกันชัดเจนมาก

ไม่ว่าเรื่องราวใดๆ ถ้าหากมีคำว่าเงินหรือผลประโยชน์เข้ามามีส่วนร่วมด้วย  ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเรื่องราวนั้นๆอาจจะหลอกลวงหรือมีเงือนงำ
ถึงแม้ผมมีความเชื่อ  แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเชื่อทุกอย่างที่ใครพูดหรือแสดงให้ดู  ทุกอย่างจะถูกผ่าครึ่งด้วยคำถามที่ว่า มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ?
ถ้าใช่...75% สันนิษฐานไว้ก่อนว่านั่นคือสิ่งที่ทำเพื่อเงิน  มันส่อเค้าว่าจะหลอกลวงซะมากกว่าเรื่องจริง
ถ้าไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ยัง 50/50  เพราะแม้จะไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้องแล้ว แต่ผู้พูดอาจหวังสิ่งอื่นๆ เช่นความเคารพนับถือ
ความอยากอวดว่าตนเป็นคนเก่ง  ความนิยมชื่นชม และอื่นๆ  เพราะงั้นถาหากใครมาพูดเรื่องอิทธิปาฏีหาริย์ต่างๆ ผมจะไม่มีวันเชื่ออย่างง่ายๆเลย
นอกเสียจากได้พิสูจน์เสียก่อนเท่านั้น   คราวนี้มันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้นละว่าจะกล้าให้คนอื่นเขาพิสูจนหรือไม่

ผมมีความเชื่อแต่ก็ไม่ได้เชื่ออะไรหรือใครง่ายๆ   พวกรายการทีวี ที่เกียวกับผี อย่างคนอวดผี มิติลี้ลับ  รายการอื่นๆที่ไปถ่ายทำเกี่ยวกับผีฯลฯ
พวกนี้ผมไม่เคยเสียเวลาดู
ยิ่งวิดีโอที่อ้างว่าถ่ายภาพผี ภาพเปรต ที่เอามาเผยยแพร่สร้างความฮือฮากันเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่เรียกกันว่าเปรตกู้ ผมเห็นครั้งแรกผมก็หัวเราะก๊าก....
ใครจะเชื่อหรือจะพิศวงสงสัยกันก็ตามใจ  แต่ผมไม่เคยเชื่อ  เพราะผมรู้ดีว่าผีเป็นยังไง
ผีก็คือผี  เป็นสิ่งที่ตาธรรมดาจะไม่มีทางมองเห็น  รวมทั้งพวกกล้องถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอนั่นด้วย  เพราะงั้น เมื่อมีผีปรากฏอยู่ในรูปหรือในภาพยนต์
จึงบอกได้คำเดียวว่าผีปลอม  ไม่ต้องไปพิศวงสงสัยให้เสียเวลา
หลักวิธีคิดของผมก็ใช้ตรรกง่ายๆว่า  คนธรรมดาไม่อาจจะสลายตัวเองให้กลายเป็นอากาศธาตุเพื่อหายตัวได้ฉันใด
ผีเอง ถึงแม้จะเชื่อว่ามีอยู่จริง ก็ไม่อาจจะปรากฏตัวให้เห็นเป็นรูปร่าง หรือวัตถุได้ฉันนั้น
ก็ในเมื่อเป็นแบบนี้ สิงที่คนเห็นด้วยตาธรรมดา  ถ่ายวิดีโอมาให้ดู  หรือเสียงแปลกๆที่ได้ยินด้วยหู  จึงต้องถือว่า ถ้าไม่โกหก ก็ต้องเข้าใจผิด หรือหลอกลวง
หรือผีปลอมนั่นเอง
เพราะเราศึกษาเรียนรู้  เราจึงสามารถแยกแยะได้ว่า อันไหนจริง  อันไหนเท็จ  ไม่จำเป็นต้องไปเชื่อตามคนอื่นหรือถูกคนอื่นหลอกให้เสียเวลาเสียอารมณ์
แต่ผมก็ขอยืนยันนะว่า ผมเชื่อว่าไสยศาสตร์กับสิ่งลึกลับนั้นมีจริง แน่แท้ ไม่ต้องสงสัย....


 หัวเราะเยาะ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, D, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
04 กุมภาพันธ์ 2014, 04:22:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #10 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014, 04:22:PM »
ชุมชนชุมชน


สังคมชนบทในปัจจุบัน ประเพณี พิธีกรรมต่างๆ มีผีพราหมณ์พุทธปะปนกัน
ไม่สามารถแยกขาดจากกันได้ ส่วนดีและไม่ดีกี่มากน้อย ปฏิบัติสืบทอดกันมา
บางอย่างก็หดหาย บางอย่างก็ขยายมากเพิ่มขึ้น ขอเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้น
กับผมเมื่อเดือนตุลาคม 2544 ร่วมประกอบกระทู้ของคุณเริงละลม ระเริงชล

หลังจากผมลาเกษียณก่อนกำหนดปี 2542 ได้ทำงานให้กับวัด โรงเรียน
หมู่บ้าน พี่น้องชาวบ้านร่วมใจกันขอผมลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบล
จึงเป็นตัวเก็งขึ้นมาทันที ข้ามหน้าข้ามตาสมาชิกเดิม หนึ่งสัปดาห์ก่อนถึง
วันเลือกตั้ง ผมมีอาการปวดหัว ปวดท้อง อาเจียนอย่างรุนแรง ต้องเข้านอน
โรงพยาบาล หมอวินิจฉัยว่าเครียด เติมน้ำเกลือให้ยา สามวันยังไม่ดีขึ้นเลย
แฟนผมไปถามเจ้าเข้าทรงๆทักว่า มีชายสองคนเอาขี้เถ้าเผาศพจากป่าช้า
โรยประตูทางเข้าบ้าน ให้เอาน้ำส้มป่อยพรมให้ทั่วพร้อมบอกว่า เจ้ามาทางใด
ให้กลับไปทางนั้น สิ่งที่ไม่ดีจะย้อนกลับคืนสู่ผู้กระทำ เวลาเที่ยงตรงแฟนผม
ทำตามเจ้าสั่ง พอบ่ายอาการป่วยของผมค่อยทุเลาหายเป็นปลิดทิ้ง หมอให้
กลับเย็นวันนั้นเอง พอเช้าวันรุ่งขึ้น ญาติห่างๆของแฟนผมคนหนึ่งชักดิ้นชักงอ
สักครู่ก็ตาย หมอลงความเห็นหัวใจล้มเหลว ตกสายมีเพื่อนบ้านหามชายผู้หนึ่ง
มาหาผม เขากลัวหวาดผวาว่าผีจะเอาชีวิต สารภาพสิ่งที่เขากับเพื่อนที่ตาย
กระทำเช่นเจ้าเข้าทรงบอก กราบกรานขอขมา ผมปฏิเสธไม่ทราบไม่ได้ทำอะไร
กับใคร แล้วเอาน้ำส้มป่อยพรมหัวเขา เขาผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ เคารพยำเกรงผมมาก

ขอรับรองว่า ที่กล่าวทั้งหมดเป็นเรื่องจริงทุกประการ และยังมีอีกหลายเรื่องที่
เกิดขึ้นกับพ่อ แฟน ลูก หลาน ญาติ จะเล่าในโอกาสเหมาะสมต่อไปนะครับ

                                เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, พยัญเสมอ, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
04 กุมภาพันธ์ 2014, 07:26:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #11 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014, 07:26:PM »
ชุมชนชุมชน

ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
เป็นเรื่องเล่า กันมา ช้านานแล้ว
มีผีพราย หลายแนว แว่วบนเขา
พอย่ำค่ำ มืดมิด จิตซึมเซา
ต้องรีบเข้า พักผ่อน นอนทันที

เพราะกลัวผี มาป่วน สวนหลังบ้าน
ไล่ลูกหลาน เข้าห้อง ฆ้องลั่นถี่
ชายฉกรรจ์ อยู่ยาม ตามต่อยตี
หากว่ามี ผีมา ต้องฆ่ามัน

หลายวันผ่าน ไร้แวว แห้วจริงหนอ
ใจจดจ่อ อยากเห็น เป็นมิ่งขวัญ
มีแต่ข่าว ลือเลื่อง คุยเขื่องกัน
ตราบทุกวัน ยังไม่เห็น เช่นกล่าวมา
พันทอง
๓/๒/๕๗
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พยัญเสมอ, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
04 กุมภาพันธ์ 2014, 07:56:PM
เนิน จำราย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 637
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,224



« ตอบ #12 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014, 07:56:PM »
ชุมชนชุมชน

ถ้าผีจริงฉวยหมับเข้าจับหัว 
จงอย่ากลัวใจระงับผีจับหา
เหาที่มีแต่เดิมหรือเติมมา   
จำจากลาเกลี้ยงทั่วจากหัวเรา

หนึ่งเนิน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พยัญเสมอ, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s