ศึกษางานเขียนของท่าน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
17 เมษายน 2024, 04:05:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ศึกษางานเขียนของท่าน  (อ่าน 17357 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
23 มีนาคม 2012, 06:58:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« เมื่อ: 23 มีนาคม 2012, 06:58:PM »
ชุมชนชุมชน

            ชีวิต

กางเขนดงหลงป่ามาจากไหน
ป่ามีภัยพรั่นพรึงจึงบินหนี
หลงพลัดคู่อยู่เดียวเปลี่ยวชีวี
หวังเภทภัยไม่มีที่ในเมือง

โอ้เจ้านกผกผินช่างบินหลง
คิดว่าคงปลอดภัยไม่มีเรื่อง
ห่างเสียงปืนตื่นภัยให้ขุ่นเคือง
หนีชีวิตปลิดเปลืองจากเรื่องร้าย

รู้หรือไม่ภัยผจญทุกข์หนแห่ง
มิมีแหล่งปลอดภัยดั่งใจหมาย
ล้วนภัยรุมสุมภยันอันตราย
ยื่นความตายลามลุกทุกชีวิต

สู้ร้างลาป่ากว้างโอ้กางเขน
บ่ายหน้าเบนสู่เมืองเป็นเรื่องผิด
มีหรือรอดปลอดภัยไหนสักนิด
พบวิกฤตน่าระย่อพอพอกัน

ทุกวันนี้ที่ไหนปลอดภัยบ้าง
ทุกก้าวย่างหวาดผวาความอาสัญ
สามจังหวัดมัจจุราชตามฟาดฟัน
มีหรือสุขทุกชีวันไม่พรั่นพรึง

                   วันเนาว์ ยูเด็น 


*กวีกระวาด   มติชน สุดสัปดาห์  13-19  กรกฏาคม  2550

                                                             




 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, เมฆา..., baimai@sailom, sunthornvit, ...สียะตรา.., ♥หทัยกาญจน์♥, Thammada, เพรางาย, ลมหนาว, พิมพ์วาส, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, อรรถกวี, สุนันยา, พ่อค้าพเนจร, กามนิต, panthong.kh, ดอกกระเจียว, รัตนาวดี, Music, สิงขร, เขียนชีวิต, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 24 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
23 มีนาคม 2012, 09:05:PM
เพรางาย
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 553
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,312


ทุกคำถามจะนำมาซึ่งคำตอบ


« ตอบ #1 เมื่อ: 23 มีนาคม 2012, 09:05:PM »
ชุมชนชุมชน


ป่านนี้อาจารย์วันเนาว์คงเกษียณอายุราชการไปแล้วมั้ง
สมัยเรียนอาจารย์มีภาพประทับใจคือ เป็นสาวมั่น สวมต่างหูคู่เบ้อเริ่มไม่เกรงใจสาวน้อยทั้งหลายสักนิด
วาจาฉะฉาน  แถมงานกลอนไม่น้อยหน้าใคร

"รอยทราย" ผลงานของอาจารย์เป็นตัวอย่างกลบทที่คุณงายพกติดตัว
ย้ายบ้านกี่หนก็ไม่ยอมให้หาย

นานๆ จะเห็นชื่ออาจารย์สักที
ขอรำพึงรำพันถึงสักหน่อยเถอะ

 อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, ลมหนาว, พิมพ์วาส, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, อรรถกวี, Thammada, สุนันยา, sunthornvit, กามนิต, panthong.kh, รัตนาวดี, Music, เขียนชีวิต, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คนที่กำลังไล่ตามความฝัน  ท่ามกลางความผกผันของเวลา
23 มีนาคม 2012, 09:10:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #2 เมื่อ: 23 มีนาคม 2012, 09:10:PM »
ชุมชนชุมชน


ป่านนี้อาจารย์วันเนาว์คงเกษียณอายุราชการไปแล้วมั้ง
สมัยเรียนอาจารย์มีภาพประทับใจคือ เป็นสาวมั่น สวมต่างหูคู่เบ้อเริ่มไม่เกรงใจสาวน้อยทั้งหลายสักนิด
วาจาฉะฉาน  แถมงานกลอนไม่น้อยหน้าใคร

"รอยทราย" ผลงานของอาจารย์เป็นตัวอย่างกลบทที่คุณงายพกติดตัว
ย้ายบ้านกี่หนก็ไม่ยอมให้หาย

นานๆ จะเห็นชื่ออาจารย์สักที
ขอรำพึงรำพันถึงสักหน่อยเถอะ

 อายจัง


ศิษย์เอกของอาจารย์วันเนาว์ คือคุณงายนี่เอง  ยินดี ๆ    อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ลมหนาว, รพีกาญจน์, Thammada, สุนันยา, sunthornvit, panthong.kh, รัตนาวดี, Music, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
25 มีนาคม 2012, 05:17:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #3 เมื่อ: 25 มีนาคม 2012, 05:17:PM »
ชุมชนชุมชน

    รำพึงนกขมิ้น

เย็นย่ำค่ำแล้วนกขมิ้น
หากินบินถึงไหนหนอ
ไม่มีใครตั้งหวังรอ
ไร้คู่คลอเคลียดายเดียว

อาทิตย์ลาลับยอดไม้
ทอดถอนหัวใจดวงเปลี่ยว
ว้าเหว่เอกาจริงเชียว
อาศัยร่มเขียวใบบัง

สายลมแผ่วเบาหนาวดึก
รู้สึกแปลกใจหลายอย่าง
เห็นความวุ่นวายรายทาง
ผู้คนแวะค้างสัญจร

อำนาจวาสนามาสู่
ได้ดูผู้คนรีบร้อน
ทุ่งท่ามาพักแรมรอน
ข้ามคืนก็จรจากไป

คืนสู่ความเหงาเศร้าสร้อย
ดั่งคอยความฝันวันใหม่
ผ่านมาแล้วร้างห่างไกล
ทิ้งไว้ให้แล้งเหมือนเดิม  ฯ

         กิ่งดาว  เรื้องวาริธิ
      
* กวีกระวาด  20-26  กรกฎาคม  2550 มติชนสุดสัปดาห์




 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, แป้งน้ำ, รพีกาญจน์, baimai@sailom, sunthornvit, พี.พูนสุข, พ่อค้าพเนจร, panthong.kh, กามนิต, ไร้นวล^^, Music, สิงขร, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
27 มีนาคม 2012, 06:44:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #4 เมื่อ: 27 มีนาคม 2012, 06:44:PM »
ชุมชนชุมชน

ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างฉันและเธอ

เธอกำลังนับวันเป็นบัณฑิต
ฉันหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นคนเก่า
เธอมีฟ้าสีทองคอยส่องเงา
ฉันมีฟ้าสีเทาอยู่เท่าเดิม

เธออยู่สุขกับร่มของโดมได้
ฉันอยู่ใต้ต้นตะแบกเหมือนแรกเริ่ม
เธอกำลังจะมีศักดิ์ศรีเติม
ฉันก็เพิ่มศักดิ์ตนเป็นคนเลว

เธออยู่ในสังคมความสมสุข
ฉันทนทุกข์ในสังคมความล้มเหลว
เธอพิสุทธิ์ผุดผ่องดุจทองเปลว
ฉันตกเหวความช้ำรินน้ำตา

เธออยู่กรุงได้ฟังเสียงสังคีต
ฉันฟังหรีดเรไรอยู่ในป่า
เธออยู่บนความหวานของมารยา
ฉันก็บ้ากับความซื่ออย่างดื้อดึง

เธอก้าวไปในเส้นทางความห่างเหิน
ฉันกลับเดินตามสิทธิ์ความคิดถึง
เธอไม่เคยเข้าใจฉันให้ซึ้ง
ฉันเองจึงน้อยใจมิใช่เบา

เธอกำลังนับวันเป็นบัณฑิต
ฉันหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นคนเก่า
เธอมีฟ้าสีทองคอยส่องเงา
ฉันมีฟ้าสีเทาอยู่เท่าเดิม ฯ

             วันที่ดอกไม้บาน

ปล.ขออภัย ไม่แน่ใจนามจริงผู้แต่ง (ว่าชื่อ สรจิต หรือเปล่า ไม่แน่ใจนะ)  เป็นบทกวีของคนเดือนตุลา (2519)



ปล.บทกลอนในกระทู้ล่าง ก็แต่งเลียนแบบกวีบทนี้แหละ ทุกท่าน กวีบทนี้เพราะกว่ามากมายหลายเท่า อริญชย์คงไม่อาจเทียบได้ ขอนำลงมาให้เพื่อน ๆ อ่านเพื่อศึกษาเป็นตัวอย่าง ณ โอกาสนี้เน้อ



 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : baimai@sailom, sunthornvit, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, พ่อค้าพเนจร, เมฆา..., panthong.kh, กามนิต, ไร้นวล^^, Music, สิงขร, ไพร พนาวัลย์, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
10 เมษายน 2012, 08:43:PM
กามนิต
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 408
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 366


ฉันเห็นไฟในสายตาเธอ


« ตอบ #5 เมื่อ: 10 เมษายน 2012, 08:43:PM »
ชุมชนชุมชน

ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างฉันและเธอ

เธอกำลังนับวันเป็นบัณฑิต
ฉันหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นคนเก่า  (ฉันใช้สิทธิ์ต่างต่างอยู่อย่างเก่า)
เธอมีฟ้าสีทองคอยส่องเงา
ฉันมีฟ้าสีเทาอยู่เท่าเดิม

เธออยู่สุขกับร่มของโดมได้
ฉันอยู่ใต้ต้นตะแบกเหมือนแรกเริ่ม
เธอกำลังจะมีศักดิ์ศรีเติม
ฉันก็เพิ่มศักดิ์ตนเป็นคนเลว

เธออยู่ในสังคมความสมสุข
ฉันทนทุกข์ในสังคมความล้มเหลว
เธอพิสุทธิ์ผุดผ่องดุจทองเปลว
ฉันตกเหวความช้ำรินน้ำตา  (ฉันตกเหวความช้ำและน้ำตา)

เธออยู่กรุงได้ฟังเสียงสังคีต
ฉันฟังหรีดเรไรอยู่ในป่า
เธออยู่บนความหวานของมารยา
ฉันก็บ้ากับความซื่ออย่างดื้อดึง

เธอก้าวไปในเส้นทางความห่างเหิน  (เธออยู่บนเส้นทางความห่างเหิน)
ฉันกลับเดินตามสิทธิ์ความคิดถึง
เธอไม่เคยเข้าใจฉันให้ซึ้ง
ฉันเองจึงน้อยใจมิใช่เบา

เธอกำลังนับวันเป็นบัณฑิต
ฉันหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นคนเก่า  (ฉันหมดสิทธิ์จะดิ้นรนเป็นคนเก่า)
เธอมีฟ้าสีทองคอยส่องเงา
ฉันมีฟ้าสีเทาอยู่เท่าเดิม ฯ

             วันที่ดอกไม้บาน

ปล.ขออภัย ไม่แน่ใจนามจริงผู้แต่ง (ว่าชื่อ สรจิต หรือเปล่า ไม่แน่ใจนะ)  เป็นบทกวีของคนเดือนตุลา (2519)



ปล.บทกลอนในกระทู้ล่าง ก็แต่งเลียนแบบกวีบทนี้แหละ ทุกท่าน กวีบทนี้เพราะกว่ามากมายหลายเท่า อริญชย์คงไม่อาจเทียบได้ ขอนำลงมาให้เพื่อน ๆ อ่านเพื่อศึกษาเป็นตัวอย่าง ณ โอกาสนี้เน้อ





 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง




ผู้แต่งกลอนบทนี้คือ สรจิตร สินยวง ครับ  (ฉบับในมือผมมีบางจุดที่ต่างกัน เลยวงเล็บเป็นสีแดงไว้เปรียบเทียบครับ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เมฆา..., panthong.kh, ยามพระอาทิตย์อัสดง, อริญชย์, รพีกาญจน์, ไร้นวล^^, พี.พูนสุข, รัตนาวดี, Music, ไพร พนาวัลย์, sunthornvit, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความรักแท้จริงมีสีดำดังศอพระศิวะ
10 เมษายน 2012, 10:30:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #6 เมื่อ: 10 เมษายน 2012, 10:30:PM »
ชุมชนชุมชน

ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างฉันและเธอ

เธอกำลังนับวันเป็นบัณฑิต
ฉันหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นคนเก่า  (ฉันใช้สิทธิ์ต่างต่างอยู่อย่างเก่า)
เธอมีฟ้าสีทองคอยส่องเงา
ฉันมีฟ้าสีเทาอยู่เท่าเดิม

เธออยู่สุขกับร่มของโดมได้
ฉันอยู่ใต้ต้นตะแบกเหมือนแรกเริ่ม
เธอกำลังจะมีศักดิ์ศรีเติม
ฉันก็เพิ่มศักดิ์ตนเป็นคนเลว

เธออยู่ในสังคมความสมสุข
ฉันทนทุกข์ในสังคมความล้มเหลว
เธอพิสุทธิ์ผุดผ่องดุจทองเปลว
ฉันตกเหวความช้ำรินน้ำตา  (ฉันตกเหวความช้ำและน้ำตา)

เธออยู่กรุงได้ฟังเสียงสังคีต
ฉันฟังหรีดเรไรอยู่ในป่า
เธออยู่บนความหวานของมารยา
ฉันก็บ้ากับความซื่ออย่างดื้อดึง

เธอก้าวไปในเส้นทางความห่างเหิน  (เธออยู่บนเส้นทางความห่างเหิน)
ฉันกลับเดินตามสิทธิ์ความคิดถึง
เธอไม่เคยเข้าใจฉันให้ซึ้ง
ฉันเองจึงน้อยใจมิใช่เบา

เธอกำลังนับวันเป็นบัณฑิต
ฉันหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นคนเก่า  (ฉันหมดสิทธิ์จะดิ้นรนเป็นคนเก่า)
เธอมีฟ้าสีทองคอยส่องเงา
ฉันมีฟ้าสีเทาอยู่เท่าเดิม ฯ

             วันที่ดอกไม้บาน

ปล.ขออภัย ไม่แน่ใจนามจริงผู้แต่ง (ว่าชื่อ สรจิต หรือเปล่า ไม่แน่ใจนะ)  เป็นบทกวีของคนเดือนตุลา (2519)



ปล.บทกลอนในกระทู้ล่าง ก็แต่งเลียนแบบกวีบทนี้แหละ ทุกท่าน กวีบทนี้เพราะกว่ามากมายหลายเท่า อริญชย์คงไม่อาจเทียบได้ ขอนำลงมาให้เพื่อน ๆ อ่านเพื่อศึกษาเป็นตัวอย่าง ณ โอกาสนี้เน้อ





 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง




ผู้แต่งกลอนบทนี้คือ สรจิตร สินยวง ครับ  (ฉบับในมือผมมีบางจุดที่ต่างกัน เลยวงเล็บเป็นสีแดงไว้เปรียบเทียบครับ

ผมท่องจำมาหลายปี เลยอาจพลาดพลั้ง       ข้อมูลของ "คุณ/ท่านกามนิต" น่าจะถูกต้องมากกว่า  ขอบคุณฮะ ที่นำมาเทียบเคียง


 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไร้นวล^^, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, Music, สิงขร, sunthornvit, รการตติ, panthong.kh, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
10 เมษายน 2012, 10:55:PM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #7 เมื่อ: 10 เมษายน 2012, 10:55:PM »
ชุมชนชุมชน




หากฉันคล้ายส้วมสร้างกำลังเอี่ยม
เธอเท่าเทียมคนปวดขี้มิทนไหว
แม้ฉันจะต้อยต่ำสักเพียงใด
ก็เชิญสาแก่ใจอารมณ์เธอ

ฉันรับได้ใช่ไหมที่เธอคิด
แต่บางครั้งก็เบียนบิดใช่เพียงเผลอ
เป็นตอไม้เสี้ยมแหลมเชียวนะเออ
สุดแต่เธอใคร่ครวญและคำนึง

ฉันอาจเป็นบางอย่างต่างๆสิ้น
เมื่อโรยราราคินเธอนึกถึง
เหมือนหมอนข้างขึ้นราเคยตราตรึง
ที่เธอคอยบึ้งตึงในผ่านมา

ฉันจะเป็นอะไรไม่สำคัญ
ที่นอกจากเธอนั้นใฝ่ฝันหา
เป็นทุกสิ่งในโลกนี้มีราคา
ยังดีกว่าเป็นบางอย่างเธอหมางเมิน

 ยิ้มหน้าใส


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, พี.พูนสุข, Music, Prapacarn ❀, รพีกาญจน์, สิงขร, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, sunthornvit, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 เมษายน 2012, 11:25:PM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #8 เมื่อ: 10 เมษายน 2012, 11:25:PM »
ชุมชนชุมชน

วรรณศิลป์สรจิตนั้น     ชุษณะจัง

ยกสู่ปรมบัลลังก์        อัครแก้ว

จวบสิ้นโลกิยะยัง    อักขระเด่น

ลักษณะสวนียะแพร้ว   อริยะปลื้มอภิสมัย







ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, พี.พูนสุข, Prapacarn ❀, Music, รพีกาญจน์, สิงขร, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, sunthornvit, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
10 เมษายน 2012, 11:26:PM
blackbear
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 76
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 92



« ตอบ #9 เมื่อ: 10 เมษายน 2012, 11:26:PM »
ชุมชนชุมชน


ป่านนี้อาจารย์วันเนาว์คงเกษียณอายุราชการไปแล้วมั้ง
สมัยเรียนอาจารย์มีภาพประทับใจคือ เป็นสาวมั่น สวมต่างหูคู่เบ้อเริ่มไม่เกรงใจสาวน้อยทั้งหลายสักนิด
วาจาฉะฉาน  แถมงานกลอนไม่น้อยหน้าใคร

"รอยทราย" ผลงานของอาจารย์เป็นตัวอย่างกลบทที่คุณงายพกติดตัว
ย้ายบ้านกี่หนก็ไม่ยอมให้หาย

นานๆ จะเห็นชื่ออาจารย์สักที
ขอรำพึงรำพันถึงสักหน่อยเถอะ

 อายจัง

คารวะครูวันเนาว์เนาอักษร. สำนวนกลอนเคยสดับประทับจิต
เดินตามรอยร้อยครรโลงโคลงโลกนิติ   สุภาษิตพระร่วงห่วงจารึก
ฉายบทกลอนสะท้อนธรรมชี้นำชาติ. สุขสะอาดสงบนิ่งยิ่งรู้สึก
ยุวชนทั้งหลายได้สำนึก.  รู้ฝนฝึกความดีมีในตน
ช่อศรีตรังสะพรั่งบานทุกก้านกิ่ง. เป็นขวัญมิ่งแม่ครูอยู่ทุกหน
ประดับรูสะมิแลแผ่มณฑล.  ประทับบนใจศิษย์นิจนิรันดร์. 

 
 ด้วยจิตคารวะในผลงาน
 ๑๐. เมษายน. ๒๕๕๕

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, พี.พูนสุข, Music, รพีกาญจน์, สิงขร, อริญชย์, sunthornvit, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 เมษายน 2012, 08:48:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #10 เมื่อ: 19 เมษายน 2012, 08:48:PM »
ชุมชนชุมชน

      รำพึงนกขมิ้น

เย็นย่ำค่ำแล้วนกขมิ้น
หากินบินถึงไหนหนอ
ไม่มีใครตั้งหวังรอ
ไร้คู่คลอเคลียดายเดียว

อาทิตย์ลาลับยอดไม้
ทอดถอนหัวใจดวงเปลี่ยว
ว้าเหว่เอกาจริงเชียว
อาศัยร่มเขียวใบบัง

สายลมแผ่วเบาหนาวดึก
รู้สึกแปลกใจหลายอย่าง
เห็นความวุ่นวายรายทาง
ผู้คนแวะค้างสัญจร

อำนาจวาสนามาสู่
ได้ดูผู้คนรีบร้อน
ทุ่งท่ามาพักแรมรอน
ข้ามคืนก็จรจากไป

คืนสู่ความเหงาเศร้าสร้อย
ดั่งคอยความฝันวันใหม่
ผ่านมาแล้วร้างห่างไกล
ทิ้งไว้ให้แล้งเหมือนเดิม ฯ



*กิ่งดาว  เรื้องวาริธิ  กวีกระวาด  20-26  กรกฎาคม  2550 มติชนสุดสัปดาห์



 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, blackbear, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, sunthornvit, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
29 เมษายน 2012, 09:45:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #11 เมื่อ: 29 เมษายน 2012, 09:45:PM »
ชุมชนชุมชน


ขอบคุณภาพหนังสือจาก อินเตอร์เน็ต

คนจรเจ็บแผลหน่วงใครห่วงหา

ถามไถ่ถึงดวงดาวคืนหนาวเหน็บ
คนจรเจ็บแผลหน่วงใครห่วงหา
ปันความรักเศษเสี้ยวเพียงเยียวยา
เพื่อเติมไฟศรัทธาให้ร้อนแรง

ช่วยปลอบโยนดวงใจอันไหวหวาด
ขมขื่นขลาดลำเค็ญแอบเร้นแฝง
ความมืดดุจคมมีดคอยกรีดแทง
ท่ามยุคการเปลี่ยนแปลงระแวงกัน

ออกร่อนเร่แรมรอนนครร้าง
มืดทึบทางร้อยแยกช่างแปลกผัน
เหมือนธุลีแห่งดินถวิลจันทร์
เฝ้ากรองกลั่นทอถักสลักคำ

สักเพียงนิดค่าน้อยคือถ้อยวาด
มิหมายมาดใครชิมได้อิ่มหนำ
มิหวังรื่นในรสจนจดจำ
เพียงชุ่มฉ่ำน้ำใจอันใสพราว

ยื่นมือมาเถิดนักเดินทางผู้คว้างเร่     *
ขอถ่ายเททุกข์ร้อนพักผ่อนหนาว
จากห้วงแห่งกาลอันนานยาว
ขอปวดร้าวแบ่งริ้วปลิดปลิวไป


สบตาฉันเถิดมิตรสนิทนิ่ง
ซึมซับสิ่งเลอค่าคลายล้าไหว
ซบหน้ากับตักหนุนเอาอุ่นไอ
ก่อนจากไกลอีกคราวอย่าร้าวลา

ถามไถ่ถึงดวงดาวคืนหนาวเหน็บ
คนจรเจ็บแผลหน่วงใครห่วงหา
ปันความรักเศษเสี้ยวเพียงเยียวยา
เพื่อเติมไฟศรัทธาให้ร้อนแรง

                     ภัสมะ


คัดมาจากหนังสือ “ดื่มดาวกลางแดด” หน้า 34-35



*ยื่นมือมาเถิดนักเดินทางผู้คว้างเร่  * (ท่อนนี้เขามีสิบคำ  ตามหนังสือที่พิมพ์นะ)



 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เต้นบัลเลย์ สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง


<a href="http://www.youtube.com/v/LLXKPg75F2U&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/LLXKPg75F2U&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, sunthornvit, รการตติ, panthong.kh, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
13 พฤษภาคม 2012, 04:33:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #12 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2012, 04:33:PM »
ชุมชนชุมชน

         ห้วงคำนึง

หมอบพับเพียบเลียบริมน้ำปริ่มฝั่ง
ตะแคงฟังนิยายเพลินจากเนินหญ้า
ระบำมดคดเคี้ยวลับเคียวตา
หยาดน้ำฟ้าลากลิ้งทิ้งใบบอน

แมลงปอเกาะหินเลื่อมปิ่นรุ้ง
ผีเสื้อพุ่งอวดแพรแผ่ปีกร่อน
กิ้งกือหักความอายออกกรายกร
กระรอกหย่อนลูกหว้าหยั่งท้าทาย

เมื่อเอนพิงอิงพักหนุนตักหล้า
แนบเงาฟ้าในน้ำเปี่ยมความหมาย
ธรรมชาติวาดแต้มยังแย้มพราย
และโลกส่ายกายหมุนด้วยคุ้นเคย

เหม่อมองฟ้าสีฟ้ากว้างกว่ากว้าง
คิ้วรุ้งค้างเนตรสูรย์มุ่นหมอกเสย
แย้มเสี้ยวเมฆยิ้มแดดสีแสดเอย
หัตถ์ลมเชยเผยแก้มแพลมยิ้มพลัน

แล้วสบตากับเรา-เงาในน้ำ
ไหลลำนำฉ่ำใจคล้ายเคลิ้มฝัน
พิสุทธิ์ใสไล้หล้ารับตาวัน
กล่อมดวงขวัญล่องลิบทิพยา

เรามองโลกสดใสในวันนี้
ด้วยใจที่อ่อนวัยไร้เดียงสา
ทุกสิ่งช่วยอวยสุขทุกเวลา
หากวันหน้าเป็นอย่างไร...ไม่อาจรู้

จิระนันท์ พิตรปรีชา,
ชัยพฤกษ์ มิถุนายน ๒๕๑๓

จาก หนังสือ “ใบไม้ที่หายไป กวีนิพนธิ์แห่งชีวิต”พิมพ์ครั้งที่ ๑๐
สำนักพิมพ์แสงดาว ต.ค.๒๕๓๔

http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=7646.85;wap2

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, รการตติ, พี.พูนสุข, ยามพระอาทิตย์อัสดง, panthong.kh, บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, Thammada, Prapacarn ❀

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s