:+: ตามหากาแล :+:
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 เมษายน 2024, 06:46:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: :+: ตามหากาแล :+:  (อ่าน 7470 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 เมษายน 2012, 04:29:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 04:29:PM »
ชุมชนชุมชน



ขอบคุณภาพจาก Google ครับ

:+: ตามหากาแล :+:



เปิดก็แล้วตำราสถาปัตย์
ปฎิวัติมุมมองเหนือท้องไร่
จะแปลงตึกที่เคยเยือนเป็นเรือนไทย
เมื่อถามไถ่ปรารถนาเห็นกาแล..

หยิบตำราเปิดดูผู้เกี่ยวข้อง
และขอร้องเทียบดูให้รู้แน่
อยากจะเห็นกับตาล้านนาแท้
ใช่กาแล เรซิ่น ไม่ยินดี

วัฒนธรรมอันดีที่เขลางค์
เมืองลำปางห่างทุ่งของกรุงศรี
ความงดงามรุ่งเรืองของเมืองนี้
ทำให้มีโอกาสได้ไปลำพูน

เห็นสายธารเมืองเหนือที่เจือผ่าน
เรือนตระหง่านยิ่งใหญ่ไม่เสื่อมสูญ
มีเรือนไม้ร้อยปีทวีคูณ
เจิดจรูญเรือนกาแลริมแม่ปิง

ศึกษาได้ความรู้ดูเหมาะสม
กับปั้นลมเชิงชายลายคำสิงห์
ยอดไม้สักทรงกาแลที่แท้จริง
นี่คือสิ่งล้ำค่าน่านิยม

จากลำพูนข้างเคียงถึงเชียงใหม่
ล้านนาไทยโสภาเรือนอาศรม
ประดับตุงสงกรานต์ผ่านมาชม
แต่ยังตรมเพราะตามหาแก้วกาแล....



รการตติ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, panthong.kh, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Music, สะเลเต, บ้านริมโขง, sunthornvit, yaguza, พี.พูนสุข, ลมหนาว, sucklife, Prapacarn ❀, เนิน จำราย, สิงขร, ไม่รู้ใจ, Khondoendin, เมฆา...

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
11 เมษายน 2012, 05:16:PM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #1 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 05:16:PM »
ชุมชนชุมชน

ตอนเด็กเด็กบอกตรงตรงเคยสงสัย
เขาเรียกว่าอะไรไตร่ถามแม่
พ่อเอ่ยบอกตอบมาว่ากาแล
ติดไว้แค่สวยหรือ..สื่ออะไร

พ่อบอกว่ากาแลแท้จริงนั้น
ติดป้องกันแร้งกา..เข้ามาใกล้
ติดกาแล.แร้งกาเห็นเผ่นหนีไกล
เป็นเครื่องใช้ป้องกัน...ฉันจึงรู้

---สะเลเต---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านริมโขง, ยามพระอาทิตย์อัสดง, sunthornvit, Music, รพีกาญจน์, yaguza, พี.พูนสุข, ลมหนาว, sucklife, Prapacarn ❀, เนิน จำราย, สิงขร, ไม่รู้ใจ, รการตติ, Khondoendin, เมฆา...

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 เมษายน 2012, 08:49:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #2 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 08:49:PM »
ชุมชนชุมชน


..แก้วหลงกรุง..

เรือนหลังคา หน้าจั่ว หัวสุดไขว้
ตามปุึระ สมัย ของไทยแท้
ดูถนัด วัดหลวง ข่วงท่าแพ
มี..กาแล ลายฉลุ เก่ากรุงาม

-ลายกนก สามตัว หัวสลับ
กาบซ้อนทับ ก้นห้อย ฝังรอยขาม
-ลายเมฆไหล ขดขัด ตวัดลาม
ก้านสองก้าม แยกยัน กันละทาง
-ลายเครือเถา กิ่งคล้าย ปลายขมวด
วกงองวด ม้วนกลม คมออกข้าง

๐รูปทรงอ่อน ลอนโปร่ง โค้งเลาบาง
ส่วนปลายล่าง แนบชิด ติดปั้นลม
๐รูปทรงตรง เรียบยาว ราวไม้แข็ง
พุ่งเลียดแทง ตัดไขว้ เห็นได้ถม
๐กากบาท ผงาดฟ้า หันหน้าชม
เศียรนาคข่ม ชี้ชัด ขนัดดี

+ป้องกันแมง แร้งกา บินมาเกาะ
+เครื่องหมายเคราะห์ พม่าทำ นำกดขี่
+สัญลักษณ์ ร่ำรวย ช่วยมั่งมี
+และทั้งนี้ ยึดไม้ ให้ติดกัน

..หิ้วปิ่นโต ตามพระ บิณฑบาตร
มิเคยขาด..แก้วกาแล..กลับแปรผัน
ไปทำงาน เมืองกรุง รุ้งลาวัณย์
ข้าโศกศัลย์ ใจแป้ว..แก้วหลงกรุง

รพีกาญจน์ 59

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สะเลเต, sunthornvit, yaguza, พี.พูนสุข, ลมหนาว, sucklife, Prapacarn ❀, เนิน จำราย, สิงขร, ไม่รู้ใจ, รการตติ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Khondoendin, เมฆา...

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 เมษายน 2012, 03:10:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #3 เมื่อ: 17 เมษายน 2012, 03:10:PM »
ชุมชนชุมชน

ตอนเด็กเด็กบอกตรงตรงเคยสงสัย
เขาเรียกว่าอะไรไตร่ถามแม่
พ่อเอ่ยบอกตอบมาว่ากาแล
ติดไว้แค่สวยหรือ..สื่ออะไร

พ่อบอกว่ากาแลแท้จริงนั้น
ติดป้องกันแร้งกา..เข้ามาใกล้
ติดกาแล.แร้งกาเห็นเผ่นหนีไกล
เป็นเครื่องใช้ป้องกัน...ฉันจึงรู้

---สะเลเต---




ขอบคุณภาพจาก Google ครับ

ตัวเหงาในเรือนไทย



ที่ปั้นลมเรือนไทยขอบปลายจั่ว
กนกตัวสะบัดชายเป็นปลายคู่
บรรจงงอนตระการตาช่างน่าดู
ใครนะผู้สร้างสรรค์สุดบรรยาย

เด่นสง่าเกินใครที่ใดเหมือน
สมเป็นเรือนไทยซึ่งงามผึ่งผาย
หลังคาสูงกระเบื้องตรึงถึงเชิงชาย
เป็นลวดลายลึกซึ้งคนึงเน้น

อยู่เรือนไทยชายคาที่หน้าบ้าน
ระเบียงชานตั้งตั่งเพื่อนั่งเล่น
ผ้าขาวม้าพาดไหล่ในยามเย็น
เดินมาเป็นเพื่อนใจอยู่ในกลอน

จับปากกาวาดฝันอันแสนสุข
ยังสนุกเย็นใจได้พักผ่อน
สมุดไทยใบลานมิจารจร
เขียนเป็นกลอนไทยไทยเพราะใจรัก

เหลือบไปเห็นกนกลายที่ปลายจั่ว
สะบัดตัวทิ้งชายด้วยไม้สัก
เป็นกนกปลายงอนเหมือนซ่อนรัก
แปลกใจนักกับตัวเหงาที่เราเห็น

เรือนทรงไทยงามงอนแสนอ่อนช้อย
ใต้ถุนลอยล้อมสอบเป็นกรอบเด่น
เกยลาดกว้างชายคาพาลมเย็น
ชมจันทร์เพ็ญสกาวพร้อมดาวดวง

ปั้นลมปลายลายลวดอวดตัวเหงา
มาหยอกเย้าชิดชมภิรมย์สรวง
แม้จะชื่อตัวเหงามิเศร้าทรวง
เรากลับห่วงเรือนร้างอยู่กลางใจ !



รการตติ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Khondoendin, เมฆา..., สะเลเต, Prapacarn ❀, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
19 เมษายน 2012, 12:42:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #4 เมื่อ: 19 เมษายน 2012, 12:42:PM »
ชุมชนชุมชน


..แก้วหลงกรุง..

เรือนหลังคา หน้าจั่ว หัวสุดไขว้
ตามปุึระ สมัย ของไทยแท้
ดูถนัด วัดหลวง ข่วงท่าแพ
มี..กาแล ลายฉลุ เก่ากรุงาม

-ลายกนก สามตัว หัวสลับ
กาบซ้อนทับ ก้นห้อย ฝังรอยขาม
-ลายเมฆไหล ขดขัด ตวัดลาม
ก้านสองก้าม แยกยัน กันละทาง
-ลายเครือเถา กิ่งคล้าย ปลายขมวด
วกงองวด ม้วนกลม คมออกข้าง

๐รูปทรงอ่อน ลอนโปร่ง โค้งเลาบาง
ส่วนปลายล่าง แนบชิด ติดปั้นลม
๐รูปทรงตรง เรียบยาว ราวไม้แข็ง
พุ่งเลียดแทง ตัดไขว้ เห็นได้ถม
๐กากบาท ผงาดฟ้า หันหน้าชม
เศียรนาคข่ม ชี้ชัด ขนัดดี

+ป้องกันแมง แร้งกา บินมาเกาะ
+เครื่องหมายเคราะห์ พม่าทำ นำกดขี่
+สัญลักษณ์ ร่ำรวย ช่วยมั่งมี
+และทั้งนี้ ยึดไม้ ให้ติดกัน

..หิ้วปิ่นโต ตามพระ บิณฑบาตร
มิเคยขาด..แก้วกาแล..กลับแปรผัน
ไปทำงาน เมืองกรุง รุ้งลาวัณย์
ข้าโศกศัลย์ ใจแป้ว..แก้วหลงกรุง

รพีกาญจน์ 59





ขอบคุณภาพจาก Google ครับ

แก้วกาแล



เหมือนดั่งแก้วเจียระไนใกล้ขุนเขา
ความเปลี่ยวเหงาสะอื้นกลับคืนทุ่ง
แก้วกาแลฉายเฉิดเจิดจรุง
ดั่งหมายมุ่งตะวันอันอำไพ

จึงเหมือนแก้วซ่อนไว้กลางไพรกว้าง
อาจอ้างว้างในจินต์ประทิ่นไหว
เพียงคืนค่ำนิทราพาชื่นใจ
หอมกลิ่นไม้จับใจจากไอดิน

อรุณก็รุ่งแล้วแนวสันเขา
อันทอดเงาละเมียดในใจถวิล
จากริมน้ำสวยใสไหลระริน
เพียงได้ยินมายลมนต์ตรึงตรา

เปรียบมณีก้อนหนึ่งซึ่งคงอยู่
ก้มมองดูออกไปอาจไร้ค่า
หากแต่แก้วกลางไพรไร้มายา
จงรู้ว่าเธอคือแก้วอันแววงาม

ที่รอคนกำจายฉายแสงส่อง
งามดั่งต้องตาเพ่งน่าเกรงขาม
แก้วกาแล ชูไว้ใต้ฟ้าคราม
วับวาวท่ามเมกไม้แห่งไพรพง

แล้วจะกลับมาเยือนเพื่อนล้านนา
จำนรรจาให้ไว้ใจประสงค์
ไปแต่ตัวใจนั้นยังมั่นคง
ด้วยบรรจงเจียรแล้ว...แก้วกาแล ฯลฯ



รการตติ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, Prapacarn ❀, sunthornvit, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, สะเลเต

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s