๐ ยิ้มห่อน้ำตา ๐
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 เมษายน 2024, 10:32:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ๐ ยิ้มห่อน้ำตา ๐  (อ่าน 5162 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
28 มีนาคม 2012, 05:03:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« เมื่อ: 28 มีนาคม 2012, 05:03:PM »
ชุมชนชุมชน




๐  ยิ้มห่อน้ำตา  ๐



  ๑

...ขอบรรเลงเพลงเศร้าเคล้าบทโศก
บางครั้งโบกโยกใจไปไหลหลง
ก่อเนตรหลั่งฝั่งเจ็บเก็บบรรจง-
เทียวกรีดลงตรงหทัยให้เป็นรอย

...เห็นเธอยืนคู่เขาเราทนโศก
หรือเป็นเพราะ โชคชะตาพาให้ถอย
เคยรักกันปั้นเงาใช้เนาว์คอย
เป็นฝุ่นฝอยลอยเคว้งเว้งเพียงเรา




...ยื่นรอยยิ้มห่อน้ำตาคราเจอหน้า
ยื่นรอยยิ้มสบตาอย่าพาเฉา
ยื่นรอยยิ้มปิดรอยช้ำ,กระหน่ำเงา
ยื่นยิ้มเข้าห่อน้ำตาก่อนลาไป

...คำทักทายเหมือนมีดซอยรอยแผลรัก
เข้าเทียวปักร้อยเล่มวาง...มิห่างไหน
ชิ้นเนื้อบาดขาดตอนเป็นท่อนใจ
น้ำตาไหลใส่รอยยิ้มปริ่มหน้านาง

...โอ้คนดี...ตีจากฝากแต่เศร้า
มิบางเบาเลยหนอ...ทอไม่ห่าง
"สบายดีนะ" คำเอ่ยเธอเผยวาง
ยิ้มบาง-บาง จางรักเรา ไร้เงารอ




...ยิ้มห่อน้ำตาอาลัยไกลจากเจ้า
ขอจับมือสัมผัสเงา...แล้วก้าวหนอ
มิอาจรัก มิอาจทัก  พักใจทอ
สิ้นคำขอ พอคำรัก  หักใจลา...


ตะวันฉาย



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บัณฑิตเมืองสิงห์, ♥หทัยกาญจน์♥, sunthornvit, เมฆา..., ..กุสุมา.., baimai@sailom, panthong.kh, my smile, สุนันยา, ไม่รู้ใจ, บ้านริมโขง, อริญชย์, ลมหนาว, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, สิงขร, กังวาน, สะเลเต, ไผ่เดียวดาย, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada

ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
28 มีนาคม 2012, 07:15:PM
baimai@sailom
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 63
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 158


ทองหลังพระ..


« ตอบ #1 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012, 07:15:PM »
ชุมชนชุมชน

มั่นมโน โศกา อุราฝัง
รักที่ยัง รั้งจิต คิดห่วงหา
จึงครองทุกข์ มิลุกยืน ฟื้นน้ำตา
เช่นนี้หนา ดังว่ารัก เคยหักทรวง

แม้ตะวัน ยังหมั่นเพียร เวียนส่องแสง
มิหมดแรง แสดงผ่อง ส่องแดนสรวง
เฝ้าก่อเกื้อ เอื้อชีวิน ถิ่นทั้งปวง
มิลับล่วง ควงรอบ มอบอุ่นไอ

เช่นพระจันทร์ นั้นส่องจ้า ราตรีมืด
มิเคยจืด มิเคยจาง ร้างไปไหน
เราเป็นคน ทนสู้ อยู่ที่ใจ
จงก้าวไป ใคร่ตะวัน และจันทรา..


 ยิ้มให้จ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, my smile, สุนันยา, ♥หทัยกาญจน์♥, ..กุสุมา.., ไม่รู้ใจ, ตะวันฉาย, บ้านริมโขง, อริญชย์, sunthornvit, ลมหนาว, รพีกาญจน์, สิงขร, กังวาน, สะเลเต, ไผ่เดียวดาย, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 มีนาคม 2012, 09:28:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #2 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012, 09:28:PM »
ชุมชนชุมชน




รักหลุดมือถือหมายเสียดายเหลือ
ก่อนสุดเบื่อเหลือล้นหม่นใจหนา
ก่อนไม่ดีทุกอย่างสร้างเรื่องมา
ตั้งข้อหาลาจากฝากระทม

บีบน้ำตาซ่อนไว้กลัวใครรู้
แสนหดหู่ดูเขาเคล้าสุขสม
เหมือนอาลัยเหลือล้นบนตรอมตรม
เกินฝืนชมขมขื่นกลืนน้ำตา

เหตุใดเล่าเขาจากหากรักล้น
เหตุใดคนทิ้งกันนั่นล่ะหนา
เหตุเพราะเราหรือเขาเฝ้าบอกลา
เหตุเพราะว่า...รสนิยมไม่กลมกลืน

ล้วนมากเหตุมาอ้างยามจางจาก
ล้วนหลายหลากมากข้องจำต้องฝืน
คนมันเบื่อเหลือจับรอรับคืน
แล้วบัดนี้มาสะอื้น..ยืนอาลัย

มีรอยยิ้มห่อน้ำตาคราทายทัก
เป็นเพียงคนรู้จักเคยรักใคร่
บัดนี้เขาควงอื่นด้วยชื่นใจ
เราหมองไหม้ไส้ขมตรมฤดี

เพียงเพราะเราและเขาก็เท่านั้น
ที่รักกันมั่นหมายปลายสุขี
ใดไหนกันคั่นกลางร้างไมตรี
สองเรานี้..เท่านั้น..บั่นรักเอง..

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, sunthornvit, สุนันยา, baimai@sailom, ลมหนาว, panthong.kh, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, สิงขร, ♥หทัยกาญจน์♥, กังวาน, สะเลเต, ไผ่เดียวดาย, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

28 มีนาคม 2012, 09:37:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #3 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012, 09:37:PM »
ชุมชนชุมชน

ยิ้มสิยิ้มให้กันเช้าวันใหม่
ยิ้มให้ใจสุขสันต์สักวันหนึ่ง
ยิ้มเพื่อลบรอยช้ำห้วงคำนึง
ยิ้มให้ซึ้งเพื่อดับโศกให้โลกลือ!ฯ

                   อริญชย์
               ๒๘/๓/๒๕๕๕



ยิ้มให้คุณ ยอดรัก สลักใจ
<a href="http://www.youtube.com/v/dq7rTVATiNY&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/dq7rTVATiNY&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, baimai@sailom, sunthornvit, ลมหนาว, panthong.kh, บ้านริมโขง, รพีกาญจน์, สิงขร, ♥หทัยกาญจน์♥, รัตนาวดี, กังวาน, สะเลเต, ไผ่เดียวดาย, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
28 มีนาคม 2012, 09:39:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #4 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012, 09:39:PM »
ชุมชนชุมชน




ฟ้าลิขิต ขีดคั่น ให้หวั่นไหว
รอยหม่นไหม้ ตรึกห้วง เป็นบ่วงหนา
จำซ่อนเจ็บ เก็บหมด หยดน้ำตา
ปั้นสีหน้า ยิ้มชื่น รื่นละมัย

ประหนึ่งว่า ชีวี นี้สุขนัก
พรั่งพร้อมรัก ละมุน อุ่นไฉน
มีใครรู้ ส่วนลึก สำนึกใน
ที่หลั่งไหล รินรด หยดลงจินต์

ร้องบรรเลง เพลงโศก ให้โลกรับ
ร้องเพื่อซับ อารมณ์ ขมทั้งสิ้น
ร้องไปเถิด ระบายบ้าง ทางชีวิน
ร้องให้ยิน ถึงฟ้า อย่างท้าทาย...

เคารพรัก
"สุนันยา"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : baimai@sailom, sunthornvit, อริญชย์, ลมหนาว, panthong.kh, บ้านริมโขง, รพีกาญจน์, สิงขร, ♥หทัยกาญจน์♥, รัตนาวดี, กังวาน, สะเลเต, ไผ่เดียวดาย, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
29 มีนาคม 2012, 06:38:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #5 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012, 06:38:AM »
ชุมชนชุมชน




รักหลุดมือถือหมายเสียดายเหลือ
ก่อนสุดเบื่อเหลือล้นหม่นใจหนา
ก่อนไม่ดีทุกอย่างสร้างเรื่องมา
ตั้งข้อหาลาจากฝากระทม

บีบน้ำตาซ่อนไว้กลัวใครรู้
แสนหดหู่ดูเขาเคล้าสุขสม
เหมือนอาลัยเหลือล้นบนตรอมตรม
เกินฝืนชมขมขื่นกลืนน้ำตา

เหตุใดเล่าเขาจากหากรักล้น
เหตุใดคนทิ้งกันนั่นล่ะหนา
เหตุเพราะเราหรือเขาเฝ้าบอกลา
เหตุเพราะว่า...รสนิยมไม่กลมกลืน

ล้วนมากเหตุมาอ้างยามจางจาก
ล้วนหลายหลากมากข้องจำต้องฝืน
คนมันเบื่อเหลือจับรอรับคืน
แล้วบัดนี้มาสะอื้น..ยืนอาลัย

มีรอยยิ้มห่อน้ำตาคราทายทัก
เป็นเพียงคนรู้จักเคยรักใคร่
บัดนี้เขาควงอื่นด้วยชื่นใจ
เราหมองไหม้ไส้ขมตรมฤดี

เพียงเพราะเราและเขาก็เท่านั้น
ที่รักกันมั่นหมายปลายสุขี
ใดไหนกันคั่นกลางร้างไมตรี
สองเรานี้..เท่านั้น..บั่นรักเอง..

"บ้านริมโขง"


ยิ้มฉันนั้น ห่อน้ำตา มาตลอด
ไม่เคยปลอด สอดแทรก เหมือนแรกเร่ง
ใดไหนเล่า คนเขา เศร้าวังเวง
แม้บรรเลง เพลงรัก หนักหน่วงจินต์

ยามชื่นรัก แสนขม ชมตาลอ้อย
พอรักกร่อย อ้อยตาล ปานถวิล
แม้นหวานหยด มดไต่ ไม่ยลยิน
ดั่งขมิ้น กับปูน มิกูลกัน

จึงขอจบ จากลา น้ำตาท้อ
กลืนกล้ำหนอ ห่อไว้ ไร้สุขสันต์
ลืมวันชื่น คืนเศร้า ร้าวจาบัลย์
จนถึงวัน จำพราก ไม่อยากเจอ
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, กังวาน, สะเลเต, ไผ่เดียวดาย, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, Thammada, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มีนาคม 2012, 08:51:AM
บูรพาท่าพระจันทร์
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 848
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,717


ผู้นิยม..ชมรส..บทกานท์กลอน./


« ตอบ #6 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012, 08:51:AM »
ชุมชนชุมชน




๐  ยิ้มห่อน้ำตา  ๐



  ๑

...ขอบรรเลงเพลงเศร้าเคล้าบทโศก
บางครั้งโบกโยกใจไปไหลหลง
ก่อเนตรหลั่งฝั่งเจ็บเก็บบรรจง-
เทียวกรีดลงตรงหทัยให้เป็นรอย

...เห็นเธอยืนคู่เขาเราทนโศก
หรือเป็นเพราะ โชคชะตาพาให้ถอย
เคยรักกันปั้นเงาใช้เนาว์คอย
เป็นฝุ่นฝอยลอยเคว้งเว้งเพียงเรา




...ยื่นรอยยิ้มห่อน้ำตาคราเจอหน้า
ยื่นรอยยิ้มสบตาอย่าพาเฉา
ยื่นรอยยิ้มปิดรอยช้ำ,กระหน่ำเงา
ยื่นยิ้มเข้าห่อน้ำตาก่อนลาไป

...คำทักทายเหมือนมีดซอยรอยแผลรัก
เข้าเทียวปักร้อยเล่มวาง...มิห่างไหน
ชิ้นเนื้อบาดขาดตอนเป็นท่อนใจ
น้ำตาไหลใส่รอยยิ้มปริ่มหน้านาง

...โอ้คนดี...ตีจากฝากแต่เศร้า
มิบางเบาเลยหนอ...ทอไม่ห่าง
"สบายดีนะ" คำเอ่ยเธอเผยวาง
ยิ้มบาง-บาง จางรักเรา ไร้เงารอ




...ยิ้มห่อน้ำตาอาลัยไกลจากเจ้า
ขอจับมือสัมผัสเงา...แล้วก้าวหนอ
มิอาจรัก มิอาจทัก  พักใจทอ
สิ้นคำขอ พอคำรัก  หักใจลา...


ตะวันฉาย






 
ฉลองกัน



เก็บน้ำตาอุราลึกผนึกนิจ
ซ่อนดวงจิตต์สนิทในไม่ครวญหา
แม้สำเนียงเสียงคำจำนรรจา
ทั้งวิญญาณ์อาวรณ์ซ่อนอาลัย

คงสักวันฝันรักจักพานพบ
มาบรรจบนบถนัดอัชฌาสัย
รักคะนึงถึงวันเคลื่อนครรไล
สมานใจให้สนิททั้งจิตต์กาย

เปรียบเมฆฝนกล่นฟ้ายามคราเคลื่อน
ผ่องแสงเดือนเลือนเร้นที่เห็นหาย
กลับพิศุทธิ์ผุดผ่องส่องแพรวพราย
ดวงดาวรายกรายล้อมอยู่พร้อมเดือน.../


 เคารพรัก

บูรพาท่าพระจันทร์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, สุนันยา, รพีกาญจน์, Thammada, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"สั้น-ตรงเป้า-เร้าใจ"
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s