+ นิมิตลิขิตรัก +
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
20 เมษายน 2024, 09:14:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: + นิมิตลิขิตรัก +  (อ่าน 5414 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
23 มกราคม 2011, 03:36:PM
ข้าพเจ้า
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 142
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 447


หมื่นคำหวานมิสู้หนึ่งใจรัก


« เมื่อ: 23 มกราคม 2011, 03:36:PM »
ชุมชนชุมชน


                                            อารัมภบท

๐ เปิดตำนานม่านละครทอกลอนกาพย์         บอกให้ทราบรู้ทั่วมั่วแต่งเรื่อง
อาจไม่เพราะเสนาะใจไร้ประเทือง              ก็อย่าเคืองแค้นโกรธเอาโทษกัน
มีสาระไร้สาระคละเคล้าบ้าง                         เสนอสร้างสมใจเคยใฝ่ฝัน
ได้พี่พี่ชี้แนะและผลักดัน                          จึงกระสันสืบสานด้วยงานกลอน
เรื่องสำคัญฉันทลักษณ์ขอพักเว้น             ฉันทะเล้นเล่าแทนแอ่นอักษร
ฉันทะลึ่งตึงตังมั่งบางตอน                         คำยังอ่อนจำใจไหลตามลม
เพียงท่านอ่านผ่านตาพาตันตื้น                        เพียงท่านชื่นคลายทุกข์สนุกสม
เพียงติดตามถามไถ่ให้คำชม                       เพียงนิยมหน่อยหนึ่งพึงยินดี

๐ตัวละครกลอนแสดงแต่งเองหมด              สถานปดเปล่าอิงสิ่งนั่นนี่
เปรียบเรื่องสร้างกลางดงพงไพรี                    ย่อมใส่สีเสริมเอื้อนให้เหมือนจริง
อาจละม้ายคล้ายคลึงซึ่งของท่าน                 ยอมรับอ่านเรียนรู้ดูหลายสิ่ง
หากแม้นผิดสะกิดไปใคร่ติติง                      ยินดียิ่งหลักฐานมาคานคำ
ส่วนต้นสายปลายเหตุอาเพศเรื่อง                ด้วยเกี่ยวเนื่องความฝันน่าขันขำ
จึงเรียงร้อยเพียงเคาะกะเทาะจำ                 เป็นลำนำร้องกรองลองฝีมือ
คงเลอะเลือนเอื้อนเอ่ยเลยเรื่องบ้าง             ความจำจางนานเนิ่นเกินรั้งถือ
สมองน้อยค่อยขานปานกิ้งกือ                    กระยึกกระยือกระดืบกระดืบคืบคลานไป

๐น้อมวันทาอาจารย์ประทานฤทธิ์                   ยามขบคิดแช่มชื่นรื่นคำไข
บรมครูผู้รู้ชูดวงใจ                                        นิมิตใหญ่ลิขิตรักสลักนาม ฯลฯ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ทอดร่างอุทิศชีวิตไว้
เอื้อมไปทะเลปุจฉา
เสพสมอักษรศรัทธา
จำหลักวาจาแดนดิน
27 มกราคม 2011, 04:08:PM
ข้าพเจ้า
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 142
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 447


หมื่นคำหวานมิสู้หนึ่งใจรัก


« ตอบ #1 เมื่อ: 27 มกราคม 2011, 04:08:PM »
ชุมชนชุมชน


                                          ตอนที่ ๑
๐บนดินแดนแสนวุ่นวายคนหลายหลาก        ฉันจำจากห่างนามากับย่าม
ห่างพ่อแม่แลญาติคลาดคนงาม                 มาอยู่ตามยถากรรมจำเล่าเรียน
๐อันนิสัยใคร่รู้คู่ความฝัน                                 ชอบจำนรรจ์ถามไถ่ฝักใฝ่เขียน
เบื่อการงานที่ทำประจำเจียน                        ทุกวันเวียนพาเครียดเกียจจำเจ
เริ่มงานแรกแตกหักประจักษ์จิต                    เพื่อนสนิทชวนไปมาพาร่อนเร่
เจองานใหม่ใจชื้นตื่นบุพเพ                           กลับซัดเซอีกคราปัญหาเดิม
พรหมลิขิตบิดเบี้ยวเลี้ยวมารัด                      สารพัดปัญหาไหลบ่าเพิ่ม
จิตฟุ้งซ่านหาญหดหมดเชื้อเติม                   งานสามเริ่มสั่นคลอนเพราะร้อนทรวง
เปลี่ยนที่เรียนสองที่ยังปีหนึ่ง                          ไร้แรงดึงก้าวต่อตัดพ้อสรวง
ชีวิตแย่แพ้หมดรันทดดวง                              อยากถามทวงยุติธรรมกรรมอันใด
รู้ตัวดีมีกรรมประจำจ้อง                                แต่ขัดข้องขุ่นต่อผลข้อไหน
จากชาติก่อนผ่อนตามลามหรือไร                 แสนสงสัยเลวร้ายมากมายจริง
๐ชีวิตจนข้นแค้นแสนสาหัส                            บางครั้งกัดก้อนเกลือเหลือใจยิ่ง
ปั้นข้าวเหนียวเคี้ยวน้ำตาลทานประวิง             ยามหนาวนิ่งขดตัวคลุมหัวนอน
อยู่เมืองใหญ่ไฟแสงแข่งความสวย                   หลงงงงวยแสงสียากหนีถอน
ทั้งช้ำกายช้ำใจไหลอาวรณ์                             บางอย่างสอนบ้างซ้ำกระหน่ำจินต์
จมในปลักรักคุดสะดุดเศร้า                             หัวใจเน่าพิษแผลแพร่เชื้อบิ่น
ตะโกนก้องร้องเพรียกเรียกฟ้าดิน                     เผื่อมียิลยอมลดบทลงทัณฑ์

๐ครุกรรมก่อไว้หรือไรหนา                             ดวงชะตาสิ้นแล้วดีชีวีสั้น
หมดอาลัยในชีวิตฤทธิ์จาบัลย์                    คงลากันแล้วโลกโศกเกินไป ฯลฯ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ทอดร่างอุทิศชีวิตไว้
เอื้อมไปทะเลปุจฉา
เสพสมอักษรศรัทธา
จำหลักวาจาแดนดิน
30 มกราคม 2011, 01:01:AM
ข้าพเจ้า
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 142
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 447


หมื่นคำหวานมิสู้หนึ่งใจรัก


« ตอบ #2 เมื่อ: 30 มกราคม 2011, 01:01:AM »
ชุมชนชุมชน


๐แล้วหนุ่มน้อยผู้เยาว์เขลาต่อโลก                  ตัวเริ่มโยกเอนทบสลบไสล
คงระทมซมพิษลิดรอนใจ                            เกินกว่าใช้แรงต้านทนทานช้ำ
หน้าอมทุกข์ปลุกตื่นคงฟื้นยาก                   โดนมามากฟ้าแกล้งตาแดงก่ำ
เป็นคนดีมีมารพาลกระทำ                         ปริ่มปริ่มน้ำรินรอคลอเบ้าตา

๐กาลลับล่วงเลยเย็นเป็นความมืด                 หายใจฝืดอึดอัดขัดเคืองหน้า
บรรยากาศประหลาดลึกผนึกมา                  ล้อมเคหาคับห้องไร้ช่องชม
เหตุการณ์นี้หนุ่มน้อยบ่อยสัมผัส                  จนเจนจัดเล่นหัวยั่วผสม
กำลังเศร้าเข้าทีมีอารมณ์                            ด่าให้จมธรณีเสียผีเลย

๐ตั้งแต่เล็กเด็กน้อยด้อยความคิด                  ชอบทำผิดเพลิดเพลินเกินเอื้อนเอ่ย
เวรสนองส่งเคราะห์มาเยาะเย้ย                   กลับร้องเหวยชาชินไม่ยินร้าย

๐เอ๊ะคราวนี้มีแปลกจากแต่ก่อน                      ยากไถ่ถอนออกไปได้โดยง่าย
ลืมตาตื่นขืนตัวยกหัวท้าย                            ผลกลับกลายดังเดิมเริ่มลนลาน
ท่องบทสวดถูกผิดจิตปั่นป่วน                      ใจโอดครวญคุณพระช่วยประหาร
ซึ่งผีร้ายหมายแกล้งสำแดงพาล                   ดั่งจะผลาญปลงปลิดชีวิตกัน

๐เริ่มเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ดังมุ่ง                   ต้องสะดุ้งดีดตัวสั่งหัวหัน
ซ้ายและขวาหน้าหลังนั่งงงงัน                       ยังไม่ทันเช้าเหมือนคิดขอนิทรา

๐พลันสำเหนียกรู้รับกับความต่าง                    สิ่งรอบข้างแปรเปลี่ยนผิดเพี้ยนฝา
เฉกมือยักษ์ผลักกลับสลับฟ้า                           ดุจเวลาหมุนทวนม้วนกาลคืน
ผนังห้องต้องมีทั้งสี่ด้าน                                 อันตรธานสูญหายสลายผืน
เพดานห้องล่องหนปานกลกลืน                    ที่นอนชื้นลมโบยโชยบางเบา ฯลฯ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ทอดร่างอุทิศชีวิตไว้
เอื้อมไปทะเลปุจฉา
เสพสมอักษรศรัทธา
จำหลักวาจาแดนดิน
03 กุมภาพันธ์ 2011, 07:46:PM
ข้าพเจ้า
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 142
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 447


หมื่นคำหวานมิสู้หนึ่งใจรัก


« ตอบ #3 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2011, 07:46:PM »
ชุมชนชุมชน


๐อนิจจาอาเพศเหตุการณ์ฝัน                 ทำไมมันเหมือนจริงยิ่งกว่าเก่า
สัมผัสได้ใบหญ้าใต้ขาเรา                  อีกทั้งเงาสูงเหยียดเสียดพระจันทร์
คือต้นไม้ขนาดใหญ่หลายคนโอบ               ดังจะโฉบรุมทึ้งซึ่งตัวฉัน
เขม้นมองจ้องจับกับภาพนั้น                 คลับคล้ายมันแสยะยิ้มอิ่มเอิบใจ
มีมนุษย์หลุดหลงสู่วงล้อม                   มันคงพร้อมเชือดเนื้อเพื่อมื้อใหญ่
หลับตาแน่นนับหนึ่งถึงสิบไป                 ลืมตาใหม่ชัดเจนโอ้เวรกรรม
หยิกท่อนแขนแสนเจ็บจนต้องปล่อย              เหนี่ยวหมัดต่อยตัวเองเร่งกระหน่ำ
ผลคงเดิมเพิ่มมาคือหน้าช้ำ                   สุดจะทำอย่างไรต่อไปดี
ใจวังเวงเคว้งคว้างอ้างว้างหนัก                แจ้งประจักษ์แก่ใจในวิถี
คือความจริงสิ่งแท้ทั้งหมดนี้                 หาใช่ผีอำเล่นเช่นทุกครั้ง
เรียกสติดำหริคิดพินิจเหตุ                  อันนิเวศสถานที่ที่เรานั่ง
เป็นที่ใดในโลกหรอกกระมัง                 แต่ติดยังราตรีกาลม่านบังตา
ครั้oคิดดูดีๆมีที่ไหน                                 ละเมอไกลก้าวย่างสู่กลางป่า
เมืองหลวงล้วนตึกสูงฝูงรถรา                 พันธุ์พฤกษาคงคุดมุดดำดิน

๐เปลืองสมองตรองไปเปล่าประโยชน์              เกิดแต่โทษทั้งนั้นบั่นทิ้งสิ้น
เอนหลังนอนผ่อนแรงกลางแปลงดิน             ระงับจินต์สงบใจใฝ่อรุณ

๐ดวงอาทิตย์ทอแสงตบแต่งฟ้า                     สกุณาร้องรับซับไออุ่น
ความมืดมนอนธกาลพาลเป็นจุล                  เหลือเพียงกรุ่นฝ้าบางอำพรางดง
เสียงงัวเงียเพลียพักตระหนักตื่น                   ดีดผลึ่งยืนพินิศรอบกรอบการหลง
ที่ไหนหว่าว่าแปลกแผกไพรพง                     จับจุดบ่งบอกวัดพิกัดกาย ฯลฯ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ทอดร่างอุทิศชีวิตไว้
เอื้อมไปทะเลปุจฉา
เสพสมอักษรศรัทธา
จำหลักวาจาแดนดิน
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s