แสงตะวันในม่านหมอก…
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
19 เมษายน 2024, 02:35:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แสงตะวันในม่านหมอก…  (อ่าน 3220 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
27 มกราคม 2010, 01:48:PM
หนุ่มใต้ใจดี
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5



« เมื่อ: 27 มกราคม 2010, 01:48:PM »
ชุมชนชุมชน

แสงตะวันในม่านหมอก…




………….






 แสงจากตะเกียงแก๊สวาววับตัดกับความมืด ดวงไฟเล็กๆที่เห็นไกลๆตามไหล่เขาเบื้องหน้า กระตุ้นต่อมเท้าให้เธอต้องเร่งรีบมากขึ้น


 เธอเดินตามผู้เป็นพ่ออย่างทุลักทุเล ถึงแม้ว่าเส้นทางที่กำลังเดินย่ำอยู่ จะเป็นเส้นทางเดิมที่เธอเดินทุกวันก็ตามเถอะ แต่เป็นเพราะความมืดและความเหน็บหนาวของอากาศในช่วงเวลาดึกทำให้เธอก้าวขาได้ยากเย็น


 เสื้อผ้ามอมแมมถูกใส่ทับกันหลายๆชั้น กลิ่นมันน่าสะอิดสะเอียนสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับเธอแล้วมันให้ความอบอุ่นอย่างมาก เศษน้ำยางที่แห้งกรังเกาะติดกันจนเป็นก้อนติดตามชายเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ยิ่งเพิ่มความอบอุ่นให้กับเธอ ตะเกียงแก๊สสาดแสงอ่อนๆนำทางเธอให้เดินไปในเบื้องหน้า บางครั้งมันก็เรรวนจนต้องเคาะกระป๋องใส่แก๊สและเร่งน้ำเพื่อแสงไฟที่ริบหรี่ ลุกโชนขึ้นมา มีดกรีดยางคมกริมที่พ่อพิถีพีถันลับมันจนแน่ใจว่าคมพอที่จะกระตุ้นน้ำยางให้ไหลโชกได้ดี


 เด็กสาววัย 15   จำต้องบอกลาโรงเรียนที่เธอเคยวาดฝันไว้ว่าคงเป็นที่ที่เธอจะก้าวเดินต่อไปได้เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวให้ดีขึ้น แต่ก็นั่นแหละฝันของเธอก็ต้องหยุดเพียงแค่ชั้นประถม ความลำบากของครอบครัวทำให้เธอต้องจำยอมต่อความหวังโดยสิ้นเชิง น้องหญิงชายเล็กๆที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ที่บ้านนั่นแหละคือสิ่งที่เธอคาดหวังไว้ในเวลานี้


 


 บางครั้งเธอรู้สึกเหนื่อยล้าต่อโชคชะตา และอ่อนแอเกินกว่าที่เธอจะก้าวย่างต่อไป  ภาระที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หนักเกินกว่าที่เด็กผู้หญิงอย่างเธอจะรับไหว แต่เธอก็ไม่อาจปฎิเสธมันได้


 “ พ่อ พ่อ ” เธอเรียกผู้เป็นพ่อเมื่อถึงที่หมาย


 “ ทำไมเดินช้าจังหละคืนนี้ ” เสียงพูดเบาๆสวนกลับมาจากพ่อ


 “ แก๊สหน่ะพ่อ  มันรวนอีกแล้ว แสงอ่อนจนมองไม่เห็นทางเลย ” อันที่จริงเธอครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนไม่ค่อยสบายตั้งแต่ตอนเย็น แต่มันก็แค่เรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอ เมื่อเทียบกับภาระหน้าที่ที่เธอต้องรับผิดชอบ


 พ่อใช้เวลาพักใหญ่ๆในการซ่อมหัวตะเกียงแก๊สให้เธอ


 “ อืม  มันน่าจะดีขึ้นนะ ” พ่อบอกกับเธอ


 “ รีบเข้าเถอะ คืนนี้มันไม่ค่อยมีดาวสักเท่าไหร่ ก้อนเมฆเยอะเหมือนฝนจะตก  ”  พ่อพูดกับเธอขณะที่เตรียมมีดเพื่อกรีดยาง


 


  เธอกับพ่อแยกกันกรีดยางคนละแถว เธอลากมีดเบาๆตามหน้ายางที่ถูกรีดไว้แล้ว น้ำยางสีขาวข้นไหลตามมีดที่กรีด ต้นแล้วต้นเล่าเธอทำมันด้วยความชำนาญแบบไม่ต้องท่องจำ มันคือความคุ้นเคย เธอภูมิใจทุกครั้งที่มองต้นยางที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้า เธอจำได้ว่าบางต้นเธอเป็นคนลงแรงปลูกเองกับมือน้อยๆของเธอ


 อย่างที่พ่อบอก คืนนี้ไม่ค่อยมีดาวให้เห็น เมฆที่ปกคลุมเต็มท้องฟ้า มันทำให้เธอนึกถึงเมื่อสองวันก่อน ฝนตกลงมาตั้งแต่ฟ้าเริ่มสาง น้ำยางที่เธอลงแรงกรีดมันละลายหายไปกับนำฝนที่ตกอย่างหนัก เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้น มองน้ำยางที่โดนชะล้างจากที่ขาวข้นปะปนกับน้ำฝนจนคล้ายเป็นน้ำเปล่า ซึ่งมันไม่ได้แตกต่างกับสิ่งของมีค่าที่กำลังสูญหายไป


  เหงื่อเริ่มผุดเป็นเม็ดเล็กๆขึ้นเต็มใบหน้า แม้ว่าอากาศในตอนใกล้รุ่งจะค่อนข้างเย็น  เธอมองเห็นแสงจากตะเกียงแก๊สของพ่อไกลๆ


 ก่อนหน้านี้การกรีดยางในแต่ละค่ำคืนใช้เวลาไม่นานนักอย่างช้าสุดก็ไม่เกิน 4 ชั่วโมง โดยมีแม่เข้ามาช่วยกรีดด้วย แต่ด้วยสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรงของแม่ ภาระของเธอก็เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เธอเข้าใจเสมอในสิ่งที่เกิดขึ้น เธอสงสารแม่ บ่อยครั้งที่เธอเห็นแม่ร้องให้ขณะที่เธอเตรียมตัวไปกรีดยางกลางดึก และบ่อยครั้งที่เธอเห็นพ่อนั่งเงียบอยู่นอกชานบ้าน โดยไม่พูดไม่จาใดๆ มวนยาเส้นที่ถูกจุดซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับเสียงถอนหายใจของพ่อ


 


 พ่อเคยเล่าให้ฟังเสมอถึงความลำบากของครอบครัว ตั้งแต่พ่อแต่งงานกับแม่ เราไม่มีอะไรสักอย่างที่เป็นสมบัติ นอกจากมีดพร้า 1 ด้ามและหม้อหุงข้าว 1 ใบ พ่อชอบที่จะชี้พื้นที่ที่พ่อแผ้วถางจากที่เคยเป็นป่าดิบรกร้าง กลับกลายเป็นสวนยางพาราที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง


 


  “ ถ้าพร้าไม่สึกซะก่อนเราคงได้ที่ดินอีกหลายไร่ ” พ่อบอกถึงความหลัง รอยยิ้มเกิดขึ้นกับใบหน้าที่กร้านดำของพ่อเสมอเมื่อพ่อพูดถึงมัน  และมือที่กร้านแข็งของพ่อพอจะพิสูจน์ได้ว่าพ่อผ่านอะไรมาบ้าง 


 


 เมื่อปีกลายเราได้ข้าวหลายกระสอบจากการทำไร่ พ่อต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆตอนที่ถางป่าเพื่อปลูกข้าว พร้าเพียงหนึ่งด้ามที่พ่อใช้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่ เธอกับแม่จะเป็นลูกมือพ่อเธอช่วยพ่อถางหญ้าและตัดต้นไม้เล็กๆ เธอชอบที่จะไปทำไร่ เธอชอบน้ำพริกระกำป่าจากฝีมือแม่ ( น้ำพริกที่ใช้ระกำแทนมะนาว )


  บางครั้งเธอก็แอบอิจฉาน้องๆที่ไม่ต้องทำอะไรเหมือนเธอ ไม่ต้องตื่นตอนกลางดึกเพื่อไปกรีดยาง ไม่ต้องช่วยทำไร่ ตื่นเช้ามาก็เตรียมตัวไปโรงเรียน แต่ก็นั่นแหละพี่สาวของน้องๆอย่างเธอก็ต้องเป็นหัวหลักของครอบครัว เธอคาดหวังและสอนน้องๆเสมอเรื่องการเรียน เธอบอกว่ามันจะดีถ้าน้องได้เรียนหนังสือสูงๆ ครอบครัวของเราคงดีขึ้นในวันข้างหน้า


 


  แสงสีเหลืองอ่อนๆตรงขอบฟ้าตอนใกล้รุ่งทำให้เธอต้องรีบเร่งกรีดยางแถวสุดท้ายให้เสร็จ พ่อก็เร่งรีบเช่นกัน แสงรางๆสว่างพอที่จะให้เห็นก้อนเมฆเต็มท้องฟ้า ไอเย็นจากลมฝนกระทบกับใบหน้าของเธอ  ยิ่งเห็นใบหน้าที่แสดงถึงความวิตกกังวลของพ่อ ยิ่งทำให้เธอต้องเร่งรีบมากขึ้น


  หมอกเริ่มลงหนาในตอนเช้า  หยดน้ำค้างจากความชื้นกลางคืนเกาะเต็มตามยอดหญ้า จนทำให้เสื้อผ้าเธอเปียกเมื่อเดินผ่าน เธอดับตะเกียงแก๊สลงหลังจากที่สามารถมองเห็นสิ่งรอบๆกายมากขึ้น


  6 ชั่วโมงกับน้ำพักน้ำแรงที่เธอลงทุนไป มันช่างคุ้มค่าเมื่อเห็นน้ำยางไหลจนเกือบล้นจอก ( จอก = ที่รับน้ำยาง เมื่อก่อนพ่อใช้กะลามะพร้าว ) ปีนี้ราคายางดีกว่าปีก่อน แม้ว่าผลผลิตจะน้อยแต่เธอก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง


 “ ปีนี้ 18 แผ่น ยางใบหน้าคงได้ 20 แผ่นขึ้น ” พ่อบอกกับเธอ และเธอก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน


 


 ความมืดจะค่อยๆจางความสว่างค่อยๆกระจ่างชัดขึ้น  เธอเดินลัดเลาะตามไหล่เนินเขาหลังบ้านเพื่อย้อนกลับมาเอาถังและไม้หาบเตรียมไว้สำหรับไปเก็บน้ำยาง พ่อนำหน้าเธออีกครั้ง


 


 สายตาของเธอทอดยาวไปยังเบื้องหน้าตามเส้นทางเล็กๆ ที่เธอกำลังก้าวย่างอย่างรีบเร่ง หมอกบางๆรายล้อมหุบเขาและตันหญ้าสองข้างทาง  ประกายแสงอ่อนๆจากดวงตะวันยามเช้าของวันใหม่เริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่ายผ่านม่านหมอกสีขาว


 เธอได้แต่ภาวนาขออย่าให้สายฝนอันฉ่ำชุ่มไหลราดรดหยาดเหงื่อที่เธอสูญเสียไปในคืนที่เหน็บหนาวนั้น   น้ำยางที่ขาวข้นขอให้ยังคงเต็มจอกและขาวข้น ขอให้แม่ของเธอหายจากการเจ็บป่วยและสุขภาพแข็งแรง ให้น้องๆของเธอได้เรียนหนังสือสูงๆ เผื่อวันข้างหน้าจะได้ไม่ต้องลำบากอย่างเธอ และขอให้พ่อของเธอกลับมายิ้มได้อีกครั้ง … 


 และเธอยังคงต้องก้าวย่างผ่านเส้นทางเล็กๆที่เต็มไปด้วยหมอกบางๆสีขาวและแสงตะวันยามเช้า


 




……………………………………………………………………##






…..



http://www.oknation.net/blog/sijo
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s