Re: O นามธรรม - หลอน...! O
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
26 เมษายน 2024, 06:41:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: O ปริภาษวาจก O  (อ่าน 2587 ครั้ง)
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« เมื่อ: 10 กันยายน 2018, 07:03:PM »


O ลมยามเช้า....O





O คือลมอันเหน็บหนาวแห่งเช้าตรู่
พลิ้วผ่านอยู่ยั่วหยอกม่านหมอกขาว
เม็ดน้ำค้างดารดาษวางหยาดพราว
เกลื่อนอยู่ราวเพชรรุ้งบนรุ่งวัน
O พลิ้วรอบร่ำผ่านหมอกโลมดอกไม้
วูบฝ่าไอหมอกเช้า, ความหนาวสั่น-
ก็-โอบรัดร่างไว้กลางไพรวัลย์
พารูปฝันในอก..ขึ้นยกตัว
O คือฝันในคืนมืด..อันยืดยาว
ทั้งร้อนหนาวเย็นยะเยือก..รอเกลือกกลั้ว
เหตุและผลสืบมา..นั้น-พร่ามัว
เอาหยอกยั่วเดียงสา-ให้ปรารมภ์
O แต่ละรอบราวเรื่องที่เบื้องหน้า
พจน์, พรรณนา-ผ่านรู้..เข้าสู่สม
ภาพเขาสร้างงามล้ำ, ถ้อยคำคม-
ก็ห้อมห่มปัญญาจนล้าแรง
O เก็บรับโดยเดียงสา..อันล้าเลื่อน
ความเขาเปื้อนนัยป้ายรำบายแฝง
ความเป็น..มี..เก็บงำ..รอสำแดง
ค่อยเติมแต่งม่านมัวสุมตัวตน
O ซึมซับพากย์, ถ้อย, รูป-คอยวูบเร้า
แทรกรูปเขลาฝากแฝงทุกแห่งหน
โอ - วงรอบภาพพจน์กำหนดคน
พาวก-วนเวียนอยู่ไม่รู้วาง
O เมื่อดวงวันลอยดวงโชนช่วงแสง
จึง-กำแหงอวดโอ่..ค่อยโผล่หาง
อยู่กับความสับสนในหนทาง
โอบความอ้างว้างแอบอยู่แนบกาย
O ดุ่มเดินเข้าตอบรับความอับจน
ด้วย-หัวใจสับสนเที่ยววนว่าย
อยู่ท่ามกลางโลกธรรม-ล้อมรำบาย
ตอบความหมายด้านในหัวใจตน
O หมอกขุ่นขาวลอยแซม..ลงแต้มภาพ
จนกำซาบ..รื่น-สุข..ไปทุกหน
ใบไม้พลิกร่อนวาง, ใจบางคน-
ยังคงอลวนอยู่ไม่รู้วาง
O โดยภาพและโดยพจน์..คือบทบาท
ความเป็นชาติภพเปลี่ยน-เฝ้าเวียนสร้าง
สายลมหวนระลอก, ม่านหมอกพราง-
เช่นน้ำค้างคล้อยเคลื่อนจนเลือนลับ
O มัวหม่นก็ว่างามไปตามเห็น
มี..อยู่..เป็น..แทรกซ้ำเป็นลำดับ
คุณค่าอันดีงามก็ตามรับ
ส่วนเลวทรามก็จู่จับเกินนับทัน
O ภาพมัวยังมองเห็นอยู่เช่นเดิม
หากคอยเพิ่มพูนอยู่ เกินรู้กั้น
ม่านขาวขุ่นพร่าไหวเหมือนไฟควัน
ลมผ่านก็ฉับพลัน..สูญสิ้นรอย
O รำร่ายในปรารมภ์ล้อลมร่ำ
สับสนในพฤติกรรม, ความต่ำต้อย-
ก็ร่ายรำแฝงฝ่า..แววตา-คอย
เพียงแววความเลื่อนลอย ที่คอยรอ
O บอกโลก, ชน เบื้องหน้าผ่านท่าที-
ของความดี, ความรู้..เอาชูล่อ
สุมซ้อนอยู่เต็มหัว..จนตัวงอ-
นั้น-มากพอกอบกินแทนข้าวปลา
O ลมเช้าพอเข้าสายก็คลายหนาว
เหลือเพียงทรวงร้อนผ่าว..ยังก้าวหา
เหยียบย่ำโลกทั้งผองผ่านสองตา
ด้วยรู้ว่าทางยาว..รอก้าวเดิน
O ลมเช้าโผผ่านล่วงฝ่าช่วงแดด
ที่คอยแวดล้อมกาลอยู่นานเนิ่น
รับรู้ว่ามืดดำ..ยังดำเนิน-
รอบ-จำเริญรุมเร้า..ใต้เงาวัน
O ลมสายผ่านอบอุ่น..ลงหนุนเสริม
ใจเคลิบเคลิ้มอ่อนโยน..เฝ้าโชน-ฝัน
โลกหล้าใต้ฝ่าเท้า..เหมือนเมามัน-
เลื่อนแล่นรับรองขวัญ..อยู่อลเวง
O หอมหวานกรองกลิ่นฉม, สายลมร่ำ-
ล้อมโลกต่ำคอยฉุดให้รุดเร่ง
ไร้สิ้นม่านหมอกมัว, ยังกลัวเกรง-
ดวงวันเปล่งปลาบแสงเข้าแยงตา
O ใบไม้ปลิดปลิว..พลิกพลิ้วหล่น
ต้องลมวนลอยล้อ..อยู่ต่อหน้า
คือภาพและคือบทกำหนดมา
เพื่อรอฝ่าเท้าต่ำ..เหยียบย่ำลง

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=17-04-2011&group=41&gblog=25


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s